สายวิทย์ VS สายศิลป์ เตรียมอุดม

ถ้าอยากเป็นเภสัชควรเรียนสายวิทย์เพราะได้เอาความรู้ไปใช้ต่ออีกยาวๆ แต่ถ้าวิทย์อ่อน เตรียมอุดมไม่น่าเหมาะค่ะ คงจะสอบไม่ติด

(ยาวนิดนึงนะคะอุแง ;-; แต่อย่างน้อยอยากให้น้องอ่านนะคะเผื่อจะช่วยตัดสินใจได้)

พี่เข้าใจน้องนะบางทีความชอบกับความถนัดมันก็ไม่ไปพร้อมกัน ; - ; ตอนแรกพี่ก็อยากสอบเข้าสายศิลป์ญี่ปุ่นค่ะเพราะความชอบล้วน ๆ แต่สุดท้ายก็สอบเข้าสายวิทย์มาเพราะอยากเข้าหมอ+ถนัดชีวะเคมีเลยคิดว่ามันน่าจะเข้ากับตัวพี่ได้มากกว่า ตรงนี้พี่ว่าน้องต้องชั่งน้ำหนักดูเองจะดีที่สุด เพราะประสบการณ์ความชอบของแต่ละคนมันไม่เท่ากันอ่า

พี่แนะนำว่าถ้าตั้งใจจะสอบเภสัชจริง ๆ น้องควรเข้าสายวิทย์ แต่ถ้าน้องเข้ามาน้องต้องเรียนวิทย์ 3 ตัวแน่น ๆ คือชีวะเคมีฟิสิกส์ น้องอ่อนวิทย์ไม่เป็นไรค่ะแต่น้องจะโอเคไหมที่ต้องฟิตตัวเองหนักมาก ๆ เพราะพื้นฐานน้องอ่อน (อันนี้น้องระบุไว้เองในกระทู้ พี่ไม่ได้มีเจตนาจะย้ำนะคะฮือ;_; ขอ disclaimer ไว้ก่อน) หากน้องทนไหวและใจสู้กับการเรียนการอ่านทบทวนเนื้อหาที่ยากกว่าม.ปลายปกติด้วยพื้นฐานที่น้องบอกว่าอ่อนก็ลองดูค่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ความจริงส่วนใหญ่มันไม่เป็นงั้นนี่สิ มีเพื่อนพี่บางคนก็นอยด์ไปเยอะพอสมควรเวลาคะแนน for sum ออกแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้ (ช่วงโควิดมันค่อนข้างไม่เข้มงวด แต่ตามสถานการณ์ปกติเวลาบอกคะแนนสอบก็เอาเรื่องเหมือนกัน) ที่เตรียมมันไม่ได้แข่งกันเรียนนะคะ ทุกคนน่ารักมาก แต่ส่วนใหญ่จะชอบเอาคะแนนมากดดันตัวเองนี่แหละ ส่วนเพื่อน ๆ ที่เจอมีแต่ให้กำลังใจกันช่วยกันมากกว่า ไม่ได้แข่งขันกันเลย และเนื้อหาม.ปลายมันยิ่งกว่าม.ต้นไปอีก พี่ว่าถ้าให้เด็กเตรียมหลาย ๆ คนลองกลับไปลองทำข้อสอบเข้าก็คงพูดเหมือนกันหมดว่า ไอข้อสอบเข้าเนี่ยง่ายที่สุดแล้ว =*= พี่ว่าน้องลองหาข้อสอบเตรียมเก่า ๆ หรือแนวโจทย์ก็ได้มาลองทำดู มีขายเยอะมาก ๆ ค่ะตามร้านหนังสือ พอทำแล้วก็พิจารณาดูค่ะว่า น้องพอไหวไหมถ้าน้องเข้ามาเรียนสายวิทย์ที่นี่ โจทย์และข้อสอบมันจะยากกว่านี้อีกค่ะ น้องสามารถเรียนและตามเนื้อหาทันได้ไหม น้องจะมีความสุขไหมที่ต้องเรียนวิชาพวกนี้วิชาละ 2-3 คาบต่อสัปดาห์และต้องใช้มันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฯลฯ

ถ้าพี่เป็นน้องและพิจารณาจากเนื้อหาที่น้องเขียนไว้ พี่จะเข้าสายศิลป์ค่ะ เพราะพี่ไม่ค่อยอยากเรียนในสิ่งที่พี่ไม่ถนัดหรืออ่อนมาก เพราะรู้สึกว่ามันต่อยอดได้ยากและไม่ค่อยมีกำลังใจที่จะเรียน และสายศิลป์ที่นี่คือเรียนเพื่อภาษาจริง ๆ ค่ะ และเดี๋ยวนี้สายศิลป์ก็ไปได้กว้าง เป็นทักษะที่ใช้ได้กับหลายงานเลย แค่น้องแม่นภาษาที่ 2 และ 3 ก็กำไรชีวิตแล้วค่ะ แต่อยู่ที่ว่าชอบมันไหมแล้วจะหาอาชีพที่เหมาะกับตัวเอง(หากไม่ใช่เภสัช)ได้รึเปล่า

((ขอยกตัวอย่างนิดนึง พี่อยู่สายวิทย์ก็จริงแต่ก็มีเพื่อนสายศิลป์ประมาณนึง เพื่อนพี่ 2 คนอยู่ศิลป์ฝะพูดคล่องปร๋อ ฟังพูดอ่านเขียนภาษาฝรั่งเศสได้โหดมากกก คือไม่ต้องไปเรียนเอาในระดับมหาลัยแล้วเพราะพวกนางคือเข้าใจในภาษาหมดแล้ว แบบนี้เลยมักจะไปสอบทุนหรือไปเรียนต่อต่างประเทศมากกว่า และก็มีเพื่อนอยู่ศิลป์ญี่ปุ่นอีกคนได้ N3 ตั้งแต่อยู่ม.5 ค่ะ ประมาณนี้))

ทีนี้ก็มาคิดต่อว่า ถ้าน้องเข้าสายศิลป์ที่นี่มาแล้ว น้องจะสอบเข้าอะไรต่อหรือทำอะไรในอนาคต อย่างน้อยก็ควรวาดกรอบกว้าง ๆ เอาไว้บ้างว่าถ้าเราเรียนสายศิลป์แล้วเราจะไปทำอะไร มีอะไรที่อยากเรียนหรือสนใจบ้างไหม (แต่อยากบอกว่าถ้าเรียนสายวิทย์แล้วไม่โอเคก็สามารถขอย้ายไปสายศิลป์-คำหรือศิลป์-ภาษาได้นะ สายวิทย์บางคนก็ย้ายไปเรียนศิลป์คำตอนม.6 เรียกว่าวิทย์กบฏ สำหรับคนที่เปลี่ยนใจไม่อยากเรียนวิทย์แล้วไรงี้ค่ะ ที่เห็นก็คือเปลี่ยนใจไปสอบพวกบัญชี หรืออื่น ๆ ที่วิทย์ไม่ได้สำคัญมาก)

แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องมหาลัย พอคิดเรื่องสายได้คร่าว ๆ แล้วก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้า แน่นอนว่ามันไม่ง่ายค่ะ น้องอยู่ม.2 ยังมีเวลาอยู่พอสมควร+ขยันอ่านหนังสือทำโจทย์สม่ำเสมอ โอกาสมีแน่นอน ยังไงมันไม่มีใครทำข้อสอบได้ทุกข้ออยู่แล้วมันขึ้นอยู่กับดวงด้วย บางคนอาจจะทำได้พอ ๆ กันแต่ตอนดิ่งโชคเข้าข้างไม่เท่ากันก็มีให้เห็นพอสมควร ; ;

เพิ่มเติมคือ ถ้าน้องมีโอกาสสอบแบบโควตาจังหวัดก็แนะนำให้เอาเป็นทางเลือกไว้เพิ่มเติมด้วยค่ะ ไม่ได้เสียหายแถมมีโอกาสมากกว่าเดิมซะอีก ถ้าจำไม่ผิดเดี๋ยวนี้จะให้สอบพร้อมรอบปกติแล้ว ถ้าไม่ติดโควตาจังหวัดก็จะโอนไปคิดกับรอบปกติ เป็นว่าขอให้น้องโชคดีค่ะ