สวัสดีจ้าชาว Dek-D หลังจากที่พี่ส้มได้นำเสนอ 'วิธีทำให้ของกินขายดีแบบเทน้ำเทท่าสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่' ไปเมื่อเดือนก่อน ปรากฏว่าน้องๆ ทางบ้านมีกระแสตอบรับที่ดี กลับมาคราวนี้เลยขอเอาใจคนที่อยากขายเสื้อผ้ากันบ้าง โดยเรามี 10 สไตล์เสื้อผ้าน่าขายที่สร้างกำไรได้กว่าเท่าตัว ซึ่งเหมาะกับทั้งธุรกิจหน้าร้านและการขายแบบออนไลน์มาแนะนำให้วัยรุ่นสร้างตัวทั้งหลาย ได้เลือกไปขายกันตามอัธยาศัยเลยจ้า!!!
1. ยีนส์
เริ่มกันด้วยเนื้อผ้าสุดทนทานที่ไม่มีวันตกยุค ที่มีทั้งแฟชั่นเดนิมตามสมัย และยีนส์ดีไซน์แบบวินเทจรุ่นปู่รุ่นพ่อที่นำมาเวียนใช้มิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ได้อย่างหลายลุคแบบไม่มีวันเฉิ่ม ซึ่งความตอบโจทย์กับผู้สวมใส่ในวงกว้างตั้งแต่วัยเด็ก - วัยผู้ใหญ่ เป็นข้อดีที่ทำให้เสื้อผ้าสไตล์นี้ขายได้ตลอด นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแบรนด์ด้วยการเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ลึกลงไปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้อีกด้วย เช่น การเปิดร้านกางเกงยีนส์ผ้าดิบเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักการปั้น Fade (รอยซีด)
เครดิต : https://unsplash.com
2. เสื้อเปล่า
ตามมาติดๆ กับเสื้อยืดยอดฮิตที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทุกฤดูกาล โดยถ้าเป็นทรงชิลล์ๆ ใส่รับลมอยู่บ้าน อย่างคอกลม คอวี ที่ขายตัวละประมาณ 100 บาท ตามตลาดนัดส่วนใหญ่ จะทำกำไรที่ตัวละประมาณ 40 - 50 บาท แต่ถ้าเป็นทรงอินเทรนด์แบบครอป ทรงไหล่ตก (Oversize) ที่ขายตัวละ 120 - 200 เมื่อหักต้นทุนแล้วจะได้กำไรสูงสุดอยู่ที่ประมาณตัวละ 150 บาทค่ะ ซึ่งสีที่มาแรงในปีนี้ ก็หนีไม่พ้นสีพื้นสีม่วง สีส้ม สีเหลือง สีชมพู และสีเอิร์ธโทนตุ่นๆ ครีมๆ ที่เข้ากั๊นเข้ากันกับทุกเพศทุกวัยค่ะ
เครดิต : https://pxhere.com
3. เสื้อฮาวาย - ลายดอก
แม้ว่าเสื้อลายดอกของไทยจะไม่ได้ถือกำเนิดในอเมริกาเช่นเดียวกับเสื้อฮาวาย แต่ในตลาดบ้านเราก็มักจะวางขายเสื้อฮาวายและเสื้อลายดอกไว้บนแผงเดียวกัน และมักจะมีแหล่งขายส่งอยู่ที่เดียวกันด้วย โดยมีทั้งแบบสั่งตัด หรือขายเหมากระสอบ ที่มีต้นทุนตกอยู่ตัวละประมาณ 70 - 100 บาท ซึ่งจะขายดีเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนที่ใครๆ ก็ต่างมาซื้อไปสวมใส่ไปเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ตรงกับช่วงปิดเทอมใหญ่ของน้องๆ นี่แหละ
เครดิต : https://unsplash.com
4. สปอร์ตแวร์
เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นอีกหนึ่งสไตล์ที่มาแรงดีไม่มีตก เพราะหลังจากที่คนไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ก็ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าแนวสปอร์ตก็ได้รับความนิยมตามไปด้วย ตั้งแต่ชุดเข้ายิมเต็มยศผ้า Spandex (ผ้าที่มีเส้นใยยืดหยุ่นได้ดีและหดกลับได้เท่าขนาดเท่า) สปอร์ตบรา จ็อกเกอร์แพนส์ หรือเสื้อคลุมออกกำลังกาย ที่ถึงแม้จะมีราคาทุนสูงถึงตัวละ 100 - 250 บาท แต่ถ้าหักจากราคาขายตามท้องตลาดที่ 300 - 500 บาท ก็ถือว่าได้กำไรงามเชียวล่ะ
เครดิต : https://unsplash.com
5. ลูกไม้
เสื้อผ้าสายหวานแบบนี้ขายได้ตลอดปี และจะยิ่งขายดีมากขึ้นถ้าได้ทำเลร้านในตลาดวินเทจ โดยราคาส่งของเสื้อ - เดรสลูกไม้แฟชั่นจะอยู่ที่ราวๆ 70 - 150 บาท (ขึ้นอยู่กับดีไซน์และปริมาณผ้าที่ใช้ตัดเย็บ) และสามารถทำกำไรได้ประมาณ 80 - 150 บาท ต่อหนึ่งตัวตามราคาท้องตลาด งานนี้แอบบอกเคล็ดลับให้ว่าถ้าใครฉลาดมิกซ์แอนด์แมทช์ลูกไม้กับแฟชั่นอื่นๆ เช่น ยีนส์ ให้ลูกค้าได้เห็นความแปลกใหม่ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้นตามไปด้วยจ้า
เครดิต : https://pxhere.com
6. ลายปัก
นอกจากความชื่นชอบในเนื้อผ้าแบบต่างๆ ของผู้สวมใส่ ก็เห็นทีว่าจะมีลายปักที่สามารถดึงดูดความสนใจจนเกิดเป็นกระแสนิยมตามขึ้นมาได้เช่นกันนี่แหละค่ะ โดยเสื้อผ้าลายปักในปัจจุบันก็ถือเป็นแฟชั่นมาแรงไม่แพ้ใคร ตั้งแต่เสื้อยืดเรียบๆ กางเกงยีนส์สุดแซ่บ ไปจนถึงเสื้อหนังตัวเท่ ที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ขายสามารถทำได้ทั้งร้านขายเสื้อผ้าลายปักที่เราดีไซน์เอง หรือจะไปคัดเลือกเอาเสื้อผ้าลายปักอินเทรนด์ เช่น ดอกไม้ สัตว์ แพทเทิร์น ฯลฯ มาขายต่อก็ได้เช่นกัน
เครดิต : https://unsplash.com
7. แฟชั่นกลิตเตอร์
มาตอบโจทย์ความหรูหราหมาเห่าให้กับลูกค้ากันต่อ ด้วยเสื้อผ้าสไตล์ระยิบระยับที่กำลังขายดิบขายดีทั้งหน้าร้าน หน้าเฟซฯ และหน้าไอจีกันยกใหญ่ โดยสินค้าจำพวกชุดเดรสปักเลื่อม เสื้อกากเพชร กระโปรงกลิตเตอร์ ฯลฯ จะมีต้นทุนประมาณตัวละ 100 - 200 บาท ซึ่งเมื่อนับมาหักลบกับราคาขายในท้องตลาดที่อยู่ราวๆ 250 - 400 ก็เรียกว่าได้กำไรครึ่งต่อครึ่งเลยล่ะค่ะ
เครดิต : https://www.pexels.com
8. เดรสยาวพริ้วๆ
สำหรับ Maxi Dress ที่กลับมาขายดีในช่วงที่กระแสวินเทจได้หวนคืนสู่ตลาดเสื้อผ้าบ้านเราอีกครั้งนี้ มีราคาต้นทุนประมาณตัวละ 200 บาท และมีราคาขายตามท้องตลาดอยู่ราวๆ 300 - 500 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่น่าขาย ยิ่งถ้าได้ลายยอดฮิตอย่างโบฮีเมียน ดอกไม้ หรือลายแพทเทิร์นแบบเสื้อฮาวายมาวางขายแล้วล่ะก็.. รอรับทรัพยปังๆ ได้เลยจ้า!
เครดิต : https://unsplash.com
9. เสื้อคลุม
ลืมไปได้เลยว่าอยู่เมืองร้อนแล้วจะขายเสื้อคลุมไม่ออก เพราะนอกจากเสื้อคลุมเนื้อเบาสบายจะเป็นสินค้ายอดฮิตในกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ยังเป็นสินค้าที่สามารถทำกำไรให้พ่อค้าแม่ขายได้ตลอดปี เพราะมีดีไซน์ที่หลากหลาย เช่น ทรงปีกค้างคาว ทรงกิโมโน ทรงสูท ให้ผู้สวมใส่ได้เลือกใช้ตามสถานการณ์ต่างๆ และที่น่าสนใจกว่าก็คือราคาต้นทุนที่ตกอยู่ตัวละประมาณ 100 - 200 บาท ที่ขายในราคาตลาดได้ 300 - 500 บาทนี่แหละค่า
เครดิต : https://unsplash.com
10. เสื้อยืดวินเทจ
ปิดท้ายด้วยเสื้อยืดลายวินเทจ ที่ขนเอาลวดลายสกรีนเท่ๆ ไม่เหมือนใครมาเอาใจรสนิยมของแต่ละคน ทั้งโลโก้แบรนด์ต่างๆ คำคม ภาพวาด บันทึกการทัวร์คอนเสิร์ตของวงดนตรี ที่ต่างมีความหมายล้ำลึกตามมุมมองของคนซื้อจนทำให้เสื้อยืดเหล่านี้ขายดีอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาทุนอยู่ที่ตัวละ 80 - 100 บาท และมีราคาขายประมาณตัวละ 150 - 200 บาท หรือแพงขึ้นไปตามความหายากและความซับซ้อนของการสกรีนค่ะ
เครดิต : https://unsplash.com
จัดเต็มกันทั้งแฟชั่นมาแรงและเสื้อผ้าราคาไม่แพงแต่ขายได้ตลอดปีไปแล้ว เอาเป็นว่าสไตล์ไหนเข้าทางใคร ก็รีบไปคัดแบบ คัดไซส์ มาสต็อกไว้เตรียมขายได้เลยนะคะ แต่ถ้าใครยังมีทุนไม่มากพอที่จะเปิดร้านเอง ก็สามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าแบบ Pre-oder กับร้านที่เชื่อถือไปพลางๆ เพื่อเก็บชิมลางไปพลางๆ ได้เช่นกัน เพราะความเข้าใจในตลาดและผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้น้องๆ ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั่นเองค่ะ ^^
0 ความคิดเห็น