Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องที่ 6 Kimi no Na we (Your Name.) หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เรื่องย่อ 

Your Name เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ทาคิ" และ "มิตสึฮะ" เด็กหนุ่มและเด็กสาวมัธยมปลายสองคนที่เกิดเหตุให้สลับร่างกันเป็นบางครั้งบางคราว ในห้วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยมีเหตุการณ์ฝนดาวตกเป็นตัวยึดโยงเหตุการณ์ทั้งเรื่องไว้ 
โดยสิ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือ ทาคิเป็นเด็กเมืองกรุง ในขณะที่มิตสึฮะเป็นสาวชนบท เมื่อทั้งสองคนสลับร่างกัน นั้นหมายถึงการเผชิญชีวิตในรูปแบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย จนบางครั้ง มันคือการเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย ชีวิตที่ถวิลหาโดยที่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำ
ชื่อ Kimi no na wa ถ้าแปลตรงตัวจะเป็นวลีเชิงคำถามประมาณว่า "ชื่อของเธอ?" หรือ "เธอชื่อ?" ซึ่งเป็นประโยคเรียกน้ำตาและสื่อความหมายของเรื่องได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน สองพยางค์ท้ายคือ “นะ วะ” (名は) พ้องเสียงกับคำว่า “นะวะ” ที่แปลว่า “เชือก” ก็บอกถึงเส้นเรื่องที่พยายามสื่อถึงสายสัมพันธ์ระหว่างทาคิและมิตสึฮะ

"""ด้ายแดง และ สนธยา
         ความโรแมนติกแฟนตาซีเหนือกาลเวลาของเรื่องนี้มีการผสมผสานและแฝงเรื่อง "ความเชื่อ" และ "ตำนาน" ของญี่ปุ่นอย่างลงตัว
         ตำนานด้ายแดงแห่งโชคชะตาที่จะผูกที่นิ้วก้อยของคนสองคน เชื่อมคนสองคนไว้ด้วยกัน และจะชักนำพาให้ชะตาคนทั้งสองมาพบกันในที่สุด โดยที่เราจะมองไม่เห็นด้ายนั้น พูดไปมันก็เทียบเคียงกับเรื่องคู่แท้
          ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้เรื่องนี้ความโรแมนติกในแบบที่ไม่เหมือนใคร มีทั้งความคาดหวังและลุ้นไปตามกัน
 จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะสามารถเรียกน้ำตาจากใครหลายคนได้

"""อดีต ปัจจุบัน อนาคต
        เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีการเล่นกับเรื่องการเวลา ถ้าจะยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ Flash Point ในเรื่อง The Flash
การกระทำของพระเอก การสลับร่างกันของคนทั้งคู่ได้เข้าไปยุ่งกับเส้นเวลาของอดีต และได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ซึ่งการเข้าไปยุ่งกับช่วงเวลา จะทำให้เหตุในอนาคตเปลี่ยนไปด้วย สิ่งที่ดูเข้าท่าสุดก็คือ การที่ความทรงจำของทาคิเกี่ยวกับมิตสึฮะค่อย ๆ หายไปในตอนที่เส้นเวลากำลังจะมาบรรจบกัน ถึงแม้ว่าเผลกระทบที่ "ควร" เกิดขึ้นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนจะไม่ได้นำมาใส่ในเรื่องเสียทั้งหมด แต่ก็พอดีกับการที่จะทำให้เรื่องมีความน่าติดตาม และความสนุก (โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าใส่มามากกว่านี้ เรื่องจะหายสนุกไปเลย)

    ****** เราเป็นหนึ่งคนที่เริ่มดูอนิเมชั่น ก่อนที่จะได้อ่านนิยาย   หลายคนอาจจะกลัวว่า เมื่อรู้เนื้อเรื่องแล้วจะอ่านไม่สนุก เพราะฉบับนิยายนั้นมีส่วนเหมือนกับอนิเมชั่นถึง 99% แต่ทว่าเมื่อได้อ่าน ผมกลับรู้สึกว่ามันนึกภาพตามได้ง่ายและอ่านได้สนุกขึ้นกว่าเดิมเสียอีก นอกจากนี้ในฉบับนิยายยังมีการอธิบายความหมายของคำพูดต่าง ๆ ทำให้เราได้รู้เนื้อหาในแนวลึกมากขึ้นนั่นเอง
     
***## ถึงแม้ว่าจะมีความสับสนในเรื่องการบรรยายแบบบุรุษที่ 1 สลับกันไปมาระหว่างสองตัวเอกบ้างบางครั้งบางครา
 

 

แสดงความคิดเห็น

>