'วินนี่' รีวิวพิชิตทุนรัฐบาลไต้หวัน MOE กับการเรียนที่ 'Taipei Tech' ใจกลางเมืองหลวง!

  สวัสดีค่ะชาว Dek-D ระยะหลังมานี้กระแสการเรียนต่อ "ไต้หวัน" ก็ยังคงมาแรงแบบไม่มีแผ่วเลยค่ะ! อย่างในเพจเรียนต่อนอกเองก็มีน้องๆ หลังไมค์มาถามข้อมูลการเรียนต่อที่นี่กันเยอะมากกก วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับพี่ที่เป็นทั้งนักเรียนทุนและยังได้ทำงานเป็นผู้ดูแลทุนด้วย พี่เขาจะมาแชร์ประสบการณ์เรียนและใช้ชีวิตในไต้หวัน ที่ดีงามทั้งเรื่องผู้คน เทคโนโลยี การศึกษา ค่าครองชีพ แถมสิ่งแวดล้อมก็ทำให้ได้ฝึกภาษาแบบคุ้มๆ ด้วยนะคะ  ใครกำลังมองหาที่เรียนต่อหรือกำลังวางแผนคว้าทุนนี้ เรามาเก็บข้อมูลกันเลยค่ะ ^^

Note: TWD = สกุลเงิน "ดอลลาร์ไต้หวันใหม่" (ค่าเงินใกล้เคียงไทย) 

แนะนำตัว

    สวัสดีค่ะ "วินนี่" ธนิดา จันทบุรี จบ ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และได้ทุนรัฐบาลไต้หวัน (MOE) ไปเรียนต่อ ป.โท สาขา International Master Program in Business Administration (IMBA) ที่ National Taipei University of Technology เป็นเวลา 2 ปีค่ะ และได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยหน้าที่หลักๆ คือแนะแนวศึกษาต่อไต้หวัน

หลงรักไต้หวันได้ยังไง?

ตอนเรียนมหา’ลัยพี่มีเพื่อนไต้หวันเยอะ เขาก็เล่าข้อดีให้ฟังและแนะนำเรามาค่ะ แล้วตอนนั้นอยากเข้าใจสิ่งที่เพื่อนคุยกัน ประกอบกับซีรีส์กับเพลงไต้หวันกำลังดังด้วย เลยจัดการไปซื้อหนังสือภาษาจีนมาเรียนเอง พอช่วงซัมเมอร์ก็ไปเทกคอร์สสั้นๆ เรียนภาษาที่ไต้หวันจนได้ระดับสื่อสาร สามารถเอาตัวรอดได้ในไต้หวันและประเทศที่ใช้ภาษาจีน 

ช่วงแรกๆ ที่ไปอยู่ไต้หวันไม่รู้สึกว่าลำบากนะ เพราะคนไทเปชอบช่วยเหลือและค่อนข้างเปิดรับคนต่างชาติ สื่อสารอังกฤษได้ค่ะ

แล้วเราก็ตัดสินใจสมัครทุน MOE และเลือกเรียนหลักสูตรอินเตอร์ อ้างอิงจากปีพี่คือถ้าสมัครหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษล้วน 100% แบบนี้ เขาจะวัดคะแนนภาษาอังกฤษ เลือกได้ระหว่าง TOEIC (ขั้นต่อ 750)  TOEFL (ขั้นต่ำ 550) หรือ IELTS (6.0 ขึ้นไป)   แต่ถ้าเกิดเรียนหลักสูตรภาษาจีนจะต้องมีแนบผลสอบวัดระดับภาษาจีน TOCFL ระดับ 4 มาประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นระดับที่เอาตัวรอดได้ ฟังเลกเชอร์อาจารย์หรือประชุมรู้เรื่อง ถ้าให้เทียบกับ HSK ก็ประมาณระดับ 6 ค่ะ แต่ทุนนี้ไม่รับ HSK

ทุน MOE จะมีให้ตั้งแต่ ป.ตรี, โท และเอกเลยค่ะ

  • ถ้าสำหรับ ป.โท ที่พี่สมัคร เขาจะมีให้ค่าเทอม 40,000 TWD/เทอม (มี 40 มหา’ลัยที่จ่ายส่วนต่างให้ เท่ากับว่าเรียนฟรี มีแค่ค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ต้องจ่ายเพิ่มราวๆ 4,500 TWD) + เงินเดือน 20,000 TWD/เดือน ตลอดระยะเวลา 2 ปี 
  • ถ้าเป็นระดับ ป.ตรี จะได้ 15,000 TWD/เดือน เป็นเวลา 4 ปี ส่วน ป.เอกจะได้ 20,000/เดือน เป็นเวลา 4 ปี)

มหาวิทยาลัยใจกลางเมืองเป๊ะ แถมเด่นด้านวิศวะ!

ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยที่ชื่อต่อท้ายด้วย Science and Technology จะเรียนแนวบริหาร+วิศวะนิดนึง ซึ่ง NTUT จะเด่นด้านวิศวะมากๆ และคอนเน็กชันดี (เจ้าของบริษัทใหญ่ๆ มักเป็นศิษย์เก่าจาก ม.นี้ เหมือนเราเรียนและได้ซื้อคอนเน็กชันไปด้วย) ปกติแล้วคนที่เรียนจบสาขานี้จะได้งานที่ไต้หวันเลย เพราะคนเรียนมหา’ลัยนี้จะได้คอนเนกชั่น และได้ภาษาจีนจากการใช้ชีวิตนอกห้องเรียน

ที่ตั้งก็เป็นเหตุผลหลักๆ ที่พี่เลือกมหาวิทยาลัย เพราะอยากอยู่ในเมืองเพราะเดินทางสะดวก อย่าง NTUT นี่คือกลางเมืองมากๆ ความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างมีหมด ข้างหน้ามีสถานีรถไฟฟ้า ข้างๆ เป็นย่านช็อปปิง และห่างไปอีก 3  สถานีรถไฟฟ้าเป็น "ซีเหมินติง" ซึ่งเป็นย่านช็อปปิงวัยรุ่น อารมณ์เหมือนสยามบ้านเรา แล้วการเดินทางคือพี่สามารถขี่จักรยานไปเรียนได้ ฟุตบาธของเขาโอเคมากๆ ค่ะ ^^

  ภาพรวมสาขาที่พี่เรียนคือ General Management ปีแรกลงวิชาบังคับให้ครบ ส่วนอีกปีเริ่มทำ Thesis วิชาเรียนเหลือแค่เทอมละ 2 ตัว หลักๆ เป็นเรื่องการตลาด บางคาบเลกเชอร์ บางคาบมาอภิปรายหรือพรีเซนต์กัน ซึ่ง Case Studies ส่วนใหญ่ที่เรียนจะมาจากอเมริกา เหมือนเราได้เรียนหลักสูตรอเมริกาในราคาไม่แพง ที่สำคัญคือเวลาเรียนในห้องทุกคนจะต้องกล้าพูด เพราะถ้านั่งเงียบจะเหมือนเราไม่เข้าใจ แล้วคะแนนก็จะออกมาน้อย

ส่วนตอนทำธีสิส พี่เปรียบเทียบไทยกับไต้หวันว่าปัจจัยอะไรส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศ โดยสำรวจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่ะ ผลที่ได้คือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยว อย่างช่วงไหนมีข่าวเสียเยอะๆ ทั้งเรื่องการเมืองและความสงบ นักท่องเที่ยวก็จะลดลง

ระบบจัดการเจ๋งๆ ของเมืองแห่งเทคโนโลยี

  • ประทับใจความเจริญที่ทำให้ใช้ชีวิตแต่ละวันได้อย่างสะดวกสบาย เพราะไต้หวันเป็นเมืองเทคโนโลยี เช่น ระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกมากๆ  รถเมล์วิ่งผ่านทั่วถึงทุกเมืองแม้กระทั่งที่ต่างจังหวัด เวลาใช้จ่ายก็จะมีบัตรที่เรียกว่า Easy Card ซื้อตามรถไฟฟ้าหรือร้านสะดวกซื้อก็ได้ สมมติเราเป็นนักเรียน บัตรนักเรียนของเรานั่นแหละคือ Easy Card แล้วเวลาแท็บบัตรก็จะเป็นราคานักเรียน ถ้าเกิดเรียนจบหรือดร็อปช่วงไหนไป ราคาก็จะถูกปรับเป็นราคาผู้ใหญ่อัตโนมัติค่ะ
     
  • มีนโยบายรณรงค์ให้ผู้จับจ่ายใช้สอยขอใบเสร็จทุกครั้งที่ซื้อของร้านค้า โดยใบเสร็จทุกใบจะเหมือนล็อตเตอรี่ ให้เราเก็บไว้ตรวจรางวัลทุกๆ 2 เดือน
     
  • คนไต้หวันเป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ แล้วไต้หวันเป็นเมืองที่ปลอดภัยมากๆ ระบบกล้องวงจรเป็นพวงองุ่นและทุกตัวใช้ได้ เมืองสะอาดไม่แพ้ญี่ปุ่น เขามีระบบจัดการขยะที่สุดยอดมากค่ะ เราต้องซื้อถุงที่รัฐบาลจัดให้มาทิ้งตามเวลาที่กำหนด เอาขยะแพ็กแยกประเภท แล้วแต่ละวันจะมีรถขยะวิ่งมาตามเวลา แล้วเวลาซื้อของเขาจะไม่มีถุงให้ สมมติใน 7-11 ต้องเอาถุงไปเอง ไม่งั้นต้องซื้อในราคาใบละ 5 บาท
     
  • ส่วนที่เที่ยว เที่ยวได้ทั้งเกาะเลยค่ะ ออกจากเมืองไปสักชั่วโมงนึงก็เจอทะเลสวยๆ อาหารการกินสะดวกสบาย อร่อย ราคาถูก หาง่าย พวกตลาดถนนคนเดิน ห้างร้าน คาเฟ่ เยอะมากกก เรียกว่าเป็นสวรรค์นักชอป เพราะราคาจับต้องได้ ถ้าคนชอบกินในราคาที่รับได้ ต้องชอบไต้หวันแน่ๆ
     
  • คุณภาพการศึกษาไม่เป็นรองใครในโลก บ้านเมืองทันสมัย ปลอดภัย และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ส่วนเรื่องภาษาก็เหมือนได้กำไร เพราะเราจะได้ภาษาอังกฤษจากการสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติ พอออกจากห้องเรียนจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับภาษาจีน มีเพื่อนเป็นคนไต้หวัน
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น