'แก้ว' สาวนิเทศฯ แชมป์มาสเตอร์เชฟ กับเซนส์นักทำอาหารที่ฉายชัดตั้งแต่เด็ก!



 
        สวัสดีค่า พบกับคอลัมน์เด็กพลังบวกที่จะพาน้องๆ ไปรู้จักวัยรุ่นทัศนคติดีๆ ที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจให้เราใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเองและสังคมค่ะ 
 
        ช่วงนี้เห็นมาสเตอร์เชฟซีซั่น 2 กำลังเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันอยู่ ทำเอาคนรักการทำอาหารใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กันซะยกใหญ่ว่าจะสมัครดีหรือไม่ดี~ เราเลยถือโอกาสนี้บิวท์อารมณ์ชาว Dek-D ด้วยการไปพูดคุยกับเชฟสาวแชมป์มาสเตอร์เชฟคนแรกของประเทศไทย! (ประกาศผลรอบสุดท้ายเมื่อ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา) ถ้าใครรักการทำอาหารหรือเป็นแฟนคลับของเธออยู่แล้วห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะเรื่องราวของเธอน่าสนใจมาก นับตั้งแต่เรื่องสัญชาตญาณเชฟที่ฉายชัดตั้งแต่เด็ก และการกล้าตัดสินใจทำตามความฝันที่สวนทางกับความต้องการของพ่อแม่...เป็นครั้งแรก!
 


แนะนำตัว
 
        "สวัสดีค่ะ 'แก้ว' ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร อายุ 24 ปี จบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ค่ะ"

 
การตัดสินใจลงแข่งในสนาม MasterChef
 
        ไหนๆ แชมป์ก็นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว ขอยิงคำถามแรกเลย...อะไรทำให้แก้วตัดสินใจสมัครแข่งในมาสเตอร์เชฟ? 
 
        "ตอนนั้นแก้วว่างงานอยู่บ้านดูแลอาม่า ชีวิตจืดชืดมากค่ะ มีไปดูอาหารบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ชีวิตยังขาดเป้าหมาย รู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียความเป็นตัวเองไป แล้วคราวนี้แก้วจะชอบดูมาสเตอร์เชฟออสเตรเลียมาก จู่ๆ เพื่อนคนนึงเขามาบอกว่าไทยมีรายการนี้แล้วนะ เขากำลังเปิดรับสมัครอยู่ เราเลยอยากเข้าไปลองฝีมือ เพราะเราไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองเท่าไหร่ ตอนนั้นคาดหวังแค่อยากหาโอกาสทำอาหารให้คณะกรรมการทั้ง 3 ท่านชิม อยากฟังคอมเมนต์ อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฝีมือเราโอเคจริงๆ ไหมเท่านั้นเอง พอได้แชมป์ขึ้นมาก็รู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตเลยค่ะ"
 
        ส่วนคาแรกเตอร์ของเธอในรายการที่ดูคล้ายแดจังกึมนั้น... "แก้วชอบแต่งตัวสไตล์นี้อยู่แล้วค่ะ ทางรายการเลยเสนอให้เพิ่มผ้าคลุมผมเข้าไป^^"


Photo Credit: IG Kaew Paweenuch


แชร์ความรู้สึกตอนแข่ง
 
        "กดดันมากกก ทั้งเวลาน้อย แถมต้องแยกประสาทให้ดีเพราะตอนทำอาหารจะมีช่วงสัมภาษณ์ที่เราต้องอธิบายไปด้วย แต่สนุกนะ บางคนโดนเตือนด้วยเพราะทางรายการก็อยากให้ผลออกมาดี ยิ่งเข้ารอบลึกยิ่งเครียด คนค่อยๆ น้อยลง เรารู้สึกว่าความฝันเข้าใกล้มาเรื่อยๆ แต่อยู่ที่ว่าเราจะคว้าไว้ได้ไหม

        ถ้าเทียบการทำอาหารปกติกับการแข่งทำอาหารในรายการแล้ว...? "โอ้โห ต่างกันมากค่ะ ชีวิตจริงไม่ต้องมีเวลา เราทำได้เรื่อยๆ ไม่มีคนมาคอยบอกว่า 'เฮ้ยคุณ เหลือเวลาอีก 5 นาทีนะ' 5555 ตอนแข่งแก้วตื่นเต้นตลอด อินมากเหมือนเอาชีวิตใส่ลงไปด้วย เสิร์ฟเสร็จแต่ละรอบจะรู้สึกโล่งมากๆ ค่ะ" 

        แล้วแก้วเองคิดว่าอะไรคือจุดเด่นของเรา? "แก้วว่าเป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ นอกจากนี้สิ่งที่แก้วคิดว่าสำคัญที่สุดคือ 'สติ' ถ้าขาดไปจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย อย่างแก้วเองก็มีสติหลุดในรายการเหมือนกัน"


Photo Credit: MasterChef Thailand

       จากนั้นเราก็ได้ถามถึงรอบที่แก้วคิดว่ายากสุดและภูมิใจสุดกันบ้าง "ยากสุด คิดว่าเป็นรอบ Mystery Box ค่ะ เราเห็นอะไรต้องเอาวัตถุดิบมาทำเลย ถึงเป็นมืออาชีพมาเจอก็คงรู้สึกมันยากเหมือนกัน ต้องอาศัยจินตนาการและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสูง ส่วนภูมิใจสุดเลยคือรอบไฟนอล อาหารคาวหวานอย่างละหนึ่ง เพราะเราได้เอาความเป็นตัวเองใส่ลงไปในจาน แก้วคาดหวังให้อาหารออกมาสวย อร่อย และมีความเป็นไทยด้วย ที่สำคัญคือคนกินต้องรู้สึกตื่นเต้นและสนุกที่จะกิน"

 
มาถึงวันนี้...พ่อแม่เปิดไฟเขียวเรื่องการทำอาหารแล้ว! 
 
        "ใช่ค่ะ แก้วไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเองเลย ทำแค่หน้าที่ลูกที่ดี เรียนจบคณะที่พ่อแม่อยากให้เรียน พอมาครั้งนี้เราเลือกเอง ในที่สุดพ่อแม่ก็เห็นความตั้งใจและยอมรับเราค่ะ ท่านให้ไฟเขียวในสิ่งที่เราทำเป็นครั้งแรก เอาจริงๆ ต้องบอกว่ายอมรับตั้งแต่เข้ารอบตั้งแต่เข้ารอบ 16 คนแล้ว ท่านมาดูตลอด ครั้งไหนเห็นเรารู้สึกแย่ก็มาปลอบว่า 'ไม่ได้ไม่เป็น'ไรนะ'"

        "การได้แชมป์จึงทำให้เรามีโอกาสทำอาหารมากขึ้น ที่สำคัญคือพ่อแม่ยอมรับค่ะ ภูมิใจมากๆ ที่เราทำได้"


ตัดภาพมาที่การทำอาหารในชีวิตจริง

        ปกติแล้วแก้วทำอาหารประเภทไหนบ้าง? "แก้วทำอาหารทุกอย่างเลยค่ะ ก่อนแข่งเราทำอาหารฝรั่งเศสกับอิตาเลี่ยน ขนมง่ายๆ อย่างเบเกอรี่ ไอศกรีม พานาคอตต้าก็มี พูดง่ายๆ คือเราชอบทำสิ่งที่เราชอบกินค่ะ555 ส่วนอาหารไทยเราหัดทำเพื่อไปแข่งโดยเฉพาะ เพราะคิดว่าเรายังด้อยเรื่องอาหารไทย ต้องศึกษาเพิ่มจากหนังสือ ฝึกโขลกน้ำพริกแกงครั้งแรก เรียกว่าหัดจนแทบไม่ได้พัก แต่แปลกที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ^^"


แรงบันดาลใจและกำลังใจที่ชวนหลงรัก!
 
        พอเราถามว่าอะไรทำให้เธอเริ่มต้นทำอาหาร ก็ได้คำตอบที่ทั้งน่ารักและคาดไม่ถึงเลยทีเดียว^^ "แก้วเริ่มทำอาหารเพราะน้องชายเลยค่ะ เพราะเราต้องเลี้ยงน้องซึ่งอายุห่างกัน 5-6 ปี เขาติดเรามากกก ตอนนั้นแก้ว 9 ขวบ น้อง 4 ขวบ มีวันนึงเรานั่งดูการ์ตูนด้วยกัน เรื่อง 'ทรามวัยกับไอ้ตูบ' (Lady and The Tramp) เจอฉากที่ตัวละครกินสปาเก็ตตี้ด้วยกัน เรามองแล้วน่ารัก แต่น้องชายกลับอยากกินสปาเก็ตตี้ แก้วก็โอเคลองทำดูจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ประกอบกับเคยเห็นแม่ทำด้วย จัดการจุดเตา โยนเส้น เมนูนั้นมั่วมากค่ะ แคร์รอตไม่สุกด้วย ใส่แค่ซอส แต่น้องบอกชอบ เราประทับใจที่เราทำสำเร็จแล้วเขาชอบสิ่งที่เราทำ"


Photo Credit: Mentalfloss 

        "หลังจากนั้นเวลาน้องอยากกินอะไร แก้วจะทำให้ แล้วน้องก็จะชมเราให้กำลังใจเราตลอด แก้วเคยถามเหมือนกันนะว่า 'ไม่มีจานไหนไม่อร่อยเลยเหรอ?' เขาบอกว่า 'ไม่นะ ส่วนใหญ่อร่อยหมด' น้องชายเป็นคนที่ทำให้เรามีความสุขกับการทำอาหารค่ะ ตอนไปแข่งเขาก็เชียร์เรา แต่เขาจะรู้ว่าเราเป็นคน sensitive เขาจะห่วงว่าเราจะไหวไหม จะโดนแกล้งรึเปล่า^^"


ความชำนาญที่ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย

        กว่าที่แก้วจะทำอาหารออกมาสวยงามและรสชาติดีจนชนะใจกรรมการได้ ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนมาไม่น้อยเลยค่ะ "ส่วนใหญ่ดูรายการทำอาหารไปเรื่อยๆ ค่ะ ดูว่าเขาใส่อะไร แล้วบอกให้ที่บ้านช่วยซื้อวัตถุดิบมาให้หน่อย จากนั้นเราก็ลองทำดู ตอนดูมาสเตอร์เชฟของออสเตรเลีย เราถึงกับเอาสมุดปากกามาจดเลยนะคะ จริงจังมากๆ ส่วนซีรีส์ แก้วจะชอบดูแดจังกึม เรารู้สึกเขาเก่ง อยากทำได้แบบนั้นบ้าง"

        "นอกจากนี้ ตอนยังเรียนอยู่มหา'ลัย รู้สึกเครียดเมื่อไหร่จะชอบไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตค่ะ ไปเดินดูวัตถุดิบ เจอของใหม่ๆ ที่ไม่รู้จักก็จะไปหาข้อมูลว่ามันคืออะไร เอาไปทำอะไรได้บ้าง ทำให้เราได้คิดได้ผ่อนคลาย"


Photo Credit: IG Kaew Paweenuch

        และถ้าใครติดตามรายการ จะรู้ว่าแก้วพิถีพิถันเรื่องการจัดจานมาก อยากรู้ว่าฝึกจากไหน? "แก้วเคยดูมาสเตอร์เชฟของออสเตรเลีย เราจะตื่นเต้นมากเวลาเห็นคนจัดจานสวยๆ โดยเฉพาะช่วงซีซั่น 4 เป็นต้นไป ส่วนในอินสตาแกรม แก้วจะ Follow คนแต่งจานไว้เยอะมาก เหมือนคนบ้าอาหารเลยใช่ไหมคะ 5555"


ได้รับฉายา 'เคไนน์ สุนัขตำรวจ'

        "ที่บ้านตั้งฉายาเราว่า เคไนน์ สุนัขตำรวจ ค่ะ คือแก้วเป็นคนช่วยชิมอาหารให้คนที่บ้านมาตั้งแต่ 5-6 ขวบแล้ว เพราะเรารับรสดีที่สุดในบ้าน มีครั้งนึงจำได้แม่นเลย แม่เคยปอกแอปเปิลมาให้ เราก็ถามว่า 'ทำไมมันกระเทียมมาก เหม็นมากเลย' แต่แม่ก็ยังบอกว่าปกตินี่ เราเอะใจเลยลงไปหยิบเขียงอันนึงถามแม่ว่า 'ใช้เขียงอันนี้รองหั่นรึเปล่า?' แม่บอกว่า 'ใช่ แต่ล้างแล้วนี่นา' 555 สรุปคือประสบการณ์พวกนี้ทำให้เราได้ฝึกแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ"
 

การทำอาหาร...ที่ให้มากกว่าอาหาร

        แก้วได้พูดถึงสิ่งที่ได้จากการทำอาหารว่า "อย่างแรกเลย สุขกว่าการกิน คือสุขจากการที่เห็นคนอื่นกินอาหารของเราค่ะ ดังนั้นเราจะคิดถึงคนอื่นมากขึ้น ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง กลับกันเราต้องดูว่าใครเป็นคนกิน ทำยังไงให้เขาแฮปปี้กับอาหารที่เรา เรายินดีรับฟังแล้วเอามาแก้ไขให้ดีขึ้น"

        เธอเสริมอีกว่า "การทำอาหารทำให้เราไม่หยุดนิ่ง เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต เพราะอาหารมีรูปแบบใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวแก้วเองก็มีครีเอตเมนูใหม่ออกมาเหมือนกัน^^"
 

อนาคต...ทางสะดวก!

        ก่อนหน้านี้ชีวิตยังขาดเป้าหมาย แต่ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว ดูท่าทางเธอคงไม่ปล่อยความฝันในการทำอาหารให้เป็นแค่ฝันอีกต่อไป ^^ "แก้วอยากมีงานหลักเกี่ยวกับอาหารค่ะ อาจจะเป็นพิธีกร นักชิม หรือเชฟ ถ้าเอาที่อยากเป็นมากที่สุดคือพิธีกร ได้ไปต่างประเทศเรียนรู้วัตถุดิบ จากนั้นก็จะมาเปิดร้านอาหารค่ะ เพราะคิดว่าการเปิดร้านต้องสะสมประสบการณ์มากๆ และเราคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งมากพอในตอนนี้"


ทิ้งท้ายแบบเชฟๆ

        "บางสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นแค่ฝัน แก้วว่ามันไม่จริง ถ้าเรารักและฝันมากๆ อยากทำให้ได้ จะต้องมีวันที่เราทำได้จริงๆ ขอแค่เราอย่าลืมและทิ้งมันไปซะก่อน แล้วคุณจะมีโอกาสได้ทำแน่ๆ ในสักวันหนึ่ง"


Photo Credit: MasterChef Thailand


        เชฟหน้าหมวยคนนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่ "กระโดด" เข้าใกล้ฝันของตัวเองไปอีกก้าวใหญ่ๆ เลยค่ะ ยอมรับเลยว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ถ้าใครตกหลุมรักเธอไปเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเข้าไปติดตามเธอที่อินสตาแกรม @kaewparkbung และเฟซบุ๊กแฟนเพจ KAEW Paweenuch นะคะ ส่วนใครที่รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ และอายุครบ 18 ปีแล้ว อย่าปล่อยโอกาสผ่านไปง่ายๆ เพราะ MasterChef Thailand ซีซั่น 2 ใกล้ปิดรับสมัครเต็มทีแล้วค่ะ~

 
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนหน้านะคะ ><
'เด็กหลังเลนส์'
นักเรียนจิตอาสาผู้บันทึกภาพประวัติศาสตร์การสร้างพระเมรุมาศ ร.9!

 
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

Mochimochisan 8 พ.ย. 60 08:47 น. 1

ชอบพี่แก้วมากๆ My idol เลยค่ะ

พี่แก้วเหมือนพี่สาวคนนึงเลย น่ารักมากๆ เวลาดูรายการรู้สึกว่าเป็นคนที่อบอุ่นจังเลยน้าาา อยากทำให้ได้เเบบพี่แก้วมั่ง


ขอบคุณนะคะ ถึงหนูจะทำอาหารไม่เก่ง แต่เป็นคนที่ชอบดูหนัง อนิเมะ รายการทำอาหารอยู่แล้ว ยิ่งมีรายการ MasterChef Thailand แล้วดีใจมากๆ ปกติดูของต่างประเทศ ติดตามตลอดค่ะ ได้ความรู้มากๆ ดีใจด้วยนะคะ สู้ต่อไปนะคะพี่แก้ว

1
พี่แก้ว 9 พ.ย. 60 09:45 น. 1-1

อันนี้พี่แก้วเองนะค้า ขอบคุณมากเลยน้าที่เชียร์พี่ พี่เป็นกำลังใจให้หนูทำในสิ่งที่ชอบนะจ๊ะ


ปล. พี่ก็ชอบดูอนิเมะ หนัง ซีรี่ย์ ทำอาหารมากเลยล่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด