สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D ทุกคน โดยเฉพาะ ม.6 ที่รู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว เหมือนหลายๆ อย่างเข้ามาพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการประกาศผลสอบตรง การรับใบจบ ม.6 ประกาศผลสอบ O-NET และในช่วงสงกรานต์นี้ถึงแม้ว่าจะไม่ชนกับแอดมิชชั่นเหมือนรุ่นพี่ปีก่อนๆ แต่ก็ต้องมารอลุ้น GAT PAT รอบแรก ก่อนที่สิ้นเดือนเมษาฯจะต้องสอบ GAT PAT รอบ 2 อีก เฮ้ออออออออออ ... เป็น ม.6 มันเหนื่อยนะรู้มั้ย?
ว่าด้วยเรื่องการสอบ GAT PAT รอบ 2 ที่ใกล้จะถึงนี้ถือว่าเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่จะนำคะแนนไปยื่นรอบแอดมิชชั่นกลาง ไม่มีโอกาสแก้ตัวในครั้งที่ 3 แล้วนะคะ แต่ว่าในรอบแอดมิชชั่นกลางนั้นทางระบบจะดึงคะแนนรอบที่ดีที่สุดของน้องๆ เองค่ะ รับรองว่าคิดคะแนนสูงสุดเท่าที่เราทำได้แน่นอน แต่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ พี่แป้งเลยรวม บทเรียน (ที่พลาดพลั้ง) จากการสอบ GAT PAT รอบแรกมาฝากน้องๆ จะได้ไม่พลาดซ้ำในรอบ 2 อีก ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
อันดับ 10 : กินข้าวไม่ทัน มาม่าก็ต้มไม่สุกดี
น้องๆ ในหลายสนามสอบประสบปัญหานี้ เพราะโรงอาหารปิดบริการในวันเสาร์-อาทิตย์ เลยทำให้ต้องออกไปหาข้าวกินนอกสนามสอบ กว่าจะหาร้านเจอ เพราะว่าคนเยอะมากด้วย ทำให้กว่าจะได้สั่ง ได้กิน ก็หมดเวลาแล้ว ต้องรีบกลับมาสอบต่อ บางคนก็เดินไปร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำ แต่กว่าจะเดินไปถึง กว่าจะซื้อมาม่ามาต้มกิน ก็ใกล้หมดเวลาเต็มที ก็กินทั้งที่เส้นมันยังกรอบๆ นั่นแหละ อร่อยดี
เพื่อสวัสดิภาพที่ดีของการสอบรอบ 2 น้องๆ คนไหนที่เจอปัญหานี้และได้สอบที่สนามสอบเดิม วิธีแก้ง่ายๆ เลยคือ "ห่อข้าว" ไปกินเถอะค่ะ เอาเป็นอาหารที่ไม่บูดง่าย อย่างเช่น ข้าวผัด ข้าวไข่เจียว ผัดกระเพรา แบบนี้ก็ได้ค่ะ อย่าลืมว่าอากาศร้อน ถ้าให้คุณแม่ทำอาหารแบบจัดเต็มอย่างแกงกะทิ แกงเขียวหวาน อาจจะเสียก่อนกิน แต่ถ้าใครไม่สะดวกห่อข้าวมา ก่อนสอบตอนเช้าก็ไปเร็วหน่อย ซื้อข้าวกล่องเตรียมไว้เลย ออกมาจากห้องสอบจะได้หามุมทานข้าวได้เลย แถมมีเวลาในการอ่านทบทวนวิชาตอนบ่ายด้วยค่ะ
อันดับ 9 : เสียงดังรอบข้าง
(สนามสอบ + เพื่อนร่วมห้องสอบ)
(สนามสอบ + เพื่อนร่วมห้องสอบ)
ที่มาของเสียงในห้องสอบมีอยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ถนนที่ขับข้ามสะพานจนสะเทือนมาถึงห้องสอบ พ่อค้าขายไอติมที่เขย่ากริ๊งเรียกลูกค้า พี่ทำงานก่อสร้างที่ตอกเสาเข็มอย่างเมามันส์ หรือผู้ปกครองที่รอบุตรหลานสอบเม้าท์กันแบบน้ำลายแตกฟอง ยังไม่รวมเสียงนกร้อง หมากัดกัน หรือเสียงอื่นๆ อีกนะคะ นอกจากเสียงพวกนี้แล้วที่รำคาญที่สุดก็คงหนีไม่พ้น "เสียงเพื่อนร่วมสอบ" ของเราเองนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระซิบเหมือนอ่านข้อสอบให้เราฟัง เสียงแกะลูกอม กระดิกขา เคาะปากกา โอ๊ยยยยยย ... สารพัด
ถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็คงต้อง "ทน" กับเสียงพวกนี้ เพราะเราคงทำอะไรไม่ได้กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ถ้าใครกลัวเจอปัญหานี้ก็พกที่อุดหูไปด้วยค่ะ ก็อารมณ์เหมือนเราใส่หูฟังเวลาฟังเพลง แต่ต่างตรงที่มันไม่มีเพลง ก็จะช่วยลดเสียงภายนอกได้ระดับนึง ส่วนเพื่อนร่วมห้อง ใคร! ที่รู้ตัวว่าเป็นคนที่ทำเสียงดังก็ขอความร่วมมือในการใช้เสียงให้น้อยที่สุดนะคะ เราสอบกันหลายคน อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกันดีกว่าค่ะ
อันดับ 8 : ดินสอไม่เข้มพอ
ก่อนวันสอบก็เตรียมตัวอย่างดี ไปร้านขายเครื่องเขียนซื้ออุปกรณ์ในการทำข้อสอบ ไม่ว่าจะเป็น ปากกา ยางลบ หรือดินสอ 2B แต่ก็เหมือนคนมีกรรมดันซื้อดินสอ 2B ที่ไม่มีมาตรฐาน หรือดูผิดคิดว่าเป็น 2B ทั้งๆ ที่อ่อนกว่า ผลที่เกิดตามมาก็คือ ดินสอไม่เข้มพอ ทำให้ฝนข้อสอบลำบาก อาจเสี่ยงต่อการที่เครื่องไม่ตรวจกระดาษคำตอบก็เป็นได้
สอบครั้งนี้เราเอาใหม่ค่ะ ใครที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ดินสอไส้อ่อนกว่าปกติ ให้รีบไปซื้อใหม่ ถ้าเกิดกลัวพลาดก็ซื้อดินสอที่เข้มกว่ามาติดไว้ก็ได้ค่ะ แต่ให้ดีที่สุดก็เป็นดินสอ 2B ลงทุนเพื่อให้ได้ดินสอที่มามาตรฐานดีกว่าค่ะจะได้ไม่เสี่ยงคะแนนเป็น 0 เพราะเครื่องไม่ตรวจกระดาษคำตอบ ส่วนใครที่ซื้อดินสอมาผิดก็รีบไปซื้อใหม่สัก 2 แท่งเลยค่ะ กันพลาดไว้ดีกว่า
อันดับ 7 : ทำข้อสอบไม่ทัน
ดึงข้อสอบไปแล้ว ...
ดึงข้อสอบไปแล้ว ...
เป็นอีกบทเรียนราคาเกือบแพง กับการทำข้อสอบไม่ทัน บางสนามสอบไม่มีการประกาศเตือนหมดเวลาสอบ ประกาศอีกทีก็โน้น... อีก 5 นาทีสุดท้าย ซ้ำในห้องสอบยังไม่มีนาฬิกา ครูคุมสอบก็ไม่ได้บอกเวลาเพราะเกรงว่าจะรบกวนสมาธิของนักเรียนที่กำลังทำข้อสอบอยู่ เมื่อทุกอย่างมารวมกันก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่ทำข้อสอบไม่ทัน ครูคุมสอบก็เก็บกระดาษคำตอบไปแล้ว ไม่ถงไม่ถามสุขภาพ ซ้ากกกก คำ!
ถ้าใครประสบปัญหานี้ ก่อนอื่นเราอย่าคิดว่ามีเวลาสอบ 3 ชั่วโมงเต็มนะคะ เพราะบางทีก็เริ่มไม่ตรงกัน เช่น เริ่มสอบ 9.00 น. บางสนามสอบเพิ่งแจกข้อสอบ แต่บางสนามสอบน้องๆ เริ่มได้เลย บางสนามสอบเพิ่งได้จับข้อสอบก็ต้องเสียเวลามานั่งแกะแม็ก ... (ปัญหาใหญ่ของคนไม่มีเล็บ) เพราะฉะนั้นให้คิดว่าการทำข้อสอบมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ส่วนปัญหาเรื่องเวลา ก็พกนาฬิกามาจากบ้านเลยค่ะ ถ้าไม่มีก็ขอยืมนาฬิกาติดบ้านมาก่อน เอามาแขวนให้เพื่อนในห้องเห็นทุกคน ก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ หรือก่อนสอบรบกวนครูคุมบอกเวลาช่วง 1 ชั่วโมงก่อนหมดเวลา 30 นาทีก่อนหมดเวลา หรือ 10 นาทีสุดท้าย จะได้ประโยชน์กับตัวเราและเพื่อนๆ คนอื่นด้วยค่ะ
อันดับ 6 : ไม่เชื่อข้อสอบ
อีกหนึ่งบทเรียนของการที่ไม่เชื่อข้อสอบคือ "ทำผิด" ในตัวข้อสอบ GAT PAT นั้นอธิบายค่อนข้างละเอียดแล้วว่าต้องทำอย่างไร เช่น ตอบข้อสอบในพาร์ท Error ของ GAT อังกฤษ ต้องตอบคำตอบเดียว ไม่ใช่ 4 คำตอบ หรือการฝนข้อสอบอัตนัยที่ต้องฝนทุกตำแหน่ง ไม่ใช่ฝนเฉพาะคำตอบ เพราะฉะนั้น เชื่อข้อสอบเถอะค่ะ เพราะบางทีครูคุมสอบไม่ใช้กรรมการออกข้อสอบ ไม่ทราบเรื่องของการทำข้อสอบอยู่แล้ว มาคุมสอบเพื่อจับทุจริตของผู้สอบเฉยๆ อย่าโทษครูคุมสอบกันเลยนะคะ
อันดับ 5 : ยางลบทำพิษ
เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่หลายคนรู้สึกนอยส์มาก เพราะยางลบเจ้ากรรมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ดันทำพิษ ลบแล้วลบอีกก็ไม่สะอาดสักที บางรายเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยางลบบอบบางจนหักขณะที่ลบเลย ปัญหาที่ตามมาก็คือ เมื่อลบแล้วไม่สะอาด พอฝนใหม่มันก็จะกลายเป็นว่ามี 2 คำตอบ เครื่องก็จะไม่ตรวจข้อนั้นค่ะเพราะฝนคำตอบเกิน บางคนก็เลยจำใจฝนข้อเดิมไป ในเมื่อไหนๆ ก็จะไม่ได้แล้ว ฝนข้อเดิมดีกว่าเผื่อฟลุคถูก
ถ้านับรวมเรื่องของดินสอบ 2B ที่ฝนไม่ได้มาตรฐาน สีอ่อนเกินไปจนเครื่องไม่ตรวจกับเรื่องของยางลบเอาไว้ด้วยกันแล้วเนี่ย พี่แป้งแนะนำว่าก่อนที่จะออกมาจากร้านเครื่องเขียนก็ลองดินสอให้เรียบร้อยก่อนค่ะว่าเข้มพอหรือเปล่า ส่วนยางลบมันลองไม่ได้ ก็ให้ดูยางลบที่เนื้อสะอาดและจับดูมีความเข็มแรง ไม่เนื้ออ่อนจนหักง่าย เพราะยางลบเนื้ออ่อนเหมาะกับการลบดินสอที่ไส้เบา เช่นพวกดินสอแรงเงามากกว่าค่ะ เพราะฉะนั้นเลือกดีๆ ก่อนนะคะ จะได้ไม่พลาดในห้องสอบ
อันดับ 4 : อาจารย์คุมสอบทำมึน
หลายคนมาเล่าสู่กันฟังในกระทู้เด็กดีว่า "ทำข้อสอบพลาด เพราะอาจารย์คุมสอบ" ... เมื่อเอามารวมๆ กันก็ทำให้รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ น้องๆ ไม่เข้าใจในคำอธิบายที่อยู่ในข้อสอบ จึงถามครูคุมสอบ และได้คำตอบมาแบบฟันธงเลยว่า ตอบแบบนี้แน่นอน (เช่นกรณีการตอบ GAT อังกฤษ ในรอบที่ผ่านมา) ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆ เชื่อครูคุมสอบ พอมารู้ทีหลังว่าผิดเลยทำให้โทษครูคุมสอบว่าบอกแบบนี้ ซึ่งกรณีนี้ทาง สทศ. ก็ไม่มีอะไรมารองรับเนื่องจากว่าเขียนอธิบายการตอบลงในข้อสอบอย่างชัดเจนแล้ว
จริงๆ ปัญหานี้ไม่มีใครถูกหรือผิดนะคะ เพราะว่าอย่างที่พี่แป้งบอกไปข้างต้น ครูคุมสอบมาคุมสอบซึ่งไม่ใช่ครูที่เป็นกรรมการออกข้อสอบ เมื่อเข้าใจแบบไหนก็บอกน้องๆ ที่สอบไปแบบนั้น เพื่อที่น้องจะได้ทำข้อสอบต่อโดยไม่เสียเวลา ส่วนน้องๆ ก็จะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเชื่อครูคุมสอบหรือไม่ ในเมื่ออดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้เราแล้วว่า เราต้องเชื่อในข้อสอบ ก็ทำให้เต็มที่ค่ะ GAT PAT รอบ 2 อาจจะมีการปรับคำอธิบายให้ชัดเจนมากขึ้น เองนี้ทางพี่ๆ เว็บ Dek-D ก็แจ้งทาง สทศ. ไปแล้วค่ะ
นอกจากเรื่องของการบอกการทำข้อสอบ จนทำผิดมาแล้ว ครูคุมสอบบางสนามสอบก็ทำให้เกิดปัญหา (อันนี้ปัญหาจริงๆ) เช่น ไม่ให้น้องๆ เด็กซิ่วเข้าสอบ ไม่ให้นำปากกาไฮไลท์เข้า ตรวจกระดาษที่ระบุเลขที่นั่งที่ต้องปริ้นจากหน้าเว็บ (ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ ใช้แค่บัตรประชาชน) เดินไปมาเสียงดัง อย่าอารมณ์เสียนะคะ เพราะมันจะทำให้สิ่งที่เราอ่านมาหายไปหมดเลย ถ้าเจอก็ท่องไว้ พุทโธ พุทโธ เดี๋ยวก็สอบเสร็จแล้ว T_T
อันดับ 3 : ฝนข้อสอบผิด
การฝนข้อสอบผิด... น้องๆ คนที่ไม่เคยเจอกับตัวเองอาจจะคิดว่า ก็ไม่ระวังเองนิ ฝนผิดเอง ไม่ดูเอง แต่น้องๆ ที่เคยโดนกับตัวถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงเลยค่ะ เพราะการฝนผิดมันหมายถึงว่าเราทำได้ แต่เราไม่ได้คะแนน โดยการฝนผิดมาหลายกรณีมากค่ะ เช่น ฝนรันข้อผิด ฝนสลับแถว ฝนสลับข้อ ไม่ฝนครบทุกช่องในข้อสอบอัตนัย ฝนเกิน ฝนขาด เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีก็หมายถึงว่าคะแนนหายไปทั้งสิ้น บายยยยย ...
ใครที่เคยพลาดแล้ว หรือ ยังไม่เคยพลาดก็ตาม พี่แป้งก็มีทริคในการทำข้อสอบมาฝากค่ะ ถ้าเป็นข้อสอบอัตนัยไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ไม่ต้องสับสนด้วย จำไว้เลยว่า "ต้องฝนทุกตำแหน่ง" ช่องไหนไม่มีเลขก็ฝน 0 ไป มาที่ข้อสอบปรนัยที่มีสารพัดปัญหา ถ้าหลักการของพี่แป้งคือ ทำไปฝนไปค่ะ ฝนไปทีละข้อ ถ้าน้องๆ คนไหนกลัวเรื่องการถูกลอก ก็ทำทีละ 10 ข้อแล้วค่อยฝนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่งง เมื่อฝนเสร็จก็เก็บกระดาษคำตอบไว้ใต้ข้อสอบที่เป็นตัวคำถาม คนอื่นก็มองไม่เห็น ครบอีก 10 ข้อเราค่อยดึงกระดาษคำตอบมาฝนใหม่ ถ้าทำหมดทีเดียวแล้วฝนยาวๆ อาจจะเกิดการรันฝิดข้อ ข้ามข้อ ซ้ำข้อได้ค่ะ
อันดับ 2 : ลืมฝนรหัส
อันดับที่ 2 พี่แป้งขอตั้งชื่อว่า "บทเรียนมิรู้ลืม" เพราะเป็นการลืมฝนรหัส ไม่ว่าจะเป็นรหัสประจำตัวสอบ รหัสโรงเรียน รหัสข้อสอบ ถ้าลืมก็ไม่ตรวจค่ะ ... คะแนนหายวั๊บไปกับตา ไม่ได้หายธรรมดา ต้องบอกว่าหายทั้งแผง!!! ผลประกาศออกมาแล้วได้ 0 เป็นอะไรที่ทำใจลำบากนะคะ พี่แป้งเข้าใจว่าน้องๆ ที่ลืมเพราะว่าได้ข้อสอบมาก็รีบทำก่อน กว่าจะทำเสร็จก็หมดเวลาพอดี จนลืมดูว่ายังไม่ได้ฝนรหัสต่างๆ
พี่แป้งขอให้น้องๆ จำกรณีนี้เป็นบทเรียน เมื่อได้กระดาษคำตอบมาก็รีบฝนก่อน ถ้าเราทำข้อสอบไม่ทันเรายังมีคะแนนจากการฝนข้อที่ผ่านมา แต่ถ้าเราลืมฝนรหัสนี่พังเลยนะคะ ถือว่าจบกับรายวิชานั้น นอกจากที่ตัวกระดาษคำตอบ ก็อย่าลืมเขียนชื่อที่ตัวข้อสอบ(ถ้ามี) จัดการเรื่องข้อมูลของเราให้เรียบร้อยก่อน และค่อยทำข้อสอบแบบยาวๆ ดีกว่าค่ะ
อันดับ 1 : ปากกาไฮไลท์ ... ซึม!!!
ส่วนอันดับที่ 1 พี่แป้งขอตั้งชื่อว่า "บทเรียนใหม่ที่ต้องจารึก" เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่น้องๆ ที่สอบ GAT PAT รอบแรกไปเจอกันเยอะมาก กับการที่นำปากกาไฮไลท์เข้าห้องสอบเพื่อสอบ GAT เชื่อมโยง แล้วมัน "ซึม" ซึมทะลุด้านหลังเลย ทำให้อ่านบทความอีกหน้าไม่ออกเลยค่ะ ไม่รู้ว่าช่วยให้ดีขึ้น หรือทำให้แย่ลง เพราะน้องๆ บ่นเหลือเกินว่า เป็นบทเรียนที่เข็ดมาก ต้องเตรียมพร้อมใหม่สำหรับการสอบรอบหน้า
ปัญหานี้ไม่รู้ว่าผิดที่ปากกว่า หรือ ผิดที่กระดาษที่เป็นชุดข้อสอบนะคะ รู้แต่ว่าเมื่อมารวมกันแล้ว เละค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีอื่นมารองรับ เช่น เปลี่ยนจากปากกไฮไลท์เป็นปากกาลูกลื่นสีแดงแทน หรือใช้ปากกาไฮไลท์แบบแห้งซึ่งมีขายหลายยี่ห้อแล้วค่ะ หรือ ใช้ปากกาไฮไลท์ที่ไม่แฉะมาก ตัดปัญหาที่สุดก็คือไม่ใช้ แต่ก็จะทำข้อสอบกันลำบากขึ้นเพราะหาข้อความที่เน้นไม่เจอ ใครคิดว่าวิธีไหนเหมาะก็ลองเอาไปใช้นะคะ แต่ที่แน่ๆ ปากกาไฮไลท์แท่งเดิม เก็บใส่กล่องปิดผนึกไปเลยค่ะ
10 อันดับบทเรียนจาก GAT PAT รอบแรก พี่แป้งว่าต้องมีโดนกันคนละข้อสองข้อ หรืออาจโดนมากกว่านั้นก็เป็นได้ ในเมื่ออดีตผ่านมาแล้วเราคงทำอะไรไม่ได้ แต่ครั้งต่อไปที่จะสอบ 26-29 เมษายนนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีกนะคะ เพื่อความสงบราบรื่นในการสอบ
สุดท้ายนี้ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยที่น้องๆ จะทบทวนก่อนสอบสิ้นเดือนนี้ ขอให้น้องๆ อ่านแล้วจำได้ทุกตัว ทำข้อสอบไม่พลาด ได้คะแนนเยอะๆ กันทุกคนนะคะ ใครที่เคยเจอบทเรียนอะไรจากการสอบ GAT PAT รอบแรกมาบ้าง ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ พี่แป้งและเพื่อนๆ รอรู้จะได้ช่วยกันแก้ไขค่ะ
25 ความคิดเห็น
ต่อจากข้อสุดท้ายเลยยยย ..
นั่งน้ำตาซึมม ....
เหนื่อยนะ
ดีนะที่สนามสอบ GAT PATให้เอาที่อุดหูเข้าไปได้ ตอนไปสอบความถนัดแพทย์กสพท.ขอยังไงเค้าก็ไม่ให้เอาเข้าไป T^T
อันดับ7 เปลี่ยนเป็น เวลายังไม่หมด ครูดันมาเก็บข้อสอบ แล้วบอกว่าหมดเวลาแล้ว (ผ่านไป5นาที สนามสอบถึงประกาศหมดเวลา) ครูทำงี้เนี่ยนะ เห็นบ่อยและ
อันดับ 1
ไม่โดนอะ - ไม่ให้เอาเข้า !!!
ข้อปากกาไฮไลท์ง่ายที่สุดก็ใช้ดินสอที่พกมานั่นแหละค่ะ ขีดเส้นใต้เอา
เรื่องดินสออ่ะนะ ขนาดดูแล้วดูอีก ทดสอบแล้วทดสอบอีกจนมั่นใจ แต่พอเข้าห้องสอบปุ๊ป เหมือนมันอ่อนลงทุกที เป็นเพราะกระดาษที่เราทดสอบกับกระดาษคำตอบมันเป็นคนละชนิดรึเปล่านะ