“อิม” สาวสวยผู้รักสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ กับภารกิจเปลี่ยนโลกทั้งใบให้น้องหมากว่า 300 ชีวิต!



 
       
        ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ข่าวคนทำร้ายสุนัขก็โผล่มาทำให้คนรักสัตว์ต้องน้ำตาซึมตลอด ยิ่งบางคนเดินไปเจอน้องหมาถูกทิ้ง ก็รู้สึกเศร้าที่ตัวเองช่วยอะไรไม่ได้ แต่จะฝากมูลนิธิดูแลทั้งหมดก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะสุนัขจรจัดมีอยู่แทบทุกถนน คราวนี้ก็เลยมีคนรักหมาที่มาขอรับหน้าที่เป็นอาสาสมัครซะเอง

 
        หนึ่งในนั้นคืออาสาสมัครสาวสวย(และหมวยด้วย!) เธอชื่อ “อิม” หรือ จุฑาวรรณ บวรวิวรรธน์ หญิงสาววัย 22 ปีที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้รักสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ และลุยเดี่ยวทำภารกิจหาบ้านดีๆ ให้สุนัขจรจัดมาแล้วกว่า 300 ชีวิต! ถ้าอยากรู้แล้วว่าเธอทำได้อย่างไร ตามมาอ่านกันค่ะ
 
Photo credit: อิม

เพราะสุนัขคือ "เพื่อนรัก"
 
      อยากรู้เหมือนกันใช่ไหมคะว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้เธอยอมทุ่มเทช่วยเหลือน้องๆ ขนาดนี้ อิมตอบว่า "เราเริ่มทำมาตั้งแต่ ม.6 แล้ว ตอนนั้นเรามีปัญหากับเพื่อน รู้สึกเหนื่อยมากท้อแท้มาก คือรู้เลยว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า โชคดีที่ตอนนั้นเรามีเลี้ยงหมาอยู่ และเค้าคือเพื่อนเราในตอนนั้น ทำให้เข้าใจว่าที่จริงความสุขและความรักอยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง"


ภารกิจเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สุนัขจรจัด
 
      “หมาเซ็ตแรกเราเก็บมาจากหน้าโรงเรียน ตอนนั้นเรารู้สึกสงสาร อยากให้เขาได้อยู่บ้านดีๆ เลยผูกเชือกแล้วจูงกลับบ้านเลย เพราะโรงเรียนกับบ้านอยู่ไม่ไกลกันมาก แล้วพอเราได้เห็นเขามีชีวิตใหม่ ก็สบายใจและรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มันเป็นสิ่งง่ายๆ ที่เราทำได้"
 
       หลังจากนั้น เวลาเธอเห็นหมาจรจัดตามถนน หรือมีคนมาขอให้ช่วย ก็จะพากลับมารักษาจนหาย แล้วประกาศลงเฟซบุ๊กเพื่อหาบ้านใหม่ให้ ซึ่งแน่นอนว่าเธอต้องสแกนให้ชัวร์ก่อนส่งน้องๆ ของเธอไป โดยเธอเล่าให้ฟังว่า “เราจะถามคนที่จะรับไปเลี้ยงเยอะมากๆ ถามจนชัวร์ว่าบ้านใหม่ของเขาจะดี แล้วถึงเวลาเราก็จะขับรถไปส่งเองเลย เพื่อไปดูสภาพบ้านใหม่เขาว่าโอเคไหม มีคนอยู่บ้านตลอดรึเปล่า แล้วก็ให้คนรับหมาไปเลี้ยงเซ็นเอกสารด้วย”
 
       “คือเราเป็นเหมือนสะพานที่จะทอดไปฝั่งที่ดีหรือไม่ดี แล้วถ้าเราทอดไปผิดฝั่ง คงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ”
 
Photo credit: อิม

ไม่ใช่แค่ลงแรง แต่ลงทุนด้วย!
 
       พอถามเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลน้องหมา เธอตอบว่า “จ่ายไปประมาณ 300,000 – 400,000 บาทแล้วค่ะ บางครั้งต้องขายเสื้อผ้า รับบริจาค แล้วก็ระดมทุนจากคนที่รักหมาเหมือนกันเพื่อเอาไปช่วยเหลือ อย่างตอนนี้ก็มีทำหนังสือขายค่ะ เป็นหนังสือที่รวมเรื่องราวเกี่ยวกับหมาที่เราเคยช่วยไว้” 
 
Photo credit: อิม

       เธอยกตัวอย่างบางเคสให้ฟัง “อย่าง ‘แกร่ง’ โดนรถชนแล้วกระทบกระดูกสันหลัง เราก็บอกหมอว่าวิธีไหนดีให้รักษาเลย เดี๋ยวหนูจะหาเงินมาจ่ายเอง ตอนนั้นเสียเฉพาะค่ารักษาไป 20,000-30,000 บาท ส่วนอีกตัวชื่อ ‘ตะกี้’ โดนตะกวดกัดหน้า กัดหาง พี่น้องก็โดนกินไปหมด เราก็พาไปรักษา หมดไป 20,000 บาท”

“จริงๆ ถ้าเป็นหมาพิการเราจะรับทีละตัวค่ะ ไม่งั้นเป็นหนี้แน่นอน”

Photo credit: อิม

Photo credit: อิม

Photo credit: อิม

Photo credit: อิม
 
ชีวิตประจำวันและมุมมองที่เปลี่ยนไป
       
       ด้วยความที่อิมเรียนมหาวิทยาลัย เราก็สงสัยว่าภารกิจของเธอกระทบการเรียนรึเปล่า เธอตอบว่า “ไม่มีปัญหาเรื่องเรียนเลยค่ะ เพราะเราแบ่งเวลาได้ แต่สมมติวันไหนมีนัดไปส่งหมาแล้วมีเรียนเช้า ก็จะเอาหมาไปเรียนด้วย (แต่เป็นลูกหมานะ) จนเพื่อนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว”
 
        เธอเล่าต่อว่า “การที่เราได้ช่วยหมา ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า แล้วก็ทำให้เราเป็นคนเอื้อเฟื้อ ชอบแบ่งปันแก่คนรอบข้างๆ มากขึ้น ทั้งเพื่อนและคนที่เรารัก”
 
Photo credit: อิม
 
คนรักหมามีคำพูดอยากจะบอก…
 
        “ถ้าเรามีหมาแล้ว ความปลอดภัยของหมาอยู่ที่เจ้าของ 90%   ชีวิตของพวกเขาอยู่ในมือเรา ถึงขั้นที่ว่า เขาจะตายยังไงก็ขึ้นอยู่กับเรา อย่างมีเคสที่หมาไซบีเรียนตายเพราะเขาอ้วน หรือหมาเป็นโรคไต ก็เป็นเพราะอาหารที่ให้กับมือเรา หมาโดนรถชน ก็เพราะเราไม่ผูกสายจูงให้ดีๆ ถ้าเลี้ยงหมาก็อยากขอร้องให้ช่วยดูแลเขาดีๆ นะคะ”
       
        อิมทิ้งท้ายอีกว่า “หมาจรจัดเป็นหมาที่น่ารักและน่าสงสารมากนะ เขารู้ว่าโอกาสที่จะมีบ้านมันน้อยมาก ดังนั้นพอได้โอกาสนั้นแล้วเขาก็จะซื่อสัตย์และจงรักภักดีที่สุด”

Photo credit: อิม

 
          เชื่อว่าคนรักสุนัขอ่านจบแล้วยิ้มออกแน่นอน เพราะอิมทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเพื่อนรักสุดตัวจริงๆ  ส่วนน้องๆ Dek-D คนไหนที่อยากช่วยเพื่อนร่วมโลกแบบนี้ก็สามารถทำได้เหมือนกันนะคะ อย่าคิดว่าแรงเล็กๆ ของเราจะไม่มีความหมาย เพราะการช่วยเหลือที่อาจเล็กน้อยในความคิดเรา อาจช่วยเปลี่ยนโลกทั้งใบของพวกเขาไปเลยก็ได้!
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

Camelotte Member 25 ก.ค. 60 06:49 น. 1

ปกติเราเคยเห็นแต่มูลนิธิในเมกาที่คอยเก็บหมาจรจัดค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนไทยทำอะไรแบบนี้ด้วย ต่อให้เราไม่ใช่ทาสหมาก็ซึ้งมากๆล่ะค่ะงานนี้ ฮื่ออ..

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด