ราชาแห่งราชันย์ รวม 9 กษัตริย์และผู้นำที่คนในประเทศนั้นยกให้เป็น "ที่สุด"

        ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะรู้สึกเศร้าหมองจากการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ หลายชนชาติ หลายอาณาจักร ต่างต้องเคยเผชิญความสูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไป
        คำว่าผู้นำที่ยิ่งใหญ่นั้นอาจมีได้หลายประเภทค่ะ บทความนี้พี่น้องจึงได้รวบรวมผู้นำที่ถือว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของประเทศหรืออาณาจักรนั้น จะยิ่งใหญ่ในด้านใดบ้าง และสุดท้ายแล้วผู้นำนั้นทิ้งสิ่งใดไว้ให้ประชาชนของตนเอง ไปดูกันค่ะ

 

1. จักรพรรดิโจเซฟที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

Alchetron
 
        จักรพรรดิโจเซฟขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ. 1765 - 1790 กลายเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากจักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์เดิมไปสู่สมัยใหม่ตามนโยบายของจักรพรรดิโจเซฟ
        จักรพรรดิโจเซฟมีชื่อเสียงด้าน "ความทุ่มเทให้กับประชาชนอย่างแท้จริง" มากค่ะ แม้จะเป็นผู้ครองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่จักรพรรดิโจเซฟกลับมีเป้าหมายเพียงแค่จะทำให้ยังไงให้ประชาชนในอาณัติมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งพยายามยกเลิกระบบทาสและศักดินาที่มีในจักรวรรดิมาเป็นเวลานาน
 

2. เจงกิส ข่าน แห่งมองโกเลีย

history.com
 
        อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมเจงกิส ข่านถึงติด list นี้ด้วย เพราะหลายคนก็คงพอได้ยินมาบ้างว่าเขาเป็นผู้นำที่เน้นความรุนแรงพอสมควร แต่ความ "ยิ่งใหญ่" มันก็มาได้หลายทางค่ะ
        เจงกิส ข่านเติบโตมาในชนเผ่าเผ่าหนึ่งของมองโกเลียที่ตอนนั้นยังแตกแยกออกเป็นเผ่าเล็กเผ่าน้อย เขาจึงตัดสินใจสั่งสมกำลัง ทยอยตีเผ่านั้นเผ่านี้เพื่อรวมมองโกเลียให้เป็นผืนเดียวกันให้ได้ จนในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ และสร้างราชวงศ์ของตัวเองขึ้นมาได้ ตอนนั้นถือว่ามองโกเลียเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดจนกระทั่งอังกฤษมายึดตำแหน่งนี้ไปค่ะ
        เจงกิส ข่านมีความสามารถในการรบมาก และทำทุกวิถีทางเพื่อให้รบชนะ อาจจะฟังดูโหดร้าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกค่ะ
 

3. พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งปรัสเซีย

Wilhelm Camphausen
 
        ก่อนปี 1871 (เยอรมนีถือกำเนิด) ปรัสเซียถือเป็นอาณาจักรหนึ่งที่มีอิทธิพลมากในแถบยุโรปกลาง และคนที่ทำให้เป็นแบบนั้นก็คือ พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งปรัสเซีย
        พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 ทรงออกรบกับอาณาจักรรอบๆ ทั้งโปแลนด์และออสเตรีย ทำให้ได้พื้นที่มาสร้างอาณาจักรปรัสเซียให้เป็นปึกแผ่น และขยายวัฒนธรรมออกไป จนถึงช่วงที่รวมอาณาจักรกันเป็นเยอรมนีเพื่อสู้กับการรุกรานของนโปเลียน โบนาปาร์ตนั่นเอง
 

4. พระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ

wikipedia.org
 
        พระราชินีอลิซาเบธที่ 1 ถือเป็นราชินีที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เพราะนอกเหนือจากปัญหาเรื่องการแย่งชิงราชบัลลังก์กับพี่น้องต่างสายเลือดของตัวเอง ราชินีอลิซาเบธก็ยังเอาชีวิตรอดมาจนถึงวันที่ต้องสวมมงกุฎได้
        แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิง ทำให้ประเทศต่างๆ ในตอนนั้นสนใจอยากร่วมวงศาคณาญาติด้วย เพื่อจะได้มีสิทธิครองบัลลังก์อังกฤษ พวกข้าราชบริพาลต่างก็ให้การสนับสนุน แต่ราชินีอลิซาเบธปฏิเสธไม่ขอแต่งงานกับฝรั่งเศสหรือสเปน แต่จะขอแต่งงานกับ "อังกฤษ" ของตัวเอง จนได้ฉายาว่า "ราชินีแห่งความบริสุทธิ์"
        ยุคที่ราชินีอลิซาเบธที่ 1 ครองราชย์ แม้จะมีความขัดแย้งเรื่องศาสนา และความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสและสเปน แต่ราชินีอลิซาเบธก็ยังทำให้วัฒนธรรมในประเทศเจริญถึงขีดสุดทั้งด้านการละครและบทประพันธ์ แถมยังมีกลยุทธิ์ในการรับมือทางการทูตเพื่อไม่ให้อังกฤษตกเป็นเบี้ยล่างของประเทศอื่นๆ อีกด้วย
 

5. พระเจ้าอักบาร์มหาราชแห่งจักรวรรดิโมกุล (อินเดียปัจจุบัน)

hindutva.com
 
        พระเจ้าอักบาร์นั้นเป็นจักรพรรดิที่ขึ้นชื่อเรื่องการให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนเรื่องศาสนา เพราะพระเจ้าอักบาร์นับถือศาสนาอิสลาม แต่ประชาชนบางส่วนที่อยู่ใต้การปกครองนั้นเป็นนับถือศาสนาฮินดู พระเจ้าอักบาร์ใช้กลยุทธิ์การปกครองคนต่างศาสนาและชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่รอบนอกจักรวรรดิด้วยการยกเลิกการแบ่งแยกทางศาสนา ทรงแต่งงานกับเจ้าหญิงฮินดู และรับชาวฮินดูเข้ามาทำงานราชการได้ นอกจากนี้ยังยกเลิกการเก็บภาษีคนต่างศาสนาที่มีมาแต่โบราณอีกด้วย
 

6. กษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส

Alchetron
 
        กษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 ของฝรั่งเศสแม้จะไม่โด่งดังเท่ากษัตริย์หลุยส์ที่ 14 กษัตริย์ชาร์เลอมาน หรือนโปเลียน แต่ก็เป็นกษัตริย์ที่ประชาชนเคารพนับถือจนเรียกว่าเป็น "The Good King Henry" โดยเฉพาะการให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาแก่ประชาชนชาวฝรั่งเศส เนื่องจากสมัยนั้นถึงขั้นมีสงครามระหว่างผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกกับโปรเตสแตนท์กันเลยทีเดียว
        แม้ว่ากษัตริย์เฮนรี่จะเป็นคาทอลิกโดยกำเนิด แต่มารดาของพระองค์เป็นโปรเตสแตนท์ กษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 จึงยึดอุดมการณ์ของมารดา และออกกฎหมายให้เสรีภาพแก่การนับถือศาสนา แม้จะถูกต่อต้านจากขุนนางที่เป็นคาทอลิก
        แต่ด้วยเหตุนี้เองก็ทำให้พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์โดยคนที่คลั่งนิกายคอทาลิก และทำให้ประชาชนตกใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก
 

7. พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซีโดเนีย

wikipedia.org

        พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมีชื่อเสียงเรื่องชั้นเชิงการสู้รบที่เก่งกาจไม่แพ้เจงกิส ข่านเลยค่ะ ทั้งรวมกรีกเป็นปึกแผ่น ครอบครองอาณาจักรมาซีโดเนียที่ยิ่งใหญ่ ยาวไปจนถึงเอเชียและอียิปต์ (จึงตั้งชื่อเมืองอเล็กซานเดรีย ตามพระองค์) เก่งถึงขนาดที่บางครั้งยังไม่ทันได้สู้ อีกฝ่ายก็ยอมศิโรราบ กลายเป็นสงครามที่ไม่จำเป็นต้องนองเลือดแม้แต่น้อย
 

8. อับราฮัม ลินคอล์นแห่งสหรัฐอเมริกา

Heads Up
 
        พูดถึงจักรพรรดิ กษัตริย์ และราชินีไปเยอะแล้ว ขอพูดถึงผู้นำคนสำคัญของอเมริกาหน่อยแล้วกันค่ะ
        อับราฮัม ลินคอล์น เป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เข้ามาดำรงตำแหน่งได้ไม่กี่ปีก็ถูกลอบสังหาร แถมช่วงที่มาดำรงตำแหน่งนั้นก็เป็นช่วงยุคมืดของอเมริกา ทั้งสงครามกลางเมือง วิกฤติเศรษฐกิจและการเมือง สารพัดปัญหา แต่อับราฮัม ลินคอล์นก็จัดการได้ดีทีเดียว ทั้งออกคำสั่งยกเลิกการใช้แรงงานทาสจากแอฟริกาและชนพื้นเมือง และปฏิรูปรัฐบาลเสียใหม่
       แต่การยกเลิกการใช้แรงงานทาสก็ทำให้ลินคอล์นตกที่นั่งลำบาก เพราะรัฐทางตอนใต้ทั้ง 7 ที่แยกตัวออกจากสหรัฐฯ ต่างไม่พอใจนโยบายนี้ และแม้ลินคอล์นจะออกคำสั่งว่าอย่าทำร้ายตัวตั้งตัวตีของรัฐทั้ง 7 นี้ แต่สุดท้ายเขาก็โดนฝ่ายตรงข้ามลอบสังหารเสียเอง
 

9. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แห่ง ราชอาณาจักรไทย

กรมประชาสัมพันธ์
 
        ในหลวงของเราทรงเป็นตัวอย่างของผู้นำที่สร้างสุขให้แก่ประชาชนค่ะ ทั้งการเสียสละพระองค์เองเพื่อไปในถิ่นกันดาร ดูแลทุกข์สุขของประชาชนทั้งใกล้ไกล
        แม้ว่าพระองค์จะต้องครองราชย์โดยอยู่ภายใต้ความกดดันจากประชาชนและรัฐบาล แต่พระองค์ก็ยังทรงทำเพื่อประชาชนภายใต้ขอบเขตจำกัดนั้น ทำให้ประชาชนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และนับถือพระองค์เหมือนเป็น "พ่อคนหนึ่ง"
        การสูญเสียครั้งนี้จึงไม่ได้สูญเสียแค่ "ผู้นำ" แต่เป็นการสูญเสีย "ที่พึ่งทางใจ" ของคนไทยทั้งประเทศ
        เราคงไม่ค่อยเห็นกษัตริย์หรือผู้นำที่เป็นที่รักของประชาชนได้ขนาดนี้บ่อยๆ แต่ก็อย่าร้องไห้เสียใจกับการจากไปของพระองค์เพียงอย่างเดียว พี่น้องอยากให้ทุกคนใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีเพื่อตอบแทนพ่อของแผ่นดินอย่างจริงจังนะคะ

 
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กระปุก ณ ทุ่งรังสิต Member 25 ต.ค. 59 23:36 น. 9

ขอติงนิดนึงครับ โจเซฟที่ 2 เป็นจักรพรรดิของ "จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์" ครับ โดยมีศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่ออสเตรีย ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้อง "จักรวรรดิโรมัน" ที่กรุงโรม (ล่มสลายไปตั้งแต่ปี 476) เลยครับ เพียงแต่ใช้ชื่อว่า "โรมันอันศักดิ์สิทธิ์" เพราะชาร์เลอมาญจักรพรรดิองค์แรกได้รับการสถาปนาโดยพระสันตะปาปาครับ แต่อาณาเขตของอาณาจักรนี้ก็ไปถึงแค่ตอนเหนือของคาบสมุทรอิตาลี แต่ไม่ถึงกรุงโรมเพราะสมัยนั้นพระสันตะปาปาปกครองกรุงโรมเองเลย

และการเรียกประชากรของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่ใช่ว่า "ชาวโรมัน" ครับ แต่จะเรียกกันตามแคว้นต่างๆ ที่อยู่ใต้จักรวรรดิ เช่น ชาวออสเตรีย ชาวปรัสเซีย งี้

1
กำลังโหลด

11 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กระปุก ณ ทุ่งรังสิต Member 25 ต.ค. 59 23:36 น. 9

ขอติงนิดนึงครับ โจเซฟที่ 2 เป็นจักรพรรดิของ "จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์" ครับ โดยมีศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่ออสเตรีย ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้อง "จักรวรรดิโรมัน" ที่กรุงโรม (ล่มสลายไปตั้งแต่ปี 476) เลยครับ เพียงแต่ใช้ชื่อว่า "โรมันอันศักดิ์สิทธิ์" เพราะชาร์เลอมาญจักรพรรดิองค์แรกได้รับการสถาปนาโดยพระสันตะปาปาครับ แต่อาณาเขตของอาณาจักรนี้ก็ไปถึงแค่ตอนเหนือของคาบสมุทรอิตาลี แต่ไม่ถึงกรุงโรมเพราะสมัยนั้นพระสันตะปาปาปกครองกรุงโรมเองเลย

และการเรียกประชากรของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่ใช่ว่า "ชาวโรมัน" ครับ แต่จะเรียกกันตามแคว้นต่างๆ ที่อยู่ใต้จักรวรรดิ เช่น ชาวออสเตรีย ชาวปรัสเซีย งี้

1
กำลังโหลด
Makimei Nami Member 15 ต.ค. 60 08:40 น. 10

ร.9 กับเฟรเดริกมหาราช เย่---

ปล.ซาร์ปีเตอร์ของรัสเซียทำไมไม่ติดอ่ะ ;;-;;

ปปล.เสียดายที่นับเจ้าชายเฮนรีราชนาวิกของโปรตุเกสด้วยไม่ได้ คนนั้นก็สำคัญนะ ไม่มีคนนั้นก็ไม่มียุคสำรวจทางทะเลและไม่มีทางเจออเมริกาหรอก ;;-;;

0
กำลังโหลด
Parn-PaNiCh Member 15 ต.ค. 60 08:47 น. 11

นึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5อีกพระองค์ด้วยค่ะ เพราะพระองค์ทรงนำความเจริญให้เข้าสู่ประเทศไทย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด