7 วิชาสามัญ!! วิชาไหนควรทิ้ง เมื่ออ่านไม่ทัน ?

        สวัสดีคร้าบ ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการสอบ 7 วิชาสามัญ (การสอบที่นำคะแนนไปยื่นสมัครรับตรงมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงคณะแพทยศาสตร์, คณะทันตแพทยศาสตร์ที่รับผ่าน กสพท.ด้วย) ซึ่งกำหนดการสอบจะมีขึ้นในวันที่ 5-6 มกราคม 2556 นี้ (สัปดาห์แรกของปีเลย T T) อ่านหนังสือทันกันไหมมมม

        หากใครอ่านไม่ทัน พี่ลาเต้ แนะนำให้ตัดใจทิ้งบางวิชาไปเลยครับ (อย่างน้อยจะได้มีวิชาที่เราแน่นๆ ไว้บ้าง ไม่ใช่ไปสอบแบบหลวมทุกวิชา แย่เลย) ว่าแต่จะตัดวิชาไหนล่ะ อันนี้ให้น้องๆ ไปฟังบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้แล้วใช้วิจารณญาณตัดสินใจเอาเอง... ฮ่าฮา เป็นบทสัมภาษณ์ของรุ่นพี่ Top 7 วิชาสามัญปี 55 ที่สัมภาษณ์ไว้ใน "หนังสือแอดมิชชั่นขั้นเทพ เล่มที่ 3" ขอบอกรุ่นพี่คนนี้เทพมากกกกกกกกกกกก

        ไปรู้จักเขากันเลย

แนะนำตัวกับน้องๆ ชาว Dek-D หน่อยครับ
         สวัสดีครับ พี่ชื่อจิรกิตต์ กิตติภัสสร ชื่อเล่น แม็ค เรียนอยู่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขึ้นปี 1 ครับ จบมัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แผนการเรียนวิทย์-คณิต คอมพิวเตอร์ ห้องความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ครับ

แนะนำหน่อย 7 วิชาสามัญแต่ละวิชามันประมาณไหน ?
         คณิตศาสตร์ : ถึงพี่จะอยู่ห้องความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ แต่เหมือนวิชานี้พี่ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แหะ >< จำได้ว่าข้อสอบออกมาแค่ 30 ข้อครับ ความจริงก็ไม่ค่อยจะครอบคลุมเท่าไหร่นะ ที่ทำข้อสอบเก่ามาก็ไม่ค่อยจะได้อะไรเท่าไหร่ เพราะคล้ายๆ ต้องลุยเอาเอง เนื้อหาไหนไม่เคยเจอ พี่ก็เลยมั่วไปสะเพียบ TT ก็แนะนำว่าถ้าเจอข้อสอบที่แปลกๆ ไม่รู้จักก็ต้องลองลุยดูครับ อารมณ์ประมาณว่าทำตามที่โจทย์บอกไปเรื่อยๆ ถ้าโชคดีก็ออก โชคร้ายก็จะเน่า (แบบพี่ -..- ) แต่ก็ไม่ต้องเครียดมากครับ คนทำไม่ได้กันเพียบ ถ้าทำได้ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ได้ก็เท่าทุน (แต่อย่าเน่าหมดนะครับ ><)

         อังกฤษ : เป็นวิชาที่พี่กากสุดครับ -..-* คือมันเป็นเพราะพี่รู้ตัวช้าไปว่าภาษาอังกฤษมันมีความสำคัญ ตั้งแต่ ม.ต้น พี่ก็โดดๆวิชาอังกฤษ ไม่เคยเข้าเรียนพิเศษก็ไม่เคยเรียน มั่วๆ ไปเรื่อย ขึ้น ม.ปลายก็ยังคงทำตัวแบบตอน ม.ต้น = = พี่พึ่งมารู้ตัวตอนกำลังจะขึ้น ม.6 ครับ ก็เลยลงเรียนพิเศษบ้าง (ตามที่เวลามันจะอำนวย เพราะขึ้น ม.6 แล้วจะมีวิชาให้อ่านเยอะ)

          ตอนนั้นก็ตั้งใจท่องศัพท์อย่างเดียว แกรมม่าพี่ก็ทิ้งหมด เพราะงงไปหมดล่ะ มั่วๆ เอา -..- ข้อสอบที่ออกมาก็เน้น Reading ไปซะ 80% เป็น Speed Test มากๆ ครับ ตอนนั้นพี่ที่โง่ๆ กับอังกฤษก็นั่งแกะที่ละประโยคสุดท้ายก็ข้ามไป 2 Passage เต็มๆ มี Cloze Test ที่ออกแนวแกรมม่าอยู่แค่ 20% พี่ก็เลยพอถูๆ ไถๆ มาได้ ด้วยคะแนน 58/100 พี่ก็คิดว่าพี่โอเค กับภาษาอังกฤษมากขึ้นนะ สำหรับใครที่เก่งอังกฤษอยู่แล้วน่าจะโอเคเลย เพราะใช้ความรู้เก่าล้วนๆ

           ภาษาไทย : นี่ก็ออกมาแบบใช้เซ้นส์ล้วนๆ เลยครับ มีหลักภาษาอยู่ 3-4 ข้อมั้งจาก 50 ข้อ ที่เหลือเป็นการอ่านจับใจความหมดเลย แบบสรุปความอะไรแบบนี้ ที่เรียนมาไร้ประโยชน์มาก = =' ไม่รู้ปีหน้าจะเปลี่ยนหรือเปล่านะครับ

           สังคมศึกษา : วิชานี้พี่ทิ้งครับ กะว่ามาทิ้งดิ่ง ข้อสอบก็ออกแนวความรู้รอบโลกครับ ไร้ซึ่งหลักเกณฑ์นะ ใครความรู้รอบโลกดีก็จะชิวไป พี่แนะนำว่าไม่ต้องไปเครียดกับวิชานี้มากครับ วิชาวัดดวงการมั่วแท้ๆ ><

           เคมี : วิชานี้พี่ว่าใครเตรียมตัวมาดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ ข้อสอบจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ต้องทำเร็วนิดๆ ประมาณว่าตัดช้อยส์เอา อย่าคิดหมด ไม่งั้นจะทำไม่ทันเอานะ ข้อสอบก็แนวๆ Entrance ปีเก่าๆ ครับ ไม่ยากขนาด GAT PAT วัดความรู้อย่างครอบคลุม มีทุกอย่าง น้องๆ ที่ลงวิชานี้ต้องแม่นพอสมควรเลย แต่ข้อสอบไม่เจาะลึก หรือโหดมาก ใครทำข้อสอบเก่ามาเยอะจะได้เปรียบ อารมณ์นั่งทำโจทย์เคมีกวดวิชาครับ

           ชีววิทยา : วิชานี้ง่ายกว่าที่พี่คิดไว้เยอะ ส่วนตัวพี่เป็นคนเก่งฟิสิกส์กับเคมี แต่เน่าชีวะ ยังว่าวิชานี้ง่ายเลย อารมณ์คล้ายๆ เคมีเลยครับ แนว Entrance ปีเก่ามากๆ ข้อสอบออกเรียกได้ว่าพื้นฐานมากครับ พื้นฐานจริงๆ แต่ข้อสอบเยอะ 100 ข้อ ครอบคลุมแทบทุกอย่าง ใครอ่านมาดีๆ ก็สบายเลย แบบอ่านปุ๊บกาปั้บได้เรื่อยๆ จนจบเลยล่ะครับ

           ฟิสิกส์ : วิชานี้ก็ง่ายอีกแหละ แบบคาดไม่ถึงกันหลายคน แต่มีจุดหลอกเยอะครับ ต้องใจเย็นๆ เวลาเหลือเยอะมากๆ หลับๆตื่นๆ ทำไปก็ยังทันเพื่อนๆ พี่หลายคนก็ถูกหลอกกันเยอะ อย่างเช่นค่า g เค้าให้ใช้ 9.8 m/s^2 ใครใช้ 10 ก็ซวยเลย แถมมีช้อยส์ด้วย หรือถามแรงที่แขนออก ใครลืมไปว่ามนุษย์มีแขนสองข้างก็ซวยเหมือนกัน (จริงๆนะ มีคนลืมเยอะ ><) พูดง่ายๆ คือปีที่พี่สอบวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์ง่ายหมดเลยครับ ออกแต่พื้นๆ แค่น้องๆ มีพื้นดี ไม่ต้องลงลึก หรือเก่งมากมายอะไรก็สามารถทำได้ แค่ระวังจุดหลอกก็พอ

คิดว่า 7 วิชาสามัญกับ O-NET มันต่างกันยังไง และอันไหนยากกว่ากัน ?
           7 วิชาสามัญอารมณ์เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ เนื้อหาตามหลักสูตรที่จะใช้ Admission ส่วน O-NET เป็นการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้อสอบเลยเป็นเนื้อหาพื้นฐานหลักสูตรกระทรวงที่มีทั้งวิชาดนตรี ศิลปะ การงาน ส่วนหนึ่งก็เพื่อวัดผลของโรงเรียนด้วย ถ้าจะถามว่าอันไหนยากกว่า คิดว่ามันยากคนละแนวนะครับ ถ้าพูดภาพรวมๆ 7 วิชาก็น่าจะยากกว่า แต่บางวิชาเช่น ภาษาไทย สังคมศึกษา ONET ก็ยากพอตัวเลยนะครับ

ทราบมาว่า ได้ Top 7 วิชาสามัญของประเทศด้วย เล่าหน่อยๆ
           ก็ได้ท็อปวิชาฟิสิกส์ 100 คะแนนเต็มครับ แล้วก็ได้คะแนนวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์-เคมี-ชีววิทยา) รวมกัน 3 วิชา 90.667% เป็นที่ 1 ของประเทศเช่นเดียวกันครับ (ถ้าพี่ทำเคมีถูกอีก 2 ข้อก็ได้ท็อปเคมีแล้วอะ TT)

สุดท้ายนี้ให้ แม็ค ฝากกำลังใจให้น้องๆ ที่จะสอบ 7 วิชาสามัญในปีนี้ด้วย
           อยากให้น้องทุกคนสู้ๆ ครับ พี่จะบอกว่า Admission มีความสำคัญ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต เอ็นไม่ติดใช่ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จดูอย่าง Steve Jobs เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ เค้าเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย แต่ปัจจุบันเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ซึ่งแม้จะตายไปแล้วแต่ยังมีข่าวเกี่ยว กับเค้าได้แทบทุกวัน ถ้าน้องๆ พยายามเต็มที่แล้ว ผลออกมาอย่างไร ก็จะไม่เสียใจครับ สุดท้ายก็ข้อให้น้องๆ โชคดีในการสอบ 7 วิชาสามัญทุกคนครับ ^^

           เอาล่ะครับ เชื่อว่าน้องๆ คงจะเข้าใจรูปแบบของ 7 วิชาสามัญมากขึ้นแล้วนะครับ ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน พี่ลาเต้ ก็ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดี และที่ขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณ น้องแมค ด้วยที่สละเวลาในแนะนำประสบการณ์การสอบ 7 วิชาสามัญในครั้งนี้ สุดท้ายนี้ "สวัสดีปีใหม่คร้าบบบบบบบ"

ใครเล่นทวิตเตอร์มา Follow ตามข่าวรับตรงแอดมิชชั่นจากพี่ได้นะ @lataedekd