บำเพ็ญประโยชน์ก็ทำ+ดรัมฯ ก็เป็น! "เอิน" ขอใช้ชีวิตนักศึกษาให้คุ้มค่า ด้วยหน้าที่ทูตกิจกรรมฯ มธ.

    

    

    

   

ไม่แปลกถ้าคนที่ไม่ได้เรียนที่นี่จะสับสนว่า “ทูตกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” คือใคร และมีหน้าที่อะไรในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะภาพที่เห็นบ่อยๆ ก็มักจะเป็นหนุ่มสาวบุคลิกภาพดีมีหน้าที่เป็นคทากรนำขบวนเกียรติยศของสถาบัน แต่ทำไมชื่อตำแหน่งดันฟังแล้วเหมือนผู้นำทางด้านกิจกรรมไปได้ล่ะเนี่ย? เอาเป็นว่าถามเจ้าตัวเลยและกัน...

   

   

   

   

   

เท่าที่ฟังดูก็คงพอจะเดาออกใช่มั้ยคะว่าภาระหน้าที่ของเธอนี้หนักพอสมควรเลย เพราะแค่ลำพังแค่ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ก็ต้องใช้พละกำลังมหาศาลแล้ว ยังจะต้องมาฟิตซ้อมดรัมเมเยอร์ไว้โชว์ในงานพิธีอีก นี่ยังไม่รวมเวลาเรียนนะเนี่ย ชักอยากรู้แล้วล่ะสิว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอสตรองเบอร์ใหญ่ได้ขนาดนี้?

   

   

"เกณฑ์ในการคัดเลือกทูตกิจกรรมฯ จะแบ่งออกเป็น 3 รอบ รอบแรกเป็นการสัมภาษณ์และเก็บตัวเพื่อดูบุคลิกภาพ การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และทักษะการควงคทา รอบที่สองเป็นรอบแสดงความสามารถพิเศษ และรอบสุดท้ายเป็นรอบตอบคำถามเพื่อวัดทัศนคติ กว่าจะผ่านมาได้ก็กดดันพอสมควรอยู่นะ ” น้องเอินเล่าอย่างภาคภูมิใจ

   

  

    

แม้การผ่านด่านการคัดเลือกมาเป็นทูตกิจกรรมฯ จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่หลังจากที่ได้รับตำแหน่งแล้วยังมีอะไรที่โหดกว่าเยอะ เห็นแต่ละดูสมาร์ท หุ่นดี เหมือนใช้ชีวิตอยู่บนเวทีนางงามมาตั้งแต่เกิดแบบนี้ ต้องบอกเลยว่านี่คือภารกิจสุดทรหดที่ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ค่ะ

   

   

อย่างที่ทราบกันว่าการเป็นคทากรผู้รับหน้าที่นำริ้วขบวนเข้าสู่สนาม จะต้องสง่างามและแม่นยำในการวาดลีลาควงไม้ดรัมให้ตรงจังหวะและสวยงาม ดังนั้นการฝึกซ้อมอย่างหนักจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่ใจ ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอีกเช่นกัน และงานนนี้ น้องเอินก็มีประสบการณ์สุดประทับใจพร้อมเคล็ดลับผิวใสมาแนะนำกันด้วยล่ะ

  

   

นอกจากจะต้องฟิตซ้อมคทากร เธอและเพื่อนๆ ก็ต้องมาวางแผนทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งช่วงที่พีคสุดๆ เลยคือเดือนมกราคม เพราะต้องเรียนหนักขึ้น และทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ด้วย เป็นโมเมนต์ที่เหนื่อยสุดๆ แต่เธอก็ยินดีจะทำอย่างเต็มที่เพราะนี่คือสิ่งที่ตั้งใจมาตั้งแต่ต้นและอยากทำให้ดีที่สุดค่ะ ^^

   

  

  

   

ได้มีโอกาสมานั่งคุยกับเด็กกิจกรรมตัวยงที่มีทั้งความมุ่งมั่น และทัศนคติเปิดกว้างพร้อมจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอแบบนี้ พี่ส้มก็แอบเดาว่าเธอคงมีแนวคิดที่เฉียบขาดด้านกิจกรรมอยู่บ้างล่ะ เลยขอยิงคำถามเกี่ยวกับ “ดราม่ากิจกรรม” ที่เกิดกันทุกหย่อมหญ้ามาช้านานในวงการศึกษาไทย อย่างที่เห็นได้ตามกระแสหลัก เช่น การใช้เงินจำนวนมากไปกับความอลังการในงานกีฬาสี หรือการให้คุณค่ากับตำแหน่งแชมป์มากกว่าน้ำใจนักกีฬา ที่มีการปลูกฝังกันมาจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องว่าเราต้องชนะเท่านั้น แน่นอนค่ะว่าน้องเอินตอบได้น่าสนใจจริงๆ

   

   

   

   

  

    

จากการพูดคุยกันมาจนถึงตอนท้ายของบทความนี้ ปฏิเสธไปไม่ได้จริงๆ ค่ะว่าหน้าที่ต่างๆ ที่น้องเอินต้องรับผิดชอบนั้นต้องใช้ พละกำลัง สมาธิ และเสียเวลามากกว่าการใช้ชีวิตนักศึกษาที่เรียนเพียงอย่างเดียว แต่ใครบอกล่ะว่าความทุ่มเทครั้งนี้ จะไม่มีผลตอบแทนที่น่าประทับใจ..

   

   

“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเอินยังได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ ทูตกิจกรรมฯ ค่ะ ช่วงเวลาที่เราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ได้แชร์ความคิด ได้รู้จักเป็นคนพูด และคนฟัง เป็นพื้นที่ที่ฝึกให้เอินคิดวางแผนเป็นระบบ ได้ลงมือทำงานจริง เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีประโยชน์มากกับชีวิตการทำงานในอนาคตของเอินเลยค่ะ” น้องเอินกล่าวปิดท้าย