เผยเคล็ดลับ GAT 290 จาก Top Dek-D's Pre Admission


          สวัสดีค่ะ หลังจากสมัครสอบ GAT PAT กันไปเรียบร้อย พี่อีฟมั่นใจว่าน้องๆ ทุกคนน่าจะกำลังเตรียมตัวสอบกันแน่นอน เพราะถ้าพูดกันจริงๆ ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วค่ะ ที่น้องๆ จะได้เตรียมตัวก่อนลงสนามจริง 
​          
วันนี้ Admission Idol ของเรา พี่อีฟก็เลยขอชวนเพื่อนๆ น้องๆ ที่เคยลองสนามสอบ Dek-D's Pre-Admission สนามจำลองสนามสอบ GAT PAT และความถนัดแพทย์ ที่จัดขึ้นโดยเว็บไซต์ Dek-D ของเราค่ะ ซึ่งในจำนวนน้องๆ ที่เข้าสอบกว่าหนึ่งหมื่นคน ก็มีน้องๆ ที่ได้คะแนน Top วิชา GAT มากถึง 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั้น มีน้องๆ ม.5 ด้วย! ลองมาดูเคล็ดลับกันค่ะ ว่าแต่ละคนมีเคล็ดลับอะไร ในการคว้าคะแนน GAT ให้ได้มากถึง 290 คะแนนบ้าง
 

แนะนำตัวกับน้องๆ ที่อ่านบทสัมภาษณ์เราหน่อยค่ะ
มิ้ม : สวัสดีค่ะ ชื่ออธีตา ศิริประชัย ชื่อเล่น ชื่อมิ้ม กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 แผนการเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาค่ะ
น้ำเพชร : สวัสดีค่ะ ชื่อปาณิสรา ไวยสุระสิงห์ ชื่อเล่น ชื่อน้ำเพชร กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 แผนการเรียนวิทย์-คณิตฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาค่ะ
มินนี่ : สวัสดีค่ะ ชื่อจรัสลักษณ์ ตระกูลยิ่งยง ชื่อเล่น ชื่อมินนี่ กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 แผนการเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเหมือนกันค่ะ

เป็นยังไงบ้าง สำหรับเราการสอบ Dek-D's PreAd ยากไหม
มิ้ม : พาร์ทภาษาอังกฤษทำเกือบไม่ทันค่ะ เพราะก็มีส่วนที่ยาก ส่วนพาร์ทเชื่อมโยง พอทำเสร็จแล้วก็ตรวจทานไปหลายรอบเหมือนกันค่ะ
น้ำเพชร : เหมือนกันค่ะ พาร์ทเชื่อมโยงเราก็ลังเลว่าจะเป็นเท่าไหร่ 17-23 หรือ 17-15 ส่วนพาร์ทภาษาอังกฤษก็ง่ายกว่าที่คิดนิดนึง แต่ก็ทำเกือบไม่ทันเหมือนกันค่ะ
มินนี่ : พาร์ท reading เราก็ใช้เวลาเยอะเหมือนกันค่ะ ก็จะมีแบบที่ต้องใช้เวลาอ่านซ้ำ และหาคีย์เวิร์ดสำคัญให้เจอ
 

อธีตา ศิริประชัย ชื่อเล่น (มิ้ม)

พาร์ทที่ง่ายที่สุด แล้วก็ยากที่สุดใน GAT Dek-D's PreAd สำหรับเรา
มิ้ม : สำหรับมิ้ม ง่ายที่สุดน่าจะเป็น Conversation ค่ะ เพราะปกติก็จะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เช่น ดูวีดิโอ ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ ส่วนยากที่สุด ก็น่าจะเป็น Reading ค่ะ เพราะเราไม่ถนัดบทความที่เป็นแนววิทยาศาสตร์เลย
น้ำเพชร : ง่ายสุดของเรา ก็น่าจะเป็น Conversation เหมือนกันค่ะ เพราะถนัดด้านนี้อยู่แล้ว ส่วนยากที่สุดของเราน่าจะเป็น Vocabulary เพราะเราไม่ค่อยชอบท่องคำศัพท์ ก็จะทำให้ลำบากนิดนึง
มินนี่ : ถ้าง่ายที่สุดคิดว่าน่าจะเป็นพาร์ทเชื่อมโยงค่ะ 55555 เพราะถ้าเตรียมตัวมา ก็น่าจะทำได้ แต่ถ้าถามของภาษาอังกฤษ พาร์ทง่ายสุดก็น่าจะเป็น Conversation เหมือนกันค่ะ แล้วก็ยากสุด น่าจะเป็น Reading เหมือนกันค่ะ เพราะเราก็ไม่ค่อยถนัดบทความเท่าไหร่

ก่อนสอบ  Dek-D's PreAd เรามีการเตรียมตัวสอบมาก่อนรึเปล่า
มิ้ม : ก็เตรียมตัวตลอดค่ะ มีอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ลองทำข้อสอบเก่าๆ ของ GAT ทั้งพาร์ทเชื่อมโยง แล้วก็พาร์ทอังกฤษ และนอกจากฝึกทำข้อสอบเก่าๆ ก็จะมีทำแบบฝึกหัดจากหนังสือทั่วไปด้วยค่ะ
น้ำเพชร : ก็จะมีชวนกันกับเพื่อนๆ ไปนั่งอ่านด้วยกัน แล้วก็ซื้อหนังสือ GAT มานั่งลองทำ นั่งติวกันกับเพื่อนๆ ค่ะ
มินนี่ : ถ้าเป็น GAT เชื่อมโยง เราอ่านแค่เล่มเดียวเลย ของ อ.ขลุ่ย ที่เป็นคนออกข้อสอบค่ะ ทำให้พอจะมองเห็นเทคนิคแล้วก็แนวทางการทำข้อสอบ แต่ว่าภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้อ่าน เพื่อเน้นสำหรับการมาสอบ GAT โดยเฉพาะค่ะ แต่เราอ่านเป็นภาษาอังกฤษโดยรวม เพื่อให้แม่น แล้วก็เป๊ะอยู่ตลอด จะได้พร้อมกับทุกข้อสอบที่เราต้องเจอค่ะ
 

ปาณิสรา ไวยสุระสิงห์ (น้ำเพชร)

เคล็ดลับหรือเทคนิคการอ่านฉบับตัวเราเอง
มิ้ม : น่าจะเป็นเรื่องการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษค่ะ อย่างเพื่อนส่วนมากก็จะเขียนคำศัพท์ หรือจดไว้ข้างนอก แต่ถ้าเป็นมิ้ม มิ้มจะไม่จดค่ะ ปกติมิ้มจะอ่านคำศัพท์ แล้วก็ไปหาใน Dictionary แล้วก็จะจำไปเลย สมมติว่าถ้ามาเจอศัพท์นี้อีกที แล้วจำไม่ได้ ก็จะโมโหตัวเองนิดนึง ว่าทำไมจำไม่ได้ ทำให้รู้สึกว่าต้องพยายามจำให้ได้ มันจะเหมือนเป็นแรงกระตุ้นนิดนึงค่ะ
น้ำเพชร : เราว่าภาษาอังกฤษที่หลายๆ คนเรียน จะเรียนเพื่อท่องจำ หรือเรียนเพื่อใช้สอบ แต่ของเราคือ ไม่ได้เรียนตามตำรา แต่จะเลือกการพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุดมากกว่าค่ะ เช่น ซีรีส์ หรือเกม ทุกอย่างพยายามไม่ดูเป็นซับไทย จะพยายามดูเป็นซับอังกฤษค่ะ (คิดว่าวิธีนี้ได้ผลจริงไหมคะ) ได้ผลจริงๆ ค่ะ อย่างงานอดิเรกของเราก็ยังทำได้ปกติ แต่ถ้าทำให้มันช่วยฝึกทักษะเราได้ด้วย ก็จะดีมากเลยค่ะ
มินนี่ : เคล็ดลับของมินนี่ อาจจะไม่ใช่ด้านเทคนิคการอ่านค่ะ แต่จะเป็นด้านกำลังใจมากกว่า ทุกครั้งที่เราท้อ เราก็จะกอดคุณพ่อคุณแม่ค่ะ อย่างทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน มินนี่ก็จะกอดคุณแม่ทุกวันอยู่แล้ว เพื่อให้เรารู้ตัวว่า ที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ เราออกไปเรียน เราตั้งใจอ่านหนังสือ เราทำเพื่อใคร เราทำเพราะอะไร มีคนที่เขาอยากให้เราประสบความสำเร็จอยู่ แล้วเราก็นำคุณพ่อคุณแม่มาเป็นกำลังใจ แล้วก็แรงผลักดัน และขับเคลื่อนให้เราพยายามทำทุกอย่างต่อไปค่ะ จะได้ไม่ท้อ :)

คณะในฝันของเรากับการเตรียมตัว
มิ้ม : คณะที่อยากจะเข้า ก็คือ รับตรง (รูปแบบพิเศษ) สาขาวิชาภาษาสเปน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ มันต้องสอบวิชาเฉพาะของจุฬาฯ (วิชาความสามารถทางภาษาสเปน) แล้วก็ GAT ค่ะ ตอนนี้ก็คือหัดทำข้อสอบ GAT ไปพร้อมๆ กับการอ่านสเปนไปด้วย แล้วก็มีเรียนพิเศษเพิ่มเติมกับรุ่นพี่คณะอักษรฯ เอกสเปนค่ะ และสุดท้ายอย่างตัวเราเรียนศิลป์-สเปน ก็จะตั้งใจเรียนในห้องให้เต็มที่ค่ะ เพราะมันค่อนข้างหาอ่านข้างนอกไม่ค่อยได้
น้ำเพชร :  เล็งวิศวกรรมศาสตร์ (Inter) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไว้ค่ะ ก็ยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นสาขาอะไร แต่เลือกวิศวกรรมฯ ไว้ก่อน และก็มีดูๆ วิศวกรรมศาสตร์ (Inter) ของ ม.ธรรมศาสตร์ ไว้ด้วยค่ะ แต่ยังไม่ได้ไปสอบการสอบวัดผลภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ยื่นคะแนนของ ม.ธรรมศาสตร์ ตอนนี้สอบไว้แค่ CU-TEP ค่ะ
มินนี่ : ตอนนี้ยังลังเลอยู่ค่ะ ระหว่างอักษรศาสตร์ กับนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่าก็มีเตรียมตัวแบบอ่านหนังสือ ลองดูเกณฑ์ของแต่ละคณะว่าใช้เกณฑ์อะไร แต่ว่าก็ยังไม่ได้ลงลึกมาก ก็จะมีแค่ GAT ค่ะ ที่เพิ่งเริ่มเก็บจริงจัง
 

จรัสลักษณ์ ตระกูลยิ่งยง (มินนี่)

ถามน้องๆ ม.5 มีความคิดเห็นยังไงบ้างกับ "เอนทรานซ์ 4.0" ที่เราต้องเจอแน่นอน
น้ำเพชร : เราก็กังวลเหมือนกันค่ะ อย่างเราตั้งใจจะเข้าภาคอินเตอร์ ก็ยังไม่มีรายละเอียด หรือยังไม่มีใครในส่วนนี้ที่เป็นทางการออกมาพูด หรือให้รายละเอียดอะไรเลย ก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไป แต่ระหว่างนี้เราก็พยายามอ่านหนังสือตลอด เตรียมตัวให้พร้อม คิดว่าถ้าเราเตรียมตัวเองให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบไหนเราก็จะพร้อมสอบค่ะ
มินนี่ : ก็งงค่ะ ตกใจด้วย จู่ๆ ก็เปลี่ยนเฉยเลย แต่เราก็เริ่มหาข้อมูลมากขึ้น เช่น ถามเพื่อน ดูข่าว ดูเว็บไซต์ต่างๆ หาข้อมูลด้วยตัวเอง แต่ว่าตอนนี้รายละเอียดที่ออกมาก็ยังไม่ชัดเจนมาก ยังไม่รู้ว่าเกณฑ์การรับหรือคะแนนที่ใช้มีอะไรบ้าง ก็ต้องรอติดตามต่อไปค่ะ แต่ที่แน่ๆ คือเราก็ต้องเตรียมเนื้อหาให้ดี อย่างวิชาที่เก็บได้เลยแล้วก็เป็นเนื้อหาที่ต้องอ่าน อย่างสังคมศึกษา หรือภาษาไทย เราก็เริ่มอ่านได้เลย แล้วก็ต้องเก็บให้แม่นค่ะ

มีอะไรฝากถึงเพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่กำลังอ่านบทความเราบ้างคะ
มิ้ม : สู้ไปด้วยกันนะคะ ตอนนี้ทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกัน พยายามไปด้วยกัน จะได้ติดไปด้วยกันค่ะ
น้ำเพชร : อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ม.5 ว่า ถึงเราจะอยู่ ม.5 ก็ต้องฟิตได้แล้วนะ ถึงระบบใหม่จะขยายเวลาสอบให้ไปอยู่ไกลกว่าเดิม แต่เราก็ชะล่าใจไม่ได้ อย่าคิดว่ามีเวลามากกว่าเดิม แล้วจะชะล่าใจ เพราะความยากของข้อสอบก็น่าจะเหมือนเดิม
มินนี่ : อยากบอกเพื่อนๆ ว่า เตรียมตัวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ จริงๆ เลยนะคะ อย่างมินนี่เตรียมตัวเก็บ GAT ให้ครบตั้งแต่วันนี้ เพราะเวลาที่เหลือ เราอยากทุ่มเทให้กับ PAT ฝรั่งเศสค่ะ เพราะเนื้อหามันเยอะมาก ก็เลยเริ่มเก็บ GAT ให้เรียบร้อย จะได้ไปทุ่มเทให้กับ PAT ฝรั่งเศสให้เต็มที่ เรายิ่งเริ่มเร็วก็ไม่มีอะไรเสียหาย เราทำให้มันเสร็จไปเลย เราเหนื่อย อย่างมากก็แค่ 3 ปี ชั้น ม.ปลาย อย่างน้อยหลังจากติดมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็จะได้สบายใจ ไม่มากังวลว่ายังไม่มีที่เรียน
 

           เป็นไงกันบ้างคะ เทคนิคจากเพื่อนๆ และน้องๆ ที่เคยได้คะแนน Top GAT ใน Dek-D's Pre-Admission สนามจำลองสอบของเรา ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ น้องๆ คนไหนยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองเอาเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ได้นะคะ เพราะถ้าเข้าใจหลักการของการทำข้อสอบแล้ว GAT 250+ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันเลยค่ะ อย่าลืม ฝึกทำข้อสอบเก่าๆ ให้คุ้นเคยนะคะ สวัสดีค่ะ :D
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น