สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
เชื่อว่าหลายคนตกหลุมรักเสน่ห์กาแฟไปแล้วเรียบร้อย เพราะไม่ใช่แค่เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ยังทำให้ตื่นใจกับกลิ่นและรสชาติที่หอมหวานละมุน แถมยังมีหลายคนหยิบเมนูเดิมๆ มาพลิกแพลงเป็นเมนูซิกเนเจอร์ให้เลือกชิมได้ จึงไม่แปลกที่ “บาริสต้า” จะเป็นหนึ่งในอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน ในวันนี้เราก็ได้ไปพูดคุยกับวัยรุ่นคนนึงที่ไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อน แต่เขามาตกหลุมรักเพราะหลักสูตรการเรียนมีวิชานี้ ระหว่างฝึกงานเขาก็เรียนรู้การชงกาแฟมาเรื่อยๆ จนไปพิสูจน์ตัวเองในงานแข่งขัน ในที่สุดก็ได้เป็นตัวแทนไปแข่งถึงอิตาลี ถ้าพร้อมแล้ว...มารู้จักเขากันเลยค่ะ ^^
แนะนำตัว
“สวัสดีครับ ชื่อ ‘เกรียง’ เกรียงไกร โนนทะขันธ์ อายุ 20 ปี เรียนอยู่ชั้น ปี 3 สาขาการจัดการธุรกิจอาหาร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) โดยได้การสนับสนุนทุนการศึกษาและให้คำแนะนำจากทาง ซีพีออลล์ (CP ALL) ปัจจุบันกำลังฝึกงานที่ร้านกาแฟ Bellinee’s Bake & Brew ครับ ^^”
การฝึกงานที่พาเข้าสู่วงการบาริสต้า
“ตอนปี 1 ผมได้ฝึกงานที่ 7-11 ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องระบบโครงสร้างกับเรื่องคน ซึ่งใน 7-11 ก็จะมีร้านกาแฟในนั้นครับ ผมเองอยากรู้เรื่องกาแฟพอดี แล้วรู้ว่าเดี๋ยวเราต้องศึกษาเรื่องนี้ด้วย เลยถามพี่ๆ ดู ช่วงแรกผมสนใจ ‘ลาเต้อาร์ต’ พี่เค้าก็ช่วยสอนให้ ส่วนผมก็ไปซื้อนมมาฝึกเรื่อยๆ จนมาทำได้ตอนปี 2 ปีนั้นได้ฝึกงานร้านกาแฟจริงๆ แล้ว”
"ระหว่างทำงานก็ได้พูดคุยกับลูกค้าด้วยเหมือนกันครับ เพราะเดี๋ยวนี้คนดื่มกาแฟกันเยอะ และเริ่มสนใจข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟ เช่น เราใช้กาแฟอะไร นำเข้าจากที่ไหน ฯลฯ”
“ช่วงนั้นเราได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเรารักในงานบาริสต้าจริงๆ ตอนผมทำ Part-time ที่อื่นก็จะคอยมองนาฬิกาไปว่าเมื่อไหร่จะเลิกงาน ต่างจากตอนชงกาแฟที่รู้สึกทำได้เพลินๆ เรื่อยๆ แถมได้ท้าทายตัวเอง และได้มองเห็นรายละเอียดเล็กๆ ที่คนเป็นบาริสต้าต้องใส่ใจด้วย ทั้งสนุกและมีความสุขมากๆ ครับ”
ไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อน? ไม่ใช่ปัญหา!
ความน่าสนใจของบาริสต้าหนุ่มคนนี้คือ เขาไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อนค่ะ เราเลยอยากรู้ว่าเกรียงเริ่มต้นศึกษายังไงในเมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักรสของมัน? “ในหลักสูตรการเรียนจะมีเรียนพวกปั้นขนมด้วย แล้วก็มีวิชาชงกาแฟที่สอนวิธีการชง ถ้าเกิดผมสนใจก็ไปศึกษาลงลึกหรือพวกเทคนิคต่างๆ เพิ่มเติมครับ ^^”
“ผมเริ่มจากเมนูที่ไม่ได้เป็นกาแฟเพียวๆ เช่น กาแฟผสมนม กาแฟผสมช็อกโกแลต ฯลฯ ส่วนนึงที่ช่วยให้ไปได้เร็วขึ้นคือมีอาจารย์และรุ่นพี่คอยช่วยตลอด อย่างเช่นพี่ที่เป็นโค้ชให้ผม ผมจะถ่ายรูปตอนเราทำไปให้เค้าดู เค้าก็ช่วยแก้กลับมาให้ คุยกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนหัดทำลาเต้อาร์ตเลยครับ แล้วผมเองก็ชอบไปชิมกาแฟจากหลายๆ ที่ อย่างเวลาไปออกบูธแล้วเจอบาริสต้าเก่งๆ ก็จะให้เค้าช่วยสอนให้หน่อย ผมคิดว่าผมชอบคุยมากกว่านั่งอ่านหนังสือนะ555”
และแน่นอนว่าเค้าศึกษาจากยูทูบด้วยเช่นกัน “สมัยมัธยมผมไม่มีสมาร์ทโฟน แล้วคิดฝันว่าถ้ามีแบบนี้จะเรียนๆๆ ดูๆๆ จะศึกษาให้เก่งไปเลย การที่เมื่อก่อนรู้สึกขาด ทำให้พอมีขึ้นมาก็อยากใช้มันให้เต็มที่ครับ ผมจะชอบดูรายการชงกาแฟเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง”
สำหรับเราเองคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการชงกาแฟให้มีรสชาติดี? “ผมคิดว่า ‘ช็อตเอสเปรสโซ่’ (Espresso Shot) ครับ และยังมีปัจจัยทั้งเรื่องระยะเวลาและอุณหภูมิที่ต้องแม่นยำด้วย”
“การนั่งสมาธิทุกวัน” ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
หนึ่งในเทคนิคการเพิ่มสมาธิให้ตัวเองของเกรียงถือว่าน่าสนใจมากๆ ค่ะ “มันมีวิธีง่ายๆ วิธีนึงที่ครูสอนตลอดตั้งแต่สมัยประถมครับ นั่นคือ ‘การนั่งสมาธิ’ ตั้งแต่ผมทราบว่าจะได้แข่งในงานนี้ ผมก็นั่งสมาธิทุกคืน คนอาจจะมองว่า ธรรมะธรรมโมไปรึเปล่า? ดูโบราณไปมั้ย? ผมว่าเราต้องเปลี่ยนวิธีคิดว่าวิธีนี้มันช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ โดยเฉพาะตอนที่ออกไปแข่ง”
อยากคิดสูตรกาแฟที่กินแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นกาแฟ
โดยปกติแล้วเราเองต้องชงตามสูตรหรือครีเอตเมนูใหม่ๆ สไตล์เราขึ้นมา? “แต่ละเมนูจะมีเอกลักษณ์และรสชาติที่ควรจะออกมาเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ เราก็พยายามทำตามพื้นฐานก่อน แล้วค่อย adapt ให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเรา”
“ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดค้นเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาครับ เพราะต้องดูเรื่องส่วนผสมที่จะส่งผลต่อสุขภาพด้วย แต่ก็มีไอเดียที่อยากคิดค้นสูตรกาแฟที่กินแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นกาแฟ เช่น ไม่จำเป็นต้องขมเสมอไป แต่กินแล้วรู้สึกเหมือนกินผลไม้ ทำนองนั้นครับ เพราะมันมีเมล็ดกาแฟบางสายพันธุ์ที่ให้รสชาติแปลกใหม่”
เมื่อรุ่นพี่ที่เป็นไอดอล กลายมาเป็นโค้ชช่วยคว้าชัยชนะ
อยากให้เล่าเส้นทางก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศ Italiano Espresso Championship 2018 ว่าเริ่มต้นจากไหน? “ผมได้เห็นรุ่นพี่คนนึง ชื่อ ‘พี่โจ๊ก’ เขาเคยลงประกวดเวทีนี้เหมือนกัน แล้วได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ตอนปี 2016 ผมรู้สึกว่าทั้งวิธีทำหรือการเคลื่อนตัวเค้าดูเท่ไปหมด เราเลยคิดว่าถ้ามีโอกาสได้ไปยืนตรงนั้น สัมผัสอารมณ์ ณ ตอนนั้นบ้างก็คงดี หลังจากนั้นเราก็เริ่มใส่ใจลองมาทำดูบ้าง พอสนุกแล้วทำไปเรื่อยๆ แล้วพื้นฐานโอเค ก็อยากลองลงแข่งขันเหมือนพี่เค้าบ้างครับ ตอนสมัครแล้วลุยผ่านเข้ารอบ 18 คนก็ทำเต็มที่”
“ผมตื่นเต้นมากๆ เพราะเป็นรายการแรกที่ได้ลงแข่ง เราใฝ่ฝันอยากยืนตรงนี้มาตั้งนานแล้ว จริงๆ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้แชมป์ เพียงแค่อยากพิสูจน์ว่าเรารักการเป็นบาริสต้าจริงๆ มั้ย พอจะแข่งกับคนอื่นได้รึเปล่า พอชนะจริงๆ ก็เหมือนผลพลอยได้จากสิ่งที่เราทำทุกๆ วันครับ ดีใจมากกว่า และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ได้ด้วย”
อย่าสร้างกำแพงมาขวางทางเดินตัวเอง
หนุ่มบาริสต้าอยากฝากข้อคิดไว้ให้น้องๆ ด้วยว่า “คนช่วงอายุอย่างผมคือการค้นหาตัวเอง หาว่าเราจะทำอะไรในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่ไม่นอน ผมอยากชวนให้ค้นหาดูว่าเรามีความสุขกับอะไร อย่าเพิ่งสร้างกำแพงว่าทำยังงั้นยังงี้ไม่ได้ เพราะถ้าเริ่ม มันจะมี 1 มี 2 มี 3 ไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราก็จะไม่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้เลย เราทำทางให้เดินยากกว่าเดิม”
“ผมคิดว่าโอกาสมีมากพอๆ กับอากาศครับ ทุกครั้งที่สูดอากาศหายใจ พยายามไขว่คว้าโอกาสที่มีอยู่รอบตัว ถ้ามองย้อนไปดูคนที่ประสบความสำเร็จ พวกเค้าไม่ได้ยืนรอ แต่เดินเข้าไปไขว่คว้าเอง ทำทุกวันให้ดี ไม่ต้องกดดันว่าจะต้องประสบความสำเร็จ มันอาจจะมาช้าหน่อย แต่เราได้มีความสุขกับมันครับ”
เขาทิ้งท้ายถึงหนึ่งในผู้ที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จด้วยว่า "ผมต้องขอบคุณปัจจัยหลายๆ อย่างเลยครับ ทั้งทางซีพีออลล์ที่สนับสนุนทุนการศึกษา (ทุนปัญญาภิวัฒน์ที่เป็นส่วนลดค่าเทอม) ช่วยแนะนำสถานที่ฝึกงานมาให้เราเลือก และให้เบี้ยเลี้ยงตอนฝึกงานเป็นรายชั่วโมง ส่วนทางคณะของสถาบันก็ช่วยให้ความรู้ ทำให้เราได้ลงปฏิบัติการในแล็บจริง หรือถ้าตอนไปแข่งก็ช่วยเรื่องจองคิว มีแล็บซ้อมให้ มีพี่โค้ชที่มาช่วยเทรนนิ่งผม และช่วยสนับสนุนเรื่องวัตถุดิบ ฯลฯ เรียกว่าซัพพอร์ตเราเต็มที่มากๆ ครับ^^"
พอพูดคุยแล้วเข้าใจเลยค่ะว่าบาริสต้าหนุ่มหน้าใสคนนี้ใจรักมากๆ แถมพกความพยายามมาเต็มที่จนได้เป็นตัวแทนประเทศไทยได้ไปชิงแชมป์ต่อในต่างแดน พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้การแข่งขันที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้นะคะ และหวังว่าชาว Dek-D จะได้แรงบันดาลใจลุกมาทำสิ่งที่เรารักอย่างเต็มที่เช่นกัน...หากใครสนใจการเรียนที่ได้ฝึกงานเหมือนลงสนามจริงเพื่อพิสูจน์ตัวเอง สามารถหาข้อมูลคอร์สเรียนของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์มาศึกษาดู เผื่อจะใช่ทางของเราก็ได้นะคะ ^^
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ