สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเห็นเด็กคนหนึ่งที่ชอบมาแต่งหน้าไลฟ์ให้ดูตามโซเชียลมีเดีย ด้วยความที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงฝีมือการแต่งหน้าที่เรียกได้ว่าแทบจะเทียบเท่ามืออาชีพเลยก็ว่าได้ ทำให้คนติดตามดูไลฟ์เป็นล้านคนเลยทีเดียวค่ะ และล่าสุด น้องคนนี้ได้โพสต์รูปสร้างบ้านใหม่ให้กับครอบครัวของตัวเองได้ด้วยวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น จะเก่งอะไรขนาดนี้เนี่ย! ไม่ใช่แค่ความสามารถของน้องที่โดดเด่นเท่านั้น เเต่ทัศนคติเเละความคิดของน้องยังดีมากๆ อีกด้วย วันนี้พี่จะพามาดูกันว่า อะไรเป็นสาเหตุทำให้น้องคนนี้ประสบความสำเร็จมากถึงขนาดนี้ และอะไรคือแรงบันดาลใจของน้องกันนะ
แนะนำตัว
"สวัสดีค่ะ 'เนสตี้ สไปร์ทซี่ - นิพิฐพงศ์ รักตน' อายุ 12 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีพังงา จังหวัดพังงา ตอนนี้ก็รับงานรีวิวเครื่องสำอาง แต่งหน้าอยู่ค่ะ"
เริ่มชอบการแต่งหน้าตั้งแต่ 6 ขวบ
น้องเนสตี้ หรือที่ใครหลายๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเด็กที่แต่งหน้าในสไตล์สาย ฝ.จนโด่งดังไปทั่วโซเชียลมีเดีย ต้องยอมรับเลยว่าสกิลการแต่งหน้าของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ น้องเนสตี้นี่แต่งได้ทุกแบบทุกสไตล์เลยทีเดียว “จริงๆ แล้วเนสเริ่มชอบแต่งหน้ามาตั้งแต่ 6 ขวบ เรานั่งดูคลิปเค้าแต่งหน้า เห็นผู้หญิงใส่เสื้อผ้า แต่งหน้าสวยๆ เห็นแล้วมันใช่ มันโดน ก็เลยทำให้เกิดความชอบด้านนี้ขึ้นมา เราก็เลยลองมาทำเองดู หนูทำเอง ศึกษาเองหมดเลยนะ ดูจากตามคลิปต่างๆ ดูแล้วก็ทำตามเค้าเอา หนูอาจจะฟลุกด้วยมั้งคะมันเลยออกมาดี55555”
แล้วเรามาเริ่มแต่งหน้าไลฟ์ตามโซเชียลมีเดียได้ยังไงคะ? “คือมันเริ่มจากที่หนูอยากไลฟ์เล่นๆ ก่อน พอเราไลฟ์ครั้งแรกแล้วชอบ สนุกดี คนดูก็ชอบ หนูก็เลยติดมาตลอด คนก็เข้ามาดูเยอะขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าหนูน่ารักมั้ง 5555 บ้าๆ บอๆ เป็นตัวของตัวเอง หนูคิดอะไรหนูก็พูดออกไปแบบนั้น ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเค้าเข้ามาดูกัน”
แน่นอนว่าถ้ามีคนรักก็ย่อมมีคนไม่ชอบ เรามีวิธีรับมือกับพวกคอมเมนต์แย่ๆ ที่มาพูดกับเรายังไงบ้าง? “หนูว่าแค่เราทำหน้าที่ของเราตรงนี้ให้ดีที่สุด คือหนูรู้สึกว่ามีคนติดตามหนู ให้กำลังใจหนูก็เยอะอยู่ มันเลยทำให้หนูรู้สึกมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปมากขึ้น สำหรับพวกคอมเมนต์แย่ๆ พวกนั้น หนูว่าถ้าเค้าเหนื่อยเค้าก็หยุดเองแหละ ไม่ต้องไปสนใจ เพราะเรายังมีคนที่รักเราชอบเราอยู่ค่ะ”
ตอนแรกพ่อแม่ไม่สนับสนุนให้ทำแบบนี้
“ตอนแรกๆ เลย พอแม่เห็นเราเริ่มชอบอะไรที่เป็นของผู้หญิง เริ่มชอบแต่งหน้า แต่งตัว ชอบความสวยงาม แม่ก็ไม่สนับสนุนนะ ไม่ชอบเลย แต่สุดท้ายแล้วแม่ก็ห้ามหนูไม่ได้ เพราะหนูชอบจริงๆ มันเป็นสิ่งที่หนูรัก หนูอยากจะทำมัน แม่ก็เลยปล่อย เพราะคิดว่าห้ามไม่ได้แล้วจริงๆ 5555 หลังๆ มาแม่กับครอบครัวก็เริ่มสนับสนุนหนูมากขึ้น ช่วยดูตารางงาน รับงาน แม่ยังช่วยหนูเรื่องตัดเย็บ ออกแบบชุดให้หนูเวลาใส่ไปออกตามงานอีกด้วยค่ะ”
ถ้าใครหลายๆ คนที่กำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่ กลัวพ่อแม่รับไม่ได้ที่ลูกเป็นแบบนี้ หนูมีวิธีแก้ปัญหายังไงบ้าง? “เอาจริงๆ เลยนะ ในความคิดของหนู หนูว่าเราต้องบอกพ่อแม่เค้าไปตรงๆ หรือไม่ก็ทำอะไรให้เค้าเห็น ว่าเราเป็นแบบนี้เราก็เหมือนคนปกติ อย่างเช่น การเรียน เราก็เรียนให้ดี หรือทำงานหาเงินเองได้ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เค้า แค่นี้เค้าก็น่าจะเข้าใจแล้วค่ะ”
สอบได้ที่ 1 ของห้อง
เรามาพูดถึงเรื่องการเรียนของน้องเนสตี้กันบ้างดีกว่า ได้ยินมาว่าสอบได้ที่ 1 ของห้อง เรียนไปทำงานไปแบบนี้มีวิธีแบ่งเวลาเรียนกับทำงานยังไงบ้างคะ? “หนูสอบได้ที่ 1 ของห้อง แล้วเป็นที่ 43 ของระดับชั้นค่ะ ถ้าพูดถึงเคล็ดลับอะไร หนูก็ไม่มีนะ ก็ไปเรียนปกติ ทำเหมือนเพื่อนที่โรงเรียนทุกอย่าง เพื่อนทำอะไรเราก็ทำอย่างงั้น อ่านหนังสือปกติ แต่หนูจะรับงานแค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น มีคุณแม่และครอบครัวเป็นคนดูแลตารางงานของหนูค่ะ แต่หนูจะไม่รับงานรีวิวพวกอาหารเสริม เพราะมันอาจจะเป็นของไม่ดี มันทำให้เราเสียชื่อเสียงได้ ส่วนใหญ่แล้วรับพวกเครื่องสำอางอย่างเดียวค่ะ”
“หนูชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพราะมันสนุก มันทำให้เราได้รู้จักคำศัพท์ใหม่ๆ ตลอดเลย แต่หนูพูดอังกฤษไม่เก่งนะ55555 ส่วนวิชาที่หนูไม่ชอบเลยคือคณิตศาสตร์ หนูเรียนไม่รู้เรื่องอะ เรียนแล้วงง เหมือนมันวนไปวนมาแล้วก็กลับมาที่เดิม 555555”
และนี่ก็คือผลการเรียนล่าสุดของน้องเนสตี้ค่ะ ไม่ธรรมดาจริงๆ น้องงงง
สร้างบ้านให้ครอบครัวด้วยเงินตัวเอง
ล่าสุด น้องเนสตี้ได้สร้างบ้านให้ครอบครัวของตัวเองสำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยอายุแค่ 12 ขวบเท่านั้น มาฟังน้องเนสตี้เล่าถึงชีวิตของตัวเองกันค่ะ “จริงๆ ตอนเด็กๆ ก็ลำบากอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่าแต่ก่อนบ้านหนูไม่มีรถใช้ พอถึงเวลาต้องไปโรงเรียน มีแต่มอเตอร์ไซต์ ถ้าฝนตกด้วยแล้วล่ะก็ หนูต้องนั่งเปียกฝนไปเรียนกันไป” แล้วตอนนี้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้ก็โอเคขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆ แล้ว ตอนนี้หนูก็สร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัว คือบ้านหลังเก่ามันเก่าแล้ว ทรุดโทรม เลยอยากสร้างบ้านใหม่ให้แม่ด้วยเงินของหนูเองค่ะ”
แล้วเรารู้สึกยังไงบ้างที่สร้างบ้านให้แม่ได้? “รู้สึกเหมือนหนูได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้พ่อแม่ได้ รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ เลยค่ะ”
ฝันอยากเป็น Miss Tiffany
“ในอนาคตหนูฝันไว้ว่าอยากเป็น Miss Tiffany คือหนูเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว หนูเห็นพี่โยชิ (Miss Tiffany ปี 2017) เค้าได้ร้องเพลง เดินสวยๆ บทเวทีเลยอยากเป็นบ้าง ถ้าหนูเกิดชนะขึ้นมา ในอนาคตเราก็อยากช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส เอาเงินทีได้รางวัลไปช่วยคนพวกนี้ค่ะ"
นอกจากการแต่งหน้าเเล้วหนูชอบทำอะไรอีกมั้ย? "หนูชอบแต่งหน้า แต่งตัว ร้องเพลง ถ้าถามว่าอยากลองเป็นนักแสดงดูมั้ย ก็อยากลองดู หนูไม่เคยเเสดงมาก่อน เคยแค่เล่นกับเพื่อนๆ ขำๆ 5555 เเต่คิดว่าถ้ามีโอกาสได้ทำก็น่าจะสนุกดีค่ะ”
“หนูมีไอดอลคือพี่ฉัตร (ช่างแต่งหน้าชื่อดัง) เค้าแต่งหน้าเก่งมากๆ พี่เค้ามีศักยภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรเค้าก็ทำได้ อีกอย่างพี่เค้าใจดีมากๆ หนูเคยได้ไปเรียนแต่งหน้ากับพี่เค้าด้วย ใจดีสุดๆ เลยค่ะ ในอนาคตหนูก็อยากจะเป็นแบบเค้านะ อยากเป็นช่างแต่งหน้า รับงานแต่งหน้าทำผม อะไรพวกนี้ค่ะ”
“สุดท้ายนี้หนูอยากจะฝากเอาไว้ว่า ถ้าใครชอบอะไร อยากทำอะไร ก็ต้องไปให้ถึง อย่างน้อยถ้าเจออุปสรรคเราก็ได้เรียนรู้จากมันได้ สู้ให้ถึงที่สุดแล้วความฝันจะสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ”
พี่หวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนได้นะคะ แค่เราต้องหาทางที่ใช่ของเราให้เจอ พี่เชื่อว่าเราจะทำมันออกมาได้ดีแน่ๆ เหมือนกับน้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ ที่การแต่งหน้าของน้องทำให้คนรู้จักน้องมากขึ้น จนทำให้มีชื่อเสียงและสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวน้องเองอีกด้วย เจ๋งสุดๆ และสำหรับใครที่อยากติดตามน้องเนสตี้ก็สามารถติดตามได้ทางอินสตาแกรม @nes_tyyy และ เฟซบุ๊ก เนสตี้ สไปร์ทซี่ ได้เลยค่ะ
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ