แอบดู 3 คู่รักนี้ พบกันในห้องสมุด!!

 

เพราะรักแท้หาได้ในห้องสมุด
 

สวัสดีค่ะ ชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดีทุกคน วันนี้แอดมินมาพร้อมหัวข้อเกี่ยวกับ “ความรัก” ค่ะ หลายคนทำหน้าสงสัย อ้าว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหมวดนักเขียน ก็เพราะว่า ความรักของคนทั้งสามคู่นี้ พบกันผ่านห้องสมุดนั่นเอง!!
 
แอดมินเคยอ่านนิยายมาหลายเรื่อง หลายพล็อต พบว่ามีน้อยมากหรือเอาจริงๆ ก็คือแทบไม่มีเลย ที่พระเอกนางเอกจะไปเจอกันที่ห้องสมุด ส่วนใหญ่มักเจอกันที่อื่น ก็เลยแอบสงสัยว่ามันจะมีไหมนะ คนที่พบรักกันผ่านห้องสมุดหรือผ่านตัวอักษร ผ่านหนังสือที่อ่าน และแล้ว ในที่สุด บทความนี้ก็ทำให้แอดมินฟินมากค่ะ Love in the Library: True Tales of Romance by the Book เป็นเรื่องราวของคู่รักสามคู่ ที่พบรักกันผ่านห้องสมุด (ของมหาวิทยาลัย) อ่านจบอดใจไม่ไหว ต้องเอามาเล่ามาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านร่วมกันค่ะ
 
ลองอ่านดูนะคะ แล้วจะพบว่า... รักแท้มีอยู่ทุกที่จริงๆ แม้แต่ห้องสมุด (ของมหาวิทยาลัย) ก็ยังพบเจอได้เนอะ ^ ^
 

 
“ภายในสถานที่ที่ล้อมรอบด้วยเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้น
ฉันได้พบความรักในห้องสมุด”

จากเพลง Love in the Library ของศิลปิน จิมมี่ บุฟเฟ็ตต์

 

สตีเว่นและนาตาลี เบลสเลอร์

เมื่อครั้งสตีเว่นยังเรียนอยู่เกรด 7 เขาบอกพ่อกับแม่ว่า “ผมอยากเรียนภาษาของความรัก” (แหม หวานแต่เด็ก) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของพ่อหนุ่มคนนี้ค่ะ พ่อแม่ของสตีเว่นประกอบอาชีพเป็นหมอ พวกท่านทำงานกับผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ เด็กน้อยจึงมีโอกาสได้สัมผัสภาษาที่หลากหลาย และเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนที่แตกต่าง เขาชื่นชอบและรักในภาษาที่แตกต่าง
 
สตีเว่นเรียนภาษาฝรั่งเศสแต่เด็ก ต่อมาเมื่อเข้าไฮสคูล เขาก็เรียนภาษาสเปนเพิ่มเติม และเมื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดุ๊ค เขาเลือกเรียนวิชาเอกคือ ‘วัฒนธรรมฝรั่งเศสและสเปน’ ครั้งหนึ่ง เขาเข้าร่วมสัมมนาเรื่องนวนิยายฝรั่งเศสในแคนาดา อาจารย์ผู้สอนขอให้นักศึกษาอาสาอ่านประโยคในนิยาย สตีเว่นและนักศึกษาปีสอง ชื่อนาตาลี ยกมือพร้อมกัน ครั้งนั้น อาจารย์เลือกให้สตีเว่นเป็นผู้อ่าน พร้อมกันนั้น เขายังถูกขอร้องให้อ่านประโยคเดียวกันในภาษาสเปนด้วย
 
นาตาลีประทับใจสตีเว่นตั้งแต่ครั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าอาจารย์มีทีท่าพอใจ เธอบอกว่า “ฉันเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียนมาตลอด” นาตาลีเป็นนักเรียนเรียนดี ได้เกรดเอทุกตัว แต่ในห้องสัมมนาเล็กๆ มีผู้เข้าร่วมเพียง 8 คน เธอลืมเรื่องเกรดเฉลี่ยของตัวเองโดยสิ้นเชิง เพราะได้พบคนที่น่าประทับใจ คนที่อออกเสียงภาษาอื่นได้อย่างไร้ที่ติ คนคนนั้นก็คือสตีเว่น
 
ในขณะที่พรสวรรค์ของสตีเว่นได้มาเพราะเริ่มฝึกตั้งแต่เด็ก นาตาลีได้มาจากสายเลือด พ่อแม่ของเธอเป็นชาวรัสเซีย พวกท่านเดินทางไปทั่วโลก พี่สาวคนโตเกิดที่รัสเซีย แต่พี่ชายคนกลางเกิดที่อิสราเอล ส่วนนาตาลีและน้องสาวเกิดที่แคลิฟอร์เนีย เธอมีลูกพี่ลูกน้องอยู่ที่เขมรด้วย เธอพูดเก่งทั้งรัสเซีย เขมร ฝรั่งเศส และสเปน เพราะสภาพแวดล้อมเป็นแบบนั้น สมัยที่เรียนไฮสคูล เธอสอบผ่านข้อสอบฝรั่งเศสของเด็กปีหนึ่งได้สบายๆ
 
หลังจบการสัมมนาครั้งนั้น นาตาลีติดต่อสตีเว่นก่อน เพื่อชวนเขาคุยเรื่องภาษา สถานการณ์นี้อาจดูเหมือนเธอกำลังจีบหนุ่ม แต่ความจริงแล้ว นาตาลีบอกว่าเธอรู้สึกอยากแข่งขันมากกว่า เธอทึ่งแต่ก็อดอิจฉาความเก่งของสตีเว่นไม่ได้ ส่วนสตีเว่นนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดในชั้น มาคุยกับเขา
 
สตีเว่นเรียนอยู่ปี 4 แล้ว เขาเริ่มหาที่สัมภาษณ์สมัครงานเพื่ออนาคต ส่วนนาตาลีปีสอง ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ วันๆ เข้าห้องสมุดเป็นหลัก ทางเดียวที่จะจีบเธอได้ สตีเว่นก็ต้องเข้าห้องสมุดตามสาว นาตาลีมักเลือกนั่งที่ชั้นหนึ่งของห้องสมุด เป็นจุดที่มีคนนั่งอยู่มาก คล้ายๆ เป็นพื้นที่สำหรับติวหนังสือกลายๆ
 
สองหนุ่มสาวใช้เวลายามย่ำค่ำอยู่ด้วยกัน ติวหนังสือด้วยกัน และในที่สุด ความสัมพันธ์นี้ก็กลายเป็นความรัก เพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัยจะเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยในห้องสมุดเสมอ ไม่ก็ร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบ เรียกว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่น่ารักจริงๆ ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ เป็นหนอนหนังสือที่เก่งภาษาและขยันด้วยกันทั้งคู่ ^ ^
 
จากห้องสมุดที่ควรจะเครียดเรื่องเรียน ก็กลายเป็นห้องแห่งความรักไปในที่สุดค่ะ (แอดมินเสี่ยวได้อีก)

 

 

ไมเคิลและเอลิซาเบ็ธ ชอเอ็นเฟลด์

ขณะที่เรียนปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัยดุ๊ค ไมค์และเอลิซาเบ็ธ ต่างก็ทำงานพิเศษในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ไมค์ทำงานอยู่ที่ห้องสมุดเพอร์กิ้นส์ ส่วนเอลิซาเบ็ธทำงานอยู่ที่ห้องสมุดลิลี่ของฝั่งตะวันออก     
 
เอลิซาเบ็ธบอกว่าห้องสมุดเปรียบเหมือนบ้านของเธอ แม่ของเธอทำอาชีพบรรณารักษ์ ท่านเป็นผู้ริเริ่มการเปิดห้องสมุดในบ้านเกิดเพื่อประโยชน์ของชุมชน ความที่มีแม่เป็นผู้นำและให้ความสำคัญกับหนังสือ ทำให้เอลิซาเบ็ธกลายเป็นคนรักหนังสือ เธอบอกว่า หนังสือช่วยเปิดโลกให้กับเธอ และห้องสมุดก็คือสถานที่ที่ทำให้เธอค้นหาตัวตนพบ
  
ไมค์เองก็เติบโตท่ามกลางหนังสือเช่นกัน สมัยยังเป็นเด็ก เขาใช้เวลาอยู่ที่แผนกเด็กของห้องสมุดประชาชนในเมืองบรู้คลินเป็นหลัก ระหว่างที่รอพ่อเรียนปริญญาโท และนั่นคือสิ่งที่ส่งเสริมให้เขากลายเป็นนักอ่าน “ผมได้รับรางวัลเด็กที่อ่านหนังสือมากที่สุดเสมอ” เขาประกาศ
 
ทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อต่างเรียนปีสอง ประสบการณ์ครั้งแรกนั้น เอลิซาเบ็ธบอกว่า “เราเกลียดกันทันทีที่พบหน้าค่ะ” แต่หลังจากนั้น เอลิซาเบ็ธเดินเข้าไปในห้องสมุดเพอร์กิ้นส์ ระหว่างที่กำลังมองหาเพื่อนคุย เธอได้พบไมค์ ทั้งคู่สบตากัน “เหมือนสายฟ้าฟาด” เอลิซาเบ็ธสรุปเขินๆ “การตกหลุมรักหลังจากพบกันครั้งที่สอง” จากนั้น เอลิซาเบ็ธเป็นฝ่ายเดินเข้าไปคุยกับไมค์ก่อน
 
มิตรภาพเริ่มขึ้นและไมค์ก็ตัดสินใจชวนเอลิซาเบ็ธไปงานฉลองการเรียนจบการศึกษาปีที่สองและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรัก เทอมต่อมา ทั้งคู่ลงวิชาเรียนร่วมกันและตัวติดกันนับแต่บัดนั้น จนกระทั่งเรียนจบ ทั้งคู่ก็แต่งงานกันและมีลูกสาว... คู่รักผู้รักหนังสือ ได้ใช้เวลาว่างไปกับการสนับสนุนการก่อตั้งห้องสมุดสาธารณะ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม ทุกวันนี้ ทั้งคู่ยังคงเติมเต็มความรักและมีความสุขกับการทำเพื่อวงการวรรณกรรม
 
น่ารักมากเลยค่ะ คู่นี้ เป็นคู่รักที่นิสัยเหมือนกันมากๆ เขาถึงว่าคนจะรักกันได้ยืนยาว ต้องมีศีลเสมอกัน จริงมั้ย!
 

 

ปีเตอร์และซาร่า อิงลิช

ถ้าเข้าห้องสมุดเป็นประจำ เชื่อว่าทุกคนต้องมีมุมโปรดของตัวเอง และมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง พร้อมหนังสือเล่มโปรดเล่มที่รักที่สุด ซาร่าและปีเตอร์ก็เช่นกัน ทั้งคู่หลงรักโต๊ะที่อยู่ติดหน้าต่างของห้องสมุดเพอร์กิ้นส์ ในมหาวิทยาลัยดุ๊ค ความรักของคู่นี้เริ่มจากมิตรภาพ เมื่ออ่านหนังสือด้วยกันบ่อยๆ เห็นหน้ากันบ่อยๆ ก็เลยกลายเป็นถามไถ่ และหลังจากเลิกอ่านหนังสือ ทั้งคู่จะเข้าใช้บริการร้านพิซซ่ายอดฮิตที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้น ปีเตอร์จะเดินไปส่งซาร่าที่หอของเธอเป็นการปิดท้าย
 
อ่านหนังสือด้วยกันบ่อยๆ ติวกันบ่อยๆ เดินไปส่งกันตลอด ในที่สุด ก็เลยกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด “มันเป็นรักแรกพบ” ซาร่าบอก
 
สองปีหลังเรียนจบ ทั้งคู่แต่งงานกัน จากนั้นก็เข้าเรียนต่อทั้งคู่ จนต่างก็จบปริญญาเอก ความรักในห้องสมุดนี้ดำเนินไปเนิ่นนาน และสุดท้าย ต่างฝ่ายต่างลงเอยด้วยการเป็นอาจารย์ ทุกวันนี้ ต่างก็ยังคงให้ความช่วยเหลือห้องสมุดของมหาวิทยาลัยสม่ำเสมอ ซาร่าคอยช่วยจัดการ เลือกหนังสือดีๆ เข้าห้องสมุด และให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ พวกเขารักและเห็นคุณค่าของหนังสือมากและหวังว่าคนอื่นๆ จะคิดเช่นเดียวกัน
 
ถึงแม้โต๊ะที่ทั้งคู่เคยอ่านหนังสือร่วมกัน และได้พบความรักจะหายไปแล้ว แต่ความรักของทั้งคู่ยังคงเหลืออยู่ ปีเตอร์ปิดท้ายไว้ว่า “เป็นธรรมชาติของห้องสมุดอยู่แล้ว ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ความรักก็เช่นกัน” 
 
เป็นยังไงกันบ้างคะ สามความรักที่เกิดจากห้องสมุดที่แอดมินเลือกมาเล่าให้ฟัง คิดว่าน่าจะมีสักเรื่องแหละที่โดนใจนักเขียนนักอ่านของเรา ถ้าใครสนใจอยากเอาไปเป็นพล็อตนิยาย ก็จัดได้เลยนะคะ แอดมินยินดีมาก และจะรออ่านเลยค่ะ คิดไปคิดมา แอดมินเองก็อยากเขียนบ้างสักเรื่องจริงๆ รักเกิดในห้องสมุด น่ารักดีเหมือนกันนะ ว่างั้นไหมคะ
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
  
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

Devilinlove. Member 22 ส.ค. 59 17:35 น. 1

โอ้ยยย...ทำร้ายคนโสดมาก เป็นโมเม้นต์โรแมนติกที่อยากมีบ้าง! อยากได้บ้าง! (///v\\\) "ผมอยากเรียนภาษาของความรัก","เราเกลียดกันทันทีที่พบหน้า","การตกหลุมรักหลังจากพบกันครั้งที่สอง","เป็นธรรมชาติของห้องสมุดอยู่แล้ว ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ความรักก็เช่นกัน","มันเป็นรักแรกพบ" แอร๊ยยยย ยืมค่ะ! ยืมเลย!

#กำลังจะแก้นิยายอยู่พอดี #ขอบคุณมากค่ะ! (///-\\\) ยังเขินมิหายเลย งื้อ!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด