สวัสดีค่า พบกับเด็กพลังบวกกันอีกแล้ว เดี๋ยวเราจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเองและคนรอบข้าง เรามาดูกันดีกว่าว่าเด็กพลังบวกวันนี้จะเป็นใคร!
เมื่อได้ที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นในชีวิต คนเรามักอยากเก็บภาพแต่ละช็อตในช่วงเวลานั้นไว้ หยิบขึ้นมาดูเมื่อไหร่จะได้รู้สึกเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงมีอาชีพ "ช่างภาพ" เกิดขึ้นเพื่อช่วยเก็บภาพให้น่าประทับใจที่สุด ซึ่งช่างแต่คนมีระดับฝีมือ เทคนิค และสไตล์ที่โดดเด่นแตกต่างกัน ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชายคนหนึ่งที่เรียนรัฐศาสตร์ แต่ชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ ขอบอกว่าเขาคนนี้ดีทั้งทัศนคติ อารมณ์ และฝีมือ ถ้าน้องคนไหนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนชอบหยิบกล้องมาถ่ายโน่นนี่อยู่แล้ว เรามาหาคำตอบกันดีกว่าว่าอาชีพนี้ทำงานยังไง เหนื่อยแค่ไหน และได้เงินดีจริงรึเปล่า!
Photo Credit: Oaki Gallery
แนะนำตัวสักหน่อย
"สวัสดีครับ ‘โอ๊ค - ณัฏฐ์ สนธิปัญญากุล’ ครับ อายุ 22 ปี เรียนอยู่ปี 4 คณะรัฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิสัยปกติเป็นคนพูดมากอะ 5555 เข้ากับคนอื่นได้ดีครับ รักอิสระ เวลาว่างๆ ชอบดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป ชอบอ่านการ์ตูน และเขียนอะไรเล่นๆ"
จุดเริ่มต้นของคนสะพายกล้อง
โอ๊คเล่าว่า "พอดีคุณพ่อเป็นช่างภาพครับ ตอนประถมผมเลยลองเอากล้องฟิล์มเก่าๆ มากดเล่นดู แล้วเริ่มหัดถ่ายรูปจริงจังเอาตอน ม.4 ที่คุณพ่อซื้อกล้องดิจิทัลให้ ซึ่งพอดีกับที่ผมไปแลกเปลี่ยนที่ฟิลิปปินส์พอดี เราก็ถ่ายอะไรไปเรื่อยที่โน่น ลองผิดลองถูก ถามผู้รู้ ไปดูรูปช่างกล้องที่เก่งๆ บ้าง พอดีว่าอยู่ในกลุ่มช่างภาพด้วยครับ เราเลยพยายามศึกษามุมกล้องมาปรับใช้กับงานของเรา"
จากตอนนั้นจนตอนนี้ รู้สึกแตกต่างยังไงบ้าง? "สมัยก่อนเรายังไม่มั่นใจ ต้องคิดแล้วคิดอีกกว่าจะกดถ่ายได้สักรูป กังวลไปหมดว่าคนอื่นจะชอบไหม แต่พอมีคนชมก็เริ่มมั่นใจขึ้น ตอนนี้ถ่าย 1,000 จะโอเคสัก 500 ส่วนมุมมองถ่ายรูปก็เปลี่ยนเหมือนกัน สมัยก่อนเราต้องถ่ายหน้าตรงๆ เดี๋ยวนี้รู้จักหลายมุมขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถ่ายแบบตามใจฉันขนาดนั้น มันมี pattern ของมันอยู่แหละ"
ถ่ายรูปสไตล์ Oaki Gallery
ปกติช่างภาพจะมีสไตล์การถ่ายภาพเป็นของตัวเอง แล้วโอ๊คล่ะ? "ปกติจะชอบถ่ายแนวสตรีท ชีวิตคน เน้นเก็บบรรยากาศครับ ผมถือคติว่า ‘ถ้าจะไปไหนต้องมีกล้องดีๆ ในมือสักตัว’ ตัวอย่างภาพที่ผมชอบถ่าย เช่น คนยิ้ม โดยเฉพาะเด็ก เด็กยิ้มน่ารักอะ 5555 เราดูรูปแล้วแฮปปี้เลยอยากให้คนอื่นเห็นบ้าง แต่จะไม่ชอบถ่ายภาพวิวเท่าไหร่ครับ"
"แต่ถ้าถ่ายงาน ผมรับหมดทั้งงานรับปริญญา งานอีเว้นต์ งานบวช งานเลี้ยง ฯลฯ ส่วนใหญ่เป็นรับปริญญาครับ ที่ไปบ่อยๆ มีทั้งจุฬาฯ มธ. เกษตร สไตล์ของผมจะเป็นแนวสดใส เล่นกับสถานที่เล่นกับคนเยอะๆ บรรยากาศเฮฮา ยิ่งถ้าเป็นงานรับปริญญา จะได้เปรียบตรงเราอายุไล่เลี่ยกับบัณฑิต และเราเองเป็นคนกว้างขวางอยู่แล้ว รู้ว่าต้องคุยกับคนแต่ละแบบยังไง"
"ถ้าเอางานที่ประทับใจเลยนะ ตอนนั้นไปถ่ายรุ่นพี่นอกรอบที่โรงเรียนชายล้วน ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปตอนมัธยมที่มีคนเยอะๆ อยู่กับเพื่อนๆ คนถ่ายยังชอบเลย เพราะผมเองก็จบชายล้วนมาเหมือนกัน"
ช่างกล้องเนื้อหอม
โอ๊คเล่าเกี่ยวกับงานแรกให้ฟังว่า "ตอน ม.5 มีอาจารย์ให้ลองถ่ายรูปรับปริญญาให้ เขาเห็นผลงานแล้วบอกโอเค ลองทำดู ค่อยๆ ฝึกไป จนตอนนี้ถ้านับรวมทั้งงานฟรีงานจ้าง ผมทำมาประมาณ 60-70 งานแล้ว งานมาเป็นหน้าๆ ครับ อย่างช่วงนี้รับปริญญา มีงานถี่แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ คิวซ้อนก็มีเหมือนกัน ปกติจะมีลูกค้ามาติดต่อ 4-5 คนต่อเดือน บางครั้งพีคหน่อยถึงขั้น 7-8 คน แต่เราจะรับงานคนแรกที่ติดต่อมา ถ้าคอนเฟิร์มแล้วก็ต้องแจ้งให้คนมาทีหลังทราบ"
ถึงเหนื่อยและท้อก็ไม่ถอย
ถามจริงๆ ว่าเหนื่อยไหมกับชีวิตช่างภาพ? "เหนื่อยนะ วันนึงเดินเป็น 10 'โล ตากแดดอีก เคยต้องตื่นเช้าสุดตอนตีสามไปถ่ายงานที่ลาดกระบัง ส่วนกลับดึกสุดคือไปถ่ายงานเลี้ยง กลับถึงบ้านเที่ยงคืนตีหนึ่งได้ เคยท้อช่วงนึงเหมือนกันที่ไปถ่ายงานรับปริญญาที่ ม.เกษตร 4 วันติด ออกจากบ้านตีห้า ถึงบ้านทุ่มนึง นอน จนแม่ถามว่า 'มีบ้านไว้นอนหรอลูก?' 5555 แต่มันเป็นสิ่งที่เรารักอะเนอะ ทำเหมือนไม่ทำ ได้ตังค์ด้วย สำคัญตรงนี้เลย"
เคยเจออุปสรรคอะไรตอนทำงานบ้าง? "เรื่องฝนตกเลยครับ อารมณ์เสียนิดนึง พอทุกคนกลับมาในร่ม ภาพจะไม่สวย มันก็ทำอะไรไม่ได้อะเนอะ บางทีเราก็นัดให้เขามาถ่ายเพิ่มนิดหน่อย นอกนั้นก็เรื่องสถานที่เล็กบ้างแล้วคนเยอะบ้าง บางทีกลับบ้านมาเสียงแหบเพราะต้องตะโกนตลอดเวลา ส่วนถ้าลูกค้าโพสท่าไม่เก่ง อันนี้ผมแก้โดยการเรียกให้เพื่อนเขาเข้ามาในเฟรมด้วย แล้วทุกอย่างจะดูธรรมชาติเอง"
ฝีมือพร้อม...อุปกรณ์ก็ต้องพร้อม
"ถ้ามีคนบอกว่า 'มีฝีมือก็พอ อุปกรณ์ไม่สำคัญ' ผมเถียงขาดใจเลยนะ เพราะเทคนิคดีขนาดไหน ถ้าอุปกรณ์ไม่พร้อม รูปก็ไม่สวย โอเคอาจจะสวยในระดับนึงแหละ แต่สู้คนอื่นไม่ได้ และในขณะเดียวกัน ถึงอุปกรณ์จะสำคัญขนาดไหน คนหลังกล้องก็สำคัญเหมือนกัน"
"ผมลงทุนกับกล้องและอุปกรณอื่นๆ ค่าคอร์สล้างรูป, กล่อง CD, ค่าส่ง EMS รวมๆ ทั้งหมด 60,000 - 70,000 บาทแล้ว ปัจจุบันนี้ใช้ Nikon D7000 ครับ เปลี่ยนมาสามตัวแล้ว และมีแผนจะเปลี่ยนอีก 5555 ยอมรับนะว่าช่วงแรกๆ ยังใช้เงินพ่อแม่อยู่แหละ แต่ตอนนี้เรามีงบของตัวเองแล้ว เพราะปกติวันที่ทำงานจะได้เฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 บาท ตอนนี้ก็ได้เงินมาประมาณแสนนึงได้"
เห็นว่าต้องลงทุนกับเพจด้วย? "อ้อ ใช่ครับๆ ผมทำเพจถ่ายรูปชื่อ "Oaki Gallery" มาตั้งแต่ ม.6 ไว้รับลูกค้า อันนี้เรื่องงานกับเงินล้วนๆ เลย เราจะลงงานที่เราไปถ่ายลูกค้ามา จัดโปรโมชั่นดึงคน นานๆ ครั้งจะกดโปรโมตแบบเสียตังค์ในเฟซบุ๊ก"
ช่างภาพที่ดี...ไม่ได้มีแค่สกิลถ่ายภาพ
"เราต้องมีวินัยมากๆ พูดคำไหนคำนั้น นัดเวลาไหนต้องไปถึงที่ก่อน บอกเวลาส่งไว้ต้องทำให้ทัน และการทำงานแบบนี้ทำให้ผมตัดสินใจเร็วขึ้นทั้งตอนกดถ่ายภาพและเวลาเปลี่ยนเลนส์ และทำให้ผมได้ฝึกเข้าสังคม มีมนุษย์สัมพันธ์ รู้จักการเข้าหาคนแต่ละประเภท รู้ว่าต้องคุยยังไงให้เขารู้สึกเราเป็นเพื่อนกัน"
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น เขาคนนี้เป็นคนชอบเขียนมากๆ "ตอนนี้ผมเองมีเปิดเพจเขียนชื่อ "Room2808" เขียนเรื่อยเปื่อยเรื่องความรัก ดราม่า และกระแสสังคม หลีกเลี่ยงประเด็น Sensitive ซึ่งผมจะเขียนกับรูปที่ผมถ่ายเอง ทำมา 3-4 เดือน ยอดไลก์ 30,000 แล้ว"
ทิ้งท้ายจากใจช่างกล้อง
"กว่าจะมาถึงวันนี้ ผมอยากขอบคุณสังคมที่ผมได้เข้าไปอยู่ด้วย เพราะพวกเขาเป็นกำลังใจให้ผมมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ส่วนใครที่อยากหาสิ่งที่ชอบและหาเงินได้ ให้หางานที่ไม่รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่ เราจะได้สนุกและรักกับมัน เย้! ^^"
ถึงจะฟังแล้วอยากปาดเหงื่อเพราะอาชีพช่างภาพช่างเหนื่อยเหลือเกิน แต่ถ้าใครใจรักการถ่ายภาพจริงๆ และคิดอยากหารายได้พิเศษบ้าง ลองพยายามฝึกฝนฝีมือดูสักครั้งนะคะ ไม่แน่ว่าอีกหน่อยเราอาจคิวแน่นเหมือนช่างโอ๊คคนนี้ก็ได้ ส่วนถ้าใครกำลังมองหาช่างภาพในสโลแกน "เฟรนลี่ ส่งงานไว ให้คุณรู้สึกเหมือนมาถ่ายกับเพื่อน" แวะเข้าไปติดต่อได้ที่่เพจ "Oaki Gallery" หรือถ้าอยากเสพสตอรี่หวานปนซึ้ง เชิญที่เพจ "Room2808" ได้เลยค่ะ เราขอรับรองว่าเขาเป็นกันเองจริงๆ!









0 ความคิดเห็น