สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก Special” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากผู้ที่มีแพสชันในการทำสิ่งที่รัก และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ในสังคมกันค่ะ
ใครเคยเจอบางงานที่ดูน่าทำมากๆ แต่ไม่กล้าเริ่มเพราะคิดว่า "มันเป็นไปไม่ได้หรอก" บ้างมั้ยคะ? เกริ่นแบบนี้เหมือนเราจะมาชวนทำธุรกิจหรือนั่งพูดการันตีความสำเร็จให้น้องๆ แต่ไม่ใช่นะ! 555 วันนี้เราแค่จะพาไปฟัง 1 เคสของคนที่กล้าเริ่มแล้วไปรอด ทำเงินได้ แถมฝีมือพัฒนามาไกลมาก โดยเธอคนนี้เรียนสายวิทย์มาตลอดและเชื่อว่าตนไม่เก่งวาดรูป แต่สุดท้ายมาเริ่มทำสติกเกอร์เรื่อยๆ จนขายดีและมีแฟนคลับซื้อสะสมด้วย พอเราได้คุยแล้วก็จับได้ว่า เธอมองเห็นโอกาสตั้งแต่มันยังเป็นจุดเล็กๆ อยู่ไกลลิบๆ แล้วกล้าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้
ว่าแต่...เธอไปมองเห็นโอกาสพวกนั้นตอนไหนบ้างล่ะ?
แนะนำตัว
"สวัสดีค่ะ ชื่อ 'มด' พรวฤณ เหรียญรุ่งโรจน์ อายุ 35 ปี เรียนสายวิทย์มาตั้งแต่มัธยม และต่อ ป.ตรี - ป.โท คณะวิทยาศาสตร์ จาก ม.สงขลานครินทร์ ค่ะ ^^"
เป็นนักวิทยาศาสตร์
แต่แฮปปี้กับงานอิสระ
"หลังเรียนจบเราก็มาทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ค่ะ ต้องอยู่ในห้องแล็บตลอด หน้าที่หลักของเราคือวิจัยปุ๋ยและดิน นำตัวอย่างจากเกษตรกรมาวิเคราะห์หาธาตุอาหาร จริงๆ เราไม่ใช่ว่าไม่ชอบทางนี้นะ เพราะก็เลือกเรียนวิทย์มาตลอด แต่ใจเราอยากออกมาทำธุรกิจอะไรที่เป็นของตัวเอง และอยากหาทางเลี่ยงสารเคมีที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย"
คิดหนักรึเปล่าที่ต้องลาออกจากงานประจำ มายึดอาชีพที่หลายคนอาจมองว่ามันเสี่ยง โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้? "มุมมองพี่อาจต่างออกไป พี่เลือกงานที่ตัวเองจะมั่นคงกับมันได้มากกว่า ซึ่งก็คืองานที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข และไม่ป่วย ซึ่งถ้าตรงข้ามจากนี้ ถึงตัวงานจะสร้างรายได้มั่นคงแค่ไหน มันก็ดันเป็นตัวเราเองที่ไม่มั่นคงกับมัน สุดท้ายก็ทำได้ไม่นาน"
วาดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ
"จริงๆ พี่ทำงานพิเศษมาตลอด แต่ไม่เคยคิดเรื่องสติกเกอร์ไลน์มาก่อนเลยค่ะ จนวันนึงเรามานั่งมองว่าเดี๋ยวนี้คนใช้โซเชียลเยอะมาก รุ่นพี่ที่รู้จักก็ชอบซื้อสะสมเป็นร้อยๆ เซ็ต เลยเชื่อว่างานนี้น่าจะสร้างรายได้ให้เราได้นะ จากนั้นก็มีแบรนด์นึงจัดประกวดวาดคาแรกเตอร์เพื่อไปทำสติกเกอร์ เราก็ลองส่งแต่ไม่ได้รางวัลอะไรเลย 5555 สิ่งที่ทำให้เรายังตัดสินใจวาดต่อก็คือ เราเห็นอันดับ 1-3 เขาเป็นมือสมัครเล่นเหมือนเรา แต่เขามีไอเดีย ทำให้เข้าใจว่าเรื่องศิลปะ การ์ตูน มันเป็นความชอบส่วนบุคคล"
"เซ็ตแรกพี่วาดเป็นตัว 'มดตะนอย' ที่สอดคล้องกับชื่อเรา แล้วเราก็วาดไม่เก่งเลยอยากเริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนค่ะ ปรากฏว่าชุดแรกขายได้ 10 ดาวน์โหลด แถมเป็นของเพื่อนไปครึ่งนึง! 55555 ถ้าใครเห็นตัวเลขนี้อาจจะท้อจนเลิกก็ได้ แต่พี่คิดว่าการที่มันมียอดขึ้นมา แสดงว่างานนี้เป็นไปได้ ตอนนั้นพี่ใช้วิธีทำไปเรียนไป (เรียนใน youtube) วาดบนแอปฯ ใน iPad ทำมาประมาณ 10 เซ็ต แล้วก็ลงทุนซื้อเมาส์ปากกาวาดลงคอมพ์แบบจริงจังมากขึ้นค่ะ"
เกี๊ยวซ่าเปลี่ยนชีวิต
"เราวาดเรื่อยๆ จนถึงชุด 'เกี๊ยวซ่า' คือชุดที่ 21 เป็นผู้หญิงแก้มยุ้ยๆ ป่องๆ ออกแนวกวนๆ เซ็ตเปลี่ยนชีวิตที่ผลตอบรับดีมาก คนจำพี่ได้เพราะเซ็ตนี้เลย" คาแรกเตอร์เกี๊ยวซ่ามาจากตัวเราเองรึเปล่า? "ใกล้เคียงแต่ไม่ใช่นะๆ จริงๆ เริ่มจากเราวาดตัวพี่สาวก่อน ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์เรา 100% เลย แต่รู้สึกตลาดชอบแนวกวนๆ มากกว่าเลยดัดแปลงเป็นเกี๊ยวซ่าค่ะ ปรากฏว่าพอออกมาได้ 20 วัน ทางไลน์ก็เชิญไปทำสติกเกอร์แบบมีเสียง พี่ดีใจมากกกก รู้สึกมันสำเร็จมากๆ เลย เป็นจุดเปลี่ยนที่เราคาดไม่ถึง"
จากหลักพันสู่หลักแสนต่อเดือน!
"ทุกคนจะบอกว่าเราวาดรูปไม่เก่ง และเราก็คิดแบบนั้นมาตลอดว่าเราไม่มีสกิลด้านนั้นเลย แต่เราอาศัยใจรัก ชุดแรกไม่ได้ใช้สกิลมาก พอทำออกมาก็ไม่ได้ตอบโจทย์ตลาดเท่าที่ควร แต่พยายามพัฒนามาเรื่อยๆ พอวาดจนเจอแนวที่ชอบก็สนุก และอยู่กับมันได้นาน"
"รายได้ช่วงแรกแค่หลักพันต่อเดือน แต่ก็เกือบแตะหมื่น พอทำไปได้ 5-10 ชุดก็หลักหมื่น ถ้ามีวินัยเราก็จะมีรายได้ต่อเดือนที่มั่นคง จนมาถึงช่วงเกี๊ยวซ่าที่มีคนชอบเยอะๆ ก็กลายเป็นหลักแสนค่ะ ^^"
แต่ทุกวันนี้ก็ยอมรับว่าคู่แข่งเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ เรากังวลเรื่องนี้รึเปล่า? "พี่ว่ามันคือธณรมชาติของธุรกิจ มันคืองานขาย และสติกเกอร์ที่พี่ทำก็คือสินค้าตัวนึง การมีคู่แข่งจะทำให้เรามีแรงผลักดัน ทำให้เราได้วิเคราะห์งานคนอื่น และทำให้เราไม่หยุดพัฒนา อีกอย่างพี่คิดว่าเสน่ห์ของสติกเกอร์ไลน์ คือการมีคนสร้างผลงานออกมาแตกต่างและหลากหลาย ถ้ากลับกันในตลาดมีแค่ผลงานเรา คนก็ไม่มีสิทธิ์เลือก สติกเกอร์อาจไม่เป็นที่นิยมก็ได้ค่ะ ^^"
ส่วนหนึ่งของสติกเกอร์ที่สร้างโดย Modtanoy
"จริงๆ มันอยู่ที่มุมมองต่อสิ่งที่เจอ ถ้าเราคิดบวกกับมัน เราก็จะมีกำลังใจสู้ต่อ พอพี่มองเห็นความเป็นไปได้ ก็พยายามพัฒนาฝีมือ เพราะเชื่อว่ายอดโหลดนั้นอาจจะเพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้"
เริ่มด้วยใจ แล้วทำให้สุดฝีมือ
"ถ้าใครคิดจะเริ่มต้น ให้เริ่มต้นด้วยใจ วาดด้วยความสนุก อาจจะลองทำเป็นงานเสริมก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าเกิดรายได้ดีค่อยลงเต็มตัว พี่อยากฝากอย่างเดียวคือเรื่องแพสชัน ความปรารถนาแรงกล้าต่ออาชีพนั้นๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องใส่ใจลงไปเต็มที่ ทำให้สุดฝีมือ พี่เชื่อว่างานนั้นจะต้องสำเร็จสักวัน"
เห็นมั้ยคะว่าเรื่องการคิดบวกคือจุดแข็งของเธอจริงๆ เพราะดูมีหลายสถานการณ์ที่ชวนท้อ แต่เธอเลือกที่จะบวกจนผ่านมาได้ ใครที่กำลังพยายามฝึกฝนสิ่งที่ตนไม่ถนัด เราก็ขอส่งกำลังใจให้เต็มที่ อย่างน้อยถ้าไม่สำเร็จ ก็จะไม่เสียใจเพราะเราลงมือทำเต็มที่แล้ว ^^ สุดท้ายนี้ถ้าใครอยากอุดหนุน สามารถค้นหาชื่อ มดตะนอย ใน Line Store ได้เลยน้าา (ลายทางการ / ลายครีเอเตอร์) ลายเส้นน่ารักๆ น่ามีไว้ในครอบครองมากๆ ค่ะ
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกตอนที่แล้วนะคะ :)
'ฮับ' เด็ก 13 กับไอเดีย "โปรแกรมช่วยผู้พิการทางหู"
ที่เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายในงาน Google
1 ความคิดเห็น
เราเป็นคนวาดรูปที่ห่วยแตกมาก
บางรูปตรงกันข้ามกับภาพต้นฉบับ บางรูปใกล้เคียงกับภาพต้นฉบับ
ยกเว้น บ้าน ภูเขา ต้นไม้ พระอาทิตย์เท่านั้นแหละค่ะที่เหมือน
เวลาลงบทความกับแฟนฟิคในเด็กดีจะต้องหารูปหน้าปกบทความกับแฟนฟิค
เรามีไอดีในเด็กดี มี Facebook Twitter Line IG และล็อกอินใน Pantip
เราต้องไป Save รูปการ์ตูนที่เราหามาได้ลงคอมและเอามาใช้แทนตัวเอง
แทนที่จะวาดรูปเอง เอาตัวการ์ตูนที่เราชอบมาวาดในสไตล์ของเราเอง
ส่วนหน้าปกนิยาย แค่รูปอิมเมจตัวละครยังไปไม่รอด วาดหน้าปกนิยายเองจะเหลือเหรอ
เราไม่ชอบลงรูปหน้าตัวเองค่ะ เราไม่ได้สวยเหมือนดารานักร้องซะหน่อย
ทำไมต้องเอารูปตัวเองลงด้วย