Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[HOW TO] สีน้ำฉบับมือใหม่ PART 1 มารู้จักอุปกรณ์กันดีกว่า!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สืบเนื่องจากกระทู้ที่ตั้งไปเมื่อวาน > http://www.dek-d.com/board/view/3664052/
ที่เราเขียนสอบถามไปว่ามีท่านใดสนใจไหมนั้น พบว่ามีตั้ง 1 คอมเม้นต์แน่ะ TAT ก็เลยลองเขียนดูก่อนละกัน
เผื่อกระแสจะดีขึ้น
ตอนนี้ขอลงไว้ครึ่งนึงก่อนละกันนะ
พาร์ทนี้จะเป็นในส่วนของอุปกรณ์นั่นเอง

เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลย


สีน้ำ



ส่วนตัวเราเองใช้ยี่ห้อ Sennelier, Holbein และ Winsor Newton
ซึ่ง-ที่ว่ามาเนี่ย มันค่อนข้างแพง(มาก) ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
แต่ว่าจะเขียนรีวิวแนบไว้ด้วยละกัน
ส่วนสีน้ำที่เราแนะนำนี้ บางทีก็อาจจะรีวิวไม่ถูกต้อง 100% แต่เขียนตามความรู้สึกจริง ๆ

เอาล่ะ เรามาดูสีน้ำยี่ห้อที่ไม่แพงละกัน
สีน้ำที่ดีคือสีน้ำที่แป้งน้อย เพราะความใส ๆ เคลียร์ ๆ คือจุดเด่นของสีน้ำ

ยี่ห้อที่เราแนะนำคือ








1. "Silpakorn"
ข้อดี : แป้งน้อยมาก ถ้าเทียบกับสีน้ำในราคาประมาณเดียวกัน มีความใส ราคาไม่แพง
ข้อเสีย : สีสดไปหน่อยนึง, อาจจะหาซื้อยากสักหน่อย
ราคานั้นอยู่ที่ประมาณกล่องละ 300-400 แล้วแต่ร้าน ,หากบีบสีทิ้งไว้ในจาน ไม่ควรบีบเยอะ เพราะไหลมาก เลอะได้ง่าย




2. "Sakura" 
ข้อดี : มีสีให้เลือกเยอะ ไม่ต้องผสมเอง ราคาถูกกว่าศิลปากร
ข้อเสีย : แป้งเยอะไปหน่อย ถ้าหากเทสีใส่จานสีไว้แล้วปล่อยให้แห้ง เวลาป้ายสีมาระบายจะรู้สึกว่ามีก้อนสีติดมาด้วย, ถึงแม้จะมีสีให้เลือกเยอะ แต่บางโทนสีแป้งจะเยอะเป็นพิเศษ เช่น สีเนื้อ สีขาว ซึ่งไม่เหมาะในการระบายสีแนวเหมือนจริงแบบที่เราระบายอยู่
ราคากล่อง 12 สีอยู่ที่ประมาณ 200 ไม่เกิน 300 บาท


(ลืมถ่ายรูปแยกไว้ แต่อยู่ในภาพรวม อันที่มีโลโก้หน้าคนอยู่บนหลอดสี)

3."Van Gogh" จะเห็นว่าเราแอบไปซื้อมาเพียง 1 หลอดเท่านั้น เพื่อรีวิวให้ทุกท่านได้ดูกัน
ข้อเสีย : แป้งค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับสียี่ห้ออื่น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงสีน้ำ, ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับคุณภาพ
ข้อดี : สีสันค่อนข้างสดใส, มีให้เลือกเยอะ, หาซื้อง่าย
ราคาหลอดละประมาณ 60-70 บาท แล้วแต่ร้านค้า


ต่อมาเป็นยี่ห้อที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่คุณภาพก็ดีสมราคาเลย





4. Winsor Newton เกรด Cotman
ข้อดี : มีแป้งค่อนข้างน้อย สีสดกำลังพอดี ขายเป็นหลอดแยกให้เลือกซื้อ (ถ้าอยากทราบว่าควรซื้อสีไหนบ้างก็สามารถทักมาถามหลังไมค์ได้), มีขายในร้านเครื่องเขียนส่วนใหญ่, บีบทิ้งไว้แล้วเป็นก้อน ไม่เลอะ
ข้อเสีย : มีราคาที่สูงเกินกว่าความจำเป็นของมือใหม่ที่หัดระบายสีน้ำ (แต่ถ้าหากมีทุนหน่อยก็แนะนำตัวนี้เลย)
ราคาหลอดละ 78 บาท (บวกลบนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับร้านค้า), ความเป็นก้อนของมันทำให้ต้องละลายน้ำก่อนระบาย ใช้เวลาสักนิด อย่าเอาพู่กันลงไปจิ้มแล้วถู ๆ นะ พู่กันพังง่ายมาก






5. Holbein
ข้อดี : ไม่มีแป้ง เป็นสีน้ำยี่ห้อที่ใสที่สุดเท่าที่จะหาซื้อได้ในละแวกบ้านเรา, ราคาพอดีถ้าเทียบกับคุณภาพ, เม็ดสีเข้มข้นมาก ๆ, มีโทนสีหลายแนว ครอบคลุมถึงแนวพาสเทลด้วย, สีจากฉลากมันตรงกับสีด้านในนะ 
ข้อเสีย : เมื่อเทสีใส่จานสีจะแห้งช้าพอสมควร มีความเหนียว, น้ำมันเยอะ (แต่นับเป็นข้อดีในการนำมาระบายสี), อาจจะหาซื้อยากสักหน่อย
ราคาประมาณหลอดละ 90 บาท (จำราคาเป๊ะ ๆ ไม่ได้ แต่ไม่เกิน 100 บาท)






6. Winsor Newton เกรด Professional
ข้อดี : ไม่มีแป้งเลยสักนิดเดียว และไม่มีน้ำมัน ไม่เหนียวด้วย
ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างแพง, หาซื้อเกรดนี้ยาก ต้องไปหาในห้างใหญ่ ๆ, โทนสีไม่ครอบคลุม, เวลาไปซื้ออย่าเชื่อสีที่อยู่บนหลอด ให้ขอเค้าแกะดูดีกว่า เพราะสีไม่ตรงในหลอด
ราคาประมาณหลอดละ 170-199 บาท






7. Sennelier
ข้อดี : ไม่มีแป้งเลยเช่นกัน สีผสมน้ำผึ้ง มีกลิ่นหอม และทำให้สีไหลเข้าหากันเมื่อแต้มสีลงบนน้ำ (เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะยี่ห้อ)
ข้อเสีย : แพง, หาซื้อยากเหมือน Winsor เกรด Pro เลย และยังมีน้ำมัน, น้ำผึ้ง จะเหนียวสักนิดหน่อย
ราคาประมาณหลอดละ 170-190 บาท, สีฉลากไม่ตรงสีในหลอด


ต่อในคอมเม้นต์

กระทู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

[HOW TO] สีน้ำฉบับมือใหม่ PART 2 มาหัดวาด + ลงสีดอกไม้กัน!
[REVIEW] รีวิวสีน้ำ MasterArt สไตล์คนกินแกลบ (แอบมี HOW TO เล็กน้อย)
[REVIEW] รีวิวสีน้ำยี่ห้อ ST แบบหลอด 12 สี + มีกิจกรรมแจกสีน้ำ "ฟรี" ท้ายกระทู้

[HOW TO] D.I.Y. พวงกุญแจแฮนเมด ง่ายมาก ๆ ลองทำดู >.<

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

fuwadaiji 7 ก.ค. 59 เวลา 01:31 น. 1

สีน้ำแบบกล่องพกพา

ส่วนตัวใช้แบบ 12 สีของ Winsor Newton เกรด Cotman (ราคาประมาณ 990-1200 บาทแล้วแต่ร้าน)
กับ SENNELIER (เราซื้อตอนลดราคา ได้มาในราคาประมาณ 3400 บาท)
จริง ๆ มันมี 2 กล่อง แต่เราจับมาใส่รวมในกล่องเดียว

ข้อดี : พกพาสะดวก, มีสีที่จำเป็นครบหมดแล้ว จึงไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม, สามารถเก็บพู่กันในกล่องได้, สีก้อนลักษณะแบบนี้จะข้นกว่าแบบหลอด, ถ้าตัวกล่องเป็นเหล็ก จะทำความสะอาดง่ายกว่าจานสี
ข้อเสีย : หาตัวเติมยาก ในกรณีที่สีใดหมด (แต่เราใช้วิธีซื้อหลอดสีเดียวกันมาเติมแทน), ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบหลอด, ถ้าเพิ่งเริ่มใช้อาจจะเกิดอาการสีคว่ำได้ (ก็คือเวลาพกพา มันก็ต้องมีพลิกบ้างเนอะ แล้วทีนี้สีมันจะคว่ำไปอยู่บนถาดของอีกฝั่งนึง ทั้งเลอะทั้งเสียดายสีที่ไปติดอยู่ตรงถาดอีกฝั่ง)






อู้หูววว ดูราคาเต็มนั่นสิ 




พู่กัน

เราไม่จำเป็นต้องซื้อทุกเบอร์ ให้เลือกซื้อตามการใช้งานที่ถนัด
คือแต่ละยี่ห้อมันเบอร์ไม่เท่ากันอะ
เราซื้อหลัก ๆ ไว้ 3 ด้าม ก็คือ
1. ตัดเส้น ต้องใช้เบอร์เล็กที่สุด เผื่อในกรณีเก็บขอบ
2. หัวกลมเบอร์กลาง ไว้ลงสีปกติ
3. หัวกลมเบอร์ใหญ่ ไว้ลงพื้นหลัง/พื้นที่ใหญ่ ๆ





การเลือกซื้อพู่กัน ที่สำคัญเลยคือ พยายามซื้อพู่กันที่มีปลายแหลมไม่ว่าเบอร์จะใหญ่แค่ไหน
เพราะเราสามารถใช้ปลายพู่กันระบายจุดเล็ก ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องซื้อพู่กันหลายเบอร์

ไม่มียี่ห้อที่แนะนำ แนะนำก็แค่ว่าพยายามเลือกยี่ห้อที่ปลายมันแหลมเมื่อโดนน้ำก็พอแล้ว

ป.ล. อันที่แปรงแข็ง ๆ จะสังเกตได้ว่าไม่ใช่พู่กันสีน้ำ






กระดาษ

แนะนำ



*ภาพนี้เขียนหน่วยผิด ที่ถูกต้องเป็น mm.


*ภาพนี้เขียนหน่วยผิด ที่ถูกต้องเป็น mm.


1. Renaissance
ข้อดี : อุ้มน้ำได้ระยะเวลาหนึ่ง ไม่แห้งไวเกินไป ราคาถูก หาซื้อง่าย  Texture กระดาษดี 
ข้อเสีย : เมื่อเกิดคราบน้ำหรือทำกระดาษเปื้อนโดยไม่ได้ต้องใจจะแก้ไขยาก ปาดไม่ค่อยออก
กระดาษยี่ห้อนี้ขนาด STANDARD จะหาซื้อไม่ได้ในทุกร้านค้าที่วางขาย ต้องซื้อมาตัดเอง
ราคาขนาด 275x375 mm ราคาประมาณ 98 - 120 บาท แล้วแต่ร้าน




2. Canson Fine Face
นี่ก็อีกยี่ห้อหนึ่งที่หลายคนนิยมเอามาใช้สีน้ำ
ข้อดี : ราคาถูก หาซื้อง่าย Texture กระดาษเหมาะสำหรับลงสีน้ำมาก ๆ
มีไซส์กระดาษแบบ STANDARD A4 A3 อะไรงี้ (เวลาอาจารย์ให้ทำงานจะกำหนดขนาดกระดาษแบบนี้มา และยี่ห้อนี้ก็เป็นขนาดที่พอดี)
ข้อเสีย : อุ้มน้ำไม่ได้ สีแห้งไว แก้ไขยาก
จำราคาไม่ได้




3. Canson Montval
ข้อดี : อุ้มน้ำได้ดีกว่า Renaissance มาก, เมื่อระบายผิดสามารถแก้ไขได้, เนื้อกระดาษดีมาก ไม่เรียบไม่หยาบเกินไป
สามารถใช้งานได้ทั้ง Sketch และสีน้ำในแผ่นเดียว (ถ้าเป็น 2 อันแรกจะแยกแบบหยาบกับเรียบ)
มีไซส์โปสการ์ดขาย, มีแบบบล็อกขาย (บล็อกคือติดกาว 4 ด้านเว้นมุม ทำให้ไม่ต้องหาเทปกาวมายึดกระดาษกับกระดานรองวาด สามารถวาดลงในเล่มของมันได้เลย)
ข้อเสีย : ราคาสูงหน่อย หาซื้อได้เฉพาะในห้าง/ร้านเครื่องเขียนใหญ่ ๆ โดยเฉพาะกระดาษขนาด STANDARD จะหายากมาก


อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น

- ดินสอ แบบใดก็ได้
- กระดานรองวาด (หรือถ้าหากใครที่ใช้กระดาษแบบเป็นเล่มก็ไม่จำเป็น)
- เทปกาวนิตโต้ (ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นจะกินกระดาษหรือไม่ก็ติดไม่ดี)
- จานสี ซื้อให้เหมาะสมกับจำนวนสีที่เราซื้อมา (ถ้าซื้อเป็นกล่องหลาย ๆ สีก็อาจจะใช้จานใหญ่)
- ถังใส่น้ำ (ใช้อะไรก็ได้ แก้วน้ำที่ไม่ใช้แล้วก็ได้)
- ทิชชู่หรือฟองน้ำ สำคัญมาก เอาไว้ควบคุมน้ำในกรณีที่ใส่น้ำเยอะไปจนภาพช้ำ
ให้นำพู่กันปาดสีออกมาซัพไว้กับทิชชู่ ห้ามเอาทิชชู่ไปถูหรือซับงานเด็ดขาด













และสุดท้าย ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยการเปรียบเทียบสีแต่ละยี่ห้อ (ไม่มียี่ห้อ Sakura)





ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงตรงนี้นะ ^^
เดี๋ยวขออนุญาตไปเขียน PART 2 ซึ่งเราจะมาขึ้นเรื่องการร่างภาพแล้ว!

ป.ล. ถ้าใครอยากติดตามผลงานของเรา สามารถกดไลค์เพจ ダース - Does ได้จ้า!!! (ขายของเฉย 5555)
0
Ms.BarnOwl/Bookvi 11 ก.ค. 59 เวลา 01:45 น. 2

ขอเสริมในส่วนของกระดาษค่ะ
นกเค้าฯจำได้ว่ามีอีกยี่ห้อสองสามชุดที่ราคากำลังดีไม่แพงมาก เหมาะกับการฝึกค่ะ เลยขอเสริม (แต่อาจจะหายากสักนิดนึงค่ะ บางสาขาต้องสั่งกับทางร้านไม่งั้นก็ไม่มีจริงๆ)


Campap 300 grm ราคา 175 ~ 180+ บาท กระดาษมี 1 โหล(12แผ่น) เหมาะสำหรับฝึกฝนที่สุดเพราะเป็นกระดาษค่อนข้างหนาและอุ้มน้ำได้ดียี่ห้อหนึ่งเลยค่ะ
ข้อเสียของเขา ก็คือ หายากค่ะ ในประเทศไทยมีวางขายไม่กี่ที่ ได้แก่ ร้านสยามมาร์เก็ตติ้ง ชั้น 3 ฝั่ง ZEN ห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด และ ร้านเครื่องเขียน ชั้น G ห้างดิโอลด์ สยาม (แถวสำเพ็งโน้นแหน่ะ) ถ้าใครไม่ได้อยู่กรุงเทพหรือเดินทางลำบาก แนะนำสั่งซื้อตามเพจร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนก็มีค่ะ แต่ราคาอาจจะไม่คุ้มเสีย TT
-----



อีกยี่ห้อหนึ่งที่หายากก็ Cason C'a gain ค่ะ กระดาษดีมาก น่าเสียดายที่ในบ้านเราขายมากสุดแค่ 224 grm และมีวางขาย B2S เท่านั้น
----
ส่วนยี่ห้อที่หาง่ายมานิดนึง มี B2S ทุกสาขา....

Wairo กระดาษสีน้ำจากบ้าน Sakura ค่ะ (แต่ต้องดูให้ดีๆนะว่าหนา 200+ รึเปล่า) ใช้ดีระดับหนึ่ง และราคาไม่แพงมาก แต่ ความทนต่อน้ำ อาจจะน้อยกว่าสองตัวข้างบนที่นกเค้าฯแนะนำไปสักนิด เลยทดแทนตรงที่มันหาซื้อตามห้างใหญ่ๆที่มี B2S ได้แทนค่ะ 555

1
fuwadaiji 11 ก.ค. 59 เวลา 09:51 น. 2-1

โอ้ ขอบคุณมากเลยค่ะที่เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลให้ ส่วนตัวยังไม่เคยใช้ยี่ห้อที่ว่ามาเลยไม่รู้จะเขียนยังไง แต่ก็ต้องขอบคุณอีกรอบนะคะ ^_^

0
fuwadaiji 12 ก.ค. 59 เวลา 20:40 น. 3-1

เราซื้อที่ร้านสมใจในเชียงใหม่ค่ะ แต่คิดว่าที่กทม ก็น่าจะมีนะคะ

0
fuwadaiji 12 ก.ค. 59 เวลา 20:42 น. 4-1

ถ้าเป็นประโยชน์ก็ยินดีมากค่ะ สามารถอ่าน PART 2 ได้ที่ลิ้งนี้เลยนะคะ ^^ > http://www.dek-d.com/board/view/3665560/

0
fuwadaiji 12 ก.ค. 59 เวลา 20:43 น. 5-1

ผลงานของเราอยู่ในกระทู้ที่เราสอบถามความคิดเห็นว่ามีท่านไหนสนใจบ้างแล้วค่ะ
ลิ้งค์เดียวกับที่เขียนไว้ที่ด้านบนนะคะ

http://www.dek-d.com/board/view/3664052/

ป.ล. ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่พอทราบเทคนิค เลยมาแบ่งปันเฉย ๆ ^^

0
MAMI-A 13 ก.ค. 59 เวลา 00:22 น. 6

โฮรวววว เป็นกระทู้ที่ดี~
ว่าจะฝึกสีน้ำอยู่พอดี เจอทู้นี้คือดีมากๆ 

1
Luffy 13 ก.ค. 59 เวลา 10:59 น. 7

ขอบคุณมากค้าบบบ อยากถามเรื่องสีน้ำ ยี่ห้อ รีฟอ่าคับพอดีเห็นสีมันเยอะ ดี เยี่ยม

1
fuwadaiji 13 ก.ค. 59 เวลา 12:03 น. 7-1

เอ ส่วนตัวยังไม่เคยใช้เลยค่ะ
แต่ว่าเคยอ่านรีวิวตามลิ้งนี้ : http://www.lingjaidee.com/contents-detail.asp?source=contents&pass=3201274171923

เขาบอกว่ามีแป้งค่อนข้างเยอะค่ะ แล้วก็เป็นตะกอนด้วย
แต่ว่าราคาไม่แพง น่าจะฟิลลิ่งประมาณ Sakura ค่ะ ถ้าให้เราเดา

0
fuwadaiji 14 ก.ค. 59 เวลา 19:32 น. 8-1

ปกติไปเลือกซื้อที่ร้านเครื่องเขียนเลยน่ะค่ะ ;w; ไม่เคยสั่งซื้อทางเว็บเลย
ตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ ขอโทษด้วยนะคะ

0
fuwadaiji 17 ก.ค. 59 เวลา 12:56 น. 9-1

รูปข้างบนที่ถ่ายมา แอบถ่ายมาจากร้านสมใจ สาขาเมญ่า เชียงใหม่ค่ะ
แต่คิดว่าสมใจที่ กทม ก็น่าจะราคาเดียวกันนะคะ

0
Does 14 มี.ค. 60 เวลา 21:35 น. 10-1

ยินดีมากค่ะ ขอบคุณเช่นกันที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

0
peeradasaipaan 14 พ.ค. 60 เวลา 18:35 น. 11

จะซื้อสีน้ำของwinsor อ่ะค่ะ

ใช้ในงานอินทรีเรีย ควรซื้อสีไหนบ้างคะ ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะ

1
Does 19 พ.ค. 60 เวลา 22:18 น. 11-1

ไม่ได้เรียนสายอินทีเรีย อันนี้ไม่ค่อยทราบว่าเขาใช้สีอะไรกันนะคะ จะทราบแค่พวกวาดตีฟ แลนสเคปอะไรแบบนี้มากกว่า ขอโทษด้วยนะคะ

0
Hightligh 22 ก.พ. 61 เวลา 19:55 น. 12

รราคาที่แปะในรูปของซิเน่รีเย่อ ทำไมถูกจัง 170กว่าบาทเอง ไม่ทราบว่าซื้อได้ที่ไหนค่ะ นี้เห็นร้านค้าออนไลน์200กว่าทั้งนั้น

1
Does 2 ก.ค. 61 เวลา 12:49 น. 12-1

ตอนนี้ขึ้นราคาแล้วค่ะ ร้านที่เคยเจอ 170 บาทคือร้านสมใจค่ะ ตอนนี้ราคาเป็น 195/205 บาทแล้ว

0
Does 2 ก.ค. 61 เวลา 12:50 น. 13-1

ส่วนตัวยังไม่เคยลองใช้แบบจริงจัง ขออภัยที่ตอบไม่ได้นะคะ

0