สวัสดีค่ะน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน หลาย ๆ คนได้อ่านคณะในฝันส่วนของ วิศวกรรมโยธา มาแล้วตั้งแต่เรียนอะไรบ้าง มีสอนที่ไหนบ้าง จบแล้วทำงานอะไร ประสบการณ์รุ่นพี่ที่เรียนอยู่และรุ่นพี่ที่จบแล้วกันไปแล้ว มีหลาย ๆ คนได้สอบถามมาเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธานี่แหละ พี่แป้งเลยเอามารวบรวมไว้ในนี้แล้วตอบกันให้เคลียร์ไปเลย คัดมาประมาณ 10 คำถาม มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
Question : จะสอบเข้าวิศวกรรมโยธา ต้องสอบ GAT PAT วิชาอะไรบ้าง?
Answer : การสอบเข้าสาขาวิศวกรรมโยธาจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ สอบตรง (สอบตรง, รับตรง, โควตา) และ แอดมิชชั่นกลาง ซึ่งการสอบ 2 รูปแบบนี้จะมีการใช้สัดส่วนต่างกันค่ะ โดยแบบสอบตรงจะใช้เป็น GAT, PAT 1, PAT 3 แต่ถ้าเป็นแบบแอดมิชชั่นกลาง จะใช้เป็น GAT, PAT 2, PAT 3 ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์แบบคลอบคุมเลยก็ต้องสอบ GAT, PAT 1, PAT 2 และ PAT 3 นะคะ แต่ละวิชาโหด ๆ ทั้งนั้นเลย T_T
Question : มีหลักสูตรปริญญาตรีควบโทหรือ 2 ปริญญาของสาขาวิศวกรรมโยธาบ้างหรือไม่?
Answer : มีค่ะ โดยมีทั้งแบบหลักสูตรปกติ และ หลักสูตรนานาชาติเลยค่ะ หลักสูตรปกติที่มีตอนนี้ก็คือโครงการเรียนปริญญาตรีแบบก้าวหน้า(ตรีควบโท) ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดรับหลายหลักสูตรเลยค่ะ มากกว่าสาขาวิศวกรรมโยธาอีก เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นต้นค่ะ
ส่วนถ้าอยากเรียนหลักสูตรนานาชาติก็มีเปิดค่ะ โดยมีที่มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีการร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เปิดหลักสูตรตรีควบโท 5 ปีในสายวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งมาสาขาวิศวกรรมโยธาด้วยค่ะ นอกจากที่มหาวิทยาลัยรังสิตแล้วยังมีโครงการ EMB ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ นำร่องโดยสาขาวิศวกรรมโยธาก่อนเลยเป็นหลักสูตรปริญญาตรี 2 ใบ ใบนึงเป็นวิศวกรรมโยธาและอีกใบเป็นการบริหารจัดการค่ะ สามารถต่ออีก 2 ปีเป็นปริญญาโทได้เลยค่ะ
Question : มีวิชาที่เกี่ยวกับการบริหารในภาควิชาวิศวกรรมโยธาหรือไม่?
Answer : มีค่ะ เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการบริหารงานของวิศวกรรมโยธาค่ะ เช่น การบริหารงานวิศวกรรม (Engineering Management) , การบริหารจัดการทางวิศวกรรม, การจัดองค์กร, การบริหารจัดการโครงการ, การวางแผนโครงการ (Project Planning) เป็นต้น เป็นเรื่องการของการบริหารจัดการงานให้มุ่งไปสู่ความสำเร็จค่ะ แต่ถ้าเกิดน้อง ๆ อยากเรียนเกี่ยวกับบริหารอย่างจริงจังก็มีหลักสูตรที่เป็นปริญญาตรี 2 ใบควบวิศวกรรมศาสตร์กับบริหาร ไม่ก็ต่อปริญญาโทเกี่ยวกับการบริหารเลยค่ะ อันนี้จะเข้าใจแจ่มแจ้งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่ทำได้มากกว่าค่ะ
Question : ภาพรวมคร่าว ๆ ของงานทางสายวิศวกรรมโยธามีอะไรบ้าง
Answer : งานของวิศวกรโยธาก็คือคือ วางแผน จัดระบบงาน ควบคุมการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคารบ้านเรือน ถนน สะพาน อุโมงค์ เป็นต้น ต้องดูแลทั้งกระบวนการเลยนะคะ เมื่อสร้างเสร็จยังรวมไปถึงการติดตั้งการใช้งาน การบำรุงรักษาระบบต่างๆ ทำการตรวจสอบงานให้เรียบร้อย อาจรวมไปถึงทำวิจัยเพื่อหาและรวบรวมเทคนิคที่ใช้ในการทำงานเพื่อใช้ในงานต่อไป แต่ว่าเราไม่ต้องลงไปถึงขนาดผสมปูนเอง ฉาบงานเอง ก่ออิฐเอง ลงเสาเอง ไม่ต้องนะคะ งานของวิศวกรโยธาจะเป็นการวางแผนให้คนงานทำค่ะ
งานของโยธานั้นจะคลอบคลุมนะคะ ไม่ใช่งานในการสร้างตึกอาคารอย่างเดียว แต่งานที่เกี่ยวกับดิน โครงสร้างในดิน เกี่ยวกับน้ำ การจราจร วิศกรรมโยธาทำหมดค่ะ ยังมีเรื่องการขนส่ง การสำรวจต่าง ๆ อีกด้วย เป็นสายงานที่กว้างและตรงกับความต้องการของคนหมู่มากค่ะ ถ้าคิดจะเรียนโยธาบอกเลยว่าสบายแน่ ๆ สามารถนำความรู้ไปดัดแลงและประยุกติใช้ได้อีกหลายด้านเลยค่ะ
Question : นอกจากจบแล้วจะเป็นวิศวกรโยธา สามารถทำงานอื่นได้หรือไม่?
Answer : ได้ค่ะ นอกจากการเป็นวิศกรโยธา ยังสามารถเป็นวิศวกรสายต่าง ๆ เช่น วิศวกรน้ำ วิศวกรติดตั้ง วิศวกรผู้ดูแล เป็นต้นค่ะ อย่างที่บอกไปว่าวิศวกรรมโยธาสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ได้หลากหลายค่ะ ถ้าชอบงานด้านไหนก็ไปด้านนั้นเลยไม่จำเป็นต้องเป็นวิศวกรโยธาคอยสร้างตึกเท่านั้นค่ะ อย่างรุ่นพี่ที่พี่แป้งสัมภาษณ์ทั้ง 2 คนก็ไม่ได้เป็นวิศวกรโยธาโดยตรง แต่เป็นวิศวกรที่ดูแลอย่างอื่นที่สามารถซัพพอร์ตงานด้านต่าง ๆ แทนค่ะ
Question : เกลียดคณิตศาสตร์เรียนวิศวกรรมโยธาได้มั้ย?
Answer : คือ .... บอกเลยว่ายังไงก็ต้องเจอค่ะวิชาคณิตศาสตร์ เป็นวิชาพื้นฐานเพื่อไปต่อกับวิชาอื่น ๆ ในหลักสูตรการเรียนวิศวกรรมโยธาจะเรียนคณิตศาสตร์แคลคูลัสค่ะ มีเรียนเป็น แคลคูลัส 1, แคลคูลัส 2 และ แคลคูลัส 3 แต่ในบางหลักสูตรของบางมหาวิทยาลัยจะไม่ใช่แคลคูลัสนะคะ จะเป็นวิชาคณิตศาสตร์วิศวกรรมแทน เป็น คณิตศาสตร์วิศวกรรม 1, คณิตศาสตร์วิศวกรรม 2 และ คณิตศาสตร์วิศวกรรม 3 ค่ะ ไม่ว่าจะหลักสูตรที่ไหนก็หนีไม่พ้นคณิตศาสตร์แน่นอนค่ะ
Question : การเรียนสาขาวิศวกรรมโยธาต้องเป็นแค่ผู้ชายจริงหรือ? ผู้หญิงหรือเพศที่ 3 เรียนเรียนได้หรือไม่
Answer : ไม่จริงค่ะ ผู้หญิงหรือเพศไหนก็เรียนได้ น้อง ๆ รุ่นใหม่มีผู้หญิงเรียนมากขึ้น แต่ข้อเสียเปรียบของผู้หญิงก็คือ เวลาที่เจองานลุย ๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องร่างกายได้ค่ะ ด้วยธรรมชาติของเพศหญิงจะมีสรีระที่อ่อนแอกว่าเพศชาย จึงทำให้บางองค์กรมองว่าผู้หญิงไม่เหมาะกับงานโยธาที่ต้องลุย ๆ ลงพื้นที่ค่ะ งานที่ผู้หญิงจะทำส่วนใหญ่คือจะเป็นนักวางแผน คอยสนับสนุนวิศวกรส่วนที่ต้องออกงานอีกรอบนึง ทำให้งานสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่นค่ะ ส่วนเพศที่ 3 ไม่เกี่ยวเลยค่ะ การเรียนเปิดกว้างไม่ใช่ว่าต้องเป็นผู้ชายครบทั้งร่างกายและจิตใจเท่านั้นที่จะเรียนได้ ถ้าอย่างเรียน ลุยไปเลยค่ะ การเรียนวัดที่สมองไม่ใช่ที่เพศนะคะ สู้ ๆ
Question : ในสังคมวิศวกรรมโยธาต้องมีการกินเหล้าทุกคนใช่หรือไม่?
Answer : ไม่ใช่ค่ะ ในเรื่องการดื่ม การสังสรรค การเที่ยวกลางคืน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ใช่กิจกรรมบังคับว่าถ้าเรียนวิศวกรรมโยธาต้องทำกิจกรรมพวกนี้ค่ะ เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำอย่างไร บางคนนั่งดื่มในวงก็จริง แต่เครื่องดื่มที่ดื่มก็ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นน้ำอัดลม น้ำเปล่า ก็มีค่ะ อย่างที่ใคนเคยบอกว่าบางทีกินกันจนเมาน้ำเปล่า การอยู่ในสังคมไม่ได้วัดกันที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะคะ สามารถทำตัวได้ตามสบายเลยค่ะ ขอแค่ว่าคบเพื่อนดี ๆ ที่พากันเรียนจบก็พอค่ะ เพราะการดื่นเป็นเรื่องของแต่ละคน เราไม่สามารถบังคับได้
Question : มีการสอบใบ กว. อยากทราบว่าใบ กว. คืออะไร และต้องสอบอย่างไรบ้าง?
Answer : ก่อนอื่นมารู้กันก่อนว่าใบ กว. คืออะไร ใบ กว. ก็คือ ใบประกอบวิชาชีพวิศวกร ค่ะ ผู้ที่จะประกอบอาชีพวิศวกรต้องมีไว้ค่ะ เหมือนเป็นใบอนุญาติให้ประกอบวิชาชีพ ส่วนต้องสอบอย่างไร ก่อนอื่นคือเราต้องเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ก่อนค่ะ แล้วก็ไปสอบกับสภาวิศวกร การสอบจะมีการวัดความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมในหมวดวิชาพื้นฐานทางด้านวิศวกรรม และหมวดวิชาวิศวกรรมหลักเฉพาะสาขา โดยเกณฑ์การผ่านแต่ละหมวดวิชาต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ค่ะ สามารถสะสมผลการสอบได้ 2 ปี ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อไปที่สภาวิศวกรได้ค่ะ
Question : การฝึกงานของภาควิศวกรรมโยธาโหดหรือไม่? เคยได้ยินมาว่าต้องขุดคลอง ลอกท่อ ตากแดด ลงไซส์งาน คุยกับคนงานจริงหรือไม่?
Answer : การฝึกงานขึ้นอยู่กับที่ที่เราขอฝึกค่ะ ไม่ใช่ว่าจะต้องลงไปทำอะไรขนาดนั้น แต่อาจจมีบ้างในบางองค์กรที่ไปฝึกงานที่เขาต้องการให้เราเห็นภาพงานจริง ๆ มีลงไปที่งานก่อสร้างบ้างแต่จะไม่ให้ทำอะไรมากค่ะเพราะเรายังไม่มีใบอนุญาติ เต็มที่คือแค่เดินตามพี่ ๆ ที่เป็นวิศวกรงานนั้น เข้าไปดูงาน ดูโครงสร้าง ดูการจัดการ ช่วยงานเรื่องเอกสาร แล้วก็สอนงานให้เรามีความเข้าใจมากขึ้นค่ะ แต่ไม่ถึงกับต้องเอาที่ขุดดินไปขุดดิน ตักดิน ถมดิน ไม่ต้องนะคะ แต่ถ้าใครอยากลองก็ขอที่ฝึกงานลองได้ค่ะ โดยดูด้วยนะคะว่าต้องมีการดูแลโดยพี่วิศวกรจริง ๆ ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นมาล่ะยุ่งเลย
นึกแล้วก็ใจหาย หาข้อมูลมาอัพเดทน้อง ๆ ตลอดทั้งเดือนเรื่องวิศวกรรมโยธา แป๊บเดียวเองหมดเวลาแล้ว ฮ่า ๆ ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีคณะในฝันให้น้อง ๆ อ่านอีกเพียบที่ คณะในฝัน ส่วนคณะในฝันเดือนหน้ามาในสายแพทย์แหละเพื่อต้นรับบอร์ดแอดมิชชั่นน้องใหม่ เลยเปิดคณะในฝันใน คณะแพทย์แผนไทย เตรียมพบกันได้ในสัปดาห์หน้านะคะ ส่วนวันนี้ขอตัวไปซื้อเรือก่อน บ้านพี่น้ำท่วม กว่าจะออกมาทำงานทีนี่เปียกไปครึ่งแข้ง น้อง ๆ ก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ บ๊ายบาย .....
18 ความคิดเห็น
โตขึ้นหนูจะเป็นวิศวะ >0</
พี่ชายหนูเป็นสถาปนิกหนูจะเป็นวิศวะค่ะ !!
พี่ผม ก็ จบ โยธา นะคับ (เปนผู้หญิง คับ)
เเต่ก็(เกือบ)หางาน ยาก เเต่พี่ผมเขียนโปรเเกรม ไรสักอย่างนี้เเหละได้
ทางสำนักงาน เขา เลย รับ
*นี้ถ้าเขียนโปรเเกรมนั้นไม่ได้ ก็ยากน่ะเนีย ได้ดีเพราะโปรเเกรม
#โดนเตะ
รับสมัครงานวิศวกรที่ไหน ก็ระบุว่ารับแค่เพศชายเท่านั้นล่ะ
ถามว่าผู้หญิงเค้ารับมั้ย ตอบแบบโลกสวยก็คงบอกว่าไม่เกี่ยวกับเพศ เพศไหนก็ทำงานได้ แต่ทำไมยังระบุว่าเพศชายเท่านั้น น้อยที่จะรับผู้หญิง หาแทบไม่มี เราต้องมีความสามารถพิเศษอื่นๆเขาถึงจะสนใจ
ขนาดวิศวะคอมที่ดูจะไม่ใช่แนวลุยๆ เขายังรับแต่ผู้ชายเลย ไกล้จบแล้วก็เตรียมใจไว้แล้วว่าคงจะไม่ได้ทำงานในฐานะวิศวกร เห้ออ..
เชืjอไหมครับ มีหลายองค์กรที่อยากได้วิศวะ ที่ไม่เกี่ยวเพศ แต่เด็กจบใหม่ส่วนมากต้องการองค์กรโปรไฟล์สวยๆ เลยไม่มององค์กรประเภทนั้น องค์กรโปรไฟล์สวยๆเขาต้องการคนเหมาะกับงานจริงๆครับอีกอย่างคนที่มีก็ไม่ค่อยออกกันยิ่งตำแหน่งผู้หญิงยิ่งยาก องค์กรขนาดกลางหรือเล็ก เขาอาจไม่ต้องการคนเหมาะกับงานตรงๆแต่ต้องการความรู้ของคนที่น่าจะเหมาะกับงานนะครับ ลองหางานดูผมว่าไม่ยากจนเกินความสามารถน้องๆ
พ่อเราจบสาขาคล้ายๆอันนี้มา ได้ทำงานใน อบต. ใช้โปรเเกรม Autocad เป็นอ่ะ เราถือว่าเก่งนะ ตอนจะสร้างบ้าน(บ้านคนยันบ้านสุนัข) ก็ให้พ่อทำให้อ่ะ 555
เราว่านะ อยากเรียนอะไรก็เรียนเถอะ บองอาชีพ ในไทยมันไม่ค่อยได้รับความนิยม เเต่ที่ต่างประเทศ ก็เอ่อ..........