สวัสดีค่ะชาว Dek-D เราจะพาไปรู้จัก "เด็กพลังบวก" ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเองและคนรอบข้าง มาดูกันดีกว่าว่าวันนี้ถึงคิวใคร!!
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ในโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปโชว์วงโยธวาทิตและดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนชะอวดวิทยาคารในงานดอกจูดเกมส์ หรืองานแข่งขันกีฬาประจำอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ประจำปี 2560 ส่วนยอดวิวในยูทูปตอนนี้ก็เบาๆ ค่ะ สองล้าน~ เพราะโชว์นี้ครบทั้งความอลังการ ความเป๊ะ ความแซ่บ และที่สำคัญ เราเชื่อว่าคนที่เปิดดูต้องจดจำรอยยิ้มและบุคลิกที่ตรึงใจของสาวดรัมเมเยอร์ไม้ 1 ที่มีสายสะพายและอยู่ตำแหน่งหน้าสุดได้แน่ๆ อยากรู้ไหมคะว่าเธอคือใคร ทำไมลีลาการควงคทาถึงสุดยอดขนาดนั้น ไปรู้จักเธอกันเลยดีกว่าค่า
แนะนำตัวสวยๆ
“สวัสดีค่ะ ชื่อเพชรลดา เรืองฤทธิ์ ชื่อเล่นชื่อเฟิร์น ตอนนี้เรียนชั้น ม.6 สายศิลป์-ภาษาค่ะ”
ขอแอบกระซิบ(?) กับน้องๆ ผู้อ่านนิดนึงว่า ตอนพูดคุย เราสังเกตเห็นน้องเฟิร์นดูเขินๆ พูดน้อย ต่างจากในคลิปที่โชว์แซ่บมาก ครูวรรณวิทย์ ควนวิไล ผู้ฝึกสอนจึงบอกว่า “คือปกติน้องเฟิร์นเป็นเรียบร้อยและคนขี้อายครับ ไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่ แต่ว่าตอนแสดงเขาจะเต็มที่เลยครับ”
รู้สึกยังไงกับคลิปควงคทา 2 ไม้ที่คนดูทะลุล้านในเวลาไม่กี่วัน?
“รู้สึกภูมิใจ แล้วก็ดีใจมากๆ ค่ะที่ทุกคนชื่นชอบสิ่งที่เราทำ ตอนแรกไม่คิดด้วยว่าจะมีคนติดตามเยอะขนาดนี้”
จริงๆ การแสดงดรัมเมเยอร์และวงโยฯ ของโรงเรียนนี้จะเป็นที่จับตามองตลอด และยังกวาดรางวัลพาเหรดของอำเภออยู่เป็นประจำด้วย เฟิร์นเองคิดว่าอะไรทำให้คนชื่นชอบการแสดงของโรงเรียนเรา? “หนูคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องลีลาการควงไม้และการเต้นที่ไม่เหมือนโรงเรียนอื่นค่ะ เป็นสิ่งที่ทั้งครูและรุ่นพี่รุ่นก่อนๆ ช่วยกันพัฒนามาเรื่อยๆ ให้สร้างสรรค์ขึ้น”
ครูวรรณวิทย์ ได้อธิบายเพิ่มว่า “ลักษณะปกติของดรัมเมเยอร์ จะมีไม้เดียวครับ แต่ทีนี้ถ้าจะโชว์บนท้องถนนให้คนสนใจ เราต้องคิดให้แหวกแนวขึ้น จึงได้พัฒนาเรื่องการควงไม้ มีเต้นไปควงไป สิ่งสำคัญคือเราอยากให้เป็นงานโชว์ที่ไม่เหมือนใครครับ โดยตำแหน่งที่เฟิร์นเป็นคือดรัมเมเยอร์ไม้ 1 นั้น จะเป็นไม้ที่ให้สัญญาณเพื่อนคนอื่นๆ ต้องเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด เชื่อมั่นได้ มีภาวะผู้นำ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วย แบบว่าเลี้ยวทางไหนกลับยังไง”
“อีกอย่างคือเราจะเอาเพลงที่อยู่ในกระแสมาใช้ โดยจะเรียบเรียงใหม่หมดเลย เพราะถ้าเล่นทั้งเพลงคนจะเบื่อ คนเขาจะชอบการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมากกว่า” ... และนี่คือเหตุผลว่าทำไมอยู่ๆ เพลง Bang Bang, แค่โสด, ผู้สาวขาเลาะ, Music Lover และ Burn it down (เพลงที่มีงูออกมา) จึงมาโผล่เป็นเพลงประกอบโชว์ของโรงเรียนนี้ได้!
เส้นทางสายดรัมเมเยอร์ เริ่มต้นจากไหน?
เธอเล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า “เฟิร์นเริ่มต้นจากการเป็นแดนเซอร์วงดนตรีลูกทุ่งของโรงเรียนก่อนค่ะ คือเป็นมาตั้งแต่ ม.2 แล้ว จนมาตอน ม.3 ครูกับรุ่นพี่เห็นแวว เลยมาเลือกให้เป็นดรัมเมเยอร์ค่ะ ตอนนี้ก็เป็นทั้งแดนเซอร์และดรัมเมเยอร์ด้วย เมื่อก่อนยังไม่ค่อยมีทักษะมากค่ะ ตอนนี้ได้พัฒนามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะการควงคทา”
ครูฝึกเสริมว่า “เด็กเขามีพรสวรรค์ครับ พอถ่ายทอดอะไรไปจะเข้าใจเร็วมากและทำได้ดี สมมติตอนซ้อมทำได้สัก 80 เวลาแสดงจริงจะเกินร้อยเลย เหมือนกับออกมาจากใจจริงๆ พลาดน้อยมาก สมาธิสูงมาก อีกอย่างคือบุคลิกของเฟิร์นจะตรึงคนดูได้”
Photo Credit: เฟซบุ๊กแฟนเพจ โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร
ชีวิตของดรัมเมเยอร์เหนื่อยแค่ไหน?
กว่าการแสดงจะเป๊ะและพลาดน้อยขนาดนี้ ต้องซ้อมหนักรึเปล่า? “เวลาฝึกซ้อมของเฟิร์นคือหลังเลิกเรียนจนถึง 2 ทุ่มค่ะ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ซ้อมทั้งวันเลย มีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ เกือบทุกวันค่ะ มีทั้งในอำเภอ อย่างเช่น ‘ประเพณีดอกจูดบาน’ ซึ่งเป็นงานประเพณีของอำเภอ ‘ดอกจูดเกมส์' กีฬาอำเภอ และงานของบริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น โลตัส เซนทรัล อีซูซุ ธนาคารออมสิน เบทาโกรภาคใต้ และงานกีฬาระดับชาติ ปกติคือออกไปข้างนอกบ่อยมาก บางวันออกสามงานเลยก็มี”
เราอาจคิดว่าเฟิร์นและดรัมเมเยอร์คนอื่นๆ ซ้อมหนักจนดูไม่มีเวลาทำอย่างอื่น แต่เธอได้บอกว่า “การซ้อมหรือการแสดงไม่ได้กระทบการเรียนเลยนะคะ เฟิร์นจะแบ่งเวลาได้ ตอนเรียนก็เรียน ซ้อมเสร็จทำการบ้าน ผลการเรียนเฟิร์นไม่ต่ำกว่า 3 ค่ะ เวลาผ่อนคลายของเราก็มีเหมือนกัน”
“มีเหนื่อยบ้างท้อบ้างนะคะ แต่เรามีใจรักจริงๆ และได้กำลังใจจากผู้ปกครอง คุณครู และคนที่ติดตาม ทำให้เราไม่เคยคิดจะเลิกทำสักครั้งค่ะ” เฟิร์นเล่าให้ฟัง
เราได้อะไรจากการเดินเส้นทางสายนี้?
“การเป็นดรัมเมเยอร์สอนให้เราอดทน มีระเบียบวินัย และเสียสละเพื่อส่วนรวมค่ะ ที่สำคัญคือได้ประสบการณ์เยอะมาก ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย”
นอกจากนี้ เธอยังฝากบอกถึงชาว Dek-D ด้วยว่า “ถ้ากำลังพยายามฝึกฝนอะไรสักอย่าง ขอให้อดทนสู้ มุ่งมั่นตั้งใจ และอย่าท้อที่จะทำสิ่งนั้นค่ะ”
Photo Credit: เพชรลดา เรืองฤทธิ์ (เฟิร์น)
สุดยอด!! แค่ฟังความสามารถของหนึ่งในดรัมเมเยอร์ ก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมการแสดงของโรงเรียนนี้ถึงชนะใจทั้งคนในงานและคนในโลกโซเชียลได้มากมายขนาดนี้ เราหวังว่าสาวสวยมากความสามารถคนนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ที่รักในการแสดง หรืออยากเป็นดรัมเมเยอร์เก่งๆ ได้พยายามพาตัวเองไปตั้งใจทำสิ่งที่รักให้ดีที่สุดเหมือนกันนะคะ^^
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนหน้านะคะ ><
“วงโยธวาทิตอนุบาลเชียงของ”
คว้าหม้อซุป-ถังไอศกรีมซ้อมแทนกลอง…สู่ชัยชนะที่มาเลเซีย!
5 ความคิดเห็น
น้องสวยมากเลยยังกะดาราเลย
หน้าคม สวยมากเลย
น้องสวยมากเลย เก่งด้วย
สุดยอดที่สุด