มัดรวม 7 ทุนเต็มจำนวนเรียนต่อ ‘ญี่ปุ่น’ ดินแดนปลาดิบ อนิเมะ ระบบการศึกษาสุดเลิศ!

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่ะ เมื่อพูดถึงประเทศในทวีปเอเชียที่หลายคนอยากไปเรียนต่อ ญี่ปุ่นก็มักเป็นเป้าหมายยอดฮิตที่หลายคนปักหมุดไว้ เพราะด้วยอิทธิพลด้านวัฒนธรรมทั้งจาก เกม อนิเมะ การ์ตูน ศิลปิน อาหารการกินอย่างซูชิ ปลาดิบที่สุดแสนจะอร่อย ความสะอาดและเป็นระเบียบของบ้านเมือง รวมถึงเหตุผลใหญ่อย่างเรื่อง “ระบบการศึกษา” ที่ไม่เป็นรองใครอีกด้วย เพราะต้องบอกว่ามีมหาวิทยาลัยหลายแห่งของญี่ปุ่นที่โด่งดังและติด Top100 ระดับโลก

โดยปกติแล้ว ถ้าพูดถึงทุนเรียนต่อญี่ปุ่น ชื่อแรกๆที่เรานึกถึงก็คงจะไม่พ้น ‘Monbukagakusho (MEXT) Scholarship’ หรือทุนรัฐบาลญี่ปุ่นกันใช่มั้ยคะ ดังนั้นวันนี้พี่โมริเลยมาแนะนำทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมไว้ให้น้องๆ ลิสต์เป็นทางเลือกด้วย รายละเอียดแต่ละทุนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ตามไปเช็กพร้อมกันเลย!

1.Rotary Yoneyama Memorial Foundation

ประเดิมกันด้วย "ทุนมูลนิธิอนุสรณ์โรตารีโยเนะยามะ" (Rotary Yoneyama Memorial Foundation) ที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้นักศึกษาต่างชาติที่จะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ความดีงามคือเป็นทั้งทุนให้เปล่า ไม่ต้องใช้ทุนคืน ไม่จำกัดสาขาวิชา และสมัครเรียนได้ทั้งระดับ ป.ตรี จนถึง ป.เอก แต่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมกับทางสโมสรตามที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ผู้สมัครต้องมีผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ระดับ N4 ขึ้นไปและต้องสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นด้วยตนเองและได้รับตอบรับเข้าเรียนก่อนถึงจะสมัครทุนนี้ได้ค่ะ

ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกก็จะได้รับทั้งทุนค่าเล่าเรียน สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี 100,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 29,258 บาท) ส่วนนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอก 140,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 40,980 บาท) รวมทั้งตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดสำหรับเดินทางมาญี่ปุ่น

*ทุน Rotary Yoneyama Memorial Foundation ประจำปีนี้ยังเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ใครไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ จนต้องรอบใหม่ในปีหน้า รีบไปกรอกใบสมัครกันทางเว็บไซต์ให้ไวเลย

2.Asian Development Bank – Japan Scholarship Program (ADB – JSP)

มาต่อกันด้วยอีกทุนสุดแมสจาก “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย” หรือ Asian Development Bank – Japan Scholarship Program (ADB – JSP) ที่ร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น  ในทุกปีจะมีมอบทุนให้นักศึกษาต่างชาติจะมาเรียนต่อปริญญาโท จุดประสงค์คือเพื่อเฟ้นหาบุคคลที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ในประเทศกำลังพัฒนา และนำความรู้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง 

สำหรับสาขาหลักที่เลือกได้ จะมีทั้ง Science and Technology Economics, Business and Management Development Studies และ Law and Public Policy ส่วนมหา’ลัยหลายแห่งที่เปิดรับสมัครทุนนี้ยังติดท็อปโลกหลายแห่ง เช่น ม.โตเกียว (อันดับที่ 23),ม.เกียวโต (อันดับที่ 33), ม.นาโกย่า (อันดับที่ 118) เป็นต้น *เงื่อนไขการสมัครทุนคือต้องได้รับการตอบรับเข้าเรียนจากมหา’ลัยแล้วเท่านั้น

และบอกเลยค่ะว่าทุนนี้จัดเต็มมากกกและไม่มีข้อผูกมัด มอบให้ทั้งค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน ค่าใช้จ่ายรายเดือนและค่าเช่าบ้าน หนังสือและอุปกรณ์การเรียน ประกันสุขภาพ รวมถึงค่าเดินทาง บอกเลยคุ้มมากจริงๆ ค่ะ แนะนำว่าน้องๆ อย่าลืมติดตามเว็บไซต์ ADB และคอยเช็กช่วงเปิดรับสมัครของสาขาในมหา’ลัยที่อยากเรียนนะคะ

3.Yoshida Scholarship Foundation (YSF)

เอาใจน้องๆ สายวิทย์กันบ้าง กับทุน ‘Yoshida Scholarship Foundation (YSF)’ มอบให้นักเรียนต่างชาติ ศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science) โดยจะเฟ้นหานักศึกษาที่มีความเป็นผู้นำ และมีความสามารถทางด้านการวิจัยและสามารถนำผลงานนั้นไปต่อยอดสู่สังคมได้  

น้องๆ ที่สนใจทุนนี้จะต้องสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในโครงการและได้รับตอบรับเข้าเรียนก่อน จึงจะสามารถสมัครทุนนี้ได้ // มหา’ลัยที่เป็นพาร์ตเนอร์มีทั้งของรัฐและเอกชนเลยค่ะ ได้แก่ 

• The University of Tokyo
• Tokyo Institute of Technology
• Nagoya University
• Kyoto University,
• Osaka University
• Kyushu University
• Keio University
• Waseda University
• Doshisha University
• Kwansei Gakuin University

(กำหนดการรับสมัครแต่ละที่จะต่างกัน สนใจที่ไหนก็ตามไปเช็กข้อมูลกันได้เลย)

ส่วนมูลค่าทุนก็คือมอบให้แบบเต็มจำนวน ครอบคลุมตั้งแต่ ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ 200,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 60,000 บาท) ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่น ปังมาก!

4.TAISEI Scholarship

ถ้าใครเป็นสายสถาปัตย์และวิศวะและกำลังหาทุนไปเรียนต่อญี่ปุ่น เชื่อเลยว่าต้องกดไลก์ให้  ‘TAISEI Scholarships’ แน่นอน! ซึ่งทุนนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Japan Study Support และ Japan Educational Exchanges and Services เพื่อสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติศึกษาต่อปริญญาตรี หรือปริญญาโท ในสาขาวิศวกรรมโยธา (Civil Engineering ) และสถาปัตยกรรมศาสตร์ (Architecture)  

แต่ทุนนี้การแข่งขันก็ค่อนข้างสูง เพราะในแต่ละปีมีโควตามอบให้แค่ 4 ทุนเท่านั้น ในรูปแบบเงินสนับสนุน เดือนละ 150,000 เยน (ประมาณ 44,000 บาท) ถ้าใครอยากพิชิตทุนนี้ก็เตรียมตัวให้พร้อมแต่เนิ่นๆ เลย! 

5.ทุนของ Ritsumeikan Asia Pacific University (APU)

หากพูดถึงมหาวิทยาลัยเอกชนที่โด่งดังและเป็นที่นิยมของคนไทย ชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงก็คงไม่พ้น ‘Ritsumeikan Asia Pacific หรือ APU’ อย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีการจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัย มีทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น 

ความปังของ APU คือขั้นชื่อมาก อย่างเมื่อปี 2014 ก็ได้รับการคัดเลือกโดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งใน “มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกของประเทศญี่ปุ่น” ส่วนสาขาที่โดดเด่น ของที่นี่อย่าง  ‘การบริหารธุรกิจ’ ก็รับรองมาตรฐานการศึกษาทางโดยสถาบัน AACSB และยังติดโผอันดับที่ 3 ในสาขานี้ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 

และสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติที่มีผลการเรียนดี ทาง APU ก็จะมีทุนส่วนลดค่าเล่าเรียนมอบให้ ลดหลั่นกันไปตั้งแต่  30% ไปจนถึง 100% (มูลค่าขึ้นอยู่กับผลการเรียนของเรา) นอกจากทุนนี้ น้องๆ ยังสามารถสมัครทุนอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยหรือทุนจากภายนอกองค์กรได้อีกด้วย 

6.Honjo International Scholarship Foundation

  Honjo International Scholarship Foundation หรือ กองทุนการศึกษานานาชาติ Honjo ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 โดยคุณมาซาโนริ ฮอนโจ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทอิโตเอ็น ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงการศึกษาธิการญี่ปุ่น สำหรับทุนนี้จะมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาที่โดดเด่นจากประเทศกำลังพัฒนา ได้เข้ามาศึกษาต่อระดับปริญญาโทหรือเอก โดยจะเลือกเรียนสาขาและมหาวิทยาลัยใดก็ได้ในประเทศญี่ปุ่น // ปัจจุบันมีนักศึกษามากกว่า 58 ประเทศที่ได้ทุนนี้!

แม้ว่าจะไม่ใช่ทุนที่สนับสนุนค่าเล่าเรียน แต่ทุนนี้จะมอบค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงสุดถึง 5 ปี เป็นจำนวนเงินดังนี้  

• 200,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 57,037 บาท) สำหรับหลักสูตรที่ต้องเรียน 1-2 ปี
• 180,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 51,334 บาท) สำหรับหลักสูตรที่ต้องเรียน 3 ปี
• 150,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 42,778 บาท) สำหรับหลักสูตรที่ต้องเรียน 4-5 ปี

นอกจากนี้ทุนยังมอบค่าเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมนานาชาติต่างๆ อีกด้วย และข้อดีคือผู้ได้รับทุนยังสามารถขอรับทุนจากหน่วยงานอื่นพร้อมกับรับทุนจาก Honjo ได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการสมัครของทุนนั้นๆ ก่อนนะคะ

7. Nitori International Scholarship Foundation    

ปิดท้ายด้วยทุน “Nitori International Scholarship Foundation” หรือ NISF ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 จากการบริจาคเงินสนับสนุนของนายอาคิโอะ นิโทริ (Akio NITORI) กรรมการตัวแทนของมูลนิธินี้นั่นเองค่ะ จุดประสงค์ของทุนคือเพื่อสนับสนุนการเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น ให้กับนักศึกษาต่างชาติจากกลุ่มประเทศเอเชีย โดยจะมอบทุนสนับสนุน 50,000-80,000 เยนต่อเดือน (ราวๆ 14,259-22,815 บาท) ในแต่ละปีจะมอบให้ถึง 100 ทุนเลยค่ะ

*การจะสมัครทุนนี้ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด จึงเหมาะกับผู้สมัครที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน

นี่เป็นเพียงแค่ทุนส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีทุนจากองค์กรต่างๆ รวมถึงในมหาวิทยาลัยอีกเพียบเลยค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องๆ ช่วยหาทุนที่ถูกใจได้นะคะ ใครสนใจสมัครทุนไหนพี่ก็อยากให้ลองศึกษาคุณสมบัติและเตรียมเอกสารให้พร้อม ขอเอาใจช่วยให้น้องๆ โชคดี ได้รับทุนเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้นะคะ Fighto!