‘ภูมิ’ ศิลปินหนุ่มเจ้าของเพลงอินดี้ยอดวิวหลักล้าน กับเสน่ห์ที่ตรึงใจแฟนๆ ทั่วโลก!

        สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
 

        ในขณะที่เรากำลังกรี๊ดศิลปินเกาหลี อยากบอกว่าสาวเกาหลีก็กำลังกรี๊ดศิลปินบ้านเราเหมือนกันนะ~ พักหลังๆ มานี้เราอาจได้เห็นหนึ่งในนักร้องอินดี้คนหนึ่งที่มีคนพูดถึงเยอะมากในโซเชียล เขาคือหนุ่มลุคง่ายๆ สบายๆ โลกส่วนตัวสูงนิดนึง เคยใช้ชีวิตที่นิวซีแลนด์ มีงานอดิเรกคือชอบแต่งเพลง แถมเพลงที่ว่าคือเพลงอินดี้ภาษาอังกฤษที่ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปเต็มที่ ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา ถ้าใครพร้อมแล้วตามมาโลดดดด! (แต่มองทางดีๆ นะ...ระวังตกหลุมรัก ^^)
 

Video Credit: JuHee Suh

แนะนำตัว
 

        ทราบมาว่าภูมิเข้าเอกฟิล์มเพราะชอบดูหนัง ปกติเราชอบหนังแนวไหน? “หนังดูทุกแนวเลยครับ ชอบธีมครอบครัว อาจเป็นแนว Bittersweet ไม่ต้องแฮปปี้ตลอดไป แต่ได้อะไรกลับมาคิด ^^”

 

แนวเพลงสบายๆ ที่ไม่ได้นิยามชื่อ

        “เริ่มร้องเพลงจริงๆ น่าจะอายุ 14-15 ครับ ร้องเล่นๆ เพราะสนุกดี เพลินๆ และเริ่มแต่งเพลงประมาณอายุ 17-18 ช่วงนั้นสนใจดนตรีจริงๆ ทำคัฟเวอร์ลงยูทูบด้วย แล้วพอสัก 19 ตอนที่กลับไทยมาเรียนมหิดลปี 1 รุ่นพี่ที่เป็นศิลปินค่าย RatsRecords ซึ่งเป็นค่ายเล็กๆ ที่ทำเพลงสากล เค้าเห็นผลงานเลยมาชวนเราไปทำเพลงด้วยกัน ภูมิคิดว่ามันเหมาะมากเลย เป็นโอกาสที่ดี มีคนมาช่วยทำโปรดักชั่นให้ แล้วภูมิใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก เลยรู้สึกลงตัวมากๆ”

        แต่ถ้าถามถึงแนวเพลงแล้วล่ะก็... “ภูมิไม่แน่ใจนะว่าแนวเพลงภูมิเรียกว่าอะไร 5555 ถ้าคนภายนอกอาจคิดว่าเป็น Indie Folk หรือ Neo soul โดยเฉพาะเพลงใหม่ๆ ภูมิเองชอบร้องเพลงแบบสบายๆ รู้สึกอินไปกับมัน ส่วนเนื้อเพลง ทุกอย่างที่ผมแต่งมาจากประสบการณ์ชีวิตจริงๆ ไอเดียที่น่าสนใจ หรือหนังที่เราไปดูมา แล้วมาพัฒนาเป็นเพลง”
 

        การเรียนฟิล์มช่วยซัพพอร์ตเรื่องการทำเพลงยังไงบ้าง? “ทั้งภาพยนตร์และเพลงเป็นสายครีเอทีฟทั้งคู่เนอะ ภูมิชอบศึกษาภาพยนตร์เพราะมันได้มากกว่าภาพยนตร์ มันคือการเข้าใจฟีลลิ่งและการเคลื่อนไหวของมนุษย์ สมมติถ้าเราเอาภาพมาเรียงลำดับ ภาพนี้มาก่อน ภาพนี้มาหลัง เลเยอร์และองค์ประกอบต่างๆ จะส่งผลให้มนุษย์รู้สึกยังไงบ้าง เท่ากับเราได้เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์จากการเรียนภาพยนตร์ พอมาแต่งเพลงก็กลายเป็นจุดร่วมกันในเรื่องนี้”
 

ร้องตามหัวใจ...ไม่ได้คิดเรื่องตลาด

        ภูมิเลือกร้องเพลงแนวอินดี้ แถมยังเป็นภาษาอังกฤษด้วย ตอนแรกเราคาดหวังแค่ไหนไว้แค่ไหน เพราะที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า วงการเพลงอินดี้ไม่ค่อยคึกคักในตลาดบ้านเราเท่าไหร่? “จริงๆ ภูมิไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ไม่ได้มองว่าเรากำลังอยู่ในตลาดไทยหรือตลาดไหนๆ เราแค่เป็นคนนึงที่ชอบแต่งเพลงมาก ตอนเป็นวัยรุ่นก็คิดนะว่าทำไมคนฟังไม่เยอะอย่างที่หวังไว้ แต่พอโตขึ้นมาแล้วมองย้อนกลับไป เรารู้สึกดีใจแล้วที่ได้ปล่อยเพลงออกไป”

 

        “คนไทยส่วนใหญ่น่าจะเพิ่งมารู้จักภูมิตอนออกเพลง ‘Lover Boy’ แต่น้อยคนจะรู้ว่า เพลงที่ทำให้เราได้ออกเอเชียทัวร์คือเพลง ‘Long gone’ ที่ออกตั้งแต่เดือนมิถุนายน”
 

        คิดว่าทำไมเค้าถึงชอบเรา? “อืม...น่าจะหลายๆ อย่างนะครับ หวังว่าเค้าจะชอบเพลง การแสดงสดของเรา และ energy ของเราบนเวที555”

        “การได้ทำอะไรที่เป็นของเราจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็น product ที่จะเอาไปขายจนรวย แต่มันเป็นตัวตนของเราที่ถ่ายทอดออกมา คนมาเสพผลงานเราจะมากหรือน้อยไม่สำคัญ แค่ได้รู้ว่าเพลงเราทำให้คนนึงยิ้มได้ หรือมีคนมาคอมเมนต์ขอบคุณ หรือชอบมาก เราก็รู้สึกดีมากๆ แล้ว”
 

@Korea
Photo Credit: Phum Viphurit


@Japan
Photo Credit: Phum Viphurit

 

        อยากบอกว่าตลอดเวลาที่พูดคุย ภูมิสื่อสารภาษาไทยได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยค่ะ “ภาษาไทยนี่...แต่ก่อนไม่ได้เลยครับ555 ช่วงนี้ดีขึ้นเพราะได้ใช้สื่อสารมากขึ้น ตอนอยู่นิวซีแลนด์ คุณแม่กับพี่ชายก็อยู่ด้วย เราก็คุยภาษาไทยกัน แต่ถ้าเกิดให้ทำผลงานศิลปะเลยผมรู้สึกยังเข้าไปไม่ถึง ไม่รู้ว่าจะหยิบเครื่องมือไหนมาทำเพลงไทยได้บ้าง แต่มั่นใจว่าภาษาอังกฤษเราแข็งแน่นอน เลยสบายใจกับการทำเพลงภาษาอังกฤษ มันเป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว”

        “ส่วนเพลงไทยภูมิก็อยากลองทำครับ ถ้าเกิดว่าในอนาคตภูมิใช้ภาษาไทยเก่งขึ้น”

Photo Credit: Phum V. Sitirip

        แล้วในอนาคตเราอยากทำงานด้านฟิล์มหรือด้านเพลงเหมือนตอนนี้? “ช่วงนี้จริงๆ อยากเป็นนักแต่งเพลงไปเรื่อยๆ ก่อนครับ เพราะอย่างที่หลายๆ คนรู้กันว่า ชีวิตนักดนตรีไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น ไม่มีอะไรแน่นอน ในอนาคตถ้าได้ทำฟิล์มก็อยากลองทำหนังสั้น สกอร์หนัง เพลงโฆษณา ฯลฯ”
 

นิวซีแลนด์ & การค้นพบตัวเองก่อนเข้ามหา’ลัย

        ไหนๆ ภูมิก็ได้ไปอยู่และเรียนที่ต่างประเทศมาแล้ว เราเลยขอพูดคุยกันเรื่องนี้บ้าง “เคยไปอยู่นิวซีแลนด์ตั้งแต่ 9-18 ปีครับ เข้า ป.5 จนถึง ม.7 (นิวซีแลนด์จะมีถึง ม.7) ที่นั่นเค้าจะให้อิสระในการเลือกเรียน เราสามารถเลือกเรียนได้ตามความชอบ ไม่จำเป็นต้องไปตามสาย อย่างภูมิเลือกเรียนวิทย์ เลข แล้วอยู่ๆ ก็ไปโผล่เอก Music Technology ตอน ม.2"

        "สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเค้าจะให้ความสำคัญกับงานอดิเรกของเด็ก การเรียนที่นู่นไม่ง่ายก็จริง แต่ก็ไม่หนัก เด็กมีเวลาได้ทำกิจกรรมที่ตนชอบ ภูมิเองไปแจมกับเพื่อน หาอะไรทำสนุกๆ ครับ เพราะเวลาว่างเยอะ อยู่เฉยๆ ก็เบื่อ 555”

Photo Credit: Phum Viphurit

        เราได้อะไรจากนิวซีแลนด์บ้าง? “อย่างแรกเลยคือ ‘ภาษา’ ตอนนี้ถ้าภูมิไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ชีวิตคงยากขึ้น ตอนนี้เราใช้ทุกด้านทุกองค์ประกอบของชีวิตเลย สองคือ 'ทำให้เราเจอตัวเองตั้งแต่เด็กๆ' รู้เลยว่าเราเป็นคนยังไง ชอบอะไรแบบไหน จริงๆ แล้วเราสนใจด้านไหนกันแน่ ไม่ต้องมาค้นหาตอนเลือกคณะแล้ว” 

 

ปิดท้ายจากหนุ่มอินดี้
 

        นอกจากนี้ เขายังบอกว่าตนได้อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ตามโซเชียลด้วย! “ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจเลยครับ ขอบคุณที่ภูมิใจว่าเราเป็นคนไทย อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ สำหรับคอนเสิร์ตของเราเองในไทยยังไม่มี แต่จะมีเล่นตามสถานที่ต่างๆ สามารถติดตามได้ทางแฟนเพจครับ ^^”
 

        เป็นยังไงบ้างคะ...หลุมรักลึกแค่ไหน? ถ้าปีนขึ้นมาไม่ไหว ก็ขอให้ตามไป Subscribe กันที่ยูทูบแชนแนล RatsRecords เฟซบุ๊กแฟนเพจ Phum Vipurit และอินสตาแกรม Phum V. Siritip  นะคะ เราเชื่อว่าชาว Dek-D จะได้เติมพลังชีวิตและกำลังใจแบบเต็ม max จากเพลงสบายๆ ของหนุ่มคนนี้แน่นอน!