สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับน้องๆ ชั้น ม.6 เข้าสู่สนามสอบรับตรงอย่างเต็มรูปแบบเลย เพราะตอนนี้มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ออกระเบียบการรับสมัครในแต่ละโครงการออกมาเรื่อยๆ แล้วนะคะ ยิ่งรับตรงใหญ่ๆ ก็มีทั้งกำหนดการรับสมัคร และกำลังเปิดรับสมัครแล้วด้วย ใครสนใจมหาวิทยาลัยไหน ก็รีบไปอ่านรอไว้ได้เลย
และก็ถือว่าสิ้นสุดการรอคอยสำหรับน้องๆ หลายคน เพราะตอนนี้นอกจากรับตรงแบบพิเศษ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเปิดรับสมัครอยู่ รับตรงแบบปกติ ก็ออกระเบียบการตามมาติดๆ เลย ซึ่งถือว่าเป็นสองรับตรงที่มีคณะที่เปิดรับและสัดส่วนจำนวนรับที่เยอะมากเลย ใครที่กำลังสงสัยว่าการรับ 2 รูปแบบของจุฬาฯ นี้ (ปกติ vs พิเศษ) แตกต่างกันยังไงบ้าง และถ้าน้องๆ สนใจ ควรเลือกสมัครรูปแบบไหน วันนี้พี่อีฟจะพาไปดูกันค่ะ
1.โครงการที่เปิดรับ
• รับตรงรูปแบบปกติ จะเป็นการรับโดยใช้ชื่อโครงการเดียวกัน แต่จะเปิดรับ 12 คณะ โดยมี 1 โครงการ ที่เปิดรับพร้อมกัน 4 คณะ ดังนั้น เราจึงเห็นระเบียบการของรับตรงรูปแบบปกติเพียง 9 ฉบับ
• รับตรงรูปแบบพิเศษ จะเน้นเปิดรับเป็นโครงการของแต่ละคณะหรือแต่ละโครงการเอง เช่น โครงการจุฬาฯ - ชนบท, โครงการผู้มีความสามารถดีเด่นระดับชาติทางกีฬา, โครงการสู่ความเป็นเลิศด้านภาษาและวรรณคดีไทยฯ เป็นต้นค่ะ
ดังนั้น น้องๆ ที่มีความสามารถพิเศษ หรือมีคุณสมบัติเฉพาะ ก็จะมีโอกาสสมัครรับตรงรูปแบบพิเศษได้ค่ะ
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
- 9 โครงการ เช่น • การรับสมัครคัดเลือกนร. เข้าศึกษาในหลักสูตร นิติศาสตรบัณฑิต • การรับสมัครคัดเลือกนร. เข้าศึกษาในหลักสูตร นิเทศศาสตรบัณฑิต • การรับสมัครคัดเลือกนร. เข้าศึกษาในหลักสูตร เศรษฐศาสตรบัณฑิต ฯลฯ |
- 20 โครงการ เช่น
• โครงการจุฬาฯ-ชนบท • โครงการโอลิมปิกวิชาการเข้าศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ • โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทาง วิทยาศาสตร์ฯ • โครงการสู่ความเป็นเลิศด้านภาษาและวรรณคดีไทย • โครงการผู้มีความสามารถพิเศษ ระดับชาติทางกีฬา ฯลฯ |
2.คณะที่เปิดรับ
• รับตรงรูปแบบปกติ จะเปิดรับ 12 คณะ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะอักษรศาสตร์, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, คณะรัฐศาสตร์, คณะสัตวแพทยศาสตร์, คณะครุศาสตร์, คณะเศรษฐศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี, คณะนิติศาสตร์, คณะนิเทศศาสตร์ และเปิดรับเพียงบางสาขาวิชาหรือบางหลักสูตรเท่านั้น เช่น สาขาวิชารังสีเทคนิค คณะสหเวชศาสตร์ ฯลฯ
• รับตรงรูปแบบพิเศษ บอกเลยว่าพิเศษจริงๆ เพราะบางสาขาวิชาในจุฬาฯ จะเปิดรับรอบนี้เพียงรอบเดียวเท่านั้น ! เช่น สาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, สาขาวิชาดนตรีศึกษา สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์, สาขาวิชาการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร ฯลฯ ถ้าพลาดรอบนี้ไปแล้ว ก็ต้องรออีกทีปีหน้าเลยค่ะ
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
- 12 คณะ เช่น • คณะวิศวกรรมศาสตร์* • คณะอักษรศาสตร์* • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์* • คณะรัฐศาสตร์* (*เปิดรับโครงการเดียวกัน) • คณะสัตวแพทยศาสตร์ • สาขาวิชารังสีเทคนิค คณะสหเวชศาสตร์ ฯลฯ |
- 10 คณะ เช่น • สาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ • สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา คณะครุศาสตร์ • สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ • สาขาวิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ ฯลฯ |
3.จำนวนรับ ถ้าเปรียบเทียบรวมกันทุกโครงการ จะพบว่า รับตรงรูปแบบปกติ เปิดรับเป็นจำนวน มากกว่า รับตรงรูปแบบพิเศษ
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
3,163 ที่นั่ง (มากกว่า) |
1,090 ที่นั่ง |
4.เกณฑ์คัดเลือก
• รับตรงรูปแบบปกติ จะเน้นการใช้ คะแนน GAT PAT และ คะแนนวิชาสามัญ ในการคัดเลือก (+สัมภาษณ์)
• รับตรงรูปแบบพิเศษ จะเน้นการใช้ คะแนน GAT PAT และ คะแนนจากวิชาเฉพาะของแต่ละสาขาวิชา หรือ เน้นจากคุณสมบัติ, ผลงาน หรือความสามารถพิเศษ ประกอบการคัดเลือก (+สัมภาษณ์)
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
-คะแนน GAT PAT -คะแนนวิชาสามัญ -คะแนนสอบสัมภาษณ์ |
-คะแนน GAT PAT • คะแนนวิชาเฉพาะ • คุณสมบัติ, ผลงานหรือ ความสามารถพิเศษ -คะแนนสอบสัมภาษณ์ |
5.วันเปิดรับสมัคร
• รับตรงรูปแบบปกติ เปิดรับในช่วงเดือนมีนาคม โดยในปีการศึกษา 2560 เปิดรับสมัครในวันที่ 1-15 มี.ค.60
• รับตรงรูปแบบพิเศษ เปิดรับในช่วงเดือนสิงหาคม โดยในปีการศึกษา 2560 เปิดรับสมัครในวันที่ 16-31 ส.ค.59
แอบบอกน้องๆ ที่สนใจรับตรงรูปแบบพิเศษว่า อย่าลืมติดตามระเบียบการอยู่เรื่อยๆ นะคะ เพราะมีบางโครงการที่เปิดรับรอบ 2 ด้วย !
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
1-15 มี.ค. 60 |
16-31 ส.ค. 59 |
6.ค่าสมัครสอบ
• รับตรงรูปแบบปกติ จะมีค่าสมัครสอบอยู่ที่ 200 บาทค่ะ (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการชำระผ่านธนาคาร) โดยแบ่งเป็นค่าสมัคร 100 บาท และค่าประมวลผล 100 บาท ยกเว้นโครงการที่สามารถเลือกได้ 4 อันดับ จะบวกค่าธรรมเนียมเลือกอันดับต่อไป อันดับละ 50 บาทค่ะ
• รับตรงรูปแบบพิเศษ ค่าสมัครสอบจะประกอบด้วยค่าสอบวิชาความถนัดของแต่ละสาขา (ราคาแตกต่างกันในแต่ละวิชา คลิกที่นี่ ) ค่าสถานที่สอบ 150 บาท ค่าประมวลผล 100 บาท และค่าเลือกอันดับ อันดับแรก 100 บาท อันดับต่อไป 50 บาท (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการชำระผ่านธนาคาร)
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
- 200 บาท • ค่าสมัคร 100 บาท • ค่าประมวลผล 100 บาท (เลือกอันดับต่อไป อันดับละ 50 บาท) |
• ค่าสอบวิชาความถนัดของแต่ละสาขา 200-800 บาท • ค่าสถานที่สอบ 150 บาท • ค่าประมวลผล 100 บาท • ค่าเลือกอันดับ 100 บาท (เลือกอันดับต่อไป อันดับละ 50 บาท) |
7.การเลือกสมัคร ถ้าน้องๆ เลือกสมัครรับตรงรูปแบบพิเศษโครงการใดโครงการหนึ่ง จะไม่สามารถเลือกสมัครรับตรงรูปแบบพิเศษโครงการอื่นได้อีก และถ้าติดรับตรงรูปแบบพิเศษแล้ว ก็จะไม่มีสิทธิ์สมัครรับตรงรูปแบบปกติได้อีกด้วย ส่วนรับตรงรูปแบบปกติที่เปิดรับทีหลัง ก็จะไม่สามารถสมัครได้เกิน 2 โครงการเหมือนกันค่ะ
น้องๆ ต้องระวังให้ดีนะคะ ถ้าสมัครมากกว่า 1 โครงการเมื่อไหร่ ทางมหาวิทยาลัยจะยึดตามโครงการที่สมัครและจ่ายเงินครั้งหลังสุด ดังนั้น ตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกสมัครค่ะ
รับตรงรูปแบบปกติ | รับตรงรูปแบบพิเศษ |
-สมัครได้ 1 โครงการ เท่านั้น -สมัครรับตรงรูปแบบพิเศษได้ |
-สมัครได้ 1 โครงการ เท่านั้น -ถ้าติดรับตรงพิเศษ จุฬาฯ แล้ว ไม่สามารถสมัครรับตรงปกติได้ -ผู้สมัครโครงการจุฬาฯ-ชนบท สามารถเลือกสมัครรับตรงรูปแบบปกติได้อีก 1 โครงการ |
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับข้อแตกต่างของรับตรง (รูปแบบปกติ) และรับตรง (รูปแบบพิเศษ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากที่พี่อีฟสังเกตดู จะพบว่ารับตรงรูปแบบพิเศษจะเน้นสาขาวิชา และเน้นความสามารถหรือคุณสมบัติเฉพาะในแต่ละโครงการ แต่รับตรงรูปแบบปกติ จะเป็นรับตรงใหญ่ของหลายๆ คณะ ที่น้องๆ ทุกคนสามารถสมัครได้ ลองตรวจสอบตัวเองดูให้ดีนะคะ ว่าคณะหรือสาขาที่เราสนใจเปิดรับในรอบไหน จะได้ไม่พลาดฝันครั้งนี้ พี่อีฟเป็นกำลังใจให้ค่ะ :D
4 ความคิดเห็น
รอบพิเศษ ใช้คะแนน GAT ทั้งสองพาร์ท หรือว่า แค่พาร์ท เชื่อมโยงครับ