สวัสดีจ้าชาว Dek-D พบกันในช่วงสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงกำลังเพลิดเพลินเพราะมีคาบว่างเยอะ.. ล้อเล่น!!! เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่สนุกและได้ความรู้วิทย์ๆ แบบจัดเต็มจากทางโรงเรียนของตัวเองอยู่แน่นอน ซึ่งจะพูดก็พูดเถอะว่าวันวิทย์ของเด็กสมัยนี้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาก เพราะมีเทคโนโลยีสุดเจ๋งมาช่วยสร้างสีสันให้น่าสนใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ 'APOCALPSE SK SCI WEEK 2018' ของชาวสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 - 22 สิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ :)
เกริ่นแบบฮาร์ดเซลส์เบอร์นี้ ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วใช่มั้ยคะว่าพี่ส้มจะพาทุกคนไปทัวร์งานสัปดาห์วิทย์ในรั้วโรงเรียนชายล้วนย่านปากคลองตลาด ที่ปีนี้พวกเขาเลือกคอนเซปต์ APOCALPSE มาเอาใจเด็กชายผู้รักการผจญภัยไปกับภารกิจกอบกู้โลกจากวิกฤตการณ์สูญสิ้นทรัพยากร ด้วยการใช้นวัตกรรมที่มีหล่อเลี้ยงชีวิตทุกคนให้รอดพ้นภัยครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ โดยน้องๆ ทีมสตาฟ ม.5 ก็ได้วางแพลนความสนุกไว้ให้กับผู้ร่วมงานรอไว้แล้วล่ะ ไปลุยกันเลย!!!
อย่างที่บอกว่าผู้ร่วมงานทุกคนจะต้องสวมบทบาทเป็นผู้กอบกู้วิกฤตวันสิ้นโลก ดังนั้นสิ่งแรกที่พวกเขาจะต้องมีก็คือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นและวิธีใช้ความรู้ที่มีเพื่อแก้ไข เราจึงต้องไปประจำการที่ห้อง A.I. ที่เป็นฐานบังคับการหลัก เพื่อเรียนรู้วิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากทรัพยากรบนโลกกันค่ะ
น้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยประมาณ 10 คน แล้วทยอยเข้าไปทำภารกิจทีละกรุ๊ป ทันทีที่เปิดประตูห้อง ร่างของทุกคนก็ถูกกลืนเข้าไปในความมืดทึบและหนาวเย็นจากเงากระดาษหนังสือพิมพ์และเครื่องปรับอากาศที่เซ็ตไว้สร้างบรรยากาศความวังเวง
แต่ไม่ทันที่ทุกคนจะรู้สึกเคว้ง ก็ปรากฏตัวของสตาฟผู้สวมบทบาทนำทีมเดินทัวร์ภายในเขาวงกต ที่ผนังเต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ โดยพวกเรามีหน้าที่แกะรอยประวัติศาสตร์ของปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ แล้วตอบคำถามเพื่อฝ่าด่านออกไป ซึ่งสตาฟก็ได้ทิ้งโจทย์ไว้ให้ผู้ร่วมกิจกรรมเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ระหว่าง Hospitalz สายตัดต่อพันธุกรรม, The Revolution นักปฏิวัติโลกใหม่ และ Scavenger ผู้รักความสงบ ที่มีการใช้องค์ความรู้ในวิทยาศาสตร์ต่างแขนงกันออกไปในการช่วยโลกค่ะ
สำหรับแต่ละฝ่ายที่กล่าวมานี้ก็มีฐานทัพย่อยประจำฝ่ายประจำอยู่คนละห้อง และภายในห้องนั้นๆ ก็ถูกเนรมิตขึ้นให้เป็นโลกต่างมิติที่เต็มไปด้วยเครื่องมือสุดล้ำจากจินตนาการ พร้อมตัวละครหลักผู้เทรนทักษะวิทย์สุดล้ำให้แก่คนในฝ่ายของตัวเอง ดูอย่างห้อง Hospitalz นี่สิ! ทั้งหมอและคนไข้เล่นได้เหมือนจริงมาก!!!
แต่ใช่ว่างานนี้จะมีไว้เพื่อความมันส์เพียงอย่างเดียว เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง จึงต้องมีห้องใหญ่ที่ชื่อว่า Food Sci Parks ไว้รองรับสเบียงแสนอร่อยฝีมือนักเรียนด้วยกันเอง ที่ต่างงัดเสน่ห์ปลายจวักบวกกับเทคนิคปรุงแบบวิทย์ๆ มาตั้งแผงขายกันในราคาสบายกระเป๋า ทำเอาน้ำลายสอกันถ้วนหน้าเลยล่ะค่ะ แหม... หม่าล่าก็หอม ส้มตำก็นัว สายไหม ไอติม ป๊อปคอร์น จัดเต็มเว่อร์ ><
ส่วนถ้าใครอยากจะชิลล์ไปกับบรรยากาศวันวิทย์แบบคลาสสิก ที่นี่ก็ยังคงมีห้องโครงงานวิทย์โชว์กึ๋นถึง 3 ห้อง เปิดรอคนที่ชอบแลกเปลี่ยนวิธีเอาความรู้ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงให้เข้าไปชมอยู่ โดยมีการเปิดโหวตโครงงานป๊อปปูลาร์ด้วยนะคะ ใครถูกใจโปรเจกต์ไหนก็ลงไปเขียนใบโหวตให้เพื่อนได้เลย ^^
เดินทะลุห้องนั้นห้องนี้จนเมื่อยแล้ว พี่ส้มก็ขอเดินทอดน่องหน้าเวทีสักหน่อย ขอบอกว่ากิจกรรมโซนนี้ก็ไม่น้อยหน้าใครเลยล่ะ เพราะคิวตั้งแต่พิธีเปิดแล้วก็ทยอยรันเสวนาวิชาการกันรัวๆ แถมยังได้แขกรับเชิญพิเศษตัวท็อประดับแนวหน้าของประเทศอย่าง พอ.ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ์ ที่มาทอล์กในหัวข้อ "วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เศรษฐกิจยุคใหม่ ใส่ใจปัญญาประดิษฐ์" และ รศ.ดร.สยาม เจริญเสียง กับ "เทคโนโลยหุ่นยนต์และ A.I." ประเด็นสุดอินเทรนด์ พร้อมทั้งแอดมินเพจ Contrast และ SPACETH.CO ผู้มาแชร์หลักคิดวิทย์ๆ ของคนรุ่นใหม่กันอย่างเต็มอิ่ม
พอ.ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ์
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องมีคู่กันกับงานสัปดาห์วิทย์มาตั้งแต่รุ่นพ่อก็ยังคงมีต่อไป แต่ถูกปรับให้เก๋ไก๋ขึ้นตามยุค ตั้งแต่สอยดาว, Sci show, เกมวัดทักษะทางวิชาการ และ The Rapper Sci ที่นำเอาแนวเพลงยอดฮิตมาผสมผสานเข้ากับวิทยาศาสตร์ได้ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ จนสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้เด็กสวนฯ กันถ้วนหน้าเลยล่ะค่ะ
พักเหนื่อยกันแล้วก็ฟิตแรงขาเดินขึ้นตึก 5 ชั้นกันสักหน่อย แม้จะหอบเหนื่อยตามประสาคนอายุมากแล้ว แต่พี่ส้มก็รู้สึกว่าคุ้มค่าจริงๆ เพราะได้มาชมบรรยากาศการเรียนรู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจของเด็กรุ่นใหม่ ท่ามกลางท้องฟ้าจำลองของโรงเรียน ที่เปิดให้เด็กๆ ทุกคนได้ขึ้นมาเที่ยวชมเป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว พื้นที่ส่วนนี้จะถูกใช้เพื่อปักหลักเฝ้าดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์สำหรับเยาวชนและบุคคลทั่วไปอีกด้วยค่ะ ใครที่บ้านอยู่แถวปากคลองตลาดและชอบดูดาวล่ะก็ คอยติดตามข่าวสารในเฟซบุ๊กแฟนเพจ Suankularb Science Club ไว้ได้เลย!
แม้งานสัปดาห์วิทย์ที่สร้างสรรค์และสร้างสุขของเด็กสวนฯ จะจบลงไปแล้ว แต่พี่ส้มเชื่อว่าความรู้ที่ได้ถ่ายทอดในงานและไอเดียเจ๋งๆ จากการจัดงานของพวกเขาจะไม่หมดลงไปแน่ๆ เพราะนี่คือตัวอย่างของการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ทุกคนได้ร่วมสนุกและลงมือทำไปด้วยกัน ซึ่งมันเป็นวิธีที่ทำให้ผู้เรียนมีทัศนคติเชิงบวกกับวิทยาศาสตร์ ที่สามารถกระตุ้นให้พวกสนใจค้นคว้าหาความรู้ต่อไปได้อีกเรื่อยๆ ค่ะ น้องๆ เก่งมากๆ ปรบมือให้เลย!!!
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ