7 เครื่องมือ AI ตัวช่วยสาย Marketing จุดไอเดียทำการตลาดได้จริง อัปยอดให้ปังกว่าเดิม!

ยุคนี้สายงานด้าน Marketing ยังคงมาแรงไม่หยุด แถมมีการแข่งขันสูงมากๆ ซึ่งการที่เราจะตามบริษัทอื่นๆ หรือคู่แข่งทางธุรกิจให้ทัน นอกจากจะต้องมีฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ที่ดีแล้ว เราอาจจะต้องเพิ่มความไวด้วยการพึ่งพาเครื่องมือ AI เข้ามาช่วยทุ่นแรง ย่นระยะเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ อีกด้วย

วันนี้ One Next Class #ชีวิตติดเรียนรู้ เลยรวบรวม 7 เครื่องมือ AI ตัวช่วยสำหรับสาย Marketing มาให้ทุกคนที่ทำธุรกิจ สายการตลาด สายโฆษณา หรือสายอื่นๆ ลองเอาปรับใช้ในการทำงานของตัวเองกัน แถมแต่ละตัวที่หยิบยกมาก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป จะมีเครื่องมืออะไรน่าสนใจบ้าง เราตามไปดูพร้อมกันเลย~

1.Semrush

ที่สุดของความครบเครื่องเรื่อง Online Marketing เพราะแพลตฟอร์มนี้จะมาช่วยเราทั้งเรื่องวางแผนการตลาด ทำการวิจัยตลาด สืบหาข้อมูลของคู่แข่ง ทำโฆษณา ปรับแต่งเพจโซเชียลมีเดีย และที่พิเศษที่สุดคือการทำ SEO (Search Engine Optimize) เพราะเค้ามีฐานข้อมูลที่ใหญ่และลึกมากเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว โดยเราสามารถให้ AI ของ Semrush วิเคราะห์คำค้นหา (Keyword) และแนะนำการปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มยอด Engagement เและเปิดการมองเห็นได้เป็นอย่างดี แถมหน้า Interface ของเค้ายังใช้ง่ายและสะดวกสุดๆ

2.AdCopy.ai

เขียนข้อความโฆษณายังไงให้จึ้ง สะกดใจคนอ่านอย่างอยู่หมัด? ขอเบิกตัวช่วยสุดปึ้งอย่าง AdCopy.ai เพราะเว็บนี้เค้าสามารถช่วยเราเขียน Ad Copy ให้ออกมาน่าสนใจจนใครๆ ก็ต้องกดคลิกเข้ามาดู เอาอยู่ทั้งโฆษณาบนเว็บไซต์ Google Ads และแคปชั่นเพจ Facebook เลย ถือว่าช่วยย่นระยะเวลาและทุ่นแรงในการเขียนไปได้เยอะ (สั่งให้เขียนเป็นภาษาไทยได้ด้วย) 

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำงานในสาย Marketing อื่นๆ ได้อีก เช่น การคิดหัวข้อคอนเทนต์ หัวข้อ SEO เขียนอีเมลการตลาด เขียนประวัติส่วนตัวบน LinkedIn ฯลฯ  และที่เจ๋งคือฐานข้อมูล AI ตัวนี้อัปเดตอยู่ตลอดเวลา รับรองคอนเทนต์ที่ผลิตออกมาว่าตามเทรนด์และข่าวสารต่างๆ ทันแน่นอน! // Content Creator หรือ Copywriter คนไหนที่ช่วงนี้คิดงานไม่ออก ลองใช้เป็นไอเดียกันดูได้นะ

3.Vidiq

สาย YouTube Creator ต้องรีบมาทางนี้! เพราะ Vidiq สามารถช่วยเราทำ Video Content ได้ง่ายๆ ทั้งช่วยคิดไอเดียในการทำคลิป คิดสคริปต์ คิดชื่อไตเติล คิด Description ออกแบบภาพหน้าปกวิดีโอ เลือกคำมาใส่ Tags แถมยังช่วยวิเคราะห์ Keyword ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่เพื่อให้วิดีโอของเรามีโอกาสเกาะกระแสขึ้นมาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเค้าการันตีว่าเครื่องมือ AI นี้จะช่วยอัปเกรดคุณภาพคอนเทนต์ของวิดีโอและทำให้ยอดวิวและยอดซับช่องเราพุ่งกระฉูดอีกด้วย

4.Leap

แพลตฟอร์ม AI สุดเจ๋งที่ทำงานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งสาย Sales และ Marketing เช่น การ Generate ภาพต่างๆ โดยผลิตได้ทั้งภาพศิลปะ ภาพประกอบ โลโก และ Avatar ต่างๆ ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยาก เพราะเค้าใช้โมเดลตัวเดียวกันกับ AI ชื่อดังอย่าง OpenJourney เพียงแค่พิมพ์อธิบายถึงภาพที่เราต้องการ ตัว AI ก็จะสร้างภาพดังกล่าวออกมาให้ 

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์น่าสนใจอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การแปลงคลิปวิดีโอในยูทูบเป็นบล็อก การเปลี่ยนบล็อกเป็นพอดแคสต์ ช่วย Research คีย์เวิร์ด SEO หรือจะสร้างโพสต์ในทวิตเตอร์จากบล็อกที่มีอยู่ก็ทำได้ ฟีเจอร์ล้ำและสะดวกสบายมากๆ // ย้ำอีกครั้ง! แนะนำให้ใช้เป็นไอเดีย อย่าใช้เป็นผลงานไฟนอลนะครับ

5.Sendsteps.ai

สำหรับใครที่ต้องนำเสนอไอเดียหรือขายงานแต่ไม่มีเวลาเตรียมตัว ต้องเบิกตัวช่วยอย่าง Sendsteps.ai ซึ่งสามารถช่วยสร้าง Slides และเนรมิต Presentation ให้ออกมาดูดีและเป็นมืออาชีพในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งคนไม่มีพื้นฐานการออกแบบกราฟิกดีไซน์ เว็บนี้เอาอยู่! 

เครื่องมือนี้ทำให้การนำเสนอของเราโดดเด่นและส่ง Message หลักที่เราต้องการนำเสนอไปถึงผู้ชมได้อย่างตรงประเด็น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อย่าง Live Polling หรือ Q&A sessions ที่จะช่วยให้การนำเสนอของเราน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าอย่างอยู่หมัด เรียกว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  เพื่อหาผู้ลงทุน สายเอเจนซีที่ต้องการขายงานให้ลูกค้า หรือแม้แต่เสนอไอเดียอื่นๆ AI ตัวนี้คือครบจบในที่เดียวสุดๆ 
 

6.Jasper

เครื่องมือ AI ผู้ช่วยในการเขียนที่เหมาะกับงาน Marketing ในทุกช่องทาง ทั้งสายการตลาด ธุรกิจ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ Jasper เป็นเครื่องมือช่วยที่สามารถเขียนคอนเทนต์ได้หลากหลายประเภท รวมกว่า 30 ภาษา ตั้งแต่บทความ อีเมล แคปชั่นโพสต์ต่างๆ บนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ สโลแกนโฆษณา และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังมี Template จึ้งๆ ที่เว็บไซต์เตรียมไว้เราเลือกใช้กว่าอีก 50 รูปแบบ นอกจากนี้ตัว AI ยังสามารถเรียนรู้และปรับการใช้น้ำเสียง (Tone of Voice) ในการเขียนต่างๆ ให้เหมาะสมกับแบรนด์ของเราได้อีกด้วย // ตอนนี้ยังไม่รองรับภาษาไทยนะครับ แต่เหมาะมากกับงานเขียนภาษาอังกฤษ ภาษาโซนยุโรป รวมถึงเอเชียอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น
 

7.CreatorKit

ปิดท้ายด้วย CreatorKit เครื่องมือ AI ที่จะมาช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์ของเรา ซึ่งสามารถสร้างรูปโปรดักต์สินค้าแบบจำลองที่มีความสมจริงออกมาโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาไปถ่ายรูปสินค้าจริงที่สตูดิโอ และยังใช้พัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อีกหลากหลาย เช่น ทำโฆษณาเกี่ยวกับสินค้า (ทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ) ออกแบบภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโดดเด่น (การให้ AI ช่วยแนะนำการเลือกใช้สีประจำแบรนด์หรือโปรดักต์ ออกแบบฟอนต์ กราฟิกต่างๆ) และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่อยากให้แบรนด์ตัวเองออกมาสวยงามดูดี ทำถึง เพิ่มยอดขายรัวๆ ต้องห้ามพลาดเครื่องมือตัวนี้เลย~

………