เริ่มกันเถอะ! แนะนำ 5 มาตรการปิดฉากดราม่า แก้ปัญหา "เก็บเงินกีฬาสี"

     สวัสดีจ้าชาว Dek-D.com ทุกคน ตอนนี้ก็เปิดเทอมสองมาได้สักพัก นักกิจกรรมหลายโรงเรียนคงเริ่มลุยงานกีฬาสีกันบ้างแล้ว และไม่ต้องบอกพี่ส้มก็รู้ว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ต้องได้เจอกับปัญหา "ดราม่าเก็บเงินกีฬาสี"  เนื่องจากจำนวนเงินที่ใช้ในการทำกิจกรรมนั้นมากเกินกำลังที่น้องๆ วัยเรียนจะจ่ายไหว จนเกิดเป็นข้อถกเถียงที่ทำให้เสียน้ำใจกันแบบไม่จบสิ้นมาหลายปี แต่ปีนี้มันต้องจบสิ้นลงสักที เพราะเราจะใช้ 5 มาตรการปิดฉากดราม่าสยบปัญหาให้จงได้!!!
   
   
1. วางแผนการใช้เงิน งบเกินห้ามปล่อยผ่าน!
     
จุดเริ่มต้นของการเตรียมงานกีฬาสีให้ไม่มีดราม่าเรื่องเงิน ย่อมต้องมีการวางแผนการใช้เงินในการทำกิจกรรมไว้ล่วงหน้าก่อนเป็นอย่างดี โดยต้องกำหนดงบประมาณทั้งหมดเพื่อแจ้งการเก็บเงินสนับสนุนจากสมาชิกในสี ที่มีการคำนวณแบ่งให้แต่ละฝ่ายต่างๆ อย่างเหมาะสมและยุติธรรม ซึ่งจะต้องได้รับการอนุญาตจากทางโรงเรียนและการยินยอมของนักเรียนเสียก่อน หลังจากการเก็บเงินแล้วจึงเริ่มแบ่งเงินให้ทุกฝ่ายนำไปบริหาร โดยสร้างข้อตกลงว่าให้ทุกฝ่ายบริหารเงินอย่างคุ้มค่าและไม่เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ ที่สำคัญจะต้องมีการรายงานผลความคืบหน้าของการทำงานเป็นระยะๆ พร้อมกับแสดงหลักฐานการใช้เงินในส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สมาชิกทุกคนสามารถตรวจสอบได้นั่นเอง ถ้าโรงเรียนไหนใช้มาตรการนี้ ทุกคนในสีก็อย่าละเลยที่จะติดตามการนัดหมายเก็บเงิน และผลการดำเนินงานในส่วนต่างๆ ด้วยนะจ๊ะ เพราะถ้าเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยกันแก้ไขทัน
    
     
     
2. ออกกติกาต้องประหยัด ตัดปัญหาฟุ่มเฟือย
   
กติกาการแข่งขันประเภทต่างๆ ที่โรงเรียนตั้งขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่สามารถจัดการดราม่าเก็บเงินกีฬาสีอย่างได้ผลพอสมควร เนื่องจากเป็นข้อปฏิบัติที่เคร่งครัด ถ้าสีไหนฝ่าฝืนมักโดนตัดสิทธิ์ต่างๆ ซึ่งอาจจะดูโหดร้ายไปสำหรับเด็กกิจกรรมทั้งหลาย แต่ถ้ากติกาต่างๆ ได้ตั้งขึ้นจากจุดประสงค์ในการส่งเสริมการประหยัดในงานกีฬาสีแล้ว ย่อมช่วยขจัดปัญหาในการหมดเงินไปมากกับงานกีฬาสีได้อย่างแน่นอน เช่น กติกาให้ดัดแปลงชุดสำหรับขบวนพาเหรดและสแตนขึ้นเองโดยห้ามซื้อใหม่หรือสั่งตัดใหม่ การกำหนดจำนวนเงินที่โรงเรียนอนุญาตให้แต่ละคณะสีเก็บเงินจากสมาชิก ตลอดจนการตัดสิทธิ์คณะสีที่ใช้งบประมาณเกินที่กำหนดไว้ไม่ให้ลงประกวด ซึ่งจะทำได้เพียงแค่โชว์แต่ไม่นำไปพิจารณาให้รางวัล เป็นต้น เห็นแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่างานกีฬาสีจะไม่สนุกเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะว่ากติกาที่เข้มงวดในงบประมาณ จะช่วยลดความอลังการและกระตุ้นให้เราสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่มาแทนธีมอลังการแบบเดิมๆ นั่นเอง
  
   
   
3. ปรับรูปแบบกิจกรรม ทำแต่สิ่งที่ได้ประโยชน์
   
ถ้าเราพิจารณากันให้ดีแล้ว จุดประสงค์ของงานกีฬาสีทุกโรงเรียนล้วนเป็นไปเพื่อความสามัคคีและสนับสนุนให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออกในสิ่งที่สร้างสรรค์อยู่แล้ว โดยทุกคนก็มักจะเต็มที่กับทุกกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมเพื่อให้ผลของมันออกมาน่าพอใจและประทับใจในความทรงจำชีวิตวัยเรียนของเรา ซึ่งบางครั้งกลับกลายเป็นความเสี่ยงภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น การซ้อมกีฬาอย่างหักโหม อุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันประเภทต่างๆ การใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจเป็นอันตราย ฯลฯ ทั้งนี้ โรงเรียนและตัวนักเรียนเอง จะต้องมีการทบทวนว่ากิจกรรมต่างๆ ในงานกีฬาสี มีส่วนใดที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายขึ้นบ้าง และทำการยกเลิกหรือปรับรูปแบบของกิจกรรมนั้นๆ เช่น ห้ามเชียร์ลีดเดอร์ต่อตัวขึ้นสูงเกิน 3 เมตร ห้ามนำดอกไม้ไฟเข้ามาในงานกีฬาสี เป็นต้น เพื่อสร้างความปลอดภัยและส่งเสริมให้ใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า จะได้ไม่มีใครดราม่าว่าเราเอาเงินไปใช้แบบไร้สาระนะจ๊ะ!
    
     
    
4. ลดสเกลงาน เตรียมนานยิ่งเปลืองทรัพยากร
     
มาตรการลดความอลังการของงานกีฬาสีในข้อนี้ สามารถทำได้ด้วยการจำกัดเวลาในการเตรียมงาน หรือจำกัดคนในการเข้าร่วมแข่งขันในแต่ละกิจกรรม ซึ่งช่วยในการลดความยืดเยื้อในการใช้ทรัพยากรต่างๆ ไปได้โดยตรง เช่น จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมขบวนธงเกียรติยศเพื่อลดจำนวนธงที่จะต้องซื้อ จำกัดเวลาในการเตรียมงานกีฬาสีจากหนึ่งเดือนมาเป็นครึ่งเดือน ฯลฯ เพราะถ้าคนยิ่งมาก ก็ยิ่งต้องใช้เงินในการดูแลในส่วนต่างๆ มากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์ ค่าอาหารต่างๆ ที่จะต้องเบิกมาจากส่วนกลางเพื่อใช้ในช่วงเตรียมงาน ซึ่งถ้ามีการลดเวลาและจำนวนคนลงแล้ว ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถจัดงานกีฬาสีที่เว่อร์วังอลังการจนเกินงามได้นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะลดสเกลงานจนหดหายชนิดที่ว่าแข่งฟุตบอลกันเพียงครึ่งสนามหรอกนะคะ เพียงแต่ปรับลดบางอย่างเพื่อความเหมาะสมเท่านั้นจ้า
   
     
    
5. ทำกิจกรรมหาทุนสนับสนุน รบกวนเงินคุณพ่อคุณแม่ให้น้อยลง
     
แม้ว่างานกีฬาสีจะเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในโรงเรียนเพื่อให้คนในโรงเรียนเอง แต่ด้วยวัยของน้องๆ ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านแล้ว ก็ยังไม่สามารถหารายได้เป็นหลักแหล่งกันสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการรบกวนเงินในกระเป๋าของผู้ปกครองอยู่เสมอๆ ทั้งที่ท่านก็อาจจะไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้างั้นเรามาลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถหาทุนสนับสนุนคณะสีได้เอง? ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินกำลังอย่างแน่นอนจ้า เพราะในโรงเรียนยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ หารายได้ เช่น ตลาดนัดโรงเรียน การประกวดชิงเงินรางวัล ฯลฯ ถ้าเราลองแท็กทีมกับเพื่อนคณะสีเดียวกันไปล่างบประมาณสนับสนุนจากกิจกรรมเหล่านี้ล่ะ คงจะช่วยทางบ้านประหยัดได้บ้างนะเนี่ย แถมยังได้ทำความรู้จักเพื่อนร่วมคณะสีไว้ล่วงหน้าก่อนจะลุยงานใหญ่ด้วยกันในระยะเวลาอันใกล้อีกซะด้วย งานนี้ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งเพื่อน และได้ทั้งจบดราม่าหาว่าขอเงินพ่อแม่มาฟุ่มเฟือยอีกนะ คุ้มสุดๆ!
    
เครดิต : โรงเรียนชนแดนวิทยาคม
         
     
     สำหรับมาตรการที่ได้แนะนำไปนี้ จะสามารถปิดฉากดราม่าเก็บเงินกีฬาสีอย่างได้ผลก็ต่อเมื่อทุกคนในโรงเรียนช่วยกันสร้างจิตสำนึกที่ดี ด้วยการพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ของงานกีฬาสีที่เป็นไปเพื่อสร้างความสามัคคี ร่วมกิจกรรมกันด้วยน้ำใจนักกีฬาและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานเป็นทีม ได้รับรู้และเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนๆ ที่เสียสละเวลาส่วนตัวมาเหนื่อยด้วยกัน จนเรื่องดราม่าที่ถกเถียงกันกลายเป็นสิ่งเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นต้องเก็บมาพูดถึงอีกเลยล่ะจ้า!!!
    
   
พี่ส้ม
พี่ส้ม - Columnist คนทำคอนเทนต์ออนไลน์ ที่เชื่อว่าใครก็เป็นเด็กดีได้ในสไตล์ของตัวเอง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

sawedt Member 26 พ.ย. 59 10:02 น. 1
สำหรับงานกีฬาสีของโรงเรียนเรา งบแต่ละสีทางโรงเรียนให้งบมาสีละ 10,000 บาทซึ่งโรงเรียนเรามี 4 สี แต่พอบริหารงบภายในสี งบบานปลายครับบางกลุ่มสีก็กินงบที่โรงเรียนให้มาจนทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น ถึงขั้นมีปัญหาภายในแต่ละกลุ่มแล้วแต่ปัญหาเล๊กปัญหาใหญ่ ปล.โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนใหญ่ในต่างจังหวัดและชื่อโรงเรียนเป็นนามพระราชทาน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด