รีวิวหนังที่คอหนังไม่ควรพลาด : Mile 22 คนมหากาฬเดือดมหาประลัย (2018) แอ็คชั่นจุใจและเนื้อหาสุดหักมุม
หนังที่กำกับโดยหนึ่งในผู้กำกับสายแอ็คชั่นมากฝีมืออย่าง Peter Berg จากผลงานสร้างชื่อก่อนหน้า อาทิ The Rundown, The Kingdom, Battleship เป็นต้น
เรื่องนี้เป็นการกลับมาร่วมงานเป็นครั้งที่สี่ของทั้งตัวผู้กำกับและนักแสดงนำคู่บุญอย่าง Mark Wahlberg ซึ่งสามเรื่องก่อนหน้าได้ฝากผลงานดีๆสุดประทับใจไว้ทั้งสามเรื่องที่เป็นหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริง
เรื่อง Lone Survivor, Deepwater Horizon, Patriots Day มาในเรื่องที่สี่นี้ ทั้งคู่ต้องการสร้างความแปลกใหม่ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของหนังที่เขียนบทปรุงแต่งเรื่องขึ้น ไม่เหมือนหนังสามเรื่องก่อนหน้าที่ล้วน
สร้างจากเหตุการณ์จริง มาในเรื่องนี้ถึงจะเป็นเรื่องแต่งขึ้นแต่ทั้งคู่ต้องการทำให้สถานการณ์ในหนังดูสมจริงและกดดันเหมือนดูหนังที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่อง Mile 22 เป็นหนังแนวแอ็คชั่น
ที่มีกลิ่นอายความดิบ โหดแบบหนังยุค 90 และกลิ่นอายความเป็นหนังแนวสายลับแบบยุคใหม่ ผสมผสานความเป็นหนังแอ็คชั่นสไตล์เอเชียด้วยการนำพระเอกสายแอ็คชั่นชาวอินโดนีเซียจากหนังเรื่อง The Raid ทั้งสองภาคมาแสดง
Iko Uwais ที่เคยผ่านการแสดงหนังในฮอลลีวูดมาบ้างแล้ว แต่เรื่องนี้บทของเขาเด่นขึ้นกว่าหนังเรื่องก่อนๆ เรียกได้ว่าเรื่องนี้เขาแสดงเป็นตัวเอกประกบพระเอกซุปตาร์อย่าง มาร์ค วอล์หเบิร์ก เลย
หนังเรื่องนี้ตอนเริ่มโปรเจ็กต์ คนเขียนบทและตัวผู้กำกับ รวมถึงทีมงานผู้สร้างหนังต้องการความสมจริงด้านเนื้อหาของหนังจึงได้เดินทางไปสัมภาษณ์อดีตสายลับซีไอเอจริงๆ ที่ได้บอกเล่าปฏิบัติการลับของเหล่าสายลับ
รวมถึงตัวทีมนักแสดงที่ต้องเข้าการฝึกฝนด้านอาวุธ ปฏิบัติการทางทหาร การต่อสู้ ท่าทางกิริยาของเหล่าสายลับเพื่อความสมจริงในการแสดงในหนังจริง
หนังยังได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง John Malkovoich มาร่วมแสดงในหนังด้วยและมีสาวเอเชียป็อปสตาร์ชื่อดังอย่าง CL มาแสดงประกอบในบทเล็กๆด้วย
หนังเล่าเรื่องราวของทีมปฏิบัติการพิเศษหน่วยข่าวกรองซีไอเอ ภายใต้ชื่อ "Over watch" ที่ภารกิจใหม่ของพวกเขาต้องคุ้มกันภัยอดีตนายตำรวจคนหนึ่ง "ลี นัวร์" ผู้ที่กุมความลับแผนสุดอันตรายของประเทศ
ตัวเองที่ต้องการโจมตีประเทศอเมริกา เขาเป็นผู้เดินทางมายังสถานทูตสหรัฐอเมริกาภายในประเทศอินโดคาร์ที่เขาอาศัยอยู่ด้วยตนเอง เขามีฮาร์ดดิสก์ที่อ้างว่าด้านในมีข้อมูลแผนโจมตีอเมริกาที่รัฐบาลของเขาเองเป็นผู้
วางแผนเตรียมการและเขาจะไม่ยอมบอกรหัสเปิดฮาร์ดดิสก์ จนกว่าทางสถานทูตสหรัฐจะยอมให้เขาหลี่ภัยไปอยู่ที่ประเทศอเมริกา โดยที่ทีม over watch รับหน้าที่คุ้มกันภัยเขาเพื่อเดินทางไปยังสนามบินเป็นระยะทาง 22 ไมล์
โดยระหว่างทางพวกเขาก็ต้องฝ่าดงห่ากระสุนจากพวกคนในรัฐบาลของลี นัวร์ที่ต้องการสังหารปิดปากเขาไม่ให้รอดไปได้และเปิดเผยรหัสเปิดดิสก์
ทีมปฏิบัติการสายลับ over watch นั่นนำทีมปฏิบัติการโดย เจมส์ ซินวา ผู้เป็นโรคไบโพล่าร์อดีตทหารหน่วยรบพิเศษและเป็นสายลับซีไอเอมากฝีมือที่เริ่มควบคุมอารมณ์สองขั้วของเขาไม่ค่อยอยู่
เขาต้องนำทีมฝ่าดงนักฆ่า ทหารรับจ้าง เพื่อพาลี นัวร์ หนีพ้นอันตรายไปยังสนามบินให้ภารกิจสำเร็จ ขณะที่สถานการณ์เริ่มจะกดดันและโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกเขาต้องต่อสู้ดวลกระสุนกับฝ่ายศูตรที่มีกำลังพล
และอาวุธที่มากกว่า พวกเขาเริ่มจนตรอกกระสุนเริ่มไม่พอ ขณะภารกิจต้องดำเนินต่อไปกับความจริงอันซับซ้อนเกินที่พวกเขาจะรับมือกำลังถูกเปิดเผยซึ่งจะนำไปสู่สถานะทางการเมืองระหว่างประเทศอันตึงเครียดและลากภารกิจ
ิในอดีตอันปวดร้าวที่เจมส์ ซินวา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้มา พวกเขาจะสามารถพาลี นัวร์ฝ่าวงล้อมพวกนักฆ่าไปสนามบินได้ทันเวลาไหม?
เป็นหนังแอ็คชั่นที่มีฉากแอ็คชั่นทั้งยิงกัน ต่อสู้มือเปล่า รวมถึงเทคโนโลยีทางการทหาร สายลับ ทำออกมาได้ดูสมจริงมากๆ สถานการณ์เริ่มกดดันเริ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื้อเรื่องของหนังเป็นอะไรที่มีปมหลายปมที่อาจจะทำ
ให้คนดูเกิดความสับสนได้ หลายปมไม่ถูกเปิดเผยในหนัง มาช่วงท้ายเรื่องหนังได้เริ่มคลายปมข้อสงสัยต่างๆออกมา ทำให้คนดูร้อง อ่อ และคาดไม่ถึงกับตัวบทของหนังที่หักมุมสุดๆ
ใครเป็นคอหนังแนวแอ็คชั่น แฟนหนังของพระเอก มาร์ค วอล์หเบิร์ก ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ ใครยังชอบในฉากแอ็คชั่นดิบๆสไตล์หนังเอเชียแบบเรื่อง The Raid ล่ะก็ เรื่องนี้ Iko Uwais ก็แสดงฉากต่อสู้มือเปล่าแบบ
ที่เขาถนัดออกมาได้ดี คิวบู๊ดูหนักแน่นและสมจริง เสียงปืนในเรื่องหนักแน่นทุกนัดรวมถึงเรื่องนี้ยังมีบทหนังเจ๋งๆที่แสดงซับซ้อนซ่อนเงื่อน
สรุป สั้นๆง่ายๆ แอ็คชั่นมันจุใจสมจริง เสียงปืนหนักแน่น การแสดงคิวบู๊ของนักแสดงดีทุกคน เป็นหนังแนวแอ็คชั่น ทริลเลอร์ ผสมผสานความเป็นหนังแนวสายลับที่ออกมาลงตัว ผมให้คะแนน 8.6/10 ครับ
แสดงความคิดเห็น