สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
เรียกได้ว่าปัจจุบันคนแต่ละช่วงวัยในทุกพื้นที่รู้จักและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายกว่าแต่ก่อน ก็เป็นข้อดีตรงที่ทุกคนรับรู้ทั่วกันถึงประโยชน์ของโลกโซเชียล และทำให้ผู้ใหญ่ที่เคยบ่นอุบเวลาเราเอาแต่เล่นคอมพ์ได้เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีมากขึ้น (แต่ก็ยังคงเป็นดาบสองคมนะคะ) ซึ่งล่าสุดเราก็ได้ไปเจอเรื่องราวน่าสนใจของเน็ตไอดอลคนหนึ่งที่เคยถูก Bully สารพัดทั้งเรื่องหน้าตาและความสามารถ ซ้ำยังอยู่ในอยู่ในสังคมต่างจังหวัดที่ผู้ใหญ่กีดกันไม่ให้เล่นโซเชียลด้วย แต่ในที่สุดทั้งทัศนคติ ความขยัน และความสตรอง ก็ทำให้ชีวิตทุกวันนี้ของเธอเหมือนกับฟ้าหลังฝน เดี๋ยวเราไปรู้จักเธอคนนี้กันดีกว่าค่ะว่าเธอคือใคร และเคยผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง!
เจ้าของเพจ “หนูมินตันทาสกระดาน”
“น้องแพร" เป็นเน็ตไอดอลเจ้าของเพจ "หนูมินตันทาสกระดาน" ในเพจจะมีทั้งรูปและคลิปเต้นคัฟเวอร์แบบขำๆ แสดงความเป็นตัวเองแต่ไม่ได้โชว์เซ็กซี่ ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าที่มาของเพจนี้ว่า “ตอนแรกแพรเปิดเพจชื่อ มินตรา เชื้อวังคำ เป็นชื่อนามสกุลจริงของแพรเลยค่ะ ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ‘พี่อุ๋ยเงี้ยบ’ (เพจสัตว์โลกอมตีน) อยากให้แพรดันตัวเองเป็นเน็ตไอดอล แต่แพรไม่อยากทำคอนเทนต์เกี่ยวกับตัวเอง เลยหันไปทำเพจวาดรูป แล้วเปลี่ยนมาเป็นชื่อหนูมินตันทาสกระดาน เหตุผลที่ชื่อนี้เพราะตอนนั้นเน็ตไอดอลสายน่ารักเกิดยากมากกกก แพรตั้งประชดกวนๆ ว่าเพจนี้จอแบนนะ ไม่ได้เป็นแนวเซ็กซี่!! 5555”
“แพรตั้งใจลงเกี่ยวกับตัวเรานี่แหละ ตอนแรกวาดการ์ตูนเป็นตัวแทนแพรในเพจเล่นๆ ทำๆ หยุดๆ เพราะเหนื่อยจากงานเพจหลัก จนหลังๆ อยากมีเพจไว้เก็บรูปภาพกับวิดีโอน่ารักๆ เลยกลับมาทำค่ะ แต่เฟซบุ๊กบล็อก...เปลี่ยนชื่อกลับไม่ได้แล้ว กลายเป็นทาสกระดานจนถึงทุกวันนี้ค่ะ TT^TT”
สังคมเล็กๆ ที่ชื่อกรุ๊ปว่า “การ์ตูนดิ๊งด่อง”
จริงๆ แล้วเธอเองดูแลหลายเพจ โดยระหว่างที่มีเพจหลักของตัวเอง เธอก็ได้สร้างกรุ๊ปชื่อ “การ์ตูนดิ๊งด่อง” ที่เป็นคอมมูนิตี้ของคนรักการ์ตูน “กรุ๊ปนี้แพรจะลงแก๊กขำๆ สักเดือนละโพสต์ ถ้าติดเรียนติดงานอาจเว้นช่วงไปบ้างค่ะ พอผ่านไปปีนึงมีคนติดตาม 450,000 คน และมีช่วงที่หยุดทำเพจแล้วลงมาทำการ์ตูนดิ๊งด่องเต็มตัว เน้นลงคอนเทนต์สบายๆ แบบเป็นตัวเอง ทั้งแคสเกม วาดการ์ตูนในมุมมองเด็กวัยรุ่นค่ะ”
"พอแพรเปิดตัวว่าเป็นแอดมิน พี่ๆ น้องๆ ก็เข้าถึงง่ายขึ้นและทักมาคุยมากขึ้น มีน้องๆ ชอบถามวิธีการวาดรูป แพรเลยสอน จริงๆ แพรไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่อยากสอน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และจากการไลฟ์สตรีมเกมบ่อยๆ ก็มีลูกเพจมาคุยเล่นเป็นสังคมเล็กๆ ค่ะ”
แล้วปกติเราชอบการ์ตูนแนวไหน? “แพรชอบการ์ตูนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ มีปีศาจ การผจญภัย ดูแล้วมีความสุขดีค่ะ ^^ เราชอบที่โลกของการ์ตูนน่าสนุก มีสีสันสดใสกว่าโลกความจริง ขนาดจอมปีศาจที่ดุร้ายในเกมหรือการ์ตูน ยังน่ากลัวน้อยกว่าคนที่ยิ้มให้เรา แต่ในใจจ้องจะด่าหรือทำลายชีวิตเรา เพียงแค่เพราะหมั่นไส้และไม่ชอบหน้าตาเราเฉยๆ”
“ส่วนการวาดการ์ตูน แพรชอบวาดมาตั้งแต่ ป.2 - ป.3 ค่ะ เคยวาดเล่นในสมุดเรียนแล้วครูชม แพรดีใจมากก คำชมนั้นเป็นแรงบันดาลใจของเราเลย แพรฝึกวาดการ์ตูนตามแบบเรื่อยๆ จนช่วงมัธยมได้รู้จักกลุ่มพี่แอดมินนักวาด พวกเขาสอนหลักการวาดให้แพรเพิ่ม แถมส่งเมาส์ปากกาอันละ 3,000 บาทมาให้แพรฝึกวาดด้วย ทำให้เรามีโอกาสฝึกค่ะ เห็นมั้ยว่าโซเชียลมีเรื่องดีๆ เยอะเลย ^^”
จากที่เราบอกว่า เราไม่ชอบตัวเองในชีวิตจริง และอยากมีอีกตัวตนนึงในโลกโซเชียล เล่าให้ฟังได้มั้ยว่าตัวตนทั้งสองมุมของเราเป็นยังไง? “ชีวิตจริง แพรเป็นลูกคนสวน เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ทำงานหนักตั้งแต่เด็ก เป็นพี่คนโตที่ต้องผ่านทุกปัญหาให้ได้ บางครั้งเหนื่อยและท้อ แต่พอมองน้องสาวก็รู้ว่าเราจะอ่อนแอให้เค้าเห็นไม่ได้ สมัยก่อนบางทีเราอดนอนทำงานวาดทั้งคืน พอไปโรงเรียนก็เจอคนดูถูก แพรเลยไม่ชอบโลกความจริงค่ะ”
“ส่วนคาแรกเตอร์ในโลกโซเชียล แพรอยากเป็นน้องสาวใครสักคนค่ะ 5555 แพรชอบดูในการ์ตูน เรื่อง ‘น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก’ หรือการ์ตูนวัยรุ่นหลายๆ เรื่อง ตัวละครน้องสาวมีคนปกป้องตลอด คอยมีพี่ตามใจ เมื่อก่อนแพรอยากมีคนปกป้องแบบนั้นบ้าง อยากวาดตัวการ์ตูนน้องสาวน่ารักๆ โมเอะไปวันๆ ไม่คิดอะไรมาก แต่ชีวิตจริงแพรรู้ว่าเป็นไปได้ 555 ยิ่งตอนนี้มีน้องๆ เด็กๆ ติดตามเยอะขึ้น แพรก็ต้องอยู่กับโลกความจริงมากขึ้นค่ะ”
โดนมองทางลบ? งั้นก็สร้างข้อตกลงเพื่อพิสูจน์ตัวเองซะเลย!
อ่านถึงตรงนี้หลายคนน่าจะพอจับต้นชนปลายถูกว่า เธอซึ่งเป็นเน็ตไอดอล เคยโดนสังคมรอบข้างมองลบไปมากทีเดียว แพรเล่าให้ฟังว่า “ปัญหาคือต่างจังหวัดมีคนเข้าใจ Social Network ผิดไปเยอะค่ะ ถ้าใครพกมือถือมาโรงเรียนจะโดนยึดและเชิญผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ก็พูดถึงแต่ข้อเสียของโซเชียล และไม่มีใครคิดอยากให้ลูกหลานหารายได้จากการทำเพจหรือยูทูบ เรื่องที่โดนเรียกเข้าห้องปกครองกับเรื่องที่โรงเรียนทำให้แพรน้อยใจมากๆ จนร้องไห้หลายครั้ง เขากลัวว่าเราทำโรงเรียนเสียชื่อเสียง จนมีช่วงที่แพรคิดจะเลิกเรียนด้วยค่ะ”
“ดังนั้นแพรเลยพยายามเข้าใจปัญหาและทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต ทำตามกฎที่ตั้งให้ตัวเองอย่างจริงจังเพื่อให้เขายอมรับด้วยค่ะ สิ่งที่แพรตกลงกับพ่อแม่คือ
1. เกรดเฉลี่ยแพรจะไม่ต่ำกว่า 3.00
2. นับจากนี้แพรจะหาเงินกินใช้และเงินเรียนด้วยตัวเองโดยไม่ขอคุณพ่อคุณแม่
3. แพรจะหาเงินแสนให้พ่อแม่ก่อนจบ ม.6
แต่ข้อแม้คือถ้าแพรทำสำเร็จ พ่อแม่ต้องเชื่อใจลูกคนนี้ และไว้ใจให้แพรไปทำงานและเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่าแพรจะเก็บเงินเองทุกอย่าง พอพูดแบบนี้แล้วพวกท่านก็เริ่มเข้าใจว่าแพรตั้งใจมากกก สุดท้ายก็รับปากเรา”
รับงานทุกอย่างต่อเมื่อ “ถูกกฎหมาย” และ “ไม่ผิดศีลธรรม”
“เล่าก่อนว่ามีช่วงนึงแพรเริ่มโดนเพื่อนกับรุ่นพี่แบนเพราะรูปแพร ‘เฟค’ (fake) แต่งรูปให้ขาวเกินจริง (เมื่อก่อนหนูจะผิวคล้ำๆ) เลยแก้ไขด้วยการทำคลิปวีดีโอแฉตัวเอง ถ่ายมั่วๆ เช่น คลิปทำท่าแมว ทำท่าตามการ์ตูนบ้าๆ บอๆ มาสายติ๊งต๊อง แล้วคลิปมุกไข่ดาวคนพิเศษก็ดังเฉยเลย!! 5555”
“พอเป็นแบบนี้ จากที่ไม่มั่นใจในตัวเอง คิดแต่ว่าตัวเองขี้เหร่ ก็เริ่มเห็นโอกาสดีๆ ที่จะเริ่มขายงานเกี่ยวกับตัวแพรเองบ้างแล้ว มีวันนึง 'พี่อิล-Illslick' ติดต่อมาให้เล่น MV พอออกมาแล้วมีคนพูดถึงนางเอก MV เยอะมาก ทำให้แพรเริ่มมั่นใจขึ้น ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับตัวเองบ่อยขึ้น รับงานโฆษณา ถ้าไปถ่ายงานต่างจังหวัด คุณแม่จะไปด้วยตลอด ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ”
อยากให้เล่าภาพรวมหน่อยว่างานที่เรารับเป็นแบบไหน? “แพรเองเป็นเด็กเนิร์ดที่ชอบเก็บตัว แต่เวลามีงานเข้ามา ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ใช่ยาขาว ไม่โป๊เปลือย ไม่ใช่เว็บพนัน และลูกค้ามี Budget พอจะจ้างเรา แพรรับหมดทุกงาน ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแคสเกม รีวิวเกม วาดรูป คอสเพลย์ ทำคอนเทนต์ ถ่ายแบบ รีวิวโฟมล้างหน้า อัดรูปวาดเป็นวิดีโอ ฯลฯ พอได้เงินแต่ละครั้ง แพรจะอธิบายและแสดงหลักฐานให้พ่อแม่ดูว่าเราได้มาจากไหน พ่อแม่เค้าภูมิใจในตัวเรามาก เพราะเราดูแลตัวเองและครอบครัวได้สักพักแม่เปิดใจแล้วมาเป็นช่างกล้องให้เองเลยค่ะ 55555”
ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลา “ฟ้าหลังฝน” สักที
นอกจากพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำผลงานแล้ว เราจัดการกับปัญหาการถูก Bully จากสังคมรอบข้างยังไง? “ตอนแรกครูอธิบายว่าเป็นห่วง กลัวเราไปเต้นโชว์หรือเต้นย่อแล้วเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ยิ่งช่วงนั้นเพจล่าแม่มดเยอะ กลัวจะเสื่อมเสียถึงโรงเรียน แพรเลยทำใจกล้าทักไปอธิบาย เล่าให้ห้องปกครองว่าแพรทำเพจอะไรบ้าง เล่าไปว่าบางเพจที่แพรดูแลคนติดตามเป็นล้าน (ครูเป็นลูกเพจด้วยเลยช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น 5555)”
“พอครูเข้าใจแล้วก็เริ่มชมให้เพื่อนๆ น้องๆ ฟังจนคนรอบข้างเริ่มเข้าใจแล้วว่าแพรทำอะไร ที่สำคัญคือแพรดูแลตัวเองมากขึ้น ทาครีมบำรุงกันครีมกันแดด การเล่น MV พี่อิลก็มีส่วนช่วย เพราะแฟนคลับ Illslick ในโรงเรียนมีเยอะ ตอนนี้ไม่มีคนดูถูกเรื่องหน้าตาแล้ว จนตอนนี้พ่อแม่ก็ไว้วางใจให้แพรมาอยู่กรุงเทพฯ เพราะแพรทำตามข้อตกลงได้ทั้งหมด เราก็ยังส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือนเหมือนเดิม ทุกอย่างผ่านไปได้ดีโดยใช้เวลาแก้ไข 2 ปีค่ะ”
“ทุกวันนี้มีคนด่าหรือแขวะอยู่บ้าง ในคลิปไข่ดาวมีเยอะเลยค่ะ ‘ปัญญาอ่อน’ ‘เอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่ามั้ย’ ‘ไปกรอกน้ำดีกว่ามั้ย ช่วยพ่อแม่บ้าง’ ประมาณนี้ หรือพวก inbox มาด่าหยาบๆ ส่วนเด็กวาดรูปบางคนก็มาบอกว่า ‘เด็กคนนี้ดังเพราะหน้าตาแอ๊บแบ๊ว แต่ฝีมือวาดรูปกระจอก’ แพรพยายามเข้าใจนะ ตอนแพรไม่ดูแลตัวเองก็โดนเรื่องหน้าตา พอดูแลตัวเองแล้วก็โดนดูถูกว่าดังเพราะหน้าตาแต่ฝีมือกระจอก ทุกวันนี้เลยมองแล้วเฉยๆ แพรคิดว่าการทำหน้าที่และการทำตามความฝัน สำคัญกว่าคำด่าและคำดูถูก”
(แอบเล่าว่าเร็วๆ นี้น้องแพรมีรับงานรายการเกี่ยวกับการ์ตูนของช่องหนึ่งด้วย ถ้าใครเป็นแฟนคลับ ขอให้ปักธงรอติดตามกันนะคะ)
“การบริหารเวลา” ขึ้นอยู่กับการพัฒนาตัวเองและเรียนรู้ปัญหา
ได้ฟังเรื่องที่น้องไข่ดาวเล่าแล้วแอบโล่งเบาๆ ที่ไม่ได้ท้อแท้จนทำอะไรไม่ดีไปซะก่อน ว่าแต่เรารับงานเยอะขนาดนี้ มีปัญหาเรื่องการแบ่งเวลารึเปล่า? “ช่วงแรกๆ มีปัญหาหนักมากกก เพราะแพรแบ่งเวลาไม่เก่งเลย ช่วง 3 เดือนแรกที่คลิปไข่ดาวดัง ลูกเค้ามาคุยงานหลากหลายมากค่ะ งานบางอย่างแพรฝึกทำซ้ำไปซ้ำมาคนเดียวในห้องทั้งคืน บางคลิปแก้เป็นอาทิตย์เลย ไปโรงเรียนขอบตาดำทุกวัน บางทีไปหลับคาบว่าง ถ้ามีช่วงจดงานจะรีบทำให้เสร็จแล้วพักสายตา แล้วด้วยความที่เราอยู่ห้องวิทย์คณิตห้องคิง แพรไม่ถนัด แถมเพื่อนๆ เก่งกันหมด หนูลำบากมาก กลับมาถึงบ้านโพสต์รูปเสร็จคอมเมนต์นิดหน่อย แล้วนอนพัก 3 ชั่วโมงมาทำงานต่อ”
“โชคดีอย่างที่ช่วงงานเยอะๆ คนรอบตัวและครูเริ่มยอมรับในตัวเราแล้ว ที่สำคัญคือหลังจากแพรไปคุยกับครูที่ห้องปกครอง ท่านก็อนุญาตให้แพรพกมือถือไว้ทำงานเพจติดต่อลูกค้าได้”
“ต่อมาแพรเริ่มทำงานให้ลูกค้าเป็นแล้ว เลยรู้สึกยากน้อยลง ไม่ค่อยมีแก้ ช่วงหลังๆ ทำเสร็จภายใน 4-5 ชั่วโมง หรือ 1 วัน เราต้องตีโจทย์ลูกค้าให้ออก จริงๆ แล้วเราใช้ประสบการณ์ดูแลเพจและทำโฆษณาด้วย ทุกวันนี้แพรไม่ได้รับงานจ้างวาดภาพให้ใครแล้ว ยกเว้นเล่นกิจกรรมในเพจแล้วแจกภาพวาดให้ลูกเพจค่ะ (แต่ถ้าอยากได้จริงๆ แล้วสู้ราคาไหวก็รับวาดนะ ><) ดังนั้นสำหรับแพร เรื่องแบ่งเวลาจึงขึ้นอยู่กับการพัฒนาฝึกฝนและเรียนรู้ปัญหาค่ะ”
ขอทิ้งท้ายบทความด้วยคำถามว่า ความพยายามทั้งหมดนี้ให้อะไรกับแพรบ้าง? “แพรได้อนาคตที่เราเลือกเองค่ะ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการที่เราเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้ แพรได้ทำงานที่ตัวเองรัก เลี้ยงดูครอบครัวให้อยู่สบายได้ แพรมีความสุขที่สุดแล้ว คุ้มกับการทำงานและความพยายามหลายปีที่ผ่านมา”
นอกจากความสามารถรอบด้านแล้ว เธอยังมีความคิดความอ่านที่สุดยอดแม้จะอายุน้อย ที่สำคัญคือฝ่าวิกฤตการโดนดูถูกมาได้ด้วยการพิสูจน์ตัวเองด้วย! สารภาพตามตรงว่าพี่ไม่ใช่สายการ์ตูน แต่ตอนนี้ตกหลุมรักเน็ตไอดอลสายการ์ตูนคนนี้แล้วค่ะ ถ้าใครหลงรักเหมือนกัน เราขอชวนไปติดตามกันที่เพจ “หนูมินตันทาสกระดาน” หรือ Join กันที่กรุ๊ป "การ์ตูนดิ๊งด่อง" ได้นะคะ รับรองมีทั้งสาระและความบันเทิงรอเสิร์ฟอยู่ และสำหรับน้องๆ ที่อาจเจอปัญหาชีวิตคล้ายๆ กัน พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องฝ่าไปได้เช่นกันนะคะ :)
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><
‘อาร์ม’ ตำรวจหนุ่มจบใหม่ที่เป็นข่าวดัง
หลังจับกุมชายที่ฆ่าพ่อตนเมื่อ 20 ปีก่อนสำเร็จ!
6 ความคิดเห็น
สุดยอดไปเลย อ่านแล้วมีกำลังใจ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ จริงๆ พี่็ติดตามนาน มาพอสมควร ^^ พอได้เห็นอะไรที่ลึกขึ้น ทำให้ยิ่ง หลงในตัวตนน้องเลย น้องเก่งมาก สู้ๆนะครับ
เเเพรนี่อายุเท่าไหร่หรอ
ชอบน้องคนนี้จังเลย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ชอบที่เขาเป็นคอเกมด้วยนี่แหละ เพราะเกมคือศิลปะชั้นสูงจริงๆนะ ทั้งงานเล่าเรื่อง งานวาดภาพ งานกราฟฟิก งานโปรแกรมมิ่ง และงานแต่งดนตรี คิดดูสิว่าพวกผู้ใหญ่ต้องทำงานกันเป็นทีมเพื่อให้ได้เกมๆหนึ่งมาให้ทุกคนได้เล่น คนที่ใช้เกมเพื่อเป็นเสมือนโลกแห่งจินตนาการและโลกที่คุ้มกันจิตใจจะต้องเป็นคนจิตใจดีแน่ๆ :D
นี่ขนาดว่าไม่ได้เรียนปรัชญาหรือพุทธธรรมนะ น้องเขายังเข้าใจสัจธรรมได้ดีกว่าชาวพุทธที่เข้าวัดฟังธรรมบางคนเสียอีก
“ทุกวันนี้มีคนด่าหรือแขวะอยู่บ้าง ในคลิปไข่ดาวมีเยอะเลยค่ะ ‘ปัญญาอ่อน’ ‘เอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่ามั้ย’ ‘ไปกรอกน้ำดีกว่ามั้ย ช่วยพ่อแม่บ้าง’ ประมาณนี้ หรือพวก inbox มาด่าหยาบๆ ส่วนเด็กวาดรูปบางคนก็มาบอกว่า ‘เด็กคนนี้ดังเพราะหน้าตาแอ๊บแบ๊ว แต่ฝีมือวาดรูปกระจอก’ แพรพยายามเข้าใจนะ ตอนแพรไม่ดูแลตัวเองก็โดนเรื่องหน้าตา พอดูแลตัวเองแล้วก็โดนดูถูกว่าดังเพราะหน้าตาแต่ฝีมือกระจอก
ทุกวันนี้เลยมองแล้วเฉยๆ แพรคิดว่าการทำหน้าที่และการทำตามความฝัน สำคัญกว่าคำด่าและคำดูถูก”
เราจะจำคำน้องเขาไว้ที่สอนว่า
"การทำหน้าที่และการทำตามความฝัน สำคัญกว่าคำด่าและคำดูถูก”
1- แขวะกันไปแขวะกันมามั๊ง หุ หุ คุณว่า "เเกมคือศิลปะชั้นสูงจริงๆนะ" งั้นอย่างอื่นมันศิลปะชั้นต่ำเนอะ
2- คุณว่า "คนที่ใช้เกมเพื่อเป็นเสมือนโลกแห่งจินตนาการและโลกที่คุ้มกันจิตใจจะต้องเป็นคนจิตใจดีแน่ๆ" คนดีหรือไม่ดี ดูกันอย่างนี้นี่เอง...เนอะ...เอามาจากไหนหล่ะนี่วิธีดูคนดีหรือไม่ดีแบบนี้???
3- คุณว่า "นี่ขนาดว่าไม่ได้เรียนปรัชญาหรือพุทธธรรมนะ น้องเขายังเข้าใจสัจธรรมได้ดีกว่าชาวพุทธที่เข้าวัดฟังธรรมบางคนเสียอีก" ผมว่าคุณต้องศึกษาธรรมะอีกเยอะเลยนะคับดูจาก 2ข้อที่ผมยกมานี้ มันมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา หรือ มรรคมีองค์8 อยู่บ้างไหมนี้ น้องก็เป็นคนดีในระดับนึง หาเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย (แต่ทางธรรม จริงๆแล้วเงินเปรียบเหมือนงูพิษ) มีความเป็นนักสู้ ใช้เวลาอย่างมีค่า ฯลฯ ซึ่งในทางธรรม พวกนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่วุ่นอยู่ในทางโลก (โลกียะ) ทางธรรมเขาสอนให้ยิ่งกว่านี้เพื่อการหลุดพ้น พ้นทุกข์อย่างแท้จริงครับ มันอยู่ที่กาย ใจเรานี้ ไม่ใช่เรื่องเงินทองชื่อเสียงเกียรติยศ
เก่งอะไรเบอร์นี้อ่ะ ติดตามๆๆๆ
ขอบคุณ