สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ "เด็กพลังบวก" ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
เมื่อวันที่ 15-30 เม.ย. ที่ผ่านมา ค่าย YG Entertainment ได้จัดการแข่งขัน BLACKPINK ‘KILL THIS LOVE’ DANCE COVER CONTEST WITH Kia ซึ่งผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศและคว้าเงินรางวัล 20 ล้านวอน (ราวๆ 531,703 บาท) ก็คือ “Victory Crew” ทีมคัฟเวอร์จากเชียงใหม่บ้านเรานั่นเองค่ะ สุดยอดมากกกก!! แล้วสิ่งที่เหลือเชื่อคือเขาจะตัดสินจากยอดวิว 50% และคณะกรรมการจาก YG 50% ซึ่งช่วงที่ตัดสินตอนนั้น คลิปของพวกเธอมีเพียง 6,000 วิวเท่านั้น ในขณะที่มีทีมอื่นๆ ยอดวิวสูงมาก เท่ากับว่าทีมพวกเธอเสียเปรียบในคะแนนส่วนยอดวิวแน่ๆ เราจึงเชื่อว่าการเต้นและอินเนอร์ของน้องๆ ต้องโดนใจคณะกรรมการจนดึงคะแนนรวมให้สูงขึ้น และคว้าชัยชนะในที่สุด เดี๋ยวเราจะพาไปชมคลิปดังกล่าว พร้อมฟังเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นผลงานโบว์แดงชิ้นนี้กันค่ะ!
(MV เพลง KILL THIS LOVE เวอร์ชั่นที่คัฟเวอร์โดย Victory Crew)
* ล่าสุดคลิปยอดวิวทะลุ 1 ล้านแล้วค่ะ (13/06/62)
* ล่าสุดคลิปยอดวิวทะลุ 1 ล้านแล้วค่ะ (13/06/62)
(MV เพลง KILL THIS LOVE - BLACKPINK)
แนะนำตัว
น้องๆ ที่มานั่งพูดคุยกับเราคือ ‘มะยา’ - นภัสสวรรค์ ประทุมเมศร์ หญิงสาววัย 17 ที่คัฟเวอร์เป็น Lisa ค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ในทีมอีก 3 คน ได้แก่ 'โมมายล์' (Jennie), 'เพา' (Jisoo) และ 'เอมิลี่' (Rosé) ทุกคนอายุอยู่ในช่วง 16-17 เหมือนกันหมดเลยค่ะ
มะยาเริ่มต้นเล่าที่มาที่ไปในการส่งคลิปเข้าประกวดครั้งนี้ว่า “หลังจาก BLACKPINK ออกซิงเกิลใหม่ KILL THIS LOVE ทางค่ายก็เปิดให้คนทั่วโลกส่งคลิปเข้ามาประกวด โดยให้โพสต์คลิปลงยูทูบกับอินสตาแกรม และติด # ที่กำหนดไว้ จากนั้นต้องกรอกฟอร์มทีมละ 1 ฟอร์ม เป็นชื่อทีมและข้อมูลติดต่อของผู้เข้าแข่งขันค่ะ เกณฑ์การตัดสินคือยอดวิวในยูทูบและคะแนนจากคณะกรรมการ (ท่านประธานหยาง แห่ง YG Entertainment และอาจมีสาวๆ วง BLACKPINK ด้วยค่ะ)"
และวินาทีทีรู้ผล... "ตกใจมากกกก อยู่ๆ ตื่นมาแล้วมีคนแท็กเรามาใน IG Story พอไปดูเลยรู้ว่า Victory ได้ที่ 1 โหตอนนั้นอึ้งไปหลายวิ แล้วรีบทักไปหาคนอื่นรัวๆ มันเหนือความคาดหมายมากๆ ครูเหน่งที่เป็นผู้ก่อตั้ง Dancezone Thailand บอกว่าเราน่าจะได้คะแนนจากทาง YG เยอะมาก เพราะยอดวิวในยูทูบเราแค่ 6,000 แล้วอันดับ 2-3 เป็นแสนเป็นล้าน”
เบื้องหลังคลิป = ไหวพริบและความเป็นผู้ใหญ่
“ต้องเล่าก่อนว่าปกติ Dancezone จะถ่ายคลิป Cover ลงยูทูบลงเพจอยู่แล้ว ครูเขาอยากให้ทุกคลิปดูดี และอยากให้เด็กมีโพรไฟล์ด้วย พอมีการประกวดนี้เราก็อยากลองส่งบ้าง โดยครูได้คัดคนที่จะโคฟโดยพิจารณาจากคาแรกเตอร์ อย่างเจนนี่จะหน้าดุๆ คล้ายๆ ‘โมมายล์’ / จีซูก็จะนิ่งๆ สวยๆ เหมาะกับ ‘เพา’ / โรเซ่ร้องเพลงดี ดูเป็นสาวๆ ก็เหมาะกับ ‘เอมิลี่’ / ส่วนลิซ่าเป็นแร็ปเปอร์ ซึ่งก็คือมะยาเอง เพราะปกติในทุกๆ วงเรามักอยู่ตำแหน่งแร็ปอยู่แล้ว ก่อนถ่ายทำทุกครั้งเราก็ต้องจำคำเกาหลีที่เขาพูดออกมา แล้วฝึกฝนเรื่อยๆ ค่ะ”
“สำหรับ MV เพลง KILL THIS LOVE มีดีเทลเยอะมากๆ เพราะคนคิดท่าเป็นฝั่งอเมริกา เก็บรายละเอียด เก็บบีท เก็บไลน์ แล้วปกติในทุกๆ เพลง พวกเราพยายามแกะให้เป๊ะที่สุด เลยทำให้เรายิ่งเครียดว่าจะแต่ละท่าทำยังไงกันแน่ เพื่อนๆ ก็ต่างคนต่างแกะ ใช้เวลา 1 คืน พอเอามารวมก็ต้องปรับไลน์กัน ถ้าใครแกะผิดก็มารีเช็กกันว่าจริงๆ มือทำยังไง ขาเป็นยังไง”
และสำหรับคลิปดังกล่าว ความท้าทายคือเรื่องระยะเวลาที่กระชั้นมากๆ “เรามีเวลาซ้อมแค่ 3-4 วัน เพลงออกก่อนสงกรานต์ พอสงกรานต์เราก็ต้องซ้อมและวิ่งหาชุด (ซึ่งร้านส่วนใหญ่ก็ปิด เลยต้องสั่งซื้อแทน) เพราะหลังจากนั้นเราก็ต้องถ่ายวิดีโอแล้ว พวกเราดูแลกันเอง ซ้อมเอง แกะท่าเอง เคลียร์ไลน์เต้น หาเสื้อผ้า แต่งตัวแต่งหน้า เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมจะมีครูช่วยคอมเมนต์ มี ‘ครูเหน่ง’ (ผอ. Dancezone) รวมถึงท่านอื่นๆ ช่วยเรื่องโปรดักชั่น ติดตั้งไฟและฉากต่างๆ เขาเป็นโปรดิวเซอร์ที่ครีเอตมากๆ เช่น ตอนฉากเต้น ให้ทุกคนเก็บใบไม้แห้งมากองรวมกันตรงพื้นเป็นพร็อป แล้วเต้นบนใบไม้"
“ส่วนฉาก Let’s kill this love แล้วมีระเบิด หลายคนอาจคิดว่าทีมเราใช้งบเยอะ แต่จริงๆ เราใช้แป้งเย็นกับเศษขนมปัง พอถ่ายเสร็จตัวขาวไปหมด ต้องมานั่งเช็ด 5555 ไอเดียนี้มี 'ครูต้น' ช่วยคิดให้ค่ะ แล้วฉากที่มีผมปลิวเราก็ใช้พัดลมเป่า สรุปแล้วสิ่งที่เราลงทุนงบไปเยอะคือกล้องกับไฟ นอกนั้นประยุกต์จากของที่มีอยู่น้อยนิด”
“คลิปนั้นมีประมาณ 6 เทค สำหรับหลายๆ ซีน หลายๆ ช็อต ทั้ง Wide Shot (เห็นทั้งตัว) Medium Shot (ช่วงไหล่เป็นต้นไป) และ Moving Shot ที่ครูหญิงอยากให้เราเดินเข้าออกให้ดูมีมิติ และมีฉากอื่นๆ เช่น ฉากไฟข้างหลัง เราก็จะถ่ายเผื่อไป 2 เทคค่ะ พวกเราต้องขอขอบคุณครูเหน่ง ครูอ้น ครูอาร์ต ครูหญิง และครูต้นที่คอยสนับสนุนด้วยนะคะ ^^"
เรามาชมคลิปเบื้องหลังสั้นๆ กันเลยค่ะ
เส้นทางสายแดนซ์ของทีม Victory Crew
เมื่อถามถึงการฟอร์มวง มะยาก็เล่าที่มาให้ฟังว่า “เวลาเข้าไปเรียนที่ Dancezone ต้องจับกลุ่มเข้าไปเรียน เปิด Private Class ตอนแรกมีหนูกับเอมิลี่ + เพื่อนอีก 2 คน รวมเป็นทีม Victory Crew รุ่นแรก พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ มีคนมาเรียนเพิ่ม เราก็ชวนเข้ามาคลาสของเรา มีคนเข้าๆ ออกๆ ตลอด ถ้านับเมมเบอร์ทั้งหมดก็ 10 คนค่ะ ทุกคนที่เข้ามาจะดูมีความมั่นใจมีแนวเป็นของตัวเอง แล้วเราก็มาปรับสไตล์ให้เข้ากัน" นอกจาก BLACKPINK ทีมเราโคฟวงไหนอีกบ้าง? "วง (G)I-DLE ค่ะ ล่าสุดไปแข่ง Chiangmai Dance Fest ได้ที่ 1 ด้วย ส่วนวงอื่นๆ ก็เช่น MOMOLAND ที่ใช้จำนวนคนมากที่สุด”
จากที่เราอยู่ตั้งแต่รุ่นแรก สังเกตเห็นพัฒนาการของสมาชิกวงเรายังไงบ้าง? “มะยาอยู่กับเอมิลี่ตั้งแต่ 10 ขวบเลย เรียนเต้นที่เดียวกันตลอด สังเกตว่าเขาเต้นดีขึ้นทุกปีเลยค่ะ ส่วนโมมายล์ เขาควบคุมแรงที่ใช้เต้นได้ดีขึ้น แสดงออกทางสีหน้าและลิปซิงค์ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“ส่วนคนที่หนูสังเกตว่าเขาพัฒนาเร็วมากกก คือ เพา ตอนแรกเขาไม่ใช่สายคัฟเวอร์ แต่เป็นสาย Hiphop, Jazz และ Contemporary Dance พอมาเริ่มเรียนที่นี่เลยเก้ๆ กังๆ บ้าง เราเลยสอนเทคนิค ตอนนี้เขาเต้นเก่งขึ้นมากๆ อินเนอร์มาเต็ม ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น”
แล้วมะยารู้สึกได้ถึงพัฒนาการของตัวเองยังไงบ้าง? “เราเริ่มเรียนเต้นบัลเล่ต์ตั้งแต่ 3 ขวบ เต้นมา 14 ปี เริ่มจากแนวฮิปฮอป แล้วมาเต้นโคฟ 4-5 ปีได้ ตอนอายุ 13 เรายังไม่รู้จักตัวเองว่าชอบและถนัดแนวไหนกันแน่ จนไปเจอ ‘1MILLION DANCE STUDIO’ ที่เกาหลี ซึ่งเป็นสถาบันที่ขึ้นชื่อมาก คอนเนกชั่นเยอะ ครูที่สอนที่นี่ก็ไปสอนตามค่ายต่างๆ ทั้ง JYP, YG, SM เลยขอคุณแม่ไปเรียนเป็นเวลา 30 ชม. พอกลับมาชีวิตพลิกเลยย กลับมารู้สึกตัวเองเต้นได้ดีขึ้น เราสามารถถ่ายทอดความรู้สึกตัวเองผ่านการเต้นได้มากขึ้น ใช้กล้ามเนื้อ ใช้หน้าใช้ตาดีขึ้น มั่นใจกว่าเมื่อก่อน”
“จริงๆ คอร์สนี้เป็นคอร์ส Unlimited เข้ากี่คลาสก็ได้เป็นเวลา 1 เดือน เราอยู่แค่ 7 วัน และเรียนถึง 4 ทุ่มทุกวัน เพราะมีงบจำกัด แต่มันคุ้มค่ามากๆ อาจเพราะที่นั่นอยู่ต่างแดนและเรามีเวลาจำกัด เลยผลักดันให้เราอยากใช้เวลาคุ้มค่าที่สุดค่ะ”
แล้วเราเองเป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลีด้วยรึเปล่า? “หนูเป็น A.R.M.Y ค่ะ (ชื่อเรียกแฟนคลับ BTS) เราเห็นว่าพวกเขามีความพยายามในทุกสเต็ป เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แล้วเติบโตจนมาเป็นเขาในวันนี้ ไม่มีอะไรได้มาแบบง่ายๆ เลย เราดีใจแทนพวกเขา และประสบการณ์นั้นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากๆ”
“ทุกวันนี้เราก็เป็นครูสอนเต้น และส่งเด็กไปแข่งบ้างค่ะ เราคิดว่าหลังจากมาสายเต้นเยอะแล้ว น่าจะลองมาเป็นสายโค้ชบ้าง ถ่ายทอดความรู้ให้รุ่นต่อไป ส่วนเป้าหมายในอนาคตเรื่องการเรียนต่อ เราอยากไปเรียนทางสายเต้นที่ Korea National University of Arts"
ลำดับความสำคัญให้ดี และพยายามมองหาคอนเนกชั่น
"อยากฝากถึงน้องๆ ว่า ชีวิตเรามีขึ้นมีลง เราอาจมีช่วงที่ทุกอย่างดาวน์ไปหมด บางทีอาจแย่มากจนเราหาหนทางไม่เจอ หรือดีมากจนเราลืมไปว่า วันต่อมามันอาจแย่ไปเลยก็ได้ เราต้องคอยหาวิธีรับมือกับอุปสรรคนั้น ตั้งสติ จัดลำดับความสำคัญว่าควรทำอะไรก่อนหลัง แล้วพอเราผ่านมรสุมมากได้ เหตุการณ์เหล่านั้นจะให้บทเรียนราคาแพง”
“และสำหรับคนที่สนใจวงการเต้น คอนเนกชั่นสำคัญมากค่ะ เวลาฟอร์มวงใหม่ๆ เป็นเด็กใหม่ในวงการ คนอาจยังรู้จักเราไม่เยอะ เราอาจต้องลงทุนไปหาประสบการณ์เอง เดินไปคุยกับครู เข้าเวิร์กช็อป หาสตูดิโอต่างๆ ที่เขาเปิด ฯลฯ แล้วจะเป็นผลดีต่อตัวเรา ถ้ามีคนสังเกตเห็นว่าเราเต้นดี อาจจะติดต่อให้เราไปทำงานด้วยกัน ได้โพรไฟล์และเติบโตในสายนี้ได้ค่ะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาถึงพวกเรานะคะ”
กว่าจะมาเป็น Victory Crew และคว้ารางวัลสุดยิ่งใหญ่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ทุกคนล้วนแต่ผ่านช่วงที่พยายามอย่างหนักหน่วงและมีวินัยเพื่อความฝันของตัวเอง ดังนั้นพี่ก็อยากให้ชาว Dek-D คว้าโอกาสที่เข้ามาในชีวิต หรือบางครั้งก็เดินเข้าหาโอกาสบ้าง แม้สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันไว้ อย่างน้อยเราจะได้บทเรียนที่เพิ่มโอกาสสำเร็จในวันข้างหน้า สุดท้ายนี้ หากใครอยากชมผลงานของวงนี้ ก็ตามไปฟอลกันได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Victory Crew ไอจี @crew.victory หรือยูทูบแชนเนล DANCEZONE Chiangmai นะคะ ^^
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><
'NALU' เด็กมัณฑนศิลป์สายแฟชั่น
กับงานแฟนอาร์ตที่ละมุนจนยอดฟอลแสน!
กับงานแฟนอาร์ตที่ละมุนจนยอดฟอลแสน!
0 ความคิดเห็น