รู้จักมั้ย? ไอเท็มเจ๋งช่วยฝึกคิดคำนวณเพื่อเกรดงามๆ


 
          สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าพูดถึง “เครื่องคิดเลข” ประโยชน์หลักๆ คือเรื่องทุ่นเวลา ถ้าน้องๆ วัยเรียนใช้เป็น จะช่วยให้การเรียนวิชาคำนวณเป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือเกรดเฉลี่ยสวยๆ เพราะไม่โดนเกรดเลขกับวิทย์ฉุด และกล้าเผชิญหน้าเวลาสอบเข้าหรือเจอวิชาพวกนี้ในคณะที่เราอยากเรียนในอนาคต โดยเฉพาะสายบัญชี เศรษฐศาสตร์ วิศวะ แต่!! ถ้าตอนนี้ใครกำลังร้องไห้กับวิชาคำนวณอยู่...ไม่ร้องแล้วนะคะ เพราะวันนี้เราจะพาไปรู้จัก “เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์” ไอเท็มที่แอดวานซ์ขึ้นมาอีกขั้น พร้อมจะมาเป็นผู้ช่วยเรื่องเรียนของน้องๆ ว่าแต่มันช่วยให้เรียนดีขึ้นจริงรึเปล่า? เรามารู้จักและฟังรีวิวจากน้อง ม.ปลาย ที่ใช้จริงกันค่ะ


 
          “เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์” (Scientific Calculator) พิเศษกว่าเครื่องมาตรฐานตรงที่สามารถคำนวณโจทย์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ยกกำลัง ค่าพาย ถอดสแควร์รูท อินทิเกรต ฟังก์ชัน เศษส่วน ตรีโกณ สูตรฟิสิกส์ ฯลฯ (คู่ปรับทั้งนั้นนนน) และบางรุ่นยังมีฟังก์ชันที่ช่วยจำค่าหรือทำให้เรียนง่ายขึ้น ยิ่งนานยิ่งออกมาล้ำขึ้นเรื่อยๆ บางคนแนะนำว่าถ้าเลือกเครื่องดีๆ จะใช้ได้ทนทานยันวัยทำงานเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ น้องๆ ม.ปลายทั้งสายศิลป์-สายวิทย์บางคน อาจคิดไม่ถึงว่าทำไมเราถึงควรมีคนละ 1 เครื่องทั้งที่ยังไม่ขึ้นมหา'ลัย เดี๋ยวเรามาฟังรีวิวจาก “น้องซัน” (@followme__sunshine) นักเรียน ม.ปลาย ที่พกเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ไว้ช่วยเรียนกันค่ะ
 

 
Q: หลังจากลองใช้เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ในครั้งแรก น้องซันคิดว่าเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์แบบนี้จะสามารถช่วยให้เราเรียนเลขในโรงเรียนได้ง่ายขึ้น เพราะอะไร?
 
          “บางคนอาจกังวลว่าถ้าใช้เครื่องคิดเลขแล้วจะทำให้เคยตัวรึเปล่า ไม่ต้องกังวลนะคะ จริงๆ หนูว่ามันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ค่ะ เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์มีฟังก์ชั่นการใช้งานมากมาย  ซึ่งทำให้เราแก้โจทย์ได้เร็วและหลากหลายมากๆ หรือสมมติเวลาซันเข้าใจคอนเซ็ปต์วิธีคิดอยู่แล้ว เราก็เหลือแค่กดคำนวณออกมา ไม่ต้องนั่งงมกับโจทย์นั้นนานๆ แล้วเอาเวลาไปฝึกหาวิธีคิดโจทย์แบบอื่นที่ซับซ้อนขึ้นแทน ซันว่ามันช่วยทุ่นเวลาการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยด้วย เหมือนพอเข้าใจบทนั้น แล้วก็เดินทางลัดเพื่อไปอ่านบทอื่นต่อได้ไวขึ้น”
 

โฉมหน้าเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์

 
Q: เพราะอะไรน้องซันถึงเลือกใช้เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์รุ่นนี้ Casio classwiz fx-991EX
 
          “ปกติซันจะนึกถึงเครื่องคิดเลข CASIO ก่อนอยู่แล้วเพราะเป็นแบรนด์ดัง ได้ยินชื่อนี้บ่อยมาก เคยอ่านคนรีวิวว่าปุ่มนุ่ม เสียงเบา และทนทาน (ปุ่มนุ่มนี่สำคัญนะคะ เพราะเวลากดจะไม่มีเสียงไปรบกวนคนอื่น กดมันส์แค่ไหนก็ไม่มีใครว่า 555) ส่วนรุ่น CASIO ClassWiz fx-991EX ก่อนซื้อเราเคยเทสต์แล้วรู้สึกใช้งานง่าย เวลาใส่ข้อมูลลงเครื่อง มันจะแสดงผลข้อมูลหลังคำนวณออกมาเป็นประโยคคณิตศาสตร์ที่เหมือนจริงตามหนังสือเรียนเลยค่ะ ถ้าเอาที่ซันใช้บ่อยๆ เลยนะ ซันเรียนสายศิลป์ จะมีเจอเรื่องสถิติ เมตริกซ์ สมการ อัตราส่วน ความรู้สึกคือตอนนี้เริ่มมองหน้าวิชาเลขติดแล้ว ก่อนหน้านี้เกลียดมากกก”

4 x (Sin30) x (30+10x3) = 120
 

ในการทดสอบวิชาหนึ่ง A สามารถทำคะแนนได้ 60%
แต่พอสอบจริง เขาทำคะแนนได้ 75%
จงหาว่า ในการสอบจริง เขาทำคะแนนได้เพิ่มมากขึ้นกี่เปอร์เซนต์


B ต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือจากราคาป้ายคือ 20,000 บาท
แต่มีการลดราคาจากป้าย 15% แต่ B มีเงินไม่พอ
ดังนั้นต้องยืมเงินแม่ 10% จึงจะพอซื้อราคาที่ลดแล้วได้
จงหาว่าเดิม B มีเงินอยู่กี่บาท
(85/100 x 20,000) – (17,000 x 10/100) = 15,300 บาท
 
          แล้วอย่างที่บอกว่าเครื่องคิดเลขยิ่งออกรุ่นใหม่ยิ่งล้ำ ขอยกตัวอย่างฟังก์ชั่น QR Code ของ CASIO ClassWiz fx-991EX ที่มีไว้ให้ครูกับนักเรียนแชร์ข้อมูลกันง่ายๆ แค่สแกนแล้วผลกราฟและกราฟิกต่างๆ จะไปโผล่บนจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
 



สแกนแล้วเด้งไปหน้าจอ แชร์คำตอบกับครูง่ายขึ้น
 
          สำหรับน้องๆ ที่ต้องการประหยัดงบหน่อย ขอแนะนำ 2 รุ่นน่าสนใจที่ราคาถูกลงมาแต่สามารถใช้คำนวณได้เช่นกัน คือ รุ่น ES Plus series ที่ใช้คำนวณได้สบาย หน้าจอกว้าง อ่านง่าย เพียงแต่ไม่มี QR Code และรุ่นรองลงมาคือ MS series เป็นรุ่นพื้นฐาน มีฟังก์ชั่นการทำงานแบบพื้นฐาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้คำนวณเพียงอย่างเดียว 
 

          
“ถ้าเราซื้อเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ของ CASIO
เราก็เข้าไปอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นกับเล่นเกมบนเว็บ CASIO ได้”


 
          และนี่ก็เป็นตัวอย่างความดีงามของเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ที่อยากมาแชร์กันค่ะ (ถ้าสนใจรุ่นที่น้องซันใช้ สามารถอ่านต่อได้ที่   www.casio-intl.com/th/th/calc/products/fx-991EX/) จริงๆ เมื่อก่อนพี่ก็เคยคิดว่าเครื่องคิดเลขที่แอดวานซ์เบอร์นี้ไม่น่าจำเป็นสำหรับเด็กมัธยม แต่พอมาคิดว่าเดี๋ยวนี้การแข่งขันสูง เวลาเตรียมตัวน้อย ถ้าเรามีวิธีทุ่นเวลาลงได้ แล้วเน้นอ่านหนังสือให้ครอบคลุมบทเรียนที่สุด มันคงทำให้เราได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ยังไงพี่ขอเอาใจช่วยให้น้องๆ จับจุดได้ ฝึกฝนจนสนุกกับการคำนวณมากขึ้น แล้วเกรดงามๆ กับคณะในฝันจะเป็นรางวัลที่ทำให้รู้ว่า สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดไม่สูญเปล่าค่ะ 
 
ข้อมูลเพิ่มเติม CASIO ClassWiz fx-991EX:https://edu.casio.com/th/products/cwiz/fx991ex/    
การ์ตูน/เกม (Premium contents):https://sp.casio-intl.com/edu/functionhero/th/ 
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์ - Columnist ข่าวประชาสัมพันธ์ภายในเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ผ่านมา 5 มิ.ย. 62 11:46 น. 1

เป็นดาบสองคมนะครับ ประโยชน์ก็มีอย่างที่บทความกล่าวมา


สำหรับผู้ที่คิดจะหามาใช้ อาจต้องระลึกไว้นิดนึงว่า ในห้องสอบไม่สามารถเอาเครื่องคิดเลขเข้าได้นะครับ อย่างในตัวอย่าง 4 x (Sin30) x (30+10x3) = 120 ถ้าจำไม่ได้ว่า Sin30 เท่ากับเท่าไรนี่จบเลยนะครับ

1
ริช่า 13 ก.ย. 62 18:45 น. 1-1

แต่ก็น่าสนใจนะคะ ที่ประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีระบบการศึกษาดีมากๆ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก อย่างอเมริกาเค้าให้เด็กเอาเครื่องคิดเลขเข้าสอบได้ SAT ก็เอาไปใช้ได้ GED นี่มีคิดแบบไม่มีเครื่องแค่ 5 ข้อแล้วที่เหลือใช้ calculator ได้หมด

นี่ก็สงสัยเหมือนกันว่าคิดเองแล้วมันดีกว่ายังไง เพราะในอนาคตเราจบไป ไปทำงาน เค้าก็ให้เราใช้เครื่องคิดเลขอยู่ดี เค้าแข่งกันที่เวลา ไม่ได้แข่งกันว่าคิดเองแล้วเงินเดือนดีกว่า เทพกว่าอะไรงั้นงี้ เลยแอบแปลกใจกับการศึกษาไทยนิดหน่อย ว่ามีจุดประสงค์อะไร จริงๆ มันดู nonsense มากๆ

0
กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

ผ่านมา 5 มิ.ย. 62 11:46 น. 1

เป็นดาบสองคมนะครับ ประโยชน์ก็มีอย่างที่บทความกล่าวมา


สำหรับผู้ที่คิดจะหามาใช้ อาจต้องระลึกไว้นิดนึงว่า ในห้องสอบไม่สามารถเอาเครื่องคิดเลขเข้าได้นะครับ อย่างในตัวอย่าง 4 x (Sin30) x (30+10x3) = 120 ถ้าจำไม่ได้ว่า Sin30 เท่ากับเท่าไรนี่จบเลยนะครับ

1
ริช่า 13 ก.ย. 62 18:45 น. 1-1

แต่ก็น่าสนใจนะคะ ที่ประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีระบบการศึกษาดีมากๆ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก อย่างอเมริกาเค้าให้เด็กเอาเครื่องคิดเลขเข้าสอบได้ SAT ก็เอาไปใช้ได้ GED นี่มีคิดแบบไม่มีเครื่องแค่ 5 ข้อแล้วที่เหลือใช้ calculator ได้หมด

นี่ก็สงสัยเหมือนกันว่าคิดเองแล้วมันดีกว่ายังไง เพราะในอนาคตเราจบไป ไปทำงาน เค้าก็ให้เราใช้เครื่องคิดเลขอยู่ดี เค้าแข่งกันที่เวลา ไม่ได้แข่งกันว่าคิดเองแล้วเงินเดือนดีกว่า เทพกว่าอะไรงั้นงี้ เลยแอบแปลกใจกับการศึกษาไทยนิดหน่อย ว่ามีจุดประสงค์อะไร จริงๆ มันดู nonsense มากๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด