5 เทคนิคจาก "Harvard University" เขียน Resume ยังไงให้ได้ 3 ผ่าน!

          สวัสดีค่าน้องๆ Dek-D ช่วงนี้ใครกำลังจะเรียนต่อหรือว่าสมัครงานแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มเขียนเรซูเม่ (Resume) ยังไงดี ไม่ต้องห่วงนะคะ! วันนี้พี่ไอซ์มาพร้อมกับเคล็ดลับดีๆ ในการเขียนเรซูเม่จากผู้เชี่ยวชาญของ Harvard University ซึ่งเป็นถึงมหาวิทยาลัยระดับโลก ถ้าพร้อมแล้วก็ตามพี่มาเลยจ้าาา

          ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า แม้ Resume กับ Cover Letter จะช่วยไฮไลท์คุณสมบัติและความสามารถที่โดดเด่นของเราเพื่อดึงดูดความสนใจผู้อ่านเหมือนกัน แต่ Resume ควรเขียนเป็นข้อๆ ให้เข้าใจง่าย ไม่ใช่เขียนบรรยายเหมือน Cover Letter ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ 
 



Photo Credit: Havard University


1. ปรับแต่ง Resume ให้สอดคล้องกับลักษณะงาน


          Resume ที่ดีไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดลงไปทุกอย่าง แต่ควรเขียนระบุความสามารถและประสบการณ์ที่สอดคล้องกับศักยภาพที่บริษัท/สถาบันต่างๆ ต้องการค่ะ เช่น ตำแหน่งที่เรากำลังสนใจต้องเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ น้องๆ ก็ควรเขียนลงไปว่า เรามีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างไร? จึงเป็นเหตุผลที่เราควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของตำแหน่งงานและบริษัท/สถาบันที่เราสมัคร เพื่อให้เราเข้าใจวิสัยทัศน์ขององค์กรว่าเขาให้ความสำคัญกับสิ่งใด


2. อย่าลืมใส่ช่องทางการติดต่อกลับ


          การลืมใส่ช่องทางการติดต่อกลับเป็น 1 ใน 5 ข้อผิดพลาดที่หลายๆ คนมักทำในการเขียน Resume ดังนั้นน้องๆ ต้องจำไว้เสมอเลยว่า ห้ามลืมเขียน E-mail และเบอร์โทรศัพท์ทุกครั้ง!


3. สิ่งที่ไม่ควรใส่ลงใน Resume


- รายการการอ้างอิง (A list of Reference) เราสามารถเขียนความสามารถหรือผลงานลงไปได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงใดๆ เพราะหากผู้สัมภาษณ์สนใจ เขาจะขอเราไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

- รูปภาพ: การใส่รูปภาพของตัวเองลงไปนั้นไม่ได้เป็นผลดีเลย เพราะว่ามันจะทำให้น้องๆ ดูไม่เป็นมืออาชีพและยังอาจจะทำให้ผู้ที่อ่านเกิดอคติกับเราโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย (แต่จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับอาชีพหรืองานที่เราสมัครด้วยนะคะ)

- อายุและเพศ: 2 สิ่งนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรใส่ใน Resume เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของเราเช่นกัน


4. ใช้คำกริยาชัดเจน & เลี่ยงคำสวยหรูเกินจริง


          Resume เปรียบเสมือนเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยโปรโมตตัวเราให้น่าสนใจ ดังนั้นคำกริยาที่ใช้บอกการกระทำต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ และยิ่งไปกว่านั้น ควรเลี่ยงการใช้คำพูดที่สวยหรูเกินจริง เช่น มุ่งเน้นเพื่อผลลัพธ์, ทำงานเป็นทีมได้ดีเยี่ยม, มีทักษะการสื่อสารยอดเยี่ยม หรือ ทำงานหนักกว่าใครๆ น้องๆ ต้องจำไว้เลยว่าจุดมุ่งหมายของการเขียน Resume คือการให้ข้อมูลที่เราเคยทำแบบเฉพาะเจาะจงและผลลัพธ์ที่ได้ แต่ผลลัพธ์นั้นต้องวัดผลได้ด้วย ไม่ใช่แค่ข้อมูลลอยๆ

         เดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างคำกริยาบอกการกระทำต่างๆ ที่ทุกๆ คนสามารถนำไปใช้เพื่อแสดงให้คนอ่านเห็นถึงทักษะความสามารถที่เรามีได้ 

1. ความสามารถทางด้านผู้นำ

- Organize = จัดการ/จัดการให้เป็นระบบ เช่น จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับน้องๆ เด็กกำพร้าปากเกร็ด
- Coordinate = ประสานงาน เช่น ประสานงานกับคณะบดีในเรื่องการรณรงค์ไม่ใช้กล่องโฟมในโรงอาหารมหาวิทยาลัย
- Lead = นำ/ควบคุม เช่น ควบคุมโปรเจคค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดน่าน

2. ทักษะการสื่อสาร

- Present = นำเสนอ เช่น นำเสนองานวิจัยเรื่อง ‘Cyberbullying’ ในการแข่งขันงานวิจัยระดับประเทศ
- Collaborate = ทำงานร่วมกับ เช่น ทำงานร่วมกับฝ่ายกิจกรรมสันทนาการในกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัย
- Direct = ควบคุม/สั่งการ เช่น ควบคุมโครงการคุณครูอาสาสอนหนังสือน้องๆ ในพื้นที่ห่างไกล


4. จัดระเบียบข้อความให้อ่านง่าย


          อย่าลืมว่าฝ่ายบุคคลต้องอ่าน Resume หลายฉบับมากๆ ดังนั้นเราจึงควรเขียนให้เป็นระเบียบเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้อ่าน

สิ่งที่ควรทำ

- รูปแบบการเขียนและเนื้อหาต้องสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เช่น เราเริ่มต้นด้วยการใส่หัวข้อแล้วแยกย่อยเป็นข้อๆ โดยใช้ Bullet point ก็ให้ทำตามรูปแบบนี้ไปเลยทั้งหน้า ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปใช้การใช้ dash (-) หรือว่าพูดถึงเรื่องการศึกษาอยู่ก็พูดถึงเรื่องนี้ให้จบก่อน ไม่ใช่เปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องผลงานแล้วกลับมาพูดเรื่องการศึกษาใหม่
- หากต้องการเน้นข้อความ ให้ใช้การเว้นวรรค, ขีดเส้นตาย, ตัวเอียง, ตัวหนา, และพิมพ์ใหญ่ โดยรูปแบบควรสม่ำเสมอทั้งหน้า
- เว้นวรรคให้สมดุลกันในแต่ละย่อหน้าหรือประโยค
- เขียนหัวข้อเรื่องโดยลำดับความสำคัญในการเรียงหัวข้อเรื่อง
- ในหัวข้อต่างๆ ให้เขียนข้อมูลหรือเนื้อหาโดยเรียงจากข้อมูลล่าสุดไปยังข้อมูลที่เก่าที่สุด เช่น ผลงานที่เคยทำก็เริ่มจากปีล่าสุด หรือว่าการศึกษาก็เริ่มด้วยมหาวิทยาลัยลงไปจนมัธยมศึกษา
- เช็กให้แน่ใจว่า หากเปลี่ยนรูปแบบอื่นๆ เช่น PDF แล้วการจัดหน้ากระดาษจะไม่เปลี่ยนแปลง
- พยายามเขียนให้อยู่ใน 1 หน้ากระดาษ

สิ่งที่ไม่ควรทำ

- ลืมตรวจคำผิด
- เขียนแบบบรรยาย (ควรเขียนเป็นข้อๆ)
- ใช้คำสรรพนามส่วนบุคคล เช่น ‘I’ ในกรณีที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกันในกรณีที่เป็นภาษาไทยก็ใช้สรรพนามที่แสดงความไม่เป็นมืออาชีพ เช่น หนู (ควรใช้คำว่า 'ดิฉัน' หรือ 'ผม')
- ขึ้นต้นแต่ละประโยคด้วยวันที่
- ใช้เทมเพลตที่ซับซ้อนและมีหลากหลายสีมากเกินไป


          พี่ไอซ์ก็หวังว่าคำแนะนำต่างๆ นี้จะช่วยให้น้องๆ Dek-D ทุกคนเขียน Resume เพื่อใช้ในการศึกษาต่อหรือว่าสมัครงานถูกใจสถาบันหรือบริษัทต่างๆ นะคะ สู้ๆ  > <





Source:
www.cnbc.com/
พี่ไอซ์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น