Spoil
- อนุญาตให้หลับในห้องเรียนได้ จะช่วยพัฒนาความจำให้นักเรียน
- ห้ามมีเพื่อนสนิท ป้องกันไม่ให้นักเรียนถูกกีดกันจากเพื่อนร่วมชั้น
- จำกัดจำนวนการเข้าห้องน้ำ ลดโอกาสการโดดเรียนของนักเรียนได้
______________
เคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่ากฎระเบียบที่โรงเรียนมีไว้เพื่ออะไรกันนะ พี่นุ่นเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะไม่ชอบกฎที่โรงเรียนกันบ้างแหละ เพราะบางข้อก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่แค่โรงเรียนในไทยที่มีกฎระเบียบมึนๆ งงๆ ยังมีอีกหลายกฎของโรงเรียนทั่วโลก ที่มีความแปลก พี่นุ่นอ่านไปเกาหัวไปเลยจ้า ว่าแต่จะมีกฎอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. ห้ามมีเพื่อนสนิท
หลายโรงเรียนในประเทศอังกฤษมีกฎแปลกๆ ที่ไม่ให้นักเรียนมีเพื่อนรักหรือเพื่อนสนิท ไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย ห้ามมีเพื่อนสนิทTT คนเราเกิดมาก็ต้องมีเพื่อนสนิทสิ โดยทางครูใหญ่ให้เหตุผลว่าอยากให้นักเรียนมีเพื่อนหลายคนมากกว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นักเรียนถูกกีดกันจากเพื่อนร่วมชั้น เวลาทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เพียงเพราะไม่สนิทหรือไม่ค่อยคุ้นเคยกัน ซึ่งปรากฏว่าผลที่ได้ออกมาดีมากๆ เลยแหละ อ๋ออออ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
หลายโรงเรียนในประเทศอังกฤษมีกฎแปลกๆ ที่ไม่ให้นักเรียนมีเพื่อนรักหรือเพื่อนสนิท ไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย ห้ามมีเพื่อนสนิทTT คนเราเกิดมาก็ต้องมีเพื่อนสนิทสิ โดยทางครูใหญ่ให้เหตุผลว่าอยากให้นักเรียนมีเพื่อนหลายคนมากกว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นักเรียนถูกกีดกันจากเพื่อนร่วมชั้น เวลาทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เพียงเพราะไม่สนิทหรือไม่ค่อยคุ้นเคยกัน ซึ่งปรากฏว่าผลที่ได้ออกมาดีมากๆ เลยแหละ อ๋ออออ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
2. จำกัดจำนวนการเข้าห้องน้ำ
ไหนๆ ใครเคยขออนุญาตคุณครูไปเข้าห้องน้ำพร้อมเพื่อนระหว่างเรียนบ้าง พี่นุ่นขอสารภาพว่าพี่ทำประจำเลยแหละ คาบคณิตศาสตร์ทีไรเพื่อนพี่เป็นต้องสะกิดทุกที แต่ถ้าเป็นโรงเรียนมัธยมในชิคาโก สหรัฐอเมริกา คงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะทางโรงเรียนมีกฎให้เข้าห้องน้ำในเวลาเรียนได้เพียง 3 ครั้งต่อภาคเรียนเท่านั้น โดยคุณครูใหญ่ให้เหตุผลกับทางผู้ปกครองว่าจะช่วยลดจำนวนการโดดเรียนของนักเรียนได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำดีกว่านะคะ มันจะไม่ดีต่อสุขภาพเอาได้
3. อนุญาตให้หลับในห้องเรียนได้
กฎข้อนี้เป็นต้องถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน เพราะโรงเรียนในประเทศจีนหลายแห่งอนุญาตให้นักเรียนสามารถงีบหลับได้ ในช่วงกลางวัน ว่าแต่ล่าสุดการนอนกลางวันของพี่นุ่นเห็นจะเป็นช่วงอนุบาลเลยนะ แต่ที่ประเทศจีนสามารถให้เด็กโตงีบหลับได้ 30 นาที โดยคุณครูเชื่อว่าการที่นักเรียนได้งีบหลับสักครู่หนึ่งเหมือนได้เป็นการพักผ่อนสมอง และจะช่วยพัฒนาความจำให้กับนักเรียนได้อีกด้วย
กฎข้อนี้เป็นต้องถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน เพราะโรงเรียนในประเทศจีนหลายแห่งอนุญาตให้นักเรียนสามารถงีบหลับได้ ในช่วงกลางวัน ว่าแต่ล่าสุดการนอนกลางวันของพี่นุ่นเห็นจะเป็นช่วงอนุบาลเลยนะ แต่ที่ประเทศจีนสามารถให้เด็กโตงีบหลับได้ 30 นาที โดยคุณครูเชื่อว่าการที่นักเรียนได้งีบหลับสักครู่หนึ่งเหมือนได้เป็นการพักผ่อนสมอง และจะช่วยพัฒนาความจำให้กับนักเรียนได้อีกด้วย
4. ห้านอ่านหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์
กรี๊ดดด! มันช่างทำร้ายแฟนหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์จริงๆ เลยนะเนี่ย ทำไมกันนะแค่อ่านหนังสือเฉยๆ ก็ไม่ได้เหรอ พี่นุ่นว่าไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย ถึงมันจะทำให้เราติดกันงอมแง่มก็เถอะ แต่โรงเรียนคาทอลิก ในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา กับไม่อินในความสนุกของแฮรรี่ พอตเตอร์ และยังบอกอีกว่าเป็นหนังสือที่ไม่เหมาะกับนักเรียน เพราะว่าคาถาในหนังสือเป็นของจริง! สามารถปลุกวิญญาณชั่วร้ายขึ้นมาได้ ขนลุกซู่ๆ เลยมั้ยล่ะจ๊ะ แม้เราจะไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่กล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาได้พวกความสนุกไปอย่างแน่นอน
กรี๊ดดด! มันช่างทำร้ายแฟนหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์จริงๆ เลยนะเนี่ย ทำไมกันนะแค่อ่านหนังสือเฉยๆ ก็ไม่ได้เหรอ พี่นุ่นว่าไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย ถึงมันจะทำให้เราติดกันงอมแง่มก็เถอะ แต่โรงเรียนคาทอลิก ในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา กับไม่อินในความสนุกของแฮรรี่ พอตเตอร์ และยังบอกอีกว่าเป็นหนังสือที่ไม่เหมาะกับนักเรียน เพราะว่าคาถาในหนังสือเป็นของจริง! สามารถปลุกวิญญาณชั่วร้ายขึ้นมาได้ ขนลุกซู่ๆ เลยมั้ยล่ะจ๊ะ แม้เราจะไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่กล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาได้พวกความสนุกไปอย่างแน่นอน
5. ห้ามใช้สเปรย์ระงับกลิ่นกาย
เรื่องกลิ่นตัวไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลยนะคะ ถ้าอยากกลิ่นตัวหอมจนเพื่อนเหลียวหลังล่ะก็คงต้องพึ่ง Body Spray กันหน่อยแหละ แต่ถ้าน้องๆ เป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ละก็โมเมนต์นี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะที่โรงเรียนนี้มีกฎว่าห้ามฉีดสเปรย์ระงับกลิ่นกายโดยเด็ดขาด เนื่องจากทำให้สัญญาณเตือนไฟไหม้ร้องดังได้ ว่าแต่ฉีดทีท่าไหนกันล่ะเนี่ย คงยังไม่หมดกระป๋องใช่มั้ยคะ
เรื่องกลิ่นตัวไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลยนะคะ ถ้าอยากกลิ่นตัวหอมจนเพื่อนเหลียวหลังล่ะก็คงต้องพึ่ง Body Spray กันหน่อยแหละ แต่ถ้าน้องๆ เป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ละก็โมเมนต์นี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะที่โรงเรียนนี้มีกฎว่าห้ามฉีดสเปรย์ระงับกลิ่นกายโดยเด็ดขาด เนื่องจากทำให้สัญญาณเตือนไฟไหม้ร้องดังได้ ว่าแต่ฉีดทีท่าไหนกันล่ะเนี่ย คงยังไม่หมดกระป๋องใช่มั้ยคะ
6. ห้ามยกมือตอบคำถาม
ปกติการยกมือเพื่อตอบคำถามคุณครูเป็นสิ่งพื้นฐานที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอยู่แล้ว แต่การยกมือตอบคำถาม ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในนอตติงแฮมเชียร์ ประเทศอังกฤษ เป็นสิ่งถูกห้ามทำ! โดยครูใหญ่ของโรงเรียนอ้างว่านักเรียนที่ยกมือตอบเป็นคนเดิมๆ ไม่ได้เป็นการส่งเสริมหรือช่วยเหลือเพื่อนเลย และจะเป็นคุณครูที่เลือกให้นักเรียนคนใดก็ได้เพื่อตอบคำถาม ได้ยินอย่างนี้แล้วพี่นุ่นขนลุกเลย คุณครูเรียกพี่ทีไร ไม่เคยจะตอบได้กับเขาเลยจ้า
7. ห้ามใช้หมึกสีแดง
พี่นุ่นโตมากับการที่ครูใช้ปากกาแดงในการตรวจการบ้านหรือทำเครื่องหมายเพื่อชี้ให้เห็นว่าเราทำผิดพลาดตรงไหน แต่โรงเรียนในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรถูกห้ามใช้ปากกาแดงเพราะเชื่อว่าในทางจิตวิทยาสีแดงเป็นสีที่ทำให้เกิดความกดดันและความกลัว เลยเปลี่ยนมาใช้สีเขียว, ชมพู, เหลือง จะช่วงให้ผ่อนคลายขึ้น แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ สมุดการบ้านคงดูสดใสขึ้นเยอะเลย
พี่นุ่นโตมากับการที่ครูใช้ปากกาแดงในการตรวจการบ้านหรือทำเครื่องหมายเพื่อชี้ให้เห็นว่าเราทำผิดพลาดตรงไหน แต่โรงเรียนในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรถูกห้ามใช้ปากกาแดงเพราะเชื่อว่าในทางจิตวิทยาสีแดงเป็นสีที่ทำให้เกิดความกดดันและความกลัว เลยเปลี่ยนมาใช้สีเขียว, ชมพู, เหลือง จะช่วงให้ผ่อนคลายขึ้น แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ สมุดการบ้านคงดูสดใสขึ้นเยอะเลย
8. ห้ามฉลองเทศกาลคริสต์มาส
สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมนิโคลัส ในเท็กซัส สหรัฐอเมริกา คงจะเหงากันน่าดู เพราะมีกฎว่าห้ามตกแต่งต้นคริสต์มาสหรือตกแต่งอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเทศกาลวันคริสต์มาส อย่างเข็มงวด! ซึ่งครูใหญ่แจ้งว่าไม่อยากทำผิดกฎดั้งเดิมของทางรัฐ ถึงแม้กฎจะถูกยกเลิกไปแล้วก็ตาม ก็ขอรักษากฎนี้ต่อไป เห้อออ เป็นกฎที่ทำร้ายความสุขของเด็กจริงๆ เลยนะ
9. แบน 50 คำที่สะเทือนใจห้ามใช้ในข้อสอบ
กระทรวงศึกษาธิการของนิวยอร์กเตรียมแบนคำจำนวน 50 คำในการสอบวัดมาตรฐานของโรงเรียนในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทั้งหมดตัวอย่างคำเช่น ศาสนา การเมือง ความจน ถึงแม้แต่คำว่า วันเกิด เพื่อไม่ให้คำเหล่านี้ไปกระทบต่อจิตใจของนักเรียนที่มีความทรงจำที่เจ็บปวดหรือสถานการณ์ที่ไม่ดีในครอบครัวของนักเรียน พี่นุ่นว่าดีเลยนะ อะไรที่มันทำร้ายจิตใจเลี่ยงได้จะดีที่สุด
10. ห้ามขายขนมเบเกอรี่ในโรงเรียน
โรงเรียนในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ห้ามจำหน่ายขนมเบเกอรี่ในโรงเรียน ฮะ! ไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามเรื่องกินมันเรื่องใหญ่นะ ซึ่งเป็นเพราะทางโรงเรียนใส่ใจสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนเป็นหลักนั้นเอง แต่มีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยเลยที่ออกมาโวยวายกับเรื่องนี้ ก็แหม เด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต ให้กินนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้หรอคะคุณครูTT
เป็นอย่างไรกันบ้างคะชาวDek-D แปลกจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ กฎระเบียบเยอะแยะมากมายไม่ถูกใจวัยรุ่นเอาซะเลยแต่พี่นุ่นขอบอกว่ายังมีโรงเรียนอีกหลายแห่งทั่วโลกที่มีกฎระเบียบแปลกๆ มากมายและไม่รู้ว่าถูกกำหนดมาเพื่ออะไรกันแน่ ที่โรงเรียนของน้องๆ มีกฎอะไรแปลกๆ กันบ้างมั้ยลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยนะคะ
โรงเรียนในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ห้ามจำหน่ายขนมเบเกอรี่ในโรงเรียน ฮะ! ไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามเรื่องกินมันเรื่องใหญ่นะ ซึ่งเป็นเพราะทางโรงเรียนใส่ใจสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนเป็นหลักนั้นเอง แต่มีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยเลยที่ออกมาโวยวายกับเรื่องนี้ ก็แหม เด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต ให้กินนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้หรอคะคุณครูTT
เป็นอย่างไรกันบ้างคะชาวDek-D แปลกจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ กฎระเบียบเยอะแยะมากมายไม่ถูกใจวัยรุ่นเอาซะเลยแต่พี่นุ่นขอบอกว่ายังมีโรงเรียนอีกหลายแห่งทั่วโลกที่มีกฎระเบียบแปลกๆ มากมายและไม่รู้ว่าถูกกำหนดมาเพื่ออะไรกันแน่ ที่โรงเรียนของน้องๆ มีกฎอะไรแปลกๆ กันบ้างมั้ยลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยนะคะ
2 ความคิดเห็น
ข้อ 1 ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนสนิท
เพราะว่าโรงเรียนเอกชนที่เราเรียนตั้งแต่อนุบาล 3-ม.3 ไม่มีกฎข้อนี้
นักเรียนจะอยู่รวมกลุ่มกัน ไม่มีการตั้งแก๊งอย่างเป็นทางการ
ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าก่อนเคารพธงชาติจนถึงเวลาเข้าแถว
อยู่ร่วมกันในห้องเรียนกับในคาบเรียน ห้องคอมพิวเตอร์ตอนชั่วโมงวิชาคอมพิวเตอร์
อยู่ด้วยกันในสนามตอนชั่วโมงวิชาพละ ตอนพักย่อยเวลา 10.30 น.กับเวลา 14.30 น.
กินข้าวด้วยกันตอนพักเที่ยง (ในโรงอาหารจะนั่งโต๊ะติดกัน
และมีอยู่แถวหนึ่งที่เป็นที่นั่งประจำในโรงอาหารของเพื่อนร่วมชั้นของเรา
เนื่องจากที่นั่งไม่พอก็จะมีหลายคนที่ไปนั่งโต๊ะอื่นรวมกับพวกรุ่นน้อง
ส่วนกลุ่มเพื่อนผู้ชายจะไปนั่งโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกับห้องน้ำเพื่อที่จะเข้าได้สะดวก)
ตอนไปทัศนศึกษา ตอนทำกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ตอนเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี
และนั่งอ่านหนังสือด้วยกันหน้าห้องสอบซึ่งคุยกันเสียงดังจ๊อกแจ๊กมาก
(ยกเว้น ตอนม.1-ม.3 จะมีระดับชั้นละ 1 ห้องเรียน
ในช่วงสอบกลางภาคกับช่วงสอบปลายภาคจะแบ่งห้องสอบออกเป็น 2 ห้อง ชายกับหญิง)
ครูไม่ได้สั่งงานกลุ่มเท่าไหร่ นานๆทีจะมีงานกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นงานเดี่ยว
สมัยเรียน มีวิชานึงมีกฎห้ามทำงานเดี่ยวเด็ดขาด กลุ่มต้องไม่ต่ำกว่า 3 ไม่เกิน 5