งานนี้พี่จะไม่ทน! แนะนำ 7 สิ่งที่ควรทำเพื่อรับมือกับปัญหา "คนหื่นโชว์ของ"

     สวัสดีจ้าชาว Dek-D.com ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภัยสังคมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็คงจะพอจำเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังช่วยตัวเองอยู่ข้างรถกระบะ แล้วเรียกเด็กหญิงที่เดินผ่านมาเข้าไปทำอนาจารได้ว่าเป็นประเด็นที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่บรรดาผู้ปกครองอย่างมาก เพราะปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ทำไมจึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ? และยิ่งไปกว่านั้นคือมันมีโอกาสจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ค่ะ ซึ่งใครคนนั้น อาจเป็นคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งตัวน้องๆ เอง...
    
   
     สำหรับปัญหาดังกล่าว ถ้าจะมาทบทวนหาสาเหตุที่ว่าทำไมยังคงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆ ก็คงต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหยื่อหลายรายเลือกที่จะปล่อยให้ประสบการณ์การเลวร้ายผ่านไปโดยไม่เอาเรื่องคู่กรณี จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามคนผิดมารับโทษหรือรับการบำบัดได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นวันนี้พี่ส้มจึงมีวิธีรับมือกับปัญหา "คนโชว์ของ" มาแนะนำให้น้องๆ ได้ทราบกัน เผื่อว่าวันดีคืนดีจะมีใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด จะได้นำไปใช้เอาตัวรอดโดยได้อย่างปลอดภัยกับตัวเองและสังคม ว่าแล้วก็มาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันเลย!!!
   
    
1. ไปไหนมาไหนคนเดียว ทั้งเปลี่ยว ทั้งเสี่ยง!
    
แม้ว่าการไปไหนมาไหนคนเดียวจะมีข้อดีที่ช่วยให้เราคล่องตัวกว่าเพราะไม่ต้องรอใครให้เสียเวลา แต่ข้อเสียของการฉายเดี่ยว ก็คือการเพิ่มโอกาสให้เราตกเป็นเป้าของผู้ไม่ประสงค์ดีได้นั่นเองค่ะ โดยเฉพาะในสถานที่ลับตาคน เช่น สะพานลอย ป้ายรถเมล์ที่ปลอดคน ที่สาวๆ มักได้เจอดีกับ "คนโชว์ของ" ซึ่งถ้าโชคร้ายกว่านั้นก็อาจจะโดนประชิดตัวเพื่อกระทำอนาจารได้อีกเช่นกัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้อุ่นใจกว่าก็ควรมีผู้ปกครองหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วยนะจ๊ะ แต่ถ้าต้องไปคนเดียวจริงๆ ก็พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่เปลี่ยวไว้ จะได้เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมจ้า
   
    
    
2. อย่าไว้ใจคนผ่านทาง อย่าวางใจคนใกล้ชิด
    
บ่อยครั้งที่หญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ต้องกลายเป็นเหยื่อการโชว์ของลับหรือถูกลวนลามก็เพราะ "มุกถามทาง" ที่แก๊งคนหื่นชอบขับรถมาใกล้ๆ แล้วหลอกถามเส้นทางเพื่อชวนคุย แล้วใช้โอกาสนั้นสำเร็จความใคร่ให้ดู และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เหยื่อถูกละเมิดจากคนใกล้ชิด ซึ่งอาจเป็นคนในครอบครัว หรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ โดยมักถูกตีเนียนหลอกกอด หอมแก้ม พูดจาลามกใส่ หรือเปิดอวัยวะเพศให้ดู จนกลายเป็นฝันร้ายที่ให้บทเรียนว่าน้องๆ ควรรักษาระยะห่างในความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ด้วยการระมัดระวังตัว รู้จักว่าส่วนใดในร่างกายเป็นของสงวนที่ไม่ให้ใครแตะต้อง รู้จักปฏิเสธเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้คนที่ไม่น่าไว้ใจเหล่านี้ตามลำพัง เพราะพวกเขาเหล่านี้อาจใช้ช่วงเวลาปลอดคนในการลงมือกระทำอนาจารหรืออาจร้ายแรงจนถึงขั้นข่มขืนเราได้ค่ะ
   
       
    
3. อย่าอินเกิน อย่าอินเกิน อย่าอินเกิน สตินิดนึง!
    
ถ้าน้องๆ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพราะ "คนโชว์ของ" นั้นควักอาวุธร้ายทำลายทัศนียภาพออกมาให้ชมแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการรวบรวมสติให้มากที่สุด เพื่อลดความตกใจที่เกิดขึ้น แล้วรีบคิดหาวิธีแก้ปัญหา เพราะถ้าน้องๆ แสดงอาการออกมาว่าหวาดกลัวหรือร้องไห้ ก็จะทำให้ผู้ประสงค์ร้ายยิ่งพึงพอใจเข้าไปใหญ่และเขาจะไม่หยุดง่ายๆ ซึ่งน้องๆ ควรต้องพยายามสตรองไว้ แล้วคิดหาวิธีเอาตัวรอดต่อไป ที่อาจเลือกทำได้ทั้งการหยุดพฤติกรรมลามก รวบรวมหลักฐานสำคัญในการแจ้งตำรวจ จนกระทั่งพาตัวเองหนีออกจากเหตุการณ์สุดแย่นั้นให้ได้ค่ะ
     
    
   
4. แสดงออกมั่นๆ "ฉันไม่เล่นด้วย"
    
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้มีความผิดปกติทางจิตที่โชว์ของลับเพื่อตอบสนองความต้องการหรืออาจทำเพื่อลบปมด้อยต่างๆ ของตัวเอง ถ้าเราสามารถลดความมั่นใจของเขาลงได้ ก็อาจทำให้เขาหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ โดยน้องๆ อาจทำเป็นเมินไม่สนใจ แล้วทำให้เขาเลิกไปเอง หรือบอกให้คนช่วยพร้อมชักสีหน้าใส่ แสดงเจตนาว่า "ฉันเอาเรื่องแน่" เพื่อให้เขารู้สึกกลัวความผิดก็ได้ค่ะ ส่วนวิธีการโต้ตอบแบบดูถูกกลับไปแบบที่ถูกบอกต่อๆ กันมา เช่น "เล็กจัง" "ทำได้แค่นี้เหรอ?" ก็สามารถทำให้พวกเขาหยุดชะงักได้จริงเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เขามีพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้นด้วยการเข้าประชิดตัวเรา และเราสามารถใช้จังหวะนั้นหลีกหนีไปนั่นเองค่ะ แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องไปเสียหมด เพราะอาจทำให้เขากลับมาก่อเหตุใหม่ซ้ำซาก หากสถานการณ์เอื้ออำนวยให้สามารถใช้วิธีที่ดีกว่าได้ พี่ส้มแนะนำให้น้องๆ ปฏิบัติตามขั้นตอนในข้อถัดไปนะคะ
       
    
    
   
5. อยากโชว์มากนักใช่มั้ย เดี๋ยวเจ๊จัดให้!
    
หากสถานการณ์ไม่คาดฝันไม่เอื้ออำนวยต่อการหลีกหนี และบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดียังคงได้ใจ ขอให้น้องๆ งัดไม้ตายหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเนียนถ่ายรูป หรือคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน โดยควรถ่ายให้เห็นใบหน้า รูปพรรณสัณฐานชัดเจน พร้อมทั้งจดจำรายละเอียดต่างๆ เช่น เวลาเกิดเหตุ ทิศทางที่คนโชว์ของหลบหนีไป ทะเบียนรถที่ขับขี่มา ฯลฯ เพื่อนำไปแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจ ซึ่งถ้าได้หลักฐานมาครบแล้วก็อย่าเผลอนำไปอัพลงโซเชียลมีเดียนะคะ เพราะน้องอาจมีความผิดเพราะเผยแพร่สื่อลามกบนโลกออนไลน์ หรือทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ รู้ว่าปรี๊ดแต่ดึงสติไว้ก่อนนะจ๊ะทุกคน ><
        
    
    
6. ให้ดูเฉยๆ ไม่ได้หรอก ต้องให้จับด้วยสิ...
      
แม้ว่าภัยลูกตาจากเหตุการณ์คนโชว์ของส่วนใหญ่ มักไม่รุนแรงไปถึงขั้นการข่มขืน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเหยื่อก็ไม่ควรเพิกเฉยแต่อย่างใด เพราะการปล่อยให้ผู้ไม่ประสงค์ดีหลุดรอดไปอาจทำให้เขากลับไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่นได้อีกค่ะ ดังนั้นน้องๆ ควรนำหลักฐานที่รวบรวมมาได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย หรือถ้าพวกเขามีอาการป่วยทางจิตจริง จะได้รับการบำบัดให้หายขาดอย่างถูกวิธี เพื่อให้เขากลับมาเป็นคนที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป อาจฟังดูโลกสวยไปหน่อย แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้สังคมไทยได้หลุดพ้นจากวังวนปัญหา "คนโชว์ของ" ได้อย่างเด็ดขาดและได้ผลอยู่นะจ๊ะ
     
    
    
7. ดูแลจิตใจตัวเองให้กลับมาแข็งแรง เพราะฉันสวย แซ่บ และแพงมาก!
    
หลังจากจัดการผู้กระทำผิดด้วยข้อกฎหมายไปแล้ว สิ่งที่เราจะต้องไม่ลืมจัดการเยียวยาให้กลับมาสดชื่นสดใสก็คือสภาพจิตใจของเหยื่อค่ะ หากน้องๆ รู้สึกแย่จากภาพติดตา ก็อย่าเก็บกดความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวนะคะ เลือกปรึกษาผู้ปกครอง จิตแพทย์ หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ เพื่อให้เราได้ระบายความอัดอั้นออกมาให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น และได้เรียนรู้ในการอยู่กับปัจจุบัน โดยไม่นำเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอดีตกลับมาเป็นปมทับถมตัวเองให้ขาดกำลังใจในการใช้ชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสมที่เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าได้ค่ะ ^^
    
    
   
     แม้บทสรุปของข่าวต้นเรื่องจะจบลงอย่างยุติธรรม เพราะผู้กระทำผิดได้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในสังคมนี้ยังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ถูกละเมิดแล้วคนร้ายยังลอยนวลอยู่ อีกทั้งยังมีบาดแผลในจิตใจที่ต้องใช้เวลาเยียวยา ซึ่งมันคงจะดีกว่า ถ้าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อใช้วิธีที่เหมาะสมจัดการกับปัญหา และผู้คนในสังคมช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านะคะ
    
     
ก่อนจากไป ฝากกดไลก์เพจ "เด็กมีของ" ใครมีของเข้าไปโชว์กันได้!!
          
          
พี่ส้ม
พี่ส้ม - Columnist คนทำคอนเทนต์ออนไลน์ ที่เชื่อว่าใครก็เป็นเด็กดีได้ในสไตล์ของตัวเอง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น