ลิม่า ซินโดรม โรคประจำตัวพระเอกนิยายตบจูบ!

ลิม่า ซินโดรม
โรคประจำตัวพระเอกนิยายตบจูบ!


สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ พบกับพี่น้ำผึ้งอีกแล้วนะคะ ตามสัญญาเลยค่ะ เพราะเมื่อครั้งที่แล้วพี่น้ำผึ้งได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสต็อกโฮล์ม ซินโดรม โรคประจำตัวนางเอกตบจูบ’ ที่นางเอก (ในที่นี้คือตัวประกัน) ตกหลุมรักพระเอก (ในที่นี้คือคนร้าย) ค่ะ วันนี้พี่ก็เลยนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวพระเอกนิยายตบจูบมาฝากกันค่ะ
 

กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับนิยายและละครแนวพระเอกทำร้ายร่างกายนางเอก แล้วอยู่ๆ พระเอกก็ดันตกหลุมรักนางเอกซะงั้น สร้างความสงสัยให้ใครหลายคนว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นได้ล่ะ?
จริงๆ แล้วอาการนี้ข้าข่ายลิม่า ซินโดรมเลยค่ะ ซึ่งเป็นโรคที่มีลักษณะตรงข้ามกับสต็อกโฮล์ม ซินโดรมที่นำเสนอไปเมื่อครั้งก่อน

 

โรคลิม่า ซินโดรมคือโรคที่ผู้ลักพาตัวตกหลุมรักตัวประกัน (จริงๆ ก็ไม่เชิงตกหลุมรักซะทีเดียวค่ะ แต่ออกแนวเห็นอกเห็นใจตัวประกันมากกว่า) โอ้โห... ฟังแล้วคุ้นๆ เนอะ เหมือนพล็อตนิยายไทยเลย ที่อยู่ๆ ก็ลักพาตัวนางเอกมา ใช้งานเยี่ยงทาส ด่าทอสารพัด แล้ววันดีคืนดีก็เกิดเห็นอกเห็นใจขึ้นมาซะงั้น ชัดเลยค่ะ นี่คือลักษณะหนึ่งของโรคลิม่า ซินโดรมนั่นเอง 
 


(ขอบคุณรูปภาพจาก : lima-syndrome.deviantart.com)
 

กำเนิดลิม่า ซินโดรม

วันหนึ่งในปี ค.ศ. 1996 ณ เมืองลิม่า ประเทศเปรู กลุ่มปฏิวัติ MRTA ได้บุกเข้าโจมตีสถานทูตญี่ปุ่นและจับทุกคนเอาไว้หมด แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มปฏิวัติก็ปล่อยตัวประกันเกือบทั้งหมดออกมา ซึ่งเป็นผู้หญิง เด็กและคนแก่ราวๆ 259 คน รวมทั้งบุคคลสำคัญอันดับหนึ่งในสถานทูตด้วยค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือตัวประกันอีก 72 คนที่ไม่ถูกปล่อยตัวออกมา
 

ความจริงแล้วที่ทางกลุ่มปฏิวัติทำอย่างนี้ก็เพราะต้องการให้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มเขาที่ถูกจับกุมตัวออกมา (คุ้นๆ เนอะ เหมือนประเทศแถวนี้เลย ฮา) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางรัฐบาลเปรูก็ได้ปฏิเสธไม่ทำตามในสิ่งที่คนร้ายร้องขอค่ะ เลยเป็นเหตุให้การจับกุมตัวประกันยาวนานถึงสี่เดือน จนกระทั้งทหารตัดสินใจเข้าจู่โจมคนร้ายเพื่อช่วยเหลือตัวประกันออกมาค่ะ ซึ่งทำให้หัวหน้ากลุ่มปฏิวัติเสียชีวิตลงค่ะ

จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เป็นที่มาของชื่อ ลิม่า ซินโดรมขึ้นมา มีการกล่าวถึงสาเหตุของการปล่อยตัวประกันร่วมสองร้อยชีวิตว่า อาจเป็นเพราะวาทศิลป์ในการพูดของนักการทูตค่ะ (ก็รู้อยู่แล้วเนาะว่าคนที่จะเป็นทูตในต้องมีความสามารถในการพูดโน้มน้าวจิตใจคนเก่งค่ะ) 
 

ลักษณะของลิม่า ซินโดรม

คนร้ายจะเริ่มมีความรู้สึกผิดกับเหยื่อ ไม่กล้าลงมือทำร้ายเหยื่ออย่างจริงจัง รวมทั้งรู้สึกสงสารและเห็นใจเหยื่อ อาจเป็นเพราะเหยื่อเป็นเด็ก เป็นคนท้อง เป็นผู้หญิงหรือเป็นคนแก่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม หากคนร้ายเริ่มสงสารเห็นใจก็เลยทำให้ปล่อยตัวประกันออกมาค่ะ
 

สาเหตุของลิม่า ซินโดรม

สาเหตุของโรคนี้ไม่แน่ชัดนะคะ แต่ก็มีนักจิตวิทยาบางท่านได้แจกแจงสาเหตุคร่าวๆ ไว้ 5 ข้อดังนี้

ไม่ต้องการทำร้ายผู้บริสุทธิ์

นับว่าเป็นโชคดีของเหยื่อเหลือเกินที่อยู่ๆ คนร้ายก็มีความรู้สึกผิด มีคุณธรรมถึงได้นึกเห็นใจตัวประกันขึ้นมา หรืออาจเป็นเพราะว่าคนร้ายยังเป็นมือใหม่ด้วยค่ะ ก็เลยทำให้ไม่ต้องการทำร้ายเหยื่อนั่นเอง

คอยดูแลตัวประกัน

แนวๆ นี้จะมาแบบอยู่ด้วยกันกับตัวประกันสองต่อสอง ความใกล้ชิดสนิทสนมและได้ดูแลเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นหาข้าวหาน้ำให้เหยื่อ ทำแผลให้เหยื่อเป็นสาเหตุหนึ่งของความเห็นอกเห็นใจที่เกิดขึ้นในใจคนร้าย โอ้โห มาแนวละครไทยเลย ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว งั้นขอไม่ทำร้ายตัวประกันดีกว่าจ้า

เหยื่อสวย!

ข้อนี้พีคจริงอะไจริง แต่พี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ พี่มาจริงจังค่ะ ยิ่งถ้าคนร้ายเป็นผู้ชาย แล้วตัวประกันเป็นผู้หญิง (และสวย) แล้วล่ะก็ โอกาสที่อยู่ๆ คนร้ายจะเห็นอกเห็นใจตัวประกันก็เพิ่มขึ้นนะคะ

วาทศิลป์ของตัวประกัน

ตัวประกันอาจจะพูดโน้มน้าวจิตใจหรือพูดอะไรบางอย่างที่สะกิดต่อมคุณธรรมของคนร้าย คนร้ายก็เลยเห็นใจและปล่อยตัวมาในที่สุดค่ะ

หนึ่งในทีมคนร้ายไม่เห็นด้วย

ข้อนี้เห็นจะเป็นไปได้มากที่สุดแล้วค่ะ โดยเฉพาะกับคนร้ายที่มากันเป็นทีม หากมีใครสักคนไม่เห็นด้วยกับแผนการที่วางไว้ ก็มีความเป็นไปได้มากที่จะเกิดการโต้เถียงหรือโน้มน้าวให้ยกเลิกแผนกันค่ะ 

 


(ขอบคุณรูปภาพจาก : www.jellyshare.com)

 

ผลกระทบจากลิม่า ซินโดรม

ถ้าเกิดว่าอยู่ๆ คนร้ายก็มีอาการ “ลิม่า ซินโดรม” จะเกิดอะไรขึ้นคะน้องๆ ให้เดาค่ะ หลายคนอาจจะตอบว่า ก็แหม... เป็นแบบละครไทยยังไงคะพี่น้ำผึ้ง งั้นมาดูกันเถอะว่าน้องๆ ทายถูกหรือเปล่า

และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนร้าย

เขาจะเริ่มสงสารเหยื่อ

ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ กับข้อนี้ เพราะเขาจะเริ่มคิดว่าเหยื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขาทำอยู่เลย น่าสงสารชะมัด อะไรประมาณนี้ค่ะ

ตัวประกันไม่ใช่ศัตรู

ปกติคนร้ายมักจะมองตัวประกันเป็นศัตรูและพร้อมจะทำร้ายพวกเขาได้ทุกเมื่อ (ตามสเต็ปนิยายไทยเลย) แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็จะเริ่มเปลี่ยนความคิดนี้ และมองตัวประกันในฐานะใหม่ อาจเป็นฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันค่ะ

ลดการข่มขู่หรือทำร้ายตัวประกัน

ล้อมาจากข้อที่แล้วเลยค่ะ เมื่อไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูก็ย่อมเกิดความไว้วางใจตัวประกันมากขึ้น รวมทั้งยังลดพฤติกรรมไม่ดีกับตัวประกัน สุดท้ายแล้วอาจนำไปสู่การที่ทำให้ตัวประกันเห็นใจเขาได้นะคะ

จากพฤติกรรมลิม่า ซินโดรมที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบกับตัวประกันดังนี้

ถูกปล่อยตัว

เมื่อเห็นใจตัวประกันมากๆ แน่นอนว่าอาจทำให้มีโอกาสที่คนร้ายจะปล่อยตัวสูงค่ะ

เกลี้ยกล่อมเพื่อนคนร้าย

หากคนร้ายเริ่มรู้สึกเห็นใจตัวประกัน พวกเขาอาจจะเกลี้ยกล่อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนอื่นๆ ให้เห็นด้วยไปกับเขา ไม่ว่าจะเป็นล้มเลิกแผนการ หรือแม้กระทั่งปล่อยตัวประกันค่ะ

ปกป้องตัวประกัน

อย่างที่พูดไปแล้วว่านี่คือหนึ่งในอาการของคนเป็นโรคลิม่า ซินโดรมค่ะ คนร้ายจะเริ่มดูแลเอาใจใส่ตัวประกัน รวมถึงปกป้องตัวประกันด้วย

ตกหลุมรัก

พี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ พี่มาจริงจังค่ะ เพราะนี่เคยเป็นเรื่องจริงมาก่อนค่ะ ย้อนไปเมื่อปี 1974 ในประเทศสหรัฐอเมริกา หญิงสาวผู้เป็นลูกของมหาเศรษฐีอย่าง แพทริเซีย เฮิร์สท์ ถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่โดยกลุ่ม SLA แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมรักหัวหน้ากลุ่มและหันหัวเรือไปเข้าร่วมกับคนร้ายด้วยค่ะ โอ้โห อะไรจะพีคจริงจังขนาดนั้น ยิ่งกว่าละครไทยอีกนะเนี่ย

สต็อกโฮล์ม ซินโดรม

ยิ่งคนร้ายทำดีด้วยเท่าไร ยิ่งมีโอกาสที่ตัวประกันจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนร้ายมากขึ้น กลายเป็นว่านอกจากคนร้ายจะเป็นลิม่า ซินโดรมแล้ว ตัวประกันยังเป็นโรคสต็อกโฮล์ม ซินโดรมอีก โอ้โห ราวกับนิยายเลยนะคะเนี่ย
 



แพทริเซีย เฮิร์สท์หลังเข้าร่วมกลุ่ม SLA
(ขอบคุณรูปภาพจาก : kesfet.in)

 

หลังจากอ่านเรื่องราวของทั้งสองโรคนี้จบแล้ว น้องๆ คิดเหมือนพี่ไหมคะว่ามันคล้ายๆ กับพล็อตนิยายและละครไทยที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ ณ ขณะนี้เลย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วบรรดาพระนางเป็นโรคลิม่าและสต็อกโฮล์ม ซินโดรมกันหรือเปล่า แต่ที่พี่นำมาเล่าให้ฟังเพราะคิดว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้สูงมากค่ะ
 

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ เห็นจะเป็นเทพนิยายยอดนิยมอย่าง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร โดยเบลล์นั้นเป็นตัวแทนของผู้ที่เป็นสต็อกโฮล์ม ซินโดรม (ตกหลุมรักคนร้าย) ในทำนองเดียวกัน อสูรเป็นตัวแทนของผู้เป็นลิม่า ซินโดรมที่แรกเริ่มจะค่อนข้างทารุณและโหดร้ายกับเบลล์ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าตกหลุมรักเจ้าหล่อนแทนค่ะ แล้วทั้งคู่ก็ครองรักกันอย่างมีความสุข แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ ดีงามตามท้องเรื่องนะฮะ
 

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากน้องๆ อยากจะหยิบยกบุคลิกนี้ไปเป็นคาแร็กเตอร์นึงในนิยายก็ได้นะคะ แต่อย่าลืมความสมเหตุสมผลและใช้วิจารณญาณมากๆ ค่ะ เพราะถ้ามันไม่สมเหตุสมผลอาจเป็นข้อครหาได้ค่ะ ส่วนสำหรับครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนั้น รอติดตามค่ะ ^_^

 


 
Deep Sound แสดงความรู้สึก
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Liona Am [ป้าหอยเอง] Member 13 ส.ค. 59 14:39 น. 2

คือบางกรณีนี่ก็ไม่เข้าข่ายคำว่าป่วยเลยนะ เพราะถ้าอย่างนั้นคนก็คงป่วยกันทั้งโลกอ่ะ

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Liona Am [ป้าหอยเอง] Member 13 ส.ค. 59 14:39 น. 2

คือบางกรณีนี่ก็ไม่เข้าข่ายคำว่าป่วยเลยนะ เพราะถ้าอย่างนั้นคนก็คงป่วยกันทั้งโลกอ่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด