Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไม่อยากเข้าสายวิทย์แต่พ่อแม่บังคับ เราควรทำไงดีคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

พ่อแม่เราบังคับ​ว่าต้องเรียนสายนี้เท่านั้น​ บอกว่าเรียนสายอื่นจบไปไม่มีงานทำ สายวิทย์มันเข้าได้หลายคณะ รู้ว่าท่านหวังดี แต่เราไม่อยากเรียนค่ะ เราอยากเข้าศิลป​์ภาษาเพราะชอบภาษา​ญี่ปุ่น​ แต่คะแนนวิทย์คณิต ม.ต้น เราไม่แย่นะ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ไม่ได้อยากเรียน ไม่รู้​ทำไมต้องทนเรียนสิ่งที่ไม่ชอบด้วย ทีพ่อแม่เพื่อนเราเขายังไม่บังคับเลย คือมันเลือกได้ครั้งเดียวแล้ว​เรียนตลอด 3 ปี เราเป็นคนเรียนก็ควรได้เลือกแผนเองมั้ย นานๆทีจะได้เรียนสิ่งที่ชอบบ้าง ตอนเข้ามหา'ลัย พ่อแม่ก็คงจะเลือกคณะเตรียมรอไว้ให้แล้วมั้ง เห้อ

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Coner 18 ก.พ. 65 เวลา 13:48 น. 1

หาข้อมูลเยอะๆไปโต้แย้งว่ามีงานทำอะไรได้บ้าง ร่ำรวยอย่างไง แล้วตอนสมัครก็สมัครที่อยากไปเลย เพราะสมัครไปแล้วยกเลิกไม่ได้

1
MDNMRNA 27 ก.พ. 65 เวลา 10:23 น. 2

ถ้าชอบภาษาญี่ปุ่นจริงๆ ลองหาทุนญี่ปุ่น หรือหาความก้าวหน้าของบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยให้ทางผู้ปกครองดูค่ะ ลองหาในอินเตอร์เน็ตดูนะ มีรุ่นน้องคนหนึ่งไปเรียนศิลป์จีน ได้ทุนไปเรียนต่อมหาลัยที่จีนเลยหลังเรียนจบม.6

ถามว่าสายวิทย์-คณิต มีทางเลือกเยอะกว่าจริงไหม

คำตอบก็คือ จริง แต่ไม่ทั้งหมด

เพราะส่วนตัวเราเองจบบริหารธุรกิจ

แต่ไม่ได้เรียนวิทย์-คณิต สอบ pat 1 ได้แค่ 55/300 คะแนน

ตอนนั้นความหวังจะเข้าคณะบริหารคือริบหรี่มากซะจนคิดว่าจะตัดใจแล้ว คงก้มหน้าก้มตาเรียนคณะที่พอจะสอบเข้าได้ ในเกรดเฉลี่ย 2.61

แต่มันไม่ได้หมดหวังขนาดนั้น เราสอบเข้าวิทยาลัยอาชีวะ

เรียน 2 ปี จบปวส. ต่อปริญญาตรีอีก 2 ปี ก็เรียนจบพร้อมเพื่อนที่เรียนระบบมหาลัย4ปี

สิ่งสำคัญคือการเลือกเรียนอะไรมันจะต้องอยู่ในพื้นฐานความสุขมากกกก ที่เรามีด้วยนะ

เราเองก็กว่าจะเจอก็ทนเรียนในสิ่งที่เลือกผิดพลาดมาตลอด 6 ปี ถ้าถามว่าทำไมต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุขมากละก็

เราเรียนจบเกรดเฉลี่ย 3.51 ในระดับปวส. และ 3.48 ในระดับปริญญาตรี ถ้าเราเจอแล้วเรารักเราจะพยายามในการสร้างความก้าวหน้าให้กับเส้นทางของเราเอง

มันยังมีทางเลือกอีกหลากหลาย ความก้าวหน้านั้น เราจะมองเห็นก็ต่อเมื่อเราเลือกเดินทางสายนั้นจริงๆ

เราไม่อยากให้เด็กอีกหลายคนต้องถูกระบบทำร้ายแบบเรา

ขอให้ได้ทางออกที่ดีนะคะ เป็นกำลังใจให้


0
mynameismeemie 27 ก.พ. 65 เวลา 15:12 น. 3

พี่เคยเป็นแบบน้องเลย เรียนวิทย์คณิตได้ดีนะ เคยไปสอบเตรียมแบบไม่ได้อนส.เยอะ ได้อันดับราว1500 แต่รู้สึกว่าเรียนวิทย์แล้วมันฝืนกว่า ใจอยากเข้าสายศิลป์ภาษา+อักษรฬ ตอนนั้นทะเลาะหนักมาก สุดท้ายต้านไม่ได้ เลยตกลงว่าจะยอมเข้าสายวิทย์ให้ก็ได้ แต่ตอนมหาลัยจะขอเลือกคณะเองเท่านั้น แล้วก็เขียนใส่กระดาษให้พ่อแม่เซ็นเลย(ถ้าไม่มีหลักฐาน อีก3ปีเขาก็จะทำเป็นลืม เหมือนสัญญาแล้วไม่ทำตาม ของพี่ก็เกือบ) แบบน้องดูแล้ว ถ้าตอนนี้ทำให้พ่อแม่ยอมไม่ได้และไม่ตกลงอะไรกับเขา มหาลัยน้องโดนบังคับอีก 100% แน่นอนค่ะ


แต่ส่วนตัวพี่ พอจะขึ้นมหาลัยสุดท้ายพี่ก็เปลี่ยนใจมาเข้าคณะสายวิทย์นะ ไม่รู้ว่าอิทธิพลเพื่อนในห้องด้วยไหมแต่อยากเข้าด้วยตัวเองจริงๆ แต่ก็ไม่โดนบังคับคณะ(จริงๆพ่อแม่จะบังคับเข้าหมอ พี่คะแนนถึงแต่ไม่เอา) แต่ในคณะก็มีอย่างอื่นที่พี่ชอบอยู่บ้าง เลยคิดว่าบางทีตอนนั้นอาจจะโชคดีที่พี่เข้าสายวิทย์ไม่งั้นคงสอบไม่ได้ แต่เคสน้องพี่ก็อยากเชียร์ให้ทำดีที่สุดนะ ถ้าไม่ได้จริงๆก็ค่อยสู้กันต่ออีกทีม.ปลาย อาจจะเรียนด้วยตัวเอง เพื่อนพี่หลายคนก็เจอเหมือนกัน เพื่อนก็ไม่แคร์ เรียนเกาหลีญี่ปุ่นเอาเองตั้งแต่ม.4 ไปสอบ pat7 คะแนนดีเลย สุดท้ายก็ได้เรียนอักษรฬสมใจ

1
mynameismeemie 27 ก.พ. 65 เวลา 15:17 น. 3-1

เพิ่มเติมคือ ส่วนหนึ่งที่ผู้ใหญ่ไม่ให้ เพราะเขาคิดว่าที่เราอยากเข้าศิลป์ภาษา/คณะสายนี้มันเป็นแค่ความคิดชั่ววูบ อาจจะอยากเข้าตามใคร ไปได้แรงบันดาลใจอะไรมาอย่างนั้น น้องต้องวางแผนให้เขาเห็นอ่ะว่าเราชอบจริงนะ เรามีการวางแผนอนาคตว่าถ้าไปสายนี้แล้วจะทำแบบนั้นแบบนี้ ตอนม.ปลายก็อาจจะไปสอบวัดระดับ ประกวดด้านภาษา ให้เขาเห็นว่าถ้าเราเรียนสายนี้จริงเราเก่งพอที่จะไปสู้กับคนจบสายนี้คนอื่นๆแล้วหางานดีๆให้ตัวเองได้ เพราะผู้ใหญ่จะมองว่ามันตกงานได้ง่าย แต่สุดท้ายก็ทำเท่าที่เราทำได้นะ ไม่อยากให้เครียดมาก ส่วนตัวที่ไม่ได้อ่อนวิทย์มากตอนม.ต้นอย่างพี่รู้สึกว่าเราพอเรียนๆม.ปลายให้ผ่านไปได้อยู่ ถ้ามหาลัยถึงซีเรียสมากจริงๆกับการเลือก

0
โรล 27 ก.พ. 65 เวลา 17:00 น. 4

งั้นตั้งเงื่อนไขกับพ่อแม่ดีไหมคะ ถ้าจะให้เรียนสายวิทย์ ก็ขอเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่นไปด้วย วิชาภาษาที่3ตอนม.ปลายก็เลือกภาษาญี่ปุ่น น่าจะมีวิชาภาษาที่3กันทุกโรงเรียนใช่ไหมคะ เรียนแล้วพากันไปสอบ N1 N2 N3


อยากจะบอกว่า ถ้าคุณอยากใช้ชีวิตชิวๆมีเวลาว่างเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่อยากได้เกรดดีๆคุณต้องตั้งใจเรียนในคาบนะคะ แบบว่าโฟกัสและเข้าใจเนื้อหาที่เรียนหน่ะค่ะ เพราะเนื้อหาวิทย์คณิตม.ปลายมันเข้มข้นจริงๆ ไม่งั้นถ้าเรียนไม่รู้เรื่องแล้วต้องไปหาที่เรียนพิเศษวิทย์คณิตต่ออีก และตอนม.4คือช่วงที่ควรตั้งใจที่สุดนะคะ เพราะมันคือพื้นฐานของ ม.5-6 ถ้าไม่ได้ตอนม.4แล้วไปต่อเนื้อหาในม.5-6เนี่ย โคตรจะฝืนเลยค่ะ


สรุปแล้ว ส่วนตัวคิดว่าภาษาญี่ปุ่นเนี่ย เราสามารถเรียนได้เองนะคะ ซื้อหนังสือจากร้านมาเขียนเอง ฟังเสียงจากเว็บไซต์ แถมเรายังสามารถเรียนไปพร้อมๆกับเพื่อนศิลป์ภาษาในวิชาภาษาที่3ด้วย สมัครสอบวัดระดับได้ แต่ถ้าตัวเองรู้แล้วว่าจะไปอาชีพที่มันเป็นภาษาแน่ๆ จะเข้าคณะที่ยังไงก็ไม่ใช้คณิตฟิสิกส์เคมีชีวะแน่ๆ ไปศิลป์ภาษาเลยค่ะ แต่ย้ำว่าแน่ๆนะคะ แต่ถ้าไม่เอาวิทย์แต่ยังเอาคณิตก็ไปศิลป์คำนวน (แต่ความเห็นส่วนตัวเจ้าของเม้นเชียร์วิทย์-คณิตค่ะ)


***ไม่รู้โรงเรียนอื่นมีไหม แต่โรงเรียนเจ้าของเม้น ถ้าไม่โอเคกับสายวิทย์ก็สามารถเทียบโอนเกรดจากสายวิทย์ไปสายศิลป์ในตอนกลางเทอมม.4ได้นะคะ แต่โอนศิลป์ไปวิทย์ไม่ได้ เพราะจะเรียนหมวดวิชาวิทย์ตามเพื่อนไม่ทัน

0
Pankkie 27 ก.พ. 65 เวลา 17:11 น. 5

เราก็โดนค่ะ เรียนสายวิทย์ แต่พอเข้ามหาลัยก้สอบเข้าคณะสายศิลป์อยู่ดี

ตอนเรียนก่อนเข้าม.ปลาย ก็คิดว่าไหวอยู่แหละ วิทย์คณิต เกรดก็ดี แต่พอเข้ามาเรียนจริงๆ แล้ว ไม่ชอบเลย ฟิสิกส์ฉุดเกรดมาก พอจะขอย้ายสายไปเรียนสายศิลป์แม่ก็ไม่ให้ ทนเรียนยันจบม.6 โดยที่เกรดฟิสิกส์ฉุดขามาก พอเข้ามหาลัยได้แล้วมองย้อนกลับไป ก็ได้แต่คิดว่าไปทนทรมานเรียนสายวิทย์ทำไมตั้งนาน ในเมื่ออยากเข้าคณะสายศิลป์อยู่แล้ว

เพราะงั้น ทางแก้ตรงๆ เลย คือควรหาข้อมูลค่ะว่าเราชอบอะไร อย่างน้องชอบภาษาญี่ปุ่นใช่มั้ย มันใช้ทำงานอะไรได้บ้างในอนาคต ตลาดแรงงานเป็นยังไง ความต้องการมีมั้ย ค่าตอบแทนสูงมั้ย แล้วคณะไหนที่ไหนรับบ้าง ต้องใช้คะแนนอะไรยังไง หลายที่เลยถ้าไม่จบสายศิลป์ภาษามาโดยตรงจะสมัครไม่ได้

ใช่ เรียนวิทย์คณิตอาจจะมีทางเลิอกเยอะกว่า แต่มันก็คือการทรมานตัวเองอย่างนึงถ้าเราไม่ชอบ แถมจริงๆ แล้วอาจจะตัดโอกาสเราด้วยซ้ำถ้าเราตั้งใจจะไม่เข้าคณะสายวิทย์อยู่แล้ว

การเลือกสายตอนเรียนม.ปลายมันส่งผลกับการเลือกคณะเข้ามหาลัยและส่งผลยาวยันอาชีพการงานในอนาคตเลย ถ้าเรามีคำตอบให้ตัวเองอยู่แล้วว่าอยากทำอะไร เราควรเลือกเส้นทางแบบไหน ศึกษาดีๆ แล้วเอาข้อมูลไปให้พ่อแม่ดูว่าเราไม่ได้ตัดสินใจลอยๆ เราผ่านการหาข้อมูลมาแล้ว ให้เค้าได้เข้าใจว่าทำไมเราเลือกเรียนสายนี้ค่ะ

1
Pankkie 27 ก.พ. 65 เวลา 17:15 น. 5-1

เอาจริงๆ นี่ก็ไปเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน เพราะใจจริงก็อยากเข้าคณะเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น แต่ผลคือเรียนหนักมาก งานที่โรงเรียนก็เยอะอยู่แล้ว สายวิทย์คณิตก็คือเรียนวิทย์ 3-4 ตัวทุกเทอม สมองรับไม่ไหวแล้ว สุดท้ายก็เลยกลายเป็นเรียนไม่ไหว หยุดเรียนไป (มีทำกิจกรรมเยอะเพื่อเก็บพอร์ทด้วยแหละ เลยไม่ไหว)

นอกจากนี้ เรื่องเรียนพิเศษภาษาเพิ่มมันก็ดี แต่เอาตรงๆ มันก็คือภาระ ทั้งเรื่องการเงินที่ต้องเสียเพิ่ม และภาระสมองเราเอง ต้องเรียนภาษาเพิ่ม แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาเกรดที่เรียนสายวิทย์ไว้ กลายเป็นเพิ่มงานเพิ่มความเหนื่อยให้ตัวเอง สรุปแล้วเราจะทรมานตัวเองไปเพื่ออะไร ถามแค่นี้แหละค่ะ

0
กทพ 2 มี.ค. 65 เวลา 08:06 น. 6

เพื่อนเราทำแบบนี้ค่ะ เพื่อนเรียนสายวิทย์อยู่ 3 ปี แบบไม่น่าเกลียด หลังจากนั้นลงสอบแข่งกับสายศิลป์ภาษา ภาษานางไม่ดีแต่นางรัก แล้วเอาวิชาของสายวิทย์ไปสู้กับสายศิลป์ (เมิงบ้ามากค่ะเพื่อน) จนได้ที่อยากเรียน ปัจจุบันนางมีชีวิตกับการใช้ภาษาต่างประเทศและเพื่อนต่างชาติ และเป็นเมเนเจอร์ เงินเดือนเยอะกว่าเราที่ทำงานตรงกับการเรียนสายวิทย์ค่ะ

1
mynameismeemie 24 มี.ค. 65 เวลา 21:13 น. 6-1

ที่ว่าเอาวิชาสายวิทย์ไปสู้กับสายศิบป์ตอนสอบเข้านี่ หมายถึงพวกสอบแบบเกณฑ์พื้นฐานวิทย์กับพื้นฐานศิลป์หรือเปล่าคะ ถ้าแบบนั้นมันรับแยกกันนะ คือพวกใช้คณิตยื่นคณะภาษา ก็แข่งกับคนเอาคณิตยื่นด้วยกัน แต่ก็นั่นแหละจำนวนรับพื้นฐานวิทย์จะน้อยกว่าศิลป์เยอะมากก ถ้าคะแนนคณิตแย่ คะแนนภาษาไม่ดีพอ ก็ไม่ติดอีก

0