สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
วันนี้พี่จะพามารู้จักแร็ปเปอร์หนุ่มหล่อหน้าใสขวัญใจวัยรุ่นจากผลงานเพลงดังอย่าง "มือลั่น" นอกจากนี้เรายังเห็นเค้าได้ในรายการ Show me the money อีกด้วย ถ้าเรามองหนุ่มคนนี้จากภายนอก เราจะต้องคิดว่าเค้าเท่เค้าเพอร์เฟกต์อะไรยังงี้ แต่จริงๆ แล้วเค้าเป็นคนสู้ชีวิตมากๆ คนนึงเลยค่ะ ต้องบอกเลยว่าชีวิตก่อนเข้าวงการของเค้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ด้วยความคิดและทัศนคติที่ดีมากๆ ของเค้า ทำให้เค้ามาถึงจุดนี้ได้ มารู้จักกับเค้ากันเลยดีกว่าค่ะ
แนะนำตัว
"สวัสดีครับชื่อ ‘ดรีม - ศุภกฤต ถิ่นจันทร์’ กำลังศึกษาอยู่ สาขาเทคโนโลยีการศึกษาและสื่อสารมวลชน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตอนนี้ก็เรียนไปทำงานไป ทั้งร้องเพลงแล้วก็แสดงหนังครับ"
ชีวิตก่อนเข้าวงการกับงานก้นครัว!
เห็นหน้าตาอันหล่อเหลาของดรีมแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าเค้าได้ผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารมาก่อน เพราะด้วยความที่ไม่มีเงินใช้ ดรีมเลยต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง น้องดรีมเล่าให้ฟังอย่างจริงจังว่า "ชีวิตก่อนเข้าวงการของผมก็เป็นแค่เด็กธรรมดาๆ คนนึงครับ ใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ไม่ได้สบาย ผมเป็นเด็กคนนึงที่ทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเอง เลี้ยงน้องอีก 2 คน ช่วยแบ่งเบาภาระให้ที่บ้าน ต้องดิ้นรนกันทุกวันครับ ไปทำงานพิเศษตามร้านอาหารบ้าง เป็นเด็กเสิร์ฟ ร้องเพลงตามร้าน ไปทำอาหารบ้างก็มี ผมต้องพยายามทำทุกอย่าง ดิ้นไปเรื่อยๆ เพราะเงินมันไม่พอใช้จริงๆ"
"ถ้าถามว่าเหนื่อยมั้ย มันเหนื่อยแน่นอนอยู่เล้วครับ เหนื่อยทุกวันเป็นเรื่องปกติ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากพยายามดิ้นรนเอาเอง แต่ผมก็ไม่ได้ท้อนะ ผมไม่ได้มีแรงบันดาลใจหรืออะไรที่จะมาทำให้ผมสู้ต่อไปได้ ด้วยความที่เราไม่มีแรงบันดาลใจเนี่ยแหละ เลยทำให้ผมอยากดิ้นรนด้วยตัวเอง อยากเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมจะออกไปจากชีวิตตรงนี้ยังไงดี ผมเลยเอาความคิดพวกนี้มาเป็นแรงผลักดันตัวเองให้ไปต่อครับ"
ชอบร้องเพลง แต่งเพลงเองมาตั้งแต่เด็กๆ
"ผมชอบร้องเพลง แต่งเพลงเองมาตั้งแต่เด็กๆ คือผมสงสัยตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า เพลงมันแต่งยังไงนะ แล้วผมก็เป็นคนชอบแต่งกลอนอะไรแบบนี้ด้วยครับ ผมจำได้ว่าเคยได้ดูรายการนึงของ 'พี่แอ๊ด คาราบาว' เค้าบอกว่า การแต่งเพลงก็เหมือนกับแต่งกลอนอะ ผมก็เลยเก็บมา จำเอาไว้แล้วเอามาใช้แต่งเพลงครับ"
"อีกอย่างคือ ผมเป็นคนชอบคิดนู่นคิดนี่ ผมลองคิดกับตัวเองว่า ถ้าเรามีเพลงเป็นของตัวเอง เราไปยืนอยู่บนเวทีร้องเพลง แล้วมีคนร้องตามเพลงของเราได้ มันจะเจ๋งแค่ไหนกัน ผมว่ามันต้องเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ มีความสุขสุดๆ แน่ๆ"
"ความคิดส่วนนึงที่ทำให้ผมอยากมาร้องเพลง อยากมาแสดงอะไรแบบนี้ ผมว่าตัวจุดประกายเลยคือ ตอนเด็กๆ คุณย่าของผมเค้านั่งดูทีวีอยู่ เค้าก็พูดขึ้นมาว่า 'อยากเห็นผมอยู่ในทีวี' ผมก็เลย เอาล่ะ เราลองมาทำงานด้านนี้ดูดีกว่า"
คิดว่าเข้าวงการได้เพราะดวง
ด้วยความสามารถเเละหน้าตาที่โดดเด่นของน้องดรีม ทำให้ไปเตะตาผู้กำกับหนังชื่อดังอย่าง 'พจน์ อานนท์' เเละนักแสดงตลกชื่อดังที่ผันตัวมาทำงานด้านดนตรีอย่าง 'เเจ๊ส ชวนชื่น' เข้า ทำให้มีโอกาสเข้าวงการบันเทิง น้องดรีมเล่าให้ฟังอย่างขำๆ ว่า "จริงๆ ผมเข้าวงการได้อาจจะเพราะดวงด้วยเเหละมั้งครับ5555 คือผมมีพี่ที่รู้จักคนนึง เค้าส่ง Profile ผมไปให้พี่พจน์ แล้วเค้าก็ติดต่อกลับมาเรียกให้ผมไปถ่ายหนัง ตอนนั้นผมก็ไปแบบงงๆ เหมือนกัน"
"เเล้วตอนที่ผมไปถ่ายหนังเรื่อง 'ป๊าด 888 แรงทะลุนรก' ด้วยความที่ผมชอบแต่งเพลงร้องเล่นๆ เอง ผมก็นั่งร้องเพลง แร็ปเล่นๆ ของผมไปเรื่อย แล้วพี่แจ๊ส (แจ๊ส ชวนชื่น) เดินมาถามผมว่าแต่งเพลงได้เหรอ แล้วก็นัดเจอกัน ผมก็ร้องเพลงให้เค้าฟัง หลังจากนั้นผมก็มีโอกาสได้ทำงานกับพี่แจ๊สครับ"
"พอช่วงนั้นที่เพลง ‘มือลั่น’ ปล่อยออกไป ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับพีคนะ ผมได้ชื่อเสียง คนรู้จักมากขึ้น มันก็เหมือนเป็นของขวัญที่เรามาทำงานตรงนี้ ได้ทำงานที่เราชอบ ได้ร้องเพลง แต่งเพลง อีกอย่างคือมีเงินหมุนเวียนดีขึ้น 5555 จริงๆ มันก็เป็นเหมือน Profile ผลงานอันนึงของเรา เป็นเหมือนจุดเริ่มต้น เป็นใบเบิกทางที่ดีใบนึงเลยครับ"
เพลง 'มือลั่น'
"แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าคนจะรู้จักผมเยอะอะไรมากมาย ก็ยังใช้ชีวิตธรรมดาๆ อยู่ ผมยังคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติ นิสัยเหมือนเดิม ไม่ Keep look อะไรมาก ผมอยากให้คนเค้าชอบที่เราเป็นดีกว่าไปเสแสร้ง สร้างชีวิตอื่นที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองขึ้นมาครับ"
"ถ้าถามว่า ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างการแสดงกับการร้องเพลง ผมชอบร้องเพลงมากกว่านะ เพราะการแสดงเราต้องพยายามจินตนาการ เราต้องแสดงเป็นคนอื่น การที่เราไม่ได้เป็นตัวของตัวเองนี่ยากที่สุดแล้ว ผมว่าการร้องเพลง การเขียนเพลง มันคือความสุขของผม มันคือตัวผมมากที่สุดแล้วครับ' (แต่ก็จ้างงานได้ตลอดนะครับ เล่นหนัง ร้องเพลง ได้หมดครับ5555)"
ลงแข่งรายการแร็ปชื่อดัง
"คือช่วงนั้นมันจะมีรายการแร็ป 2 รายการ คือ Show me the money กับ The Rapper ตอนแรกผมสมัคร The Rapper ไปแล้วด้วย แต่สุดท้ายพี่แจ๊สก็บอกผมว่า ‘มาเเข่ง Show me เถอะ’ คือเค้าเองเป็นกรรมการอยู่แล้วด้วย (แต่ผมไม่ได้อยู่ทีมเค้านะ) เราก็โอเค เชื่อลูกพี่เรา เลยไปออก Show me ครับ"
"ผมว่าผมทำได้ไม่ดีเลยนะ หลุดทุกครั้ง ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ออกมาแบบเพอร์เฟกต์ แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ไงว่าผมหลุดบนเวที เพราะมันตื่นเต้นมากๆ ด้วยแหละ จริงๆ ผมมีเป้าหมายในรายการ คืออยากเข้ารอบลึกๆ แล้วมันจะมีรอบนึงที่เค้าจะให้เราโชว์เดี่ยว ซึ่งเราจะได้โชว์อะไรก็ได้ที่เป็นตัวเอง เพลงที่เราร้องเองแต่งเองทั้งหมด คืออีกแค่รอบเดียวผมก็ได้เข้ารอบแล้ว แต่ดันตกรอบซะก่อน ก็เสียดายตรงนี้ครับ เอาจริงๆ ผมว่ามันยากมากๆ นะรายการนี้ แต่เราก็เข้าใจว่า เออ ความสามารถเรามาได้แค่นี้แหละ มันต้องมีสักวันนึงที่เป็นของเราบ้าง"
"ถึงผมจะไม่ชนะแต่ว่าสิ่งที่ได้กลับมาจากรายการเลย คือ ทักษะการแต่งเพลง การเขียนเพลง การแสดงบนเวที ผมได้ความมั่นใจ ความกล้ามากขึ้นเวลาแสดงบนเวที ผมว่าก็โอเคนะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ"
อยากเลี้ยงได้ทั้งครอบครัว
"ตอนนี้ผมว่าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนะ ผมเหมือนอยู่ในช่วงระหว่างเดินทางไปหามันมากกว่า ผมอยากไปอยู่ในจุดที่เรามีงานทุกวัน มีเพลงดังเป็นของตัวเอง อยากเป็นคนนึงที่ทำเพลงออกมาแล้วคนฟังชอบ ร้องเพลงของเราได้ และเค้ามีความสุขที่ได้ฟังมัน"
"ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ผมอยากเลี้ยงครอบครัวของผมได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เราแค่ช่วยแบ่งเบาภาระได้เฉยๆ คือตอนนี้บ้านเราก็ยังไม่มี ไม่มีอะไรเลย ผมอยากทำให้พ่อแม่ไม่ต้องเหนื่อย จริงๆ ตอนนี้ก็มีงานอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เยอะทุกวัน ถ้ามีผู้ใหญ่ใจดีจ้างงาน ก็จัดมาได้เลยนะครับ5555 พร้อมเสมอ"
"ตอนนี้ผมก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ครับ เรียนอยู่ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตอนนี้ก็เรียนไปทำงานไป ผมเรียนคณะนี้เพราะว่าเรามีความสนใจเรื่องการถ่ายรูป ทำคลิป เลยตัดสินใจมาเรียนครับ"
.jpg)
ส่วนคลิปนี้เป็นผลงานที่น้องดรีมทำกับ "นายนะ" แชมป์จากรายการ Show me the money เป็นโปรเจกต์ที่ทำจอยร่วมกับเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยค่ะ ชื่อเพลง "No Money" แฟนคลับแนวฮิปฮอป แร็ปโย่ว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ!
ถ้าประสบความสำเร็จแล้ว อยากแบ่งปันให้คนที่ไม่มี
"ในอนาคตซักวันนึง ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าวันนึงผมเกิดประสบความสำเร็จขึ้นมาแล้ว ได้ทำตามฝันทุกอย่าง ผมอยากแบ่งปันให้กับคนที่เค้าไม่มี ผมนึกถึงตัวเองในวันที่ไม่มีอะไรเลยแล้วก็รู้สึกว่า ถ้าวันนึงเรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น เราก็อยากจะเป็นคนยื่นโอกาสไปให้คนที่เค้าไม่มีบ้าง อยากช่วยเหลือคนที่เค้าไม่เคยได้รับโอกาสเลยในชีวิต ถ้าตอนนั้นผมมีเงินเยอะมากๆ นะ ผมอาจจะสร้างโรงเรียน เพื่อเป็นการช่วยผลักดันให้เด็กมีการศึกษาที่ดี ช่วยผลักดันให้คนมีความฝันครับ"
"ผมอยากให้ทุกคนที่มีความฝัน ให้สู้ต่อไปครับ ถ้าคุณหยุด ก็เท่ากับว่าคุณแพ้ หาแรงบันดาลใจเอา วันไหนมีไฟเราก็ลุกขึ้นมาสู้ต่อไป ถ้าเรายังมีลมหายใจ อย่างน้อยคนเราก็ต้องมีความหวัง ถึงมันจะผิดพลาดหรือมีอุปสรรคไปบ้าง ก็คิดซะว่าเราได้บทเรียน ได้เรียนรู้กันไปครับ"
"แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร ผมว่านะ ลองทำดูมันทุกอย่างเลย ลองไปทำอาหาร เล่นกีฬา ดนตรี อะไรก็ว่าไป ทำมันให้หมด ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วมันต้องมีซักอย่างที่เราชอบ เราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับถ้าเราไม่ลองลงมือทำ ชีวิตเป็นของคุณเองครับ"
นับว่าเป็นวัยรุ่นอีกคนนึงที่เป็นตัวอย่างของความไม่ยอมแพ้ต่อชีวิต สู้ไปถึงที่สุด เพื่อที่จะได้ทำตามความฝันของตัวเองให้ได้ ทัศนคติและความคิดของน้องดรีมนี่เจ๋งสุดๆ ไปเลยค่ะ พี่ก็ขอเอาใจช่วยให้น้องดรีมหรือใครที่กำลังมีความฝัน อยากทำตามความฝันของตัวเอง ขอให้ทำสำเร็จกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน อย่าท้อค่ะ สู้ๆ ^^ และสำหรับใครที่อยากติดตามผลงานของน้องดรีม ก็สามารถติดตามได้ทั้งในยูทูบแชนเนล DREAMHIGH JSPKK และอินสตาแกรม dream_supakit เลยค่ะ
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ