Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
www.avpschool.org
ขอนำเสนอ…..

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์
อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โรงเรียนประจำ สถานศึกษาต้นแบบ 
เพื่อการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองครบองค์รวม

เปิดสอนเด็กนักเรียนหญิงชาย ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ถึง มัธยมศึกษาปีที่หก 

พัฒนาเด็กนักเรียนครบองค์รวมใน 5 ด้าน 
เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตเป็นคน ฉลาด เก่ง งาม ดี มีคุณค่า และมีความสุข 

โดยน้อมนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นวิถีแนวทางของการเรียนการสอน 
ด้วยการเสริมสร้างสติปัญญาในการ คิด พูด ทำ ในสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่จริง ที่เจริญ 

เพื่อปลูกฝังและหล่อหลอมให้เด็กเติบโตขึ้น เป็นคนดี มีความเป็นผู้นำ และมีคุณภาพ ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ และเป็นที่พึ่งพาของครอบครัวและสังคมได้

อริยวิจิตรบัณฑิตย์….. 
ความรู้อันประเสริฐและงดงาม 
สถานศึกษาหนึ่งเดียวในโลก
ที่รวมความเป็นที่สุดของ 5 สิ่งไว้ในที่เดียวกัน 

นั่นคือ…..

เป็นบ้าน ที่สอน ความรักความเมตตา 

เป็นโรงเรียน ที่สอน วิชาความรู้ 

เป็นสถานพยาบาล ที่สอน การดูแลใส่ใจสุขภาพ

เป็นสถานฝึกอบรมเข้มข้น ที่สอน การพัฒนาตนเองด้วยตัวเองอย่างตั้งใจและจริงจัง

และ 
เป็นวัด ที่สอน การปฎิบัติธรรม ด้วย ศีล ทาน สมาธิ สติ ปัญญา เพื่อบรรลุเป้าหมายของชีวิต 
คือ การเข้าถึงซึ่งความรู้ ความดี และความจริง สู่ความสุขความเจริญที่แท้จริง 

โดยโรงเรียนมีเป้าหมายในการพัฒนาเด็กนักเรียนแต่ละคน ให้ขึ้นไปสู่จุดที่สูงกว่าของตัวเองให้ได้มากที่สุด โดยยังคงรักษาความเป็นตัวของตัวเอง และพัฒนาตนเองในรูปแบบที่ดีที่สุดของตัวเองอย่างเต็มศักยภาพสูงสุด สู่ความเป็นยอดมนุษย์ หรือ super human เพื่อร่วมจรรโลงรักษาศีลธรรมอริยธรรมอันดีงาม และร่วมเสริมสร้างสังคมใหม่ที่ดีกว่า

ท่านผู้ปกครองที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงทางโทรศัพท์ ได้ที่ 
โทร. 039-433-011, 089-043-3011

***รับนักเรียนจำนวนจำกัด***

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Legend of Rebound 17 ก.พ. 67 เวลา 11:39 น. 1

www.avpschool.org

คำสอน…..

“คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้

ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน”

คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้

ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน

ดังนี้…..

ความสุข ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดที่ทำให้เกิดเป็นความสุข

ผู้ที่มีความสุข คือ ผู้ที่มีความคิดที่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้

เมื่อผู้ใดมีความสุข ความสุขในตัวผู้นั้นก็จะถูกถ่ายทอดออกมาทาง อารมณ์ ความรู้สึก สีหน้า ท่าทาง พฤติกรรม คำพูด ฯลฯ

ที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้พบเห็น รับรู้ถึงความสุขจากบุคคลนั้น และเกิดความสุขตาม

แต่ในทางกลับกัน

ผู้ที่ไม่มีความสุข คือ ผู้ที่ไม่สามารถผลิตความคิดที่ทำให้ตัวเองเกิดความรู้สึกที่มีความสุขได้

และ

เมื่อผู้ใดไม่มีความสุข ผู้นั้นก็จะแสดงอาการแห่งการไม่มีความสุขออกมาภายนอกผ่าน อารมณ์ ความรู้สึก สีหน้า ท่าทาง พฤติกรรม คำพูด ฯลฯ

ที่จะส่งผลทำให้เกิดการปนเปื้อนหรือกระทบกระทั่งกับคนอื่น เป็นเหตุให้คนอื่นเดือดร้อนกายใจ หรือไม่มีความสุขตาม

ดังนั้น

ผู้ที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขได้

จะต้องเริ่มที่การมีความสุขในตัวเองก่อน

โดยความสุขอาจถูกสร้างขึ้นจาก…

- การมีความพยายามในการรู้เท่าทันถึง ความคิด ความเห็น อารมณ์ ความรู้สึก ที่ไม่ดีของตัวเอง

- การพยายามสกัดกั้นลบล้างความคิดที่ไม่ดี ที่จะนำมาซึ่งอารมณ์ความรู้สึก การกระทำคำพูด ที่ไม่ดีตามมา

- การพยายามปรับเปลี่ยนให้ตัวเองมีแต่ความคิดความเห็นที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่จริง ที่เจริญ ที่ทำให้เกิดเป็นความสุขแต่เพียงเท่านั้น

ฉะนั้น

ผู้ที่สามารถให้ความสุขกับผู้อื่นได้

จึงจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสุขในตัวเองก่อน เพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดส่งต่อความสุขสู่ผู้อื่นได้

แต่หากไม่มีความสุข แม้ผู้นั้นต้องการให้ความสุข หรือแสดงออกว่าตัวเองมีความสุข มันก็จะเป็นความสุขที่เสแสร้งจอมปลอม ที่ผู้อื่นก็จะสามารถรับรู้มองเห็นได้ในที่สุดอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้

เราจึงควรที่จะพัฒนาให้ตัวเองเป็นผู้ที่มีความสุข

เพื่อสามารถส่งต่อความสุขของตัวเองออกไปสู่ผู้อื่น

ที่จะทำให้ผู้อื่นที่อยู่รอบข้างมีความสุขตามไปด้วย

ซึ่งนับเป็นการให้ที่มีคุณค่า และประกอบด้วยบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่

ด้วยเหตุนี้

ผู้ที่มีความสุข จึงนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่ากับผู้อื่นอย่างมากมายมหาศาล

ทั้งนี้เพราะ

ความสุข คือ ความหวังของทุกชีวิต

ความสุข คือ พลังที่จะขับเคลื่อนทุกชีวิตในโลก

ให้อยู่ร่วมกันอย่างผาสุกร่มเย็น

และ

ความสุข เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามต่างโหยหา ต้องการ ปรารถนา ที่จะครอบครองได้มา

ในท้ายสุดนี้

ความสุข คือ คุณค่า

บุคคลที่ให้ความสุข คือ บุคคลที่มีคุณค่า

แต่

การให้คุณค่าแห่งความสุขกับคนอื่นได้ จำเป็นต้องเริ่มจากตัวเองก่อน

ดังที่กล่าวมา

คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้ ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน

จึงเป็นไปด้วยเหตุประการฉะนี้ แล.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

0
Legend of Rebound 18 ก.พ. 67 เวลา 10:54 น. 2

www.avpschool.org

คำสอน…..

“คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้

ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน”

คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้

ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน

ดังนี้…..

ความสุข ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดที่ทำให้เกิดเป็นความสุข

ผู้ที่มีความสุข คือ ผู้ที่มีความคิดที่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้

เมื่อผู้ใดมีความสุข ความสุขในตัวผู้นั้นก็จะถูกถ่ายทอดออกมาทาง อารมณ์ ความรู้สึก สีหน้า ท่าทาง พฤติกรรม คำพูด ฯลฯ

ที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้พบเห็น รับรู้ถึงความสุขจากบุคคลนั้น และเกิดความสุขตาม

แต่ในทางกลับกัน

ผู้ที่ไม่มีความสุข คือ ผู้ที่ไม่สามารถผลิตความคิดที่ทำให้ตัวเองเกิดความรู้สึกที่มีความสุขได้

และ

เมื่อผู้ใดไม่มีความสุข ผู้นั้นก็จะแสดงอาการแห่งการไม่มีความสุขออกมาภายนอกผ่าน อารมณ์ ความรู้สึก สีหน้า ท่าทาง พฤติกรรม คำพูด ฯลฯ

ที่จะส่งผลทำให้เกิดการปนเปื้อนหรือกระทบกระทั่งกับคนอื่น เป็นเหตุให้คนอื่นเดือดร้อนกายใจ หรือไม่มีความสุขตาม

ดังนั้น

ผู้ที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขได้

จะต้องเริ่มที่การมีความสุขในตัวเองก่อน

โดยความสุขอาจถูกสร้างขึ้นจาก…

- การมีความพยายามในการรู้เท่าทันถึง ความคิด ความเห็น อารมณ์ ความรู้สึก ที่ไม่ดีของตัวเอง

- การพยายามสกัดกั้นลบล้างความคิดที่ไม่ดี ที่จะนำมาซึ่งอารมณ์ความรู้สึก การกระทำคำพูด ที่ไม่ดีตามมา

- การพยายามปรับเปลี่ยนให้ตัวเองมีแต่ความคิดความเห็นที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่จริง ที่เจริญ ที่ทำให้เกิดเป็นความสุขแต่เพียงเท่านั้น

ฉะนั้น

ผู้ที่สามารถให้ความสุขกับผู้อื่นได้

จึงจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสุขในตัวเองก่อน เพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดส่งต่อความสุขสู่ผู้อื่นได้

แต่หากไม่มีความสุข แม้ผู้นั้นต้องการให้ความสุข หรือแสดงออกว่าตัวเองมีความสุข มันก็จะเป็นความสุขที่เสแสร้งจอมปลอม ที่ผู้อื่นก็จะสามารถรับรู้มองเห็นได้ในที่สุดอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้

เราจึงควรที่จะพัฒนาให้ตัวเองเป็นผู้ที่มีความสุข

เพื่อสามารถส่งต่อความสุขของตัวเองออกไปสู่ผู้อื่น

ที่จะทำให้ผู้อื่นที่อยู่รอบข้างมีความสุขตามไปด้วย

ซึ่งนับเป็นการให้ที่มีคุณค่า และประกอบด้วยบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่

ด้วยเหตุนี้

ผู้ที่มีความสุข จึงนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่ากับผู้อื่นอย่างมากมายมหาศาล

ทั้งนี้เพราะ

ความสุข คือ ความหวังของทุกชีวิต

ความสุข คือ พลังที่จะขับเคลื่อนทุกชีวิตในโลก

ให้อยู่ร่วมกันอย่างผาสุกร่มเย็น

และ

ความสุข เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามต่างโหยหา ต้องการ ปรารถนา ที่จะครอบครองได้มา

ในท้ายสุดนี้

ความสุข คือ คุณค่า

บุคคลที่ให้ความสุข คือ บุคคลที่มีคุณค่า

แต่

การให้คุณค่าแห่งความสุขกับคนอื่นได้ จำเป็นต้องเริ่มจากตัวเองก่อน

ดังที่กล่าวมา

คนที่ให้ความสุขคนอื่นได้ ต้องมีความสุขในตัวเองก่อน

จึงเป็นไปด้วยเหตุประการฉะนี้ แล.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

https://www.facebook.com/AriyaVichitPundit?mibextid=LQQJ4dhttps://image.dek-d.com/28/1002/9575/134109045 https://image.dek-d.com/27/1002/9575/133960075 https://image.dek-d.com/27/1002/9575/133960076
0
Legend of Rebound 19 ก.พ. 67 เวลา 11:31 น. 3

www.avpschool.org

คำสอน….

“ความหวังสูงสุดของพ่อแม่บุพการี

คือ

การมีบุตรที่ดี ที่เป็น อภิชาตบุตร“

—————————

อริยวิจิตรบัณฑิตย์

สถาบันหนึ่งเดียวในโลก

ผลิตเยาวชนคนดีมีปัญญา

เพื่อคุณค่าสูงสุดของชีวิต

โรงเรียนประจำ สำหรับนักเรียนหญิงชาย ระดับชั้น ประถม 1 ถึง มัธยม 6

จำกัดจำนวนนักเรียน

ติดต่อสอบถาม

โทร. 089-0433011, 039-433011https://image.dek-d.com/28/1002/9575/134138649

0
Legend of Rebound 20 ก.พ. 67 เวลา 09:35 น. 4

www.avpschool.org

คำสอน…..

“อริยวิจิตรบัณฑิตย์” คือ

ความรู้อันประเสริฐและงดงาม

ที่เป็น ความรู้ตรงตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

เพื่อเป็นแนวทางในการอบรมบ่มเพาะเด็กนักเรียนแต่ละคน

สู่การพัฒนาตนเองครบองค์รวม 5 ด้าน

ด้วย การฝักใฝ่ 5 ประการ

ดังนี้…..

การพัฒนาตนเองครบองค์รวม 5 ด้าน

1. Good Head: ฉลาด

การคิดวิเคราะห์ การทำความเข้าใจ

ด้านข้อมูลข่าวสารเนื้อหาความรู้ เชิงวิทยาศาสตร์ ในสาขาวิชาการต่าง ๆ

2. Good Hands: เก่ง

การแสดงศักยภาพ การแสดงออก

ด้านความสามารถพิเศษ ความสนใจเฉพาะทางต่าง ๆ เชิงการปฏิบัติและการทำงาน

3 Good Health: งาม

การดูแลรักษาปกป้องคุ้มครองตนเอง

ด้านสุขภาพทางร่างกาย

ให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บภัยอันตรายต่าง ๆ และการมีบุคลิกภาพที่ดีสง่างาม

4. Good Heart: ดี

การดูแลรักษาปกป้องคุ้มครองตนเอง

ด้านความคิดจิตใจ

ให้มีความสุข ความสงบ รอดพ้นจากความทุกข์ และเคราะห์กรรมนานา

5. Good Human: มีคุณค่า

การดูแลพึ่งพาตนเอง การนำตัวเอง และการให้ประโยชน์ การเป็นที่พึ่งพา ที่มีคุณค่า ให้กับผู้อื่น

ด้วย การฝักใฝ่ 5 ประการ

1. ใฝ่ดี

ด้วยการมีความคิดเห็นที่ดีถูกต้องตามหลักธรรมคำสั่งสอน หรือ การมีสัมมาทิฏฐิ

2. ใฝ่รู้

ด้วยการขวนขวายในการศึกษาหาวิชาความรู้ ที่จริง ที่ดี และที่มีประโยชน์

3. ใฝ่คิด

ด้วยการใช้สติปัญญาในการเพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ คิดค้นหาวิธีการ ในการดำเนินการ จัดการ แก้ไขอุปสรรคปัญหา

4. ใฝ่ทำ

ด้วยการมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ความขยันหมั่นเพียร ความอุตสาหะพยายาม ที่จะทำการใด ๆ ให้สำเร็จลุล่วง

5. ใฝ่พัฒนา

ด้วยการทบทวนพิจารณาถึงประโยชน์และโทษ ผลดีและผลเสีย ความสำเร็จและอุปสรรคปัญหา โดยการใช้ปัญญาในการเกี่ยวข้องกับตนเอง ผู้อื่น และทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นเจริญขึ้น

ท่ามกลางกระแสสังคมอันเชี่ยวกรากและอันตราย นี้

เราจำเป็นต้องแหวกว่ายสวนกระแสออกสู่

ทางออกของการศึกษา

และทางรอดของชีวิต

อริยวิจิตรบัณฑิตย์

หนึ่งสถานศึกษาเดียวในโลก

ที่รวม 5 สิ่ง ที่สำคัญ

ที่เป็น

ทั้งโรงเรียน ทั้งบ้าน ทั้งวัด ทั้งสถานพยาบาล และทั้งค่ายพัฒนาตนเข้มข้น

ในที่ที่เดียวกัน

เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน

ให้ดีที่สุด เก่งที่สุด

สู่การเป็นผู้นำในอนาคต

เพื่อยังประโยชน์ให้กับตนเอง ให้กับครอบครัว และสังคม

ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

เท่าที่หนึ่งชีวิตที่เกิดมา จะทำได้.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์https://image.dek-d.com/28/1002/9575/134140684

0
Phusit 21 ก.พ. 67 เวลา 15:00 น. 5

www.avpschool.org

คำสอน.....

“ลูกไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่

แต่เป็นสิ่งล้ำค่าของพ่อแม่”

ดังนี้.....

ลูกไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่

ที่มีพ่อแม่เป็นเจ้าของ

ที่พ่อแม่จะคิดทำอย่างไรกับลูกก็ได้

แต่

ลูกคือสิ่งล้ำค่าของพ่อแม่

ที่มีพ่อแม่เป็นผู้ดูแลรักษา

ที่พ่อแม่จะต้องหวงแหน ปกป้อง ทะนุถนอม

และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก

พ่อแม่ที่ดี ที่มีความจริงใจ

จะต้องรักษาสิ่งล้ำค่านี้ให้ดีที่สุด

โดย

พ่อแม่มีบทบาทต่อลูก

ในฐานะเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดูแล

แต่ไม่ใช่ในฐานะเป็นเจ้าของสมบัติ

เพราะ

ทุกชีวิต คือจิตวิญญาณ ที่เกิดมาเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง

ฉะนั้น

ลูกก็เช่นกัน ที่จะต้องบรรลุเป้าหมายของตัวเอง ไม่ใช่บรรลุเป้าหมายของพ่อแม่

และ

หากพ่อแม่ทำต่อลูกเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง มันคือการสำคัญผิด และเป็นการสร้างกรรมกับลูกของตัวเองอย่างร้ายแรง

ดังนั้น

ในการพัฒนาสติปัญญาของสมองด้านวิชาความรู้อาชีพการงาน

พ่อแม่ต้องศึกษาจิตวิญญาณของลูก ในสิ่งที่ลูกเป็น สิ่งที่ลูกชอบ โดยไม่บังคับ ไม่ฝืนใจ ให้เรียนรู้ว่าสิ่งใดลูกถนัดหรือไม่ถนัด และให้ลูกค่อย ๆ เจริญในวิถีความถนัดความชอบของตัวเอง

แต่.....

ในการพัฒนาสติปัญญาของความคิดจิตใจด้านคุณธรรมความดี

เป็นสิ่งเดียวและเป็นเงื่อนไขสำคัญที่พ่อแม่ต้องรับผิดชอบดูแลให้กับลูก ที่ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของพ่อแม่ อันมิอาจบกพร่องได้

นั่นคือ การรักษาปกป้องลูกของตัวเองให้อยู่ในกรอบของศีลธรรมคุณงามความดีแต่เพียงเท่านั้น

เพราะความดีเท่านั้น ที่จะนำพาลูกไปสู่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตที่แท้จริงและยั่งยืน

ดังที่กล่าวมา

ลูกไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่ แต่เป็นสิ่งล้ำค่าของพ่อแม่

ที่พ่อแม่จะต้องดูแลจิตวิญญาณตัวตนของชีวิตหนึ่งที่มาเกิดกับตัวเอง

ให้เจริญเติบโตด้วยความปลอดภัยและมั่นคงทางร่างกายและความคิดทางสมอง ตามความถนัด ความชอบ ความรักในสิ่งที่ลูกอยากทำในวิถีทางของตัวเอง

แต่ให้เจริญสติปัญญาทางจิตใจและจิตวิญญาณ ด้วยความจริงและความดีในวิถีแห่งธรรม เพื่อความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตของลูกอย่างแท้จริง

สิ่งนี้คือ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา สูงสุด ที่พ่อแม่จักพึงมีให้กับลูก

ที่ถือเป็นการเสียสละทุ่มเท และความจริงใจ ที่ยิ่งใหญ่สูงสุดในชีวิตของพ่อแม่

และ

ลูกคนใดที่มีพ่อแม่เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่สูงสุดในชีวิตของลูก เช่นกัน.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

0
phusitgem 26 ก.พ. 67 เวลา 13:42 น. 6

www.avpschool.org

คำสอน…..

“มีค่าที่สุด คือ เวลา

มีค่ายิ่งกว่า คือ ความสุข”

แม้เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่มีค่ายิ่งกว่าเวลา

สิ่งที่ว่านี้ คือ ความสุข

ดังนี้…..

เวลา นับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เพราะ

เวลาไม่สามารถซื้อหาได้ และเวลามีจำกัด

อีกทั้ง เวลาที่ผ่านพ้นไปแล้ว เราจะไม่สามารถหวนย้อนคืนกลับมาได้เลย

ฉะนั้น

เวลา จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด

และ เวลา จึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรตระหนักหวงแหน และให้ความสำคัญสูงสุด

ซึ่งคือ การไม่ประมาทในชีวิต

ที่เราควรใช้เวลาและโอกาสที่มีในชีวิตของเรา สร้างสรรค์สิ่งที่ดีมีประโยชน์คุณค่า ให้กับตนเองและผู้อื่น

ด้วยการ

คิดดี พูดดี ทำดี

มีความเมตตา กรุณา

มีความรัก ความปรารถนาดี

มีความใส่ใจ ความเข้าใจ ผู้อื่น

ฯลฯ

เพื่อเก็บเกี่ยวสั่งสมบุญบารมีให้ได้มากที่สุด เท่าที่เวลาและโอกาสในชีวิตของเราพึงมี

แต่ถึงกระนั้น

แม้เวลาจะมีค่ามากแค่ไหน

แต่ก็ไม่สามารถเปรียบได้เลยกับ ‘ความสุข’

ที่นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐสูงค่ายิ่งกว่า

กล่าวคือ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ทำผ่านมาแล้ว แม้เราจะไม่สามารถหวนย้อนคืนกลับไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ก็ตาม

แต่หากเราคิดเศร้าโศก ท้อแท้ ผิดหวัง โกรธ โมโห เสียใจ กลุ้มใจ คับแค้นใจ กับสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านพ้นไปแล้ว

ต่อให้เรายังมีเวลาในชีวิตอีกมากมายแค่ไหน มันก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด ตราบใดที่เรายังคิดไม่ได้ คิดไม่ตก ติดไม่เป็น

อันจะทำให้เราต้องอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์นั้นไปจนกว่าความทุกข์จะสลายหายไปเอง

ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการช่วยบรรเทาเยียวยาจิตใจ โดยเวลาอาจช่วยให้เราลืมความทุกข์ได้มาก ได้น้อย หรือไม่ได้เลย ก็สุดแต่

แต่

ตามหลักความเป็นจริง มีสิ่งหนึ่งที่อยู่เหนือกาลเวลา และเป็นอิสรภาพต่อกาลเวลา

สิ่งนั้นคือ ความสุข ที่เวลาสร้างไม่ได้ และเวลาก็ทำลายได้ไม่

ดังนั้น

หากบุคคลใด ไม่รู้จักหรือไม่สามารถคิดสร้างความสุขให้กับตัวเองได้แล้วไซร้

บุคคลนั้น ก็จะต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์โศกเคราะห์กรรมต่อไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี หลาย ๆ ปี หรือแม้กระทั่งตลอดทั้งชีวิต ในการหลุดพ้นจากความทุกข์

แต่ในการกลับกัน

หากบุคคลใด รู้จักหรือสามารถคิดสร้างความสุขให้กับตัวเองได้แล้วไซร้

บุคคลนั้น จะเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลา จะเป็นอิสระกับกาลเวลา ที่แม้เวลาจะเป็นผู้กำหนดควบคุม สร้างหรือทำลายทุกสรรพสิ่ง แต่เวลาก็จะไม่สามารถมีอิทธิพลต่อความสุขภายในจิตใจของบุคคลนั้นได้เลย

เมื่อเป็นเช่นนี้

เราจึงกล่าวได้ว่า สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเวลา คือ ความสุข

ด้วยเหตุผลที่ว่า

เวลาสร้างไม่ได้ แต่ความสุขสร้างได้

เวลาย้อนไม่ได้ แต่ความสุขย้อนได้

เวลาไม่ได้ให้ความเป็นอิสระ แต่ความสุขให้ความเป็นอิสระ

เวลาไม่อาจกำหนดได้ แต่ความสุขกำหนดได้

เวลามีช่องว่างของระยะทางและมีขีดจำกัด แต่ความสุขไม่มีช่องว่างและไร้ขอบเขต

เวลาต้องรอคอย แต่ความสุขไม่ต้องรอคอย

ฯลฯ

ฉะนั้น

แม้ในขณะที่เวลาในชีวิตของเรามีจำกัด ที่เราต้องให้ความสำคัญและหวงแหนเวลา โดยไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่เกิดประโยชน์สาระ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ก็ดี

แต่

ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า เรายังคงจะมีเวลาในชีวิตยืนยาวแค่ไหน

ซึ่งหากเรามาให้ความสำคัญที่ความสุขในใจของเราในปัจจุบันขณะที่เรายังมีชีวิตและลมหายใจอยู่ มันจะเป็นสิ่งที่แน่นอนมั่นคงและจริงแท้ยิ่งกว่าการรอคอยเวลาและโอกาสในชีวิต จากอนาคตที่เลื่อนลอยไม่มีความแน่นอน

ในท้ายสุดนี้

ถึงแม้ว่าเวลาจะมีค่ามากแค่ไหน

และต่อให้เรามีเวลาในชีวิตมากมายเพียงใด

แต่หากไร้ซึ่งการสร้างความสุขในใจแล้วไซร้

เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้ ก็จะปราศจากความหมายใด ๆ อย่างสิ้นเชิง

ดังนั้น ตามที่กล่าวมา

“มีค่าที่สุด คือ เวลา มีค่ายิ่งกว่า คือ ความสุข”

จึงเป็นไปด้วยเหตุฉะนี้ แล.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

Ariya Vichit Pundit School

www.avpschool.org

0
phusitgem 6 มี.ค. 67 เวลา 10:07 น. 7

ขอประชาสัมพันธ์ โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โรงเรียนประจำวิถีธรรม พัฒนาเด็กนักเรียน 5 ด้านครบองค์รวม เป็นโรงเรียนประจำ ตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 โทร 039-433-011 089-043-3011

0
Legend of Rebound 2 เม.ย. 67 เวลา 15:07 น. 8

www.avpschool.org

ขอนำเสนอ…..

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

โรงเรียนประจำ

ณ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โรงเรียนในฝันที่มีจริง

ที่สุดของการศึกษา…..

ความเป็นมา

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์ถูกสร้างขึ้นจากการมองเห็นสภาพปัญหาของระบบการศึกษา ที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเด็กเยาวชน ให้เป็นคนดีมีคุณค่าและมีความสุขในตัวเองได้

โดยต้นเหตุของปัญหาเกิดจากสภาพสังคมในยุคปัจจุบันที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความเจริญทางวัตถุ และการให้ค่าความสำเร็จของคนที่สถานะทางเศรษฐกิจการเงินการงาน ทำให้นโยบายของระบบการศึกษากำหนดให้เด็กและเยาวชนที่ศึกษาเรียนรู้ในระบบขั้นพื้นฐานในโรงเรียนเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการและกลไกของเศรษฐกิจและสังคม ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองในแต่ละครอบครัวต้องต่อสู้ดิ้นรนเร่งรัดขับเคี่ยวกับการทำมาหาเลี้ยงชีพและการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ที่เป็นเหตุให้ภาระกิจหน้าที่ในการอบรมบ่มเพาะเด็กนักเรียนนอกเหนือจากการให้วิชาความรู้ คือ ความคิด จิตใจ นิสัย พฤติกรรม ต้องถูกแบ่งกระจายถ่ายโอนไปยังโรงเรียน ที่เด็กนักเรียนใช้เวลาเรียนรู้ซึมซับหล่อหลอมอยู่ในสังคมโรงเรียนมากกว่าอยู่ที่บ้าน

ฉะนั้น ระบบการศึกษาจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเข้มแข็งทั้งในด้านคุณภาพและในด้านปริมาณ โดยระบบการศึกษาจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย นโยบาย และการดำเนินการขับเคลื่อนการศึกษาในทิศทางที่เป็นไปเพื่อการบรรลุเป้าหมายในการให้คุณภาพการศึกษาที่ดีที่สุดให้กับเด็กนักเรียนแต่ละคนที่อยู่ในสังคมโรงเรียนอย่างถ่องแท้ทั่วถึง และในด้านปริมาณระบบการศึกษาจำเป็นต้องมีความพร้อมในการรองรับและขยายตัวเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาเด็กนักเรียนตามความเป็นจริงในด้านสัดส่วนและปริมาณ แต่ปัญหาที่เป็นอยู่คือ โรงเรียนทั้งหลายประสบสภาวะปัญหาการมีจำนวนเด็กนักเรียนมากเกินกำลังของบุคลากรครู ทำให้โรงเรียนในระบบไม่สามารถดูแลควบคุมเด็กนักเรียนได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง

โดยเมื่อเด็กนักเรียนอยู่ตามลำพังคนเดียว หรืออยู่ในกลุ่มเด็กนักเรียนด้วยกันเอง ที่ต่างคนก็ต่างยังไม่เติบโตทางความคิดจิตใจและวุฒิภาวะ ทำให้เมื่อเกิดปัญหาทั้งจากภายในตัวเองหรือจากปัญหาระหว่างเพื่อน เด็กก็จะไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ด้วยดี เช่น ปัญหาในด้านการเรียนที่ตัวเองอาจไม่ได้ใส่ใจหรือไม่เข้าใจ หรือปัญหาระหว่างเพื่อน เช่น การยุ่งเกี่ยวคบหาเพื่อนที่ชักจูงนำพากันไปในทางที่ไม่ดีไม่ควร หรือการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนที่นำไปสู่การขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้ง ที่จบด้วยการเลือกใช้ความรุนแรงในการตอบโต้กัน ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับการชี้แนะแก้ไขเพื่อให้เกิดความเข้าใจทั้งในตัวเองและในตัวผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ส่งผลในฉับพลันทันที หรือปัญหาที่จะส่งผลในระยะยาว ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ความทรงจำที่อาจกลายเป็นปมปัญหาที่จะติดตัวเด็กไปในความคิด ความเข้าใจ พฤติกรรม นิสัย จิตใจ ตัวตน ที่จะส่งผลกระทบในภายภาคหน้าตลอดทั้งชีวิต

เป้าหมายของโรงเรียน

ด้วยเหตุที่มาของปัญหาของการศึกษาต่าง ๆ เหล่านี้ โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์จึงถูกดำริสร้างและจัดตั้งขึ้นอย่างแตกต่างและเป็นเอกเทศ เพื่อให้เป็นที่พึ่งของการศึกษาและเป็นแบบอย่างแนวทางของการศึกษาที่ควรเป็น ที่เป็นทางออกของการศึกษาของโลก และเป็นทางรอดของชีวิตมนุษย์

โดยโรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์ให้ความสำคัญในการพัฒนาเด็กนักเรียนแต่ละคน ทั้งภายนอกและภายใน ครบองค์รวมใน 5 ด้าน เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสเข้าถึงการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ที่นับเป็นศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ที่แท้จริง ซึ่งคือ การพบเจอกับความสุข ความเจริญ และอิสรภาพแห่งตน ด้วยการเจาะเข้าไปถึงตัวตนลึก ๆ ของเด็กนักเรียนแต่ละคน เพื่อดึงสิ่งที่ดีในตัวของเด็กนักเรียนออกมาเพื่อพัฒนาและรักษา และดึงสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นต่อการพัฒนาออกมาชำระล้างขัดเกลาแก้ไขให้หมดสิ้นไปด้วยการนำตัวเองด้วยความภาคภูมิใจและสุขใจ เพื่อให้นักเรียนแต่ละคนได้ก้าวขึ้นสู่ความสุขความเจริญที่แท้จริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะสามารถเป็นได้

นโยบายของโรงเรียน

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์ให้ความสำคัญในการพัฒนาการเจริญเติบโตของเด็กนักเรียนครบองค์ใน 5 ด้าน ดังนี้

1. Good Head – หัวสมอง คือ การทำความเข้าใจและการคิดวิเคราะห์ด้านเนื้อหาความรู้วิชาการ

2. Good Hands – มือไม้แขนขา คือ การแสดงออกด้านความสามารถเพื่อปฏิบัติในด้านการงานวิชาชีพ

3. Good Health – สรีระร่างกาย คือ การรักษาดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้มีอันตรายหรือเจ็บไข้ได้ป่วย

4. Good Heart – จิตใจ คือ การรักษาความคิดจิตใจให้ดำรงอยู่ในห้วงแห่งความดี ความจริง และความสุข

5. Good Human – ตัวตน คือ การพึ่งพาตนเองและเป็นที่พึ่งพาให้กับผู้อื่นอย่างมีคุณค่าและอย่างมีความสุข

สิ่งที่แตกต่างและสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใด คือ การจงใจและตั้งใจที่จะปลูกฝังคุณสมบัติของการฝักใฝ่ 5 ประการ เข้าไปในตัวเด็กนักเรียนแต่ละคน ดังนี้

1.ใฝ่คิด – คิดในสิ่งที่สร้างสรรค์ และดีมีประโยชน์

2.ใฝ่รู้ – เรียนรู้ในสิ่งที่สำคัญ และดีมีประโยชน์

3.ใฝ่ดี – เจริญยิ่งขึ้นในความดี และละทิ้งสิ่งที่ไม่ดี

4.ใฝ่ทำ – กระตือรือร้น ขยันหมั่นเพียร และตั้งใจทำในสิ่งที่ดีมีคุณค่า

5.ใฝ่พัฒนา – พยายามพัฒนาตนเองในทุกทางเพื่อให้ตัวเองดีขึ้นเก่งขึ้นเจริญขึ้น

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

สถานศึกษาหนึ่งเดียวในโลกที่นำทุกศาสตร์ทุกศิลป์ของทุกองค์ความรู้มาหลวมรวมกัน

เพื่อพัฒนาเด็กนักเรียนแต่ละคนอย่างจงใจด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ

ที่จะไม่สามารถหาได้จากการศึกษาอื่นใดในโลก.

ดร.พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล

โรงเรียนอริยวิจิตรบัณฑิตย์

………………………………………..

เกณฑ์การรับสมัครเข้าเรียน

เปิดสอนเด็กนักเรียนหญิงชาย

ระดับชั้น ป. 1 ถึง ม. 6

เฉพาะอยู่ประจำในโรงเรียน

จำกัดจำนวนนักเรียนทุกระดับชั้นทั้งโรงเรียนเพียง 58 คน เท่านั้น

ค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่าย ในการอยู่และการกิน

ปีการศึกษา 2567

- ต่อเทอม 200,000 บาท (ต่อปี 400,000 บาท)

- ค่าแรกเข้า 200,000-300,000 บาท ตามแต่โรงเรียนพิจารณา

………………………………………..

0