จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเผลอ "กลืนหมากฝรั่ง" ลงท้อง!?



 
          Spoil
  • หมากฝรั่งกลืนได้ แต่ไม่กลืนจะดีกว่านะ! (เคี้ยวเฉยๆ อร่อยกว่าเยอะ)
  • นักออกแบบชาวอังกฤษได้เกิดความคิดในการรีไซเคิลหมากฝรั่ง
  • นอกจากหมากฝรั่งจะให้ความอร่อยแล้วยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
          _____________

 
          หมากฝรั่ง ขนมที่เป็นของโปรดของใครต่อใครหลายคนในวัยเด็ก เผลอๆ โตมายังชอบกินอยู่เลยก็มี พี่มิ้นๆ เชื่อว่าน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนต้องเคยเคี้ยวหมากฝรั่งเพลินๆ แล้วเผลอกลืนเจ้าหมากฝรั่งตัวดีนี้ลงท้องแน่นอน แล้วที่เคยมีคนบอกว่าถ้าเผลอกลืนหมากฝรั่งลงท้องไป เจ้าก้อนหมากฝรั่งจะอยู่ในท้องเราถึง 7 ปี นี่เป็นความจริงหรือไม่นะ!?

          ซึ่งความเชื่อที่ว่าหากกลืนหมากฝรั่งลงท้องแล้วหมากฝรั่งจะอยู่ในท้องเรานานถึง 7 ปี ก็คล้ายกับความเชื่อในตอนเด็กของเราที่ว่าถ้ากลืนเมล็ดแตงโมลงท้อง เมล็ดแตงโมจะค่อยๆ โตอยู่ในท้องเราจนกลายเป็นลูกแตงโม ไหน ใครเคยโดนหลอกแบบนี้บ้าง ดังนั้นพี่มิ้นๆ ขอตอบตรงนี้เลยค่ะว่าเรื่องที่หมากฝรั่งจะติดอยู่ในท้องของเรานานถึง 7 ปีนั้น ไม่เป็นความจริง” 

          Lisa Ganjhu แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารจาก NYU Langone Medical Center ในนิวยอร์ก กล่าวว่าการกลืนหมากฝรั่งก็เหมือนกับการกลืนอาหาร ซึ่งหมากฝรั่งที่เรากลืนลงไปจะไม่ตกค้างอยู่ในกระเพาะหรือร่างกาย แต่ด้วยสารประกอบที่อยู่ในหมากฝรั่งจึงทำให้น้ำย่อยของเราไม่สามารถย่อยสลายก้อนเหนียวๆ ของหมากฝรั่งได้หมด
 

ภาพจาก unsplash.com

          เพราะฉะนั้นหมากฝรั่งที่เราเผลอกลืนเข้าไปก็จะถูกขับออกมาเป็นอุจจาระพร้อมกับอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน  โดยระยะเวลาที่ร่างกายจะขับของเสียออกมานั้นก็ขึ้นอยู่กับลำไส้ของแต่ละคนด้วย

          ข้อห้ามที่สำคัญที่สุดถ้าน้องๆ คนไหนเผลอกลืนหมากฝรั่งลงไป คือห้ามดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนตามลงไปเด็ดขาดนะคะ! เพราะน้ำร้อนหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงจะทำให้หมากฝรั่งละลายแล้วไปเกาะที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย  
 
ภาพจาก unsplash.com

          น้องๆ รู้มั้ยคะว่านอกจากหมากฝรั่งจะมอบความหวานความอร่อยให้กับเราตอนเคี้ยวแล้ว หมากฝรั่งยังสามารถนำมารีไซเคิลได้อีกด้วย! แอนนา บัลลัส นักออกแบบชาวอังกฤษ ได้เกิดความคิดในการรีไซเคิลหมากฝรั่ง และจากการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีทำให้เธอพบว่าส่วนผสมหลักของหมากฝรั่งคือกัมเบส ซึ่งคือยางสังเคราะห์ทั่วไป เป็นสารพอลีเมอร์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายพลาสติก แอนนามีความเชื่อว่าแม้หมากฝรั่งจะถูกเคี้ยวจนหมดรสหวานไปแล้ว แต่มันยังเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์

          ในตอนแรกที่แอนนาเริ่มรวบรวมหมากฝรั่งเพื่อนำมารีไซเคิลนั้น เธอทำถังขยะสีชมพูที่เรียกว่า Gumdrop หรือถังขยะสำหรับหมากฝรั่ง มหาวิทยาลัยวินเชสเตอร์เป็นสถานที่แห่งแรก ๆ ที่รับถังขยะนี้ไปวางในมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีครึ่งก็เห็นผล เพราะจำนวนเศษหมากฝรั่งที่เคยถูกทิ้งเกลื่อนได้ลดลงไปอย่างมาก  
 
ภาพจาก unsplash.com

          โรงงานรีไซเคิลในวอร์เชสเตอร์ นำเศษหมากฝรั่งจาก Gumdrop ไปคัดแยกสิ่งที่ไม่ต้องการออก ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ หรือกระดาษห่อหมากฝรั่ง ก่อนจะนำไปบด และผสมกับพลาสติกรีไซเคิลชนิดอื่น โดยสัดส่วนที่แอนนาผสมเพื่อทำเป็นวัสดุตามที่เธอออกแบบนั้นจะมีหมากฝรั่งอยู่อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างเช่น การที่จะผลิตแก้วได้ 1 ใบ จะต้องใช้หมากฝรั่งถึง 42 ชิ้น!


          ถือว่าเจ้าหมากฝรั่งแสนอร่อยของเราเนี่ย นอกจากจะเป็นขนมที่ชอบในตอนเด็กแล้วยังให้ประโยชน์และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ถึงประเทศไทยเรายังไม่มี Gumdrop แต่น้องทุกๆ คนก็สามารถรักษาความสะอาดได้ด้วยการห่อหมากฝรั่งด้วยกระดาษก่อนทิ้งทุกครั้ง แล้วก็อย่าเคี้ยวหมากฝรั่งเพลินจนเผลอกลืนหมากฝรั่งลงไปนะคะ ถึงหมากฝรั่งจะไม่ได้อยู่ในท้องเราถึง 7 ปี แต่ถ้าโชคไม่ดีหมากฝรั่งอาจจะติดคอหรือหลอดลมของเราได้นะ! น้องๆ ชาว Dek-D คนไหนมีประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับหมากฝรั่งก็คอมเมนต์มาแชร์กันได้น้า 


ขอบคุณข้อมูลจาก

www.bbc.com
www.mayoclinic.org
www.buzzfeed.com

 
พี่มิ้นมิ้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น