'เลิฟชนะ' โปรเจกต์เพื่อสังคมของเหล่าแฟนคลับกับแนวคิด ‘ความรักจะพานิวอีสต์ชนะทุกอย่าง’

อันยองงง สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D หลายคนอาจจะคุ้นชินกับการที่แต่ละแฟนด้อมเปิดรับบริจาคเพื่อทำกิจกรรมเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ ของไอดอลหรือดารานักร้องที่ชื่นชอบ (เช่น วันเกิดหรือวันครบรอบการเดบิวต์) ซึ่งกิจกรรมของแต่ละด้อมก็ล้วนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทำบุญ บริจาคเงินตามมูลนิธิต่างๆ ช่วยเหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา หรือองค์กรเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

กลุ่มแฟนคลับของ NU’EST (뉴이스트) หรือที่เรียกกันว่า ‘เลิฟ’ (ㄴㅇㅅㅌ/ LOΛE) ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีโปรเจกต์ในลักษณะนี้เช่นกัน แต่ไม่ได้ทำเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรอกนะคะ เพราะจุดเริ่มต้นนั้นเกิดจากการดูดวง จนก่อให้เกิด #เลิฟชนะ กับโปรเจกต์หล่อพระ และนำไปสู่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ที่กิ่งแก้วโดยร่วมมือกับโฆษกพรรคเพื่อไทย (ฝ่ายค้านของรัฐบาล)

วันนี้พี่ออมสินจะพาไปเปิดเบื้องหลังที่มาของ #เลิฟชนะ ที่เริ่มต้นจากความเชื่อมูเตลู จนกลายเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับการขนานนามว่าสร้างแรงกระเพื่อมและช่วยขับเคลื่อนสังคมจากกลุ่มแฟนคลับเกาหลี จะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันค่ะ

ทำความรู้จัก Nu’est กันก่อน

ก่อนจะไปพูดคุยกับทีมงานเลิฟชนะ เรามาทำความรู้จักกับ NU’EST ผู้จุดประกายให้เกิดโปรเจกต์ที่ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมากในขณะนี้กันก่อนค่ะ

NU’EST(뉴이스트) หรือ ‘New Establish Style Tempo’ กับความหมายที่ว่า การสรรค์สร้างดนตรีแนวใหม่ๆ ขึ้นมา บอยแบนด์จากแดนกิมจิ ไอดอลชายวงแรกจากค่าย Pledis Entertainment ค่ายเดียวกันกับ ‘ซนดัมบิ’ ศิลปินหญิงเดี่ยวที่โด่งดังและมีเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย  ‘After School’ เกิร์ลกรุปตัวแม่ อีกหนึ่งตำนานของชาวเกาหลี ซึ่งในช่วงก่อนเดบิวต์ นิวอีสต์ถูกเรียกว่าเป็น ‘After School Boys’ รวมถึงนักร้องบัลลาด 'ฮันดงกึน' และคุณ 'BUMZU (คเยบอมจู) และบอยกรุประดับท็อปอย่าง ‘Seventeen’ และเกิร์ลกรุปที่เปิดตัวมาปังมากๆ อย่าง Pristin  แต่ค่ายกลับยุบวงไปแล้วค่ะ  

NU’EST มีสมาชิก 5 คน คือ Aron (อารอน) JR (เจอาร์/จงฮยอน) Baekho (แบคโฮ/ดงโฮ) Minhyun (มินฮยอน) และ Ren (เร็น/มินกิ) เดบิวต์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2012 กับ ‘Face’ เพลงที่เรียกว่านำสังคมในสมัยนั้น เพราะนำเสนอการบูลลี่หรือการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ซึ่งได้กระแสตอบรับดีทีเดียว สามารถเปิดตัวอันดับที่ 15 ใน MelOn ชาร์ตสุดหินอันดับหนึ่งของประเทศ ในขณะที่ยอดวิว MV ก็ถล่มทลายและทะลุ 120 ล้านวิวไปเรียบร้อยแล้ว (อัปเดต ก.ค.64) เรียกว่าเป็น MV เดบิวต์ที่มียอดวิวมากที่สุดในปีนั้นเลยล่ะค่ะ

ทว่าเส้นทางในวงการบันเทิงเกาหลีที่การแข่งขันสูงเสียดฟ้านั้นไม่ง่าย แม้จะเปิดตัวมาดีและเป็นที่จับตามองจากสื่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่การบริหารจากค่ายต้นสังกัดที่ล้มเหลวและผิดพลาด ทำให้จากวงรุกกี้มาแรงค่อยๆ ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา 

ได้เวลาถอดหัวโขน

ในเมื่ออยากเดินบนเส้นทางสายนี้ต่อ แต่แสงไฟที่สาดส่องมาแทบไม่เหลือ พวกเขาจึงต้องดิ้นรนเพื่อค้นหาสปอตไลต์ของตัวเอง ในปี 2017 หลังจากที่เดบิวต์มาแล้ว 5 ปี เพื่อนๆ วงอื่นที่เริ่มต้นในปีเดียวกันกลายเป็นรุ่นพี่ในวงการที่ประสบความสำเร็จ แต่นิวอีสต์กลับต้องถอดชื่อวงออก ละทิ้งฐานะศิลปินและเริ่มต้นใหม่ในฐานะเด็กฝึกอีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน Produse 101 season 2 (อารอนพี่ใหญ่ของวงไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากปัญหาสุขภาพ)

แม้จุดเริ่มต้นในรายการจะทำได้ไม่ดีเพราะความกดดัน อีกทั้งต้องแบกรับคำวิจารณ์ด้านลบมหาศาล แต่พวกเขาทั้ง 4 คนก็อดทน ต่อสู้ และค่อยๆ สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย จนสามารถกอบโกยชื่อเสียงรวมถึงฐานแฟนคลับได้เป็นกอบเป็นกำ จนใครๆ ก็คาดการณ์ว่า 3 ใน 4 จะเป็นผู้ชนะ 11 คนสุดท้ายของรายการ

และในวันประกาศผลไฟนอลก็ทำเอาแฟนๆ และชาวเกาหลีช็อกตาตั้ง สั่นสะเทือนกันไปทั้งประเทศ เมื่อมีเพียงมินฮยอนที่สามารถชนะผลโหวตและได้เดบิวต์ในนาม Wanna One ในขณะที่ลีดเดอร์แห่งชาติอย่างคิมจงฮยอน (JR) และคนที่กระแสถล่มทลายอย่างคังดงโฮ (ฺBaekho)('เมกะท่อนบอม' คำเดียวพาไอติมหมดประเทศ) กลายเป็นผู้ที่ตกรอบ ซึ่งหลังจากมีการสอบสวนประเด็นการโกงของรายการแล้วปรากฏว่า 'คังดงโฮ' เป็นผู้ที่มีคะแนนอยู่ใน 11 อันดับแรกของการประกาศผลรอบไฟนอล ทำให้เค้าไม่ใช่คนที่แพ้แต่เป็นผู้ชนะตัวจริงต่างหาก // อ่านเรื่องมหากาพย์การโกงของรายการเซอร์ไววัลได้ ที่นี่ 

ทำให้ในคืนนั้นเองล่ะค่ะ ที่เพลงเก่าๆ นับสิบเพลงของนิวอีสต์ยกขบวนพาเหรดกันติด Top100 ทุกระบบชาร์ต เพลง 'Hello' ไต่ขึ้นไปจนอยู่อันดับ 3 ในชาร์ต MelOn และครองอันดับ 1 ชาร์ต Genie กลายเป็นไอดอลย็อกจูแฮง (역주행 = เพลงที่กลับมาปังเป็นไวรัลอีกรอบ) วงใหม่ของวงการบันเทิงเกาหลี

ต้นแบบไอดอลแห่งความหวัง

หลังจากจบรายการนิวอีสต์ที่เหลือกัน 4 คน พวกเขาก็ตัดสินใจโปรโมตเป็นยูนิตที่ชื่อว่า NU’EST W (W=Wait) และปล่อยเพลงพิเศษที่ชื่อ ‘있다면’ (If you) เพื่อเป็นของขวัญให้ ‘เลิฟ’ เหล่าแฟนคลับที่รอคอยการกลับมาของพวกเขา ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมากกกกแบบติดอันดับ Top ทุกชาร์ต และได้เข้าชิง MBC Music Core รายการเพลงจากช่องสาธารณะเกาหลีเป็นครั้งแรก! แม้ว่าจะได้เพียงอันดับที่ 2 เพราะมีเพียงแค่คะแนนจากยอดดิจิทัล+คะแนนโหวต แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของพวกเขาเลยล่ะค่ะ

ต่อมายูนิต W ได้ปล่อยผลงานเพลงระหว่างรอการกลับมาของมินฮยอน เพลงโปรโมต 'Where you at' จาก W.HERE มินิอัลบั้มแรกในนามของยูนิต ทำให้วงสามารถชนะรายการเพลงครั้งแรกหลังจากที่เดบิวต์มานานถึง 5 ปีกว่า รวมถึงงานประกาศรางวัลปลายปี ก็ได้รางวัลใหญ่ครั้งแรกจากอัลบั้มนี้เหมือนกันค่ะ

และในปี 2019 เมื่อพวกเขากลับมารวมตัวกันครบ 5 คนอีกครั้ง ก็ได้รับความสนใจจากมหาชนเป็นอย่างมาก และได้ปล่อยงานเพลงในฐานะ NU’EST เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี กับมินิอัลบั้มชุดที่ 6 Happily Ever After กับเพลงโปรโมต Bet Bet ที่สามารถชนะรายการเพลงในนามวงเต็มครั้งแรก และถือสถิติวงที่ใช้เวลาคว้า First win นานที่สุด กับระยะเวลา 2613 วัน //ที่ปัจจุบันยังไม่มีใครโค่นสถิตินี้ลงและคงไม่มีใครอยากจะโค่นแน่ๆ ค่ะ 5555555

ยิ่งไปกว่านั้นจากผลงานมินิอัลบั้มชุดที่ 7 The Table ที่มี Love me เป็นเพลงโปรโมต สามารถสร้างสถิติในการคว้า Grand Slam มาครอบครอง (การชนะรวดทุกรายการเพลงของสัปดาห์นั้นๆ) และกลายเป็นหนึ่งในบอยแบนด์เพียงไม่กี่วงเท่านั้นที่สามารถทำได้ 

จากวงที่แสงส่องไม่ถึงจนเกือบจะต้องโบกมือลาและหายหน้าไปจากวงการ สู่วงที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชนว่าเป็น ‘Reversal Icon’ สัญลักษณ์แห่งการหวนกลับ และได้รับการขนานนามว่าเป็นต้นแบบไอดอลแห่งความหวังและการไม่ยอมแพ้

ตัวอย่างรางวัลใหญ่

NU'EST W

• MAMA 2017 Discovery of the year
• Golden Disce Award 2018 Album Bonsang
• Seoul Music Award 2018 Bonsang
• Golden Disc Award 2019 Album Bonsang
• Seoul Music Award 2019 Bonsang

NU'EST

• Golden Disc Award 2020 Album Bonsang
• Seoul Music Award 2020 Bonsang
• Seoul Music Award 2021 Bonsang

…………………………………………………….

We believe in #เลิฟชนะ 
สัมภาษณ์เปิดใจกับตัวแทนทีมงาน

ทำไมต้อง #เลิฟชนะ

“ชื่อโครงการเลิฟชนะก็มาจากชื่อด้อมนี่แหละค่ะ ช่วงทำโปรเจกต์เราก็เห็นแคมเปญรัฐบาลแบบอะไรก็ชนะเยอะแยะไปหมด เลยเกิดความคิดเอามาล้อเลียนเป็น ‘เลิฟชนะ’ เพราะอยากให้นิวอีสต์ชนะ // We believe in #เลิฟชนะ / เจ้าเชื่อในเลิฟชนะบ่อ”

มูเตลูเป็นเหตุ

“ที่มาคือเราไปดูคลิปหมอดูนกแก้วใน YouTube เค้าบอกว่าปีนี้สภาพวงไม่ดี บวกกับบรรยากาศตอนนั้นงานวงเงียบมาก ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ร้างจากคัมแบคไปนานด้วย ไหนจะมีสมาชิกคือพี่อารอนที่ป่วยและประกาศพักงาน ทางกลุ่มแฟนคลับเลยรู้สึกแพนิกจนอยากทำบุญ เพราะหลายคนก็เป็นสายมู พอดีมีคนแนะนำมาเลยมาจบที่หล่อพระ 

พอได้ไอเดียแล้วก็มาดูจำนวนเงินที่มีเยอะมาก แล้วคิดต่อว่าเมเนจเงินก้อนนี้ยังไงให้ช่วยคนได้มากที่สุด เรื่องทำบุญจริงๆ ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ แต่ทีมงานคิดว่านอกจากทำบุญแล้วงานหล่อพระมันคืองานศิลปะ ภูมิปัญญาไทย เหมือนการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากช่างฝีมือไทย ซึ่งมีดีเทลเยอะมาก แล้วด้วยสถานการณ์โควิดระบาดหนัก ร้านเองก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย 

นอกจากนี้ยังมีของสังฆทาน ทีมงานตกลงกันว่าจะสนับสนุนผู้ต้องขังที่ทำงานฝีมือในเรือนจำ เช่น กระเป๋า หมอน ฯลฯ ทางทีมเลยสั่งมาจัดเป็นเซตถวายพร้อมกับพระ เพราะเราอยากให้กำลังใจผู้ต้องขังที่เขาตั้งใจจะกลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง” 

แบ่งทีมทำงานอย่างเป็นระบบ

เราแบ่งทีมงานเป็นฝ่ายคิดโครงการคร่าวๆ ทีมกราฟิก ทีมวางแผน ทีมบัญชี (ก็คือแอดมินนี่แหละค่ะ) พอทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมเปิดรับบริจาคแล้วก็ดูว่าเราได้เงินมาเท่าไรถึงไปดีลของในภายหลัง 

สำหรับโปรเจกต์หล่อพระตอนแรกมีเป้าหมายว่าจะหล่อในขนาดแค่ 9 นิ้ว แต่ทำไปทำมาได้เงินมาทะลุเป้าเลยปิดบริจาคก่อน พร้อมทั้งอัปขนาดพระเป็น 24 นิ้ว แถมเงินยังมีเหลือสำหรับโต๊ะทำหมู่บูชาและระฆังเพิ่มด้วย 

พอมาถึงโปรเจกต์ล่าสุด กับเหตุการณ์ #ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว พวกเราดูข่าวแล้วมานั่งคิดว่าพอจะทำอะไรหรือซื้ออะไรเพื่อช่วยเหลืออีกแรงได้บ้าง ก็ลงมือทำตามนั้นเลยค่ะ

สำหรับการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ทีมงานได้ประสานกับพรรคเพื่อไทยที่ดูแลในเขตนั้นส่งมอบหน้ากาก N95 ประมาณ 1,000 ชิ้นให้พี่ๆ เจ้าหน้าและอาสาสมัครถึงมือเลย ตอนที่ไปส่งคือไฟปะทุอีกรอบพี่เขาก็ได้แกะใช้ทันทีที่หน้างาน นอกจากนี้เราก็มีเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มให้ด้วยค่ะ 

สำหรับผู้อพยพส่วนใหญ่เขาได้อาหารและเครื่องดื่มเพียงพอแล้ว ทางเราเลยจัดให้เป็นพวกของใช้ส่วนตัว ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เพราะเป็นของอีกส่วนที่ยังไม่มีใครได้รับบริจาค จากนั้นพอเราทราบเรื่องว่ายังขาดแคลนยากันยุง ก็เลยซื้อไปให้ใช้ทันทีเลยค่ะ

ด้วยหัวใจที่อยากช่วยเหลือของทุกคน

“ได้ผลตอบรับดีเกินคาดทุกโปรเจกต์! ตอนแรกทีมงานเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกคนมากขนาดนี้ เงินจำนวนนี้ก็มาจากที่ทุกคนบริจาคเข้ามา ซึ่งนอกจากเลิฟด้วยกันยังมีคนจากด้อมอื่นๆ รวมถึงคนที่ไม่ใช่แฟนคลับของศิลปินเกาหลีกลุ่มใดๆ เลยด้วยค่ะ

เราอยากถือโอกาสนี้ขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง เพราะนี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย ดังนั้นเราจึงอัปเดตยอดบริจาคทุกวัน คอยหาคอนเทนต์ต่างๆ มาลงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าหลังจากที่คุณบริจาคเข้ามาแล้ว จะมีทีมงานที่ทำงานอยู่ไม่ได้หายไปไหน แล้วการซื้อของทุกอย่างเราจะมีการขอใบเสร็จเก็บไว้ พอจบงานก็สรุปบัญชี แนบหลักฐานว่าเราได้รับเงินบริจาคทั้งหมดกี่บาทและจ่ายอะไรไปบ้าง”

ความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

งานแรกคือการติดต่อพระ 

“มีคนช่วยประสานงานกับชมรมหล่อพระมาให้ แล้วทางชมรมเขาทำงานแบบมืออาชีพมาก รู้ว่าวัดไหนต้องการพระแบบไหน ช่วยติดต่อโรงหล่อและส่งไปให้ถึงวัดเลย แล้วระหว่างที่กำลังดำเนินการเขาก็มาอัปเดตความคืบหน้าแต่ละวันตลอด หล่อพระปิดทองไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว" 

โปรเจกต์ช่วยบริจาคตอนไฟไหม้ 

“เราได้รับความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย โดยประสานงานกับเครือข่ายของพรรคเพื่อส่งมอบของใช้ที่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งในที่นี้เราไม่ได้อยากให้มองว่าเป็นการเลือกกลุ่ม เลือกข้าง แต่เราทำงานกับผู้แทนราษฎร ไม่ว่าพรรคไหนที่เราขอความช่วยเหลือแล้วเขาพร้อมทำงานให้ เราก็พร้อมร่วมมือเต็มที่"

"แล้วด้วยความที่เหตุการณ์ไฟไหม้คือสภาวะฉุกเฉิน มีสารเคมีที่เป็นอันตราย เราอยากบริจาคเงินช่วยเหลือแต่ไม่รู้ว่าจะเข้าถึงเจ้าหน้าที่ได้ทางไหน เลยขอประสานงานกับผู้แทนราษฎรเพราะเขามีข้อมูลว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน และสามารถให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็วและตรงจุดด้วย” 

ทำไม #เลิฟชนะ ถึงต้องออกโรง?

“ในส่วนโปรเจกต์ช่วยเหลือไฟไหม้ พวกเราต้องขอบคุณคนนอกและสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ เราเป็นเพียงกลุ่มคนธรรมดากลุ่มนึงที่อยากจะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากการทำงานที่ล่าช้าของรัฐบาลและเป็นช่วงวินาทีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เราเลยอยากให้การบริจาคในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือแบบเร่งด่วนโดยภาคประชาชน 

ส่วนเรื่องโครงสร้างกลไกต่างๆ ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงที่จะต้องเก็บไปคิดและทำเป็นโครงการออกมา เพื่อที่ในอนาคตอีก 5 ปี 10 ปี ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขจากผู้ที่มีบทบาทตรงนี้อย่างแท้จริง โดยที่ประชาชนไม่ต้องมานั่งเปิดรับและระดมเงินบริจาคกันเองเหมือนตอนนี้

สำหรับความเห็นมากมายที่อยากเห็นเราทำคอลแลปหรือพูดคุยกับทางรัฐบาล เราเองก็อยากคุยนะคะเพียงแต่ติดต่อเขาไม่ได้”

เพราะทุกชีวิตมีค่า
จึงไม่ควรมีใครต้องสูญเสีย

“ล่าสุดพวกเรากำลังเปิดรับบริจาคเงินเพื่อไปสมทบทุนซื้อชุดตรวจ Rapid Test ให้กลุ่มคนยากจนในชุมชนแออัด ผู้สูงอายุ และผู้พิการที่เป็นกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่ได้รับการตรวจค่ะ คือชุดตรวจมันค่อนข้างแพง บางคนอาจจะคิดว่า ‘แค่ 300 บาทเอง’ แต่สำหรับใครอีกหลายคนอาจเป็น ‘ตั้ง 300 บาท’ ที่ช่วยให้เค้าซื้อข้าวกินได้หลายมื้อเลยนะ 

เนื่องจากตอนนี้คนติดเชื้อค่อนข้างมาก คิดว่าต้องรอแต่รัฐอาจจะไม่ทันการ เราเลยอยากช่วยเหลือตรงนี้ แม้ว่ายอดเงินที่มีจะนำไปช่วยเหลือได้ไม่ทั่วถึงทุกคน แต่ก็ทำให้คนกลุ่มนึงมีชีวิตรอดต่อไปได้ 

ทุกชีวิตมีค่า และการทำงานล่าช้าเพียงเสี้ยววิจะทำให้คนอีกหลายชีวิตต้องสูญเสีย ดังนั้นเราอยากเป็นอีกแรงที่ช่วยเซฟชีวิตทุกคนให้ได้มากที่สุด ไม่ควรมีใครต้องสูญเสียจากการที่พบว่าตนติดเชื้อในวันที่สาย เพราะไม่เคยมีโอกาสเข้าถึงการตรวจได้เลย และทำให้เข้าถึงการรักษาได้ล่าช้าจนช่วยเหลือไม่ทัน 

นอกจากซื้อ Rapid Test แล้ว เรายังซื้อชุด PPE และพลาสติกห่อศพเพื่อมอบให้กับสัปเหร่อ เพราะพวกเขาก็คือกลุ่มคนที่ถูกลืมและเสี่ยงต่อเสี่ยงการติดเชื้อเหมือนกัน ถึงจะช่วยได้ไม่มากแต่เราก็อยากจะช่วยค่ะ”

#เลิฟชนะ กับนิยาม ‘โปรเจกต์ที่ขับเคลื่อนสังคม’

อันที่จริงเราก็ไม่ได้อยากเคลมว่าเลิฟชนะขับเคลื่อนสังคมหรือสร้างแรงกระเพื่อมอะไรให้กับใคร เราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่รวมกลุ่มทำเต็มที่ตามศักยภาพที่เรามี และยังมีแฟนคลับกลุ่มอื่นๆ ที่รวมตัวกันบริจาคและช่วยเหลือแต่ละจุดอยู่เหมือนกัน 

อย่างไรก็ตามเราอยากขอบคุณทุกคนที่มองว่าสิ่งที่พวกเราทำสามารถช่วยขับเคลื่อนสังคมได้ และขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเลิฟชนะนะคะ อย่างที่บอกว่าพวกเราไม่คิดว่าจะได้รับเสียงตอบรับและการสนับสนุนมากมายขนาดนี้ และหากการกระทำเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยจุดประกายให้เกิดการขับเคลื่อนส่วนอื่นๆ ได้อีกเราก็ยินดีค่ะ

“การช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เราควรผลักดันทั้งภาคประชาชนและภาครัฐไปพร้อมๆ กันด้วย และสุดท้ายนี้สำหรับ ‘เลิฟชนะสู้โควิด’ ขออุทิศความปรารถนาดีของโปรเจกต์นี้ให้กับผู้ที่จากไปเพราะโรคระบาดและพิษทางเศรษฐกิจทุกท่านค่ะ”

“ทำไปก็เท่านั้น ศิลปินไม่มารับรู้ด้วยหรอก”

“ศิลปินรับรู้ก็คือเป็นเรื่องที่เราดีใจมากอยู่แล้วค่ะ เพราะตอนที่เราทำก็มีบางคนบอกว่าทำในนามศิลปินไปก็เท่านั้น ศิลปินไม่มีวันรับรู้หรอกเพราะเขาไม่เข้าใจภาษาไทย แต่เราอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าอยากให้ศิลปินรับรู้สิ่งที่แฟนคลับทำ เราบอกได้นะคะ แล้วเขาก็เข้าใจด้วยว่าแฟนคลับทำอะไรให้บ้าง เพราะนิวอีสต์เป็นวงที่สื่อสารกับแฟนคลับตลอดอยู่แล้วค่ะ”

ช่วงเวลากางแผง (ขอฝากร้านหน่อยค่า)

“ขอฝากวงนิวอีสต์ด้วยนะคะ เป็นอีกวงที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง วงของเรามี 5 คน หน้าตาดีมีความสามารถที่หลากหลาย ร้องเพลงเก่ง เมมเบอร์ทุกคนทำเพลงเอง สามารถฟังเพลงนิวอีสต์อย่างถูกลิขสิทธิ์ได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งเพียงแค่พิมพ์ NU’EST ค่ะ"

"เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้และรอไปคอนเสิร์ต NU’ESTที่ประเทศไทยด้วยกันค่ะ”

เมมเบอร์ในตอนนี้กำลังมีผลงานเดี่ยวค่ะ 

• Minhyun (มินฮยอน) กำลังถ่ายซีรีส์ ‘Return’
• JR (จงฮยอน) ก็กำลังถ่ายเรื่อง ‘I’ll be your night’ 
  **ทั้งสองเรื่องมีกำหนดออนแอร์ในช่วงปลายปีนี้
• Ren (มินกิ) มีละครเวทีเรื่อง ‘Hedwig’ ที่จะเปิดทำการแสดงในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
• Baekho (ดงโฮ) ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการแสดงละครเวที ‘Midnight Sun’ (สามารถซื้อบัตรเพื่อรับชมออนไลน์ได้ค่ะ รอบสุดท้าย 25 ก.ค. 2020)
• สุดท้าย Aron (อาร่อน) ที่เพิ่งประกาศกลับมาทำกิจกรรมเต็มรูปแบบหลังจากพักงานเพราะป่วยก็กำลังจะมีผลงานเร็วๆ นี้ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

………..

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ จากกลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลีที่แสดงให้เห็นว่าการติ่งไม่ได้ไร้ประโยชน์ แต่เรายังสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ ;)