ขั้นเทพ!! จากเด็ก ตจว.ก้าวสู่เวทีโลก สร้างชื่อให้วงการวิทย์ไทย

     นร.ไทยคนแรกคนเดียวที่ได้จารึกชื่อบนแผ่นจารึกมหาวิทยาลัย กับความมุ่งมั่นขอกลับมารับใช้ชาติ

     จากเด็กจังหวัดนครสวรรค์ มุ่งมั่นสอบชิงทุนรัฐบาล ได้เป็น 1 ใน 22 นักเรียนไทย เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย Top 5 ของอเมริกา และสร้างชื่อให้คนไทยด้วยการคว้าคะแนนสูงสุดของคณะ จนเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้รับจารึกชื่อบนแผ่นจารึกของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย!

     และด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำวิชาความรู้และประสบการณ์ เพื่อกลับ มาทำประโยชน์กับชาติบ้านเมืองให้ถึงที่สุด ทำให้เธอประสบความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัลระดับนานาชาติต่างๆมากมาย จนได้รับเลือกเป็นประธานร่วมองค์กรวิทยาศาสตร์โลกอีกด้วย

     โอ้โห!! เกริ่นมาข้างต้นขนาดนี้ น้องๆ คงอยากรู้จักแล้วว่า คนเก่งที่พี่แนนพูดถึงคือใคร คนเก่งที่พี่แนนพูดถึงก็คือ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ หรือ พี่ต่าย นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับระดับโลกค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ต่าย อยากให้พี่ต่ายเล่าความเป็นมาให้ฟังสักนิดค่ะ ว่าได้ทุนไปศึกษาต่อที่อเมริกาได้ยังไง?

"พี่ต่าย เรียนอนุบาลนครสวรรค์จนถึง ป.6 จากนั้นก็มาเข้าโรงเรียน สตรีนครสวรรค์ แล้วก็สอบเข้าแพทย์ แต่จังหวะนั้น ทางโรงเรียน อยากให้เป็นตัวแทนไปสอบชิงทุนรัฐบาลไทย (กพ.) ซึ่งเค้าให้เลือก 2 ทุนอะไรก็ได้ พี่ต่ายเลือกทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ เรียนวิศวกรรมเคมี กับอีกทุนหนึ่ง พี่ก็เลือกเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ของกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งพี่ต่ายสอบติดทั้ง 2 ทุนค่ะ"

โอ้โห 3 คณะ 3 แนวทางเลย แล้วพี่ต่ายตัดสินใจเลือกยังไงคะ

"เป็นการตัดสินใจที่ยาก เทคนิคหนึ่งคือ ต้องหาข้อมูลเยอะๆ และเลือกที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ พี่สาวพี่ต่ายเรียนแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พี่ก็ถามจากพี่สาวจนเห็นภาพเลย และคุณพ่อก็พาไปหาอาจารย์ที่สอนที่คณะวิศวกรรมเคมีด้วย ทำให้พี่ต่ายเห็นเส้นทางที่ค่อนข้างชัด รู้ว่าเราต้องเรียนอะไร จบแล้วต้องทำงานอะไร แล้วเราชอบอันไหนกันแน่ เราต้องตัดสินใจเอง เพราะเราต้องอยู่กับอาชีพนี้ไปตลอดชีวิต

อย่างถ้าเรียนหมอ พี่ต่ายก็จะไม่ได้ใช้เลข ฟิสิกส์มากนัก แต่ถ้าเรียน วิศวเคมีต้องเรียนทุกสาขา ทั้งเลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งพี่ชอบฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข หมดเลย จะให้ทิ้งอะไรก็เสียดาย เลยตัดสินใจเลือกวิศวเคมี และไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ"

ไปเรียนต่อต่างประเทศต้องปรับตัวยังไงบ้างค่ะ?

"ปรับอย่างแรกเลยคือเรื่องภาษาค่ะ พี่เองได้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษก็ตอน ป.5 ได้เรียนถึง ป.6 แล้วก็มาเรียนใน ม.1 ม.2 พี่ก็สอบเทียบไป ไปเรียน ม.4 ม.5 สรุปได้เรียนภาษาอังกฤษทั้งหมด 6 ปี น้อยกว่าคนอื่นเยอะมากกก"

แล้วแก้ปัญหาเรื่องภาษายังไงบ้างคะ?

"พอเรารู้ว่านั่นคือปัญหาของเราก็ต้องยอมรับ และตั้งใจกับมัน อย่างเรารู้ว่า accent เราไม่ได้ ก็พยายามพูดเยอะๆ ฟังเยอะๆ แล้วก็ต้องมีความกล้า พี่ชอบติวให้เพื่อนอยู่แล้ว เราก็จัดติวเลย ได้ฝึกภาษาไปในตัว ที่สำคัญ สู้กับมันอย่าท้อ"

ชีวิตปีแรกที่นู่น เป็นยังไงบ้างคะ?

"ปีแรกที่ไป ต้องไปเรียน Prep-School หรือโรงเรียนเตรียมความพร้อมก่อนค่ะ เป็นโรงเรียนประจำ เรียนเหมือนมหาวิทยาลัยปี 1 เลย ทั้งดูแลตัวเอง มีวิชาต่างๆ ให้เราลงเอง เรียกว่าความเข้มข้นของวิชาการเท่ากับปริญญาตรี ปี 1 เลย เพราะฉะนั้นนอกจากจะต้องปรับตัวแล้ว ต้องเรียนหนักด้วย

มีเหนื่อย มีท้อบ้างไหมคะ?

“ช่วง 1 ปีแรก โทรกลับมาบ้านหาคุณพ่อคุณแม่บ่อยมาก โทรไปร้องไห้เลย เพราะเราต้องปรับตัวเยอะ คิดถึงบ้าน อึดอัดใจด้วย เพราะอย่างพี่ เป็นคนเพื่อนเยอะ พูดเก่ง ไปถึงที่นู่นใบ้กิน (ฮ่าๆ) กว่าจะปรับตัวได้

คุณพ่อคุณแม่ก็ให้กำลังใจนะคะ ท่านก็ถามว่า "ตอนเลือก ใครเลือก" "หนูเลือกเอง" "ตอนได้หนูดีใจไหม?" " ดีใจค่ะ" "ตอนนั้นอยากได้ไหม?" "อยากค่ะ" "แล้วตอนนี้หนูจะมาท้อได้ยังไง ในเมื่อหนูเอาภาษีราษฎร เอาโอกาสของคนอื่นไปเรียน" คือมันเป็นทั้งแรงผลักดันและแรงกดดันนะคะ คือถ้าเกิดมาจากลูกคนรวย พ่อแม่ก็มีส่ง ไม่เป็นไร แต่เรานี่ถูกตราหน้าไว้ เลยว่า ถ้าเรียนไม่จบ เรียนไม่ดี เราโกงหลวง โกงแผ่นดิน

บวกกับพี่เป็นคนชอบความท้าทาย ก็เลือกมหาวิทยาลัย TOP ไปเลย สุดท้ายก็เห็นผลว่า เราสามารถสามารถที่จะเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ ระดับ TOP นั้นได้ ก็ภูมิใจมาก เพราะเห็นผลแล้ว"












ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัย Columbia ที่เรียกว่าเป็น Top Ivy League ของอเมริกาเลยคะ?

"ที่เลือก มหาวิทยาลัย Columbia เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่สอนแบบ Well rounded คือเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นให้คนจบมาแล้วเก่งทุกด้าน ซึ่งท้าทายมาก เค้า
จะบังคับเลยว่า ถึงคุณจะเรียนวิศวะ คุณก็ต้องเลือก เรียนศิลปะ ดนตรี ประวัติศาสตร์ ภาษาก็ต้องเก่งด้วย"

เรียนมหาวิทยาลัยระดับโลกขนาดนี้ มีกังวลหรือกลัวบ้างไหมคะ?

"ก็กลัวนะ แต่พี่เป็นคนชอบ push the limit ทำในสิ่งที่ยากขึ้น เพื่อผลักดันขีดความสามารถของตัวเอง เค้าส่งเรามาเรียนเมืองนอก ไม่ใช่แค่ให้เก่งเฉพาะวิศวะ แต่คุณจะต้องเป็นคนที่เก่งในรอบด้าน พอเราคิดว่า สู้หล่ะ!! เราเลือกที่นี่ พอเข้าไปก็บอกเลยว่าเรียนหนักมาก แต่ 1 ปีที่ Prep-school ที่ปรับตัวเราสู้มาเยอะแล้ว อันนี้ไม่น่าเหนือบ่า- กว่าแรงเราแล้ว

และความพยายามของเราก็สามารถก้าวพ้นขีดจำกัดของตัวเองได้ ในที่สุด พี่สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และทำคะแนนได้สูงสุด ของคณะ เป็นความภูมิใจที่คนไทยก็ทำได้ค่ะ เพราะนั่นก็คือศักดิ์ศรีของคนไทย ถ้านักศึกษาไทยรุ่นนี้ทำคะแนนดี เวลานักศึกษาไทยสมัครเข้ามา เค้าก็สนใจรับมากขึ้น

แต่สิ่งที่สำคัญคือ ไม่อยากให้เอาเกรดมาเป็นตัววัดคุณค่าของน้อง ทุกคนมีคุณค่าเท่าไหนก็เท่านั้น ทุกคนไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟค ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ อย่างพี่ต่ายก็ไม่ได้เก่งที่สุดในโลก แต่พี่มีความพยายามและความตั้งใจ ถ้าเราพยายามแล้ว ได้เท่าไหน คือเท่านั้น ไม่ต้องเน้นว่าคุณจะต้องเป็นที่หนึ่งตลอด ไม่อยากเน้นให้คนเก่งอย่างเดียว แต่อยากให้ผลักดันและท้าทายตัวเอง อย่าหยุดอยู่กับที่ น้องบางคนอยากเรียนวิทย์ ก็เรียนเลย หรือบางคนไม่ชอบ ก็ไม่ได้บอกว่าคุณมีคุณค่าต่ำ คุณถนัดอะไร ไปให้ดีที่สุด อะไรก็ตามที่คุณเลือก ทำให้ดีที่สุดแล้วคุณจะประสบความสำเร็จ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ"

จบปริญญาตรีมา ก็เรียนปริญญาโท-เอกเลยหรือคะ?

"พี่เข้าหลักสูตร โท-เอก ก็คือ เรียนปริญญาโทแล้วต่อปริญญาเอก ที่ มหาวิทยาลัย Stanford เค้าก็ให้ทุนมา ในการเรียนวิศวเคมี ตอนปริญญาตรี เราจะเรียนทุกสาขาเลย พอเราไปเรียน โท-เอก ต้องเลือกเรียนเฉพาะทาง คนเรียนปริญญาเอกต้องวิจัย ซึ่งต้องเป็นเรื่องเฉพาะทาง พี่ก็ดูแล้วว่าสิ่งที่พี่วิจัยควรจะมาประยุกต์ใช้ในไทยได้ด้วย ก็เลยเน้นเรื่องการสร้างเทคโนโลยี ซึ่งก็คือ Microarray เรียกว่า เป็นต้นกำเนิดจาก Stanford เลย”

เห็นว่าพอเรียนจบปุ๊บ มีคนมาเตรียมซื้อตัวพี่ต่ายไปทำงาน แต่พี่ต่ายก็ยังเลือกกลับมาทำงานให้ประเทศไทย จริงหรือเปล่าคะ?

"ต้องบอกว่า เรื่องค่าตอบแทน บริษัทพวกนี้สูงอยู่แล้วค่ะ แต่พี่ต่ายไม่ลังเลที่จะปฏิเสธเลย จริงอยู่ว่าบริษัทที่ซื้อตัวเราไป ก็จ่ายเงินตรงนี้ให้รัฐบาล เป็น 2-3 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ลองคิดว่า รัฐบาลสูญเสียบุคลากรที่รอไป 10 ปี แล้วเค้าต้องรออีก 10 ปีหรอ กว่าจะมีรุ่นน้องเรามาใหม่ ถ้ารอกันไปอย่างนี้ ประเทศเราก็ไปไหนไม่ได้ ก็กลับมาดีกว่า"

ทราบว่าพี่ต่ายทำงานพร้อมกันถึง 2 ประเทศ คว้ารางวัลระดับ นานาชาติมากมาย มีอะไรยังไงบ้างค่ะ

"ตอนนี้พี่เป็นนักวิจัยอยู่ที่ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ แห่งชาติ (ไบโอเทค) - BIOTEC ค่ะ เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการ Microarray และเมื่อปีที่แล้ว พี่ได้รับทุนจากสหภาพยุโรปให้ไปเป็นหัวหน้าทีมวิจัยที่สหราชอาญาจักร เป็นเวลา 2 ปี ตอนนี้พี่ต่ายเลยทำงาน 2 ประเทศไปพร้อมกันค่ะ แล้วก็มีไปบรรยายทั้งในไทยและต่างประเทศ ล่าสุดพี่ต่ายได้รับเชิญจาก Ministry of Education and Research ที่ประเทศเยอรมัน ให้ไปบรรยายเกี่ยวกับการทำวิจัยที่สหราชอาณาจักร"

สุดท้ายนี้ อยากให้พี่ต่ายให้กำลังใจน้องๆ ที่อยากจะเรียนเก่ง หรืออยากประสบความสำเร็จเหมือนพี่ต่าย ต้องทำยังไงบ้างคะ

"พี่ต่ายมาถึงวันนี้ได้ เพราะพี่รักในสิ่งที่พี่เลือก ก่อนอื่นน้องจะต้องเลือก ในสิ่งที่ตัวเองรักและอยากทำ อย่าอาศัยกระแสสังคมว่า เรียนอันนี้ดีกว่าอันนั้น น้องต้องรักและสนใจมันจริงๆ ต้องค้นคว้าหาก่อนว่าเราอยากทำอะไรในชีวิต เมื่อมีจุดมุ่งหมาย ก็จะรู้ว่าเราจะเดินไปยังไง แล้วก็มุ่งมั่นให้เต็มที่ค่ะ"

     โอโฮ้ ได้คุยกับพี่ต่ายแล้ว รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยจริงๆ ค่ะ น้องๆ มีพี่ต่ายเป็นไอดอลกันแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ ค้นหาตัวเอง แล้วทำในสิ่งที่รัก ด้วยความพยายาม มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ รับรองเก่งไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะ!!


พี่แนน
พี่แนน - Columnist พี่ใหญ่ฝ่ายกิจกรรมด้านการศึกษา และฝ่ายดูแลสุขภาพจิตของน้องๆ ในทีมให้เป็นปกติ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
in my dream 26 ก.ค. 55 21:28 น. 7
สุดยอดค่ะพี่ นอกจากความเก่งแล้วพี่ยังเป็นคนดีของประเทศเราด้วย

ภูมิใจแทนพี่เลยค่ะ
ปล.ถึงน้องเรียนไม่เก่งน้องก็จะพยายามทำในสิ่งที่รักให้ได้เหมือนกันค่ะ
^^
0
กำลังโหลด

27 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
in my dream 26 ก.ค. 55 21:28 น. 7
สุดยอดค่ะพี่ นอกจากความเก่งแล้วพี่ยังเป็นคนดีของประเทศเราด้วย

ภูมิใจแทนพี่เลยค่ะ
ปล.ถึงน้องเรียนไม่เก่งน้องก็จะพยายามทำในสิ่งที่รักให้ได้เหมือนกันค่ะ
^^
0
กำลังโหลด
princess 26 ก.ค. 55 22:55 น. 8
สุดยอดอ่ะพี่ คนดีๆเเบบนี้น่ายกย่อง
สุดยอดจริงๆ ชอบทั้ง ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข ทำได้อย่างไร ?

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
~~_[มู๋ตุ๋น]_~~ Member 30 ก.ค. 55 00:56 น. 17
แม่เจ้า>_< ....ถ้าผมจบแล้วจะไปต่อนอกนะ[วิทย์สิ่งแวดล้อม] ตอนนี้เจอแค่วิชาปี1ก็จะอ้วกและ จะเยอะไปไหน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด