สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
หลายคนคงรู้สึกได้ว่าช่วงนี้กระแสกีฬา E-Sport ในบ้านเราคึกคักมากๆ อย่างเมื่อวันที่ 14-16 ก.ย. ที่ผ่านมา ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Overwatch World Cup 2018 รอบคัดเลือก เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมไปแข่งรอบชิงชนะเลิศที่ BlizzCon ในเดือนพฤศจิกายน แม้ทีมไทยจะพลาดโอกาสไปชิงชัยต่อในต่างแดน แต่ผู้ชมทุกคนได้เห็นแล้วว่าทุกคนในทีมไทยไม่มีใครธรรมดา! (นอกจากฝีมือจะดีแล้ว อารมณ์ยังดีอีกต่างหาก 5555) หนึ่งในนั้นคือเด็กชายที่อายุยังน้อย เพิ่งเข้าวงการหมาดๆ แค่ 6 เดือน แต่ชาวต่างชาติชื่นชมกันเพียบ ชนิดที่เจ้าตัวไปตามอ่านในทวิตเตอร์แล้วถึงกับตกใจ
Note: Overwatch (OW) เป็นเกมยิงต่อสู้มุมมองบุคคลที่ 1 ผสมผสานกับเกมแนว MOBA จาก "Blizzard" ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ระดับโลก
แนะนำตัว
“สวัสดีครับ ชื่อ ‘ปั้น’ ปฏิภาณ ไชยวงษ์ อายุ 15 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนดาราสมุทร อรัญประเทศ ครับ^^”
จากเล่นขำๆ สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ
ปั้นเริ่มเล่าจุดเริ่มต้นการเล่นเกมให้ฟังว่า “ตอนแรกผมเล่นในเครื่องเกมคอนโซล PlayStation2 นี่แหละครับ จากนั้นก็เล่นเกมคอมพ์ฯ มาเรื่อยๆ เพิ่งมาเล่นจริงจังเกมแรกตอน Overwatch เล่นตั้งแต่เกมเปิด ประมาณ 2 ปีได้แล้ว” ชอบอะไรใน OW? “ชอบภาพการ์ตูน มันดูสวย มีสีสัน 5555 อีกอย่างคือพวกแคสต์เกมจะเล่นกันเยอะครับ ผมเลยอยากลองเล่นบ้าง”
Photo Credit: Overwatch Thailand
“ผมเล่นไปเรื่อยๆ จนมีทีมชื่อ ‘Oneshine Esports’ มาชวนผมเข้าทีม และได้ไปแข่ง Overwatch Contenders ที่ไต้หวันครับ พอจบผมย้ายทีมมา 'Xavier Esports' และไปแข่ง Contenders Season 2 จนมาถึงงาน Overwatch World Cup ที่เพิ่งผ่านมา ในงานนั้นเค้าจะเอา 4 ทีมมือวางของไทยไปคัดตัว แล้วผมได้เป็น 6 คนที่ติดทีมชาติครับ จากนั้นก็แข่งและคัดมาเรื่อยๆ”
บรรยากาศการซ้อมและการแข่งขันในงานล่าสุดเป็นยังไงบ้าง? “ตอนแรกซ้อมออนไลน์ก่อนวันละ 2-3 ชม. แล้วแต่เวลาว่างคนในทีมด้วย แต่ละคนใช้เวลาจูนกันแป๊บเดียวก็เข้าขากันครับ เพราะรู้จักกันในเกมอยู่แล้ว และภาพรวมพี่ๆ ในทีมคือดีมากก ทุกคนอัธยาศัยดีครับ คุยง่าย ตลก เก่งด้วย ผมถามพวกเค้าเรื่องการเล่นเยอะมากเลยนะ เค้าให้คำแนะนำดี สอนวิธีการคุมอารมณ์ด้วย ”
เล่นธรรมดากับเล่นเพื่อแข่งต่างกันแค่ไหน? “ต่างกันมากครับ 5555 ปกติเราเล่นขำๆ ไม่เครียด เล่นตามใจตัวเอง แต่การแข่งขัน มันเป็นงานเลย จากการที่เล่นให้สนุก กลายเป็นต้องเล่นจริงจังให้เก่งขึ้นๆ เลยเครียดกว่าเป็นธรรมดาครับ”
“ส่วนกระแสในโซเชียล ตอนแรกผมไม่รู้เลยว่ามีคนชื่นชม แต่พี่ในทีมที่เล่นทวิตเตอร์ เค้าบอกว่า ‘ปั้น นายดังละ’ ผมก็ ‘ฮ้ะ?’ แล้วไปสมัครทวิตเตอร์เพื่อกดดูและเจอชื่อผม ผมก็ตกใจ เฮ้ยยทำไมคนพูดถึงเยอะจัง ดีใจครับ เมื่อก่อนมีคนพูดถึงบ้างแต่ไม่ได้เยอะขนาดนี้”
เราเริ่มมีแฟนคลับเยอะแล้ว แล้วเราเองล่ะเป็นแฟนคลับใครรึเปล่า? “เมื่อก่อนผมไม่มีไอดอลเป็นนักกีฬา E-sport เลย เพราะไม่คิดว่าจะแข่งมาก่อน แต่ตอนนี้เริ่มมีละ มีพี่ Mickie กับ Surefour ครับ ผมชอบไปศึกษาทริคจากไอดอลของผมคือ Surefour เพราะเขาเป็นสตรีมเมอร์ด้วย”
“เป้าหมายเรื่องเกมของผมคืออยากไปให้ไกลกว่าเดิม ได้เข้าร่วมใน Overwatch League (ลีกสูงสุดในการแข่งขันระดับอาชีพ) แต่โห มันต้องอายุ 18 ปีอะ อีกตั้ง 3 ปีแน่ะ T_T”
We did our best
Let's fight again pic.twitter.com/utwo0lBXjN— PatiphanOW (@PatiphanOW) September 16, 2018
A day in Pun’s life
ชีวิตของปั้นต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องเรียนและเล่น ไหนจะเวลาพักผ่อนกับออกกำลังกายอีก เราแบ่งเวลายังไง? “เลิกเรียน 4 โมงเย็น กลับบ้านมาอาบน้ำและรอซ้อม 6 โมง ช่วงที่รอซ้อมจะทำการบ้านรอ ถ้าวันไหนซ้อม 2 ทุ่มก็ทำการบ้านตอนทุ่มนึง ทำเสร็จก็ไปสตรีม เลิก 4 ทุ่ม ถ้าการบ้านยังไม่เสร็จก็ทำต่ออีกแป๊บนึง นอน 5 ทุ่มครับ” ตรงนี้คุณแม่ยังเล่าอีกว่า บางทีลูกก็ปั่นการบ้านตั้งแต่ตอนอยู่โรงเรียน หรือบางทีตอนอยู่บ้านก็พับหลอดไปดูยูทูบไปด้วย 5555 (วิชาประดิษฐ์สินะ)
“เมื่อก่อนผมเล่นเกมเยอะนะ อยู่ติดหน้าคอมตลอด เลยโดนว่าเป็นเด็กติดเกม ไม่ไปไหนเลย แต่ตอนนี้เราจัดการเวลาได้ดีขึ้น เพราะเล่นมากไปไม่ดีครับ เสียสุขภาพ” ถ้าเทียบตอนเล่นแรกๆ กับตอนนี้ เราคิดว่าอะไรบ้างที่ตัวเองพัฒนาขึ้นมาแบบเห็นๆ? “เรื่องความสามารถส่วนตัว แนวคิดของตัวเอง mindset ในเกม ว่าควรไปตรงไหนทำอะไร มันพัฒนาขึ้นมากๆ อีกอย่างเกมมันทำให้ผมคิดไวขึ้นนะ ตอนเล่นเกมสมองแล่นมาก เหมือนเป็นสัญชาตญาณของเราไปเลย”
ถามถึงการ Live Stream บ้าง มันยากรึเปล่า แล้วจะเขินมั้ยถ้าเล่นพลาดต่อหน้าคนดู? “ไม่ยากๆ แค่เล่นไปเรื่อยๆ ให้คนดู ส่วนเล่นพลาดแล้วเขินมั้ย จริงๆ เป็นเรื่องปกตินะ คนเราไม่เพอร์เฟกต์ 100% แต่ถ้ามีจังหวะพลาดเยอะๆ เล่นต่างจากตอนแข่งมากเกินไป อาจมีคนมาคอมเมนต์แบบว่า เฮ้ยมันใช่เหรอเนี่ย? นี่เก๋าจริงๆ เหรอ? อันนี้ยกตัวอย่างจากที่เคยเห็นมานะครับ”
ผู้จัดการส่วนตัวเบอร์หนึ่งของลูก
หันมาถามคุณแม่บ้าง คาดคิดมาก่อนรึเปล่าว่าลูกจะเล่นเกมจนได้เป็นตัวแทนทีมชาติ? “แม่เห็นปั้นจับคีย์บอร์ดจับเมาส์มาตั้งแต่ 3-4 ขวบ บ้านนี้พอเห็นลูกเล่นเกมสนุกสนานๆ เราก็ไม่ได้ซีเรียส อยากให้เค้าได้ฝึกการบังคับนิ้วมือ บังคับเมาส์ ฝึกกล้ามเนื้อและสายตา อีกอย่างตอนนั้นเราห่วงเรื่องความปลอดภัย ให้ลูกอยู่ในบ้านปลอดภัยกว่า เลยพยายามหากิจกรรมให้เค้าทำ แต่ตอนนั้นยังไม่เห็นแววว่าเค้าจะได้ไปแข่งแบบนี้”
และขอบอกเลยค่ะว่าพ่อแม่ของปั้นคือผู้จัดการส่วนตัวที่น่ารักมากๆ! “เราจะมองภาพรวมกว้างๆ ค่ะ คอยดูแลเรื่องอาหารการกินและเรื่องสุขภาพ ส่วนคุณพ่อจะคอยหาคอมพ์แรงๆ กำลังเยอะๆ มาให้ลูกค่ะ จริงๆ ตัวปั้นเองเค้ามีระเบียบวินัยอยู่แล้ว เซ็ตเวลาทำการบ้าน ซ้อมเกมกับพี่ในทีม กับเล่นโซเชียลบ้างนิดหน่อย ถ้าเวลาเกิดชนกัน เค้าจะเอาเรื่องเรียนมาก่อน ต้องบอกพี่ในทีมว่าขอเลื่อนการซ้อมก่อนนะ”
พัฒนาขึ้นทั้งฝีมือและสกิลการใช้ชีวิต
คิดว่าการเล่นเกมให้อะไรเราบ้าง? “จริงๆ มันอยู่ที่ตัวคนด้วยนะว่าเล่นเกมเพื่อจุดหมายอะไร บางคนคลายเครียด เพราะชีวิตจริงเครียดมากพอแล้ว ส่วนบางคนอยากแข่ง ถ้าแข่งแล้วต้องมีความคิดว่าเราต้องเล่นให้เก่งขึ้นนะ ไม่ใช่เล่นให้ตัวเองย่ำอยู่กับที่ จริงๆ มีคำพูดนึงของพี่มิกกี้ที่ผมชอบและคิดว่ามันจริงมากๆ นั่นคือ 'ไม่ว่าจะเป็นวงการไหนในโลกนี้ ถ้าอยาก 'ประสบความสำเร็จ' คุณต้องเอาชนะ 'ทุกคน' ในวงการ หรืออย่างน้อยต้องเป็น Top 1%’ ”
“ภาษาก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ให้ผมอยากเล่นเกมครับ จริงๆ แล้วผมชอบวิชาภาษาอังกฤษมากๆ ไม่เคยตกเลยย อีกหน่อยอยากเรียนศิลป์-ภาษาด้วยครับ ตอนนี้อยู่ช่วงฝึกภาษา ผมมีเพื่อนสิงคโปร์ในเกมเยอะมาก เจอกันทักกัน ถ้าเจอคนไหนในเกมบ่อยๆ แล้วเห็นเค้าเก่งก็แอดไปคุยเล่น”
แล้วคุณแม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรของลูกบ้าง หลังจากเขาเข้าสู่วงการอีสปอร์ต? “เมื่อก่อนเค้าก็เล่นตามประสาเด็ก เลยมีคำพูดหยาบๆ เหมือนกัน แต่พอมาเป็นโปรเพลเยอร์ เค้าปรับตัว ปรับบุคลิกภาพ การให้สัมภาษณ์ การวางตัวต่างๆ และห่วงภาพลักษณ์ของอีสปอร์ตมากๆ”
สุดท้ายคุณแม่ได้ฝากถึงผู้ปกครองว่า “อย่าเพิ่งมองว่าการเล่นเกมเป็นการบั่นทอนเด็ก ลองดูดีๆ ว่าถ้าลูกเรามีพรสวรรค์จริงๆ ก็น่าสงเสริม ถ้าส่งเสริมให้ถูกทางจะมีโอกาสทำสิ่งที่เค้าชอบ และทำได้ดีด้วย อาจมีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต อย่าเพิ่งปิดกั้นค่ะ”
จากที่เราพูดคุยกับนักกีฬาอีสปอร์ตแต่ละคนมา สิ่งที่เรารู้สึกชื่นชมมากๆ ไม่ใช่แค่ฝีมือการเล่นนะคะ แต่ทัศนคติของแต่ละคนไม่ธรรมดาเลย ถ้าชาว Dek-D คนไหนยังถูกคนต่อว่าเป็น “เด็กติดเกม” พี่แนะนำให้ลองเช็กตัวเองว่าเรานั่งเล่นเกมจนชีวิตด้านอื่นๆ พังรึเปล่า? เราแบ่งเวลาผิดๆ อยู่มั้ย? ถ้าใช่ ลองมาเริ่มปรับเวลากันใหม่ค่ะ ไม่แน่ว่าน้องจะได้ขึ้นแท่นเป็น 1% ที่มิกกี้บอกก็ได้ ^^ และสำหรับใครที่อยากติดตาม Pun Patiphan ตอนนี้มีให้ติดตามทั้งใน Twitter @PatiphanOW Nimo TV (สตรีม) Xavier.Patiphan และ Facebook Fanpage Pun Patiphan นะคะ
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><
'มิกกี้' นักกีฬา E-Sport สังกัดทีมยักษ์ใหญ่ของอเมริกา
กับชีวิตและภาษาที่ต้องเก็บเลเวล!
2 ความคิดเห็น
คุณพ่อคุณแม่คือดีม๊ากกกกกกกกก
ตัวน้องเองก็สุดยอดมากภูมิใจที่เห็นคนไทยกับe-sportsระดับโลกแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมอะไร
จริงๆแล้วเราก็ชอบเกมนี้นะชอบภาพมากแต่เวลาดูคลิปจากที่คนอื่นเล่นเราดูไม่ออกเลยว่าตัวไหนคือใครทำอะไร ภาพมันไวและจัดจ้านมาก สู้กันอะไรเต็มจอไปหมดเลย
ขอบคุณ