Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสิ่งที่ควรรู้ใน ม.นเรศวร(ฉบับอัพเดต)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
-ปล.เนื้อหาในนี้เป็นการเอาเรื่องจริงมาแซวขำๆนะ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือสร้างความเสียหายกับมหาลัย heart
ปล.2 ฉบับนี้เป็นฉบับอัพเดต จะรวมข้อมูลใหม่และเก่าไว้ เพื่อนๆสามารถเม้นเพิ่มเติมข้อมูลกันได้นะ
***************************************
  • -มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มีชื่อเล่น ว่า มน.(NU) (มอ-นอ) ชื่อเดิมเค้าคือ มหาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลก ต่อมามีมติให้ยกฐานะวิทยาเขตพิษณุโลก ของม.ศรีนครินทรวิโรฒ ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยใหม่แห่งนี้ว่า "มหาวิทยาลัยนเรศวร"
  • -เป็นมหาวิยาลัยที่ร้อนและแดดแรงมากๆ แรงจนอยู่ไปผมเริ่มแดงจนเหมือนไปย้อม  (แรงขนาดมีศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์ร้อนพอมั้ยล้ะ 55)
  • เราเรียกนักศึกษาที่นี่ ว่า "นิสิต" นะจ้ะ
  • -สิ่งที่นิสิตเคารพบูชาที่สุดคือพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในท่าประทับ นั่ง พระหัตถ์ขวาทรงสุวรรณภิงคารหลั่งทักษิโณทก เราเรียกที่นี่ ว่า "ลานสมเด็จ"
  • -ลานสมเด็จจะมีช่วงคึกคักมากๆที่สุดในรอบปี คือ สอบมิดเทอม และช่วงสอบไฟนอลเท่านั้น
  • สิ่งที่นิสิตมักบน สมเด็จเสมอคือ วิ่งรอบลานสมเด็จ(เมื่อก่อนเล็กกว่านี้ ปัจจุบันขยายกว้างขึ้น)
    • ถูลานสมเด็จ (อันนี้สมเด็จท่านอนุโลมให้เอาเพื่อนมาช่วยถูได้)
    • ดอกไม้สีสันสวยงามต่างๆ
    • ตุ๊กตาไม้ที่เป็นช้าง ม้า และไก่ชน (เท่านั้น)
    • ผลไม้ที่นำมาไหว้สมเด็จ ห้ามใช้ผลไม้สีแดง เช่น เงาะ
    • และมักจะมีกิจกรรมยามเย็นคือพากันมานั่งเล่นดีดกีตาร์ ดูดาว ถ่ายรูป รวมถึงพิสูจน์รักแท้ด้วยการนั่งตบยุง 
  • -ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกเสลา ซึ่งเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ บางคนเรียนมา สี่ปียังไม่เคยเห็นดอกเสลาซะที ถ้าอยากเห็น แถวทางไปโรงบาลก็มีนะจ้ะ
  • -สีประจำมหาวิทยาลัย คือ เทา-แสด สีเทาเป็นสีของสมอง สื่อถึงความรู้ สีแสดหรือส้มมาจากสีแดงและสีเหลือง สีแดงหมายถึงความกล้าหาญ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สีเหลืองสื่ื่อถึงพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก
  • แต่นิสิตจำนวนไม่น้อยให้ความหมายของสีเทาว่า เป็นสีของยุง ซึ่งมีชุกชุมทั้งมอ(ก็เล่นขุดสระกันรอบมอ) ส่วนสีแสดหมายถึงแสงแดดอันแสนจะร้อนแรงตลอดกาล
  • -หน้ามหาวิทยาลัย ยังทำนา และเลี้ยงเป็ดอยู่ ถนนหน้ามหาวิทยาลัยถือว่าเป็นถนนสายเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้(บางทีชาวบ้านก็ เอาข้าวเปลือกมาตากซะงั้น) แถมช่วงเกี่ยวข้าวจะมีแมลงตัวดำๆที่ไร้ที่อยู่มาเกาะตามมุ้งลวดในหอในเป็นพันๆตัว ให้อุ่นใจเล่นด้วย แถมมันร้ายกว่ายุงที่นอกจากจะเยอะเหมือนกันแล้ว ถ้าเอามือไปโดนจะมีกลิ่นหอมๆติดไปด้วย(ประชด)
  • -ช่วงใกล้รับปริญญาคนสวนของมหาลัยจะมีอิทธิปาฏิหาริย์สามารถเนรมิตพื้นที่และดอกไม้ให้สวยได้ภายใน3-4วัน และช่วงรับปริญญานี่เองเป็นช่วงที่น้องหมาสุดรักประจำคณะต้องเก็บตัว
  • -พาหนะที่ใช้มากที่สุด คือ รถ มอเตอร์ไซต์ และรถวิ่งรอบมอ เมื่อก่อนเราเรียกว่ารถส้ม ปัจจุบันมันเป็นรถไฟฟ้าไปซะแล้ว และรถไฟฟ้าก็อินดี้เปลี่ยนสายเองได้ซะงั้น
  • -ตอนที่ยังไม่เป็นหวยบนดิน นิสิตสามารถแอบซื้อหวยได้กับป้าแม่บ้าน
  • -สะพานลอยหน้ามหาลัยมีไว้ให้มอเตอร์ไซต์หลบฝน และนิสิตไว้หลบแดดตอนรอรถเท่านั้นไม่ได้มีไว้ใช้ข้าม
  • -มนุษย์เพศชายในคณะมนุษย์ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่น่าสงสัยว่าเป็นมนุย์กึ่งชาย
  • -มน.มีการแข่งขันประกวดดนตรี เราเรียกมันว่าNU VOICE
  • -มน. มีระบบ SOTUS เด็กปีหนึ่งต้องผ่านการว้าก และการเข้าห้องเชียร์มาอย่างโชกโชน ซึ่งทางอาจารย์ก็พยายามหาทางควบคุมให้อยู่ใน limit ที่พอควรมาตลอด แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งเกิดเรื่องนศ.ม.เกษตร ฆ่าตัวตาย เนื่องจากทนไม่ได้กับการรับน้อง
  • -น้องปีหนึ่งจะต้องแต่งตัวถูกระเบียบ น้องผู้หญิงใส่เสื้อนิสิตที่เชยที่สุด คือเสื้อไม่มีสาบ ติดกระดุมคอ กระโปรงคลุมทรงเอคลุมเข่าสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ ห้ามมีลวดลาย น้องผู้ชายใส่เชิตขาวแขนยาว ผูกไทด์สีเทา กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง ยกเว้นคณะสถาปัตย์ที่มีเอกลักษณ์ตรงเสื้อดำ เกงยีน รองเท้าผ้าใบและหอบของพะรุงพะรังดุจไปทำสงครามรึปีนเขา3เทือก
  • -กระดุมคอและเนคไทด์ของน้องปีหนึ่ง จะได้รับการปลดให้โดยพี่รหัส เมื่อปิดห้องเชียร์เรียบร้อยแล้วนะจ้ะ
  • -ชุดพิธีการของมน.หมายถึง ชุดที่ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่ง คือการแต่งกายถูกระเบียบ แต่เปลี่ยนจากกระโปรงและกางเกงสีดำ เป็นกระโปรงและกางเกงสีเทาแทน
  • -ช่วงเทอมหนึ่ง น้องปีหนึ่งทุกคนจะได้รับการบอกกล่าวให้ไหว้รุ่นพี่และอาจารย์ที่เดินผ่าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อรุ่นพี่หรืออาจารย์เดินผ่านหรือขับรถ ผ่านจะมีน้องๆซึ่งแต่งตัวถูกระเบียบไหว้และร้องทักว่า "พี่คะ/ครับ สวัสดีค่ะ/ครับ"
  • -ช่วงก่อนเปิดเทอม 1 จะมีการจัดค่ายให้น้องๆ ปี 1 มาอยู่รวมกันทำความรู้จักกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เรียกว่า "begining Camp" โดยน้องปีหนึ่งจะได้รับการบายศรีสู่ขวัญ และผูกข้อมือ ซึ่งเป็นค่ายที่ทำให้เรามีเพื่อนต่างคณะ และเป็นกิจกรรมที่เรียกว่าครั้งเดียวจริงๆ ใครไม่ไปพลาด
  • -ครุยมน. เป็นครุยผ้าโปร่งสีขาว มีแถบสีเทา-แสด อันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย มองเผินๆคล้ายกับชุดพระยาแรกนาขวัญ (อันนี้เพื่อนชอบแซว) ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ ในช่วงธ.ค.- ม.ค.
  • -ช่วงรับปริญญาที่มน. เป็นช่วงที่คึกคัก และทำให้การจราจรติดขัดที่สุด
  • -ที่นั่งเล่น ออกกำลังกายในมอนอ มี 2 แห่งคือที่โอเอซิส หรือที่เรียกอีกชื่อว่า เทเลทับบี้ ใครนึกไม่ออกจินตนาการถึงสนามหญ้าที่พวกเทเลทับบี้ชอบออกมาเต้น กับอีกแห่ง คือ อ่างเก็บน้ำ ที่นี่มักมีคนไปให้อาหารปลาด้วย
  • -เด๋วนี้ซอยตรงข้ามทางออกข้างมอ เป็นซอยโลกีย์ เข้าไปเหอะ ผับให้เลือกเพียบ แต่ก็รอ20เนอะ555 
  • -เด็กปี 1 ผู้ ญ จะต้องโดน "รองเท้าคัทชูกัด" แทบจะทุกคน และแน่นอนว่ายกเว้นสถาปัตย์ที่ใส่รองเท้าผ้าใบตลอด ยกเว้นช่วงมีงาน
  • -ดังนั้น ช่วงรับน้อง สิ่งนิสิตหญิงที่ต้องเตรียมให้พร้อมคือ ที่กันรองเท้ากัด และพลาสเตอร์ผ้าหนาๆ (ไม่งั้นส้นเท้าจะเปิดเปิงตอนถูกสั่งให้วิ่ง)
  • -คณะศึกษาใส่ถุงเท้าขาวคู่คัดชู
  • -ทุกคนจะต้องได้ไปเรียนที่ตึก MD(วิทย์แพทย์) และ QS 
  • ที่นี่จะขับรถเหมือนเวียดนาม ก็คือ ไม่มีไฟเขียวไฟแดง นึกจะเลี้ยงก็เลี้ยว นึกจะปาดก็ปาด ไฟเลี้ยวไม่เปิด สนุกดี
  • -ที่นี่จะมีอยู่ 2 ฤดู ก็คือ ร้อน กับ ร้อนอิ๊บอ๋าย.. - -*
  • -ต้นไม้ที่ ม.น. จะถูกตัดเฉลี่ยทุกๆ 3 เดือน
  • -วิศวะชอบไปกินข้าวที่โภชนาคาร เวลาไปกินที่โภนิ จะเจอพวกนี้เยอะมากกก..
  • บางคนคิดว่าที่เรียกโรงอาหารว่าโภ มาจาก ต้นโพธิ์ รอบๆอาคาร แต่ความจริงอาคารมันมีชื่อว่า "โภชนาคาร"
  • -คณะBEC.(คณะบริหาร) ขึ้นปี2 สาวๆจะปังขึ้น แนะนำรีบจีบตอนปี1 อิอิ
  • -ทางหลังมอ ทางระหว่าง ประตู5และ 4 รถติดมากในตอน4โมงถึง3ทุ่ม ช่วงที่ยังไม่ซ่อมเป็นหลุมจนเลี้ยงปลาได้และเคยมีคนถ่ายรูปใส่ชุดคลุมอาบน้ำถ่ายประชดจนในที่สุดก็ได้รับการซ่อม 555+ เย้
  • -เทเลทับบี้มีไว้ให้ลูกหมาวิ่งเล่น
  • -ที่ฟิตเนสจะมีพวก กึ่งๆชายกึ่งหญิง ตัวล่ำขาวๆ มักจะเล่นอยู่ประจำ
  • -อ่างเก็บน้ำมีไว้วิ่งออกกำลังกาย และ ให้อาหารปลา และเคยเป็นที่อยู่ ของตัวเงิน ตัวทองอีกด้วย
  • -เราเรียกตัวเงินตัวทองว่าคิดตี้ (ตัวใหญ่กว่าขา) เชื่อกันว่าถ้าเห็นขึ้นจากน้ำจะได้A เเต่หากเห็นลงน้ำจะได้ F
  • -อ.ผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดของมหาวิทยาลัย อยู่ที่คณะเภสัช หน้าตาดี เป็นจำนวนมาก ด้วย จนไม่น่าเชื่อว่า เป็นศูนย์รวม อ.หน้าตาดีอะไรได้ขนาดนี้ แต่ 80 เปอร์เซนต์ของอาจารย์ที่ว่าเป็น...
  • คณะที่รวมนิสิตหน้าตาดีเยอะไว้ที่สุดคือ คณะเภสัช ไม่รู้ทำไม คณะนี้เค้าคัดหน้าตาเข้าหรือไง พิสูจน์มาแล้ว จากเด็กวิศวะ ไม่เชื่อลองไปเดินในคณะเค้าดู
  • -หมอฟันที่ รพ.หล่อมาก ชะนีรีบไปกินให้ฟันผุแล้วไปรักษาใจ เอ้ย! ฟันด่วน
  • -มีลานเทเลทับบี้ อยู่ใกล้หอสมุด หมดเวลาสนุกแล้วสิ...
  • นาฬิกาที่ ลานเทเลทับบี้ เคยเดิน อยู่ครึ่ง ชั่วโมง เป็นบุญตาแก่ผู้มีบุญพบเห็นเป็นอันมาก
  • -ตรงลานเทเลทับบี้ เด็ก มน.หลายคนอาจไม่ทราบ มีการปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดของทั้ง76จังหวัด ปลูกเรียงกัน เป็นแผนที่ประเทศไทย
  • -ลานสมเด็จ โหดร้ายมากๆ ถ้ารุ่นพี่ให้ไปยืนร้องเพลงคณะตอนเที่ยงตรง
  • เด็กรุ่นรหัส43 เป็นรุ่นสุดท้าย ที่เกรดไม่มีประจุ (บีบวก ซีบวก ดีบวก)
  • -รหัส 43 นอกจากเป็นรุ่นสุดท้ายที่เกรดไม่มีประจุ ยังเป็นรุ่นสุดท้ายที่เวลาตกจะได้ "E" แทน "F" ในรุ่นต่อๆ มา
  • รุ่นรหัส43 ยังเป็นรุ่นสุดท้ายด้วย ที่รู้จักการต่อคิวลงทะเบียน หลังจากนั้น ลงผ่านเนทหมด
  • -รพ.มหาลัย ก่อนเปิดเป็นรพ.ในปัจจุบัน เริ่มแรก เปิดเป็นหอหญิงด้วย
  • รพ.นอกจากนี้ เมื่อก่อนยังถูกเรียกติดปากกันว่า ศูนย์วิจัย (รหัส 46-47 ขึ้นไปจะทราบกันดี)
  • -คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดหลักสูตร6ปี
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชศาสตร์ที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และมีแบบแปลนแทบจะเหมือนกับคณะมนุษยศาสตร์
  • -ตึกแรกๆของมหาวิทยาลัย คือตึกของคณะศึกษาศาสตร์
  • -สภานิสิตมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นสภาแห่งแรกที่จดโดเมนเนมเป็นของตัวเองในชื่อ sapanisit.com
  • -เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียว ที่คณะเภสัชศาสตร์เป็นคณะบุกเบิกในการถ่ายภาพ และที่่คณะเภสัชฯ แห่งนี้ มีห้องมืดล่างอัดภาพขาวดำเป็นของตัวเอง
  • -ในอดีต ไม่มีหอพักชายภายในตัวมหาวิทยาลัย มีแต่หอพักหญิง
  • -พระรูปสมเด็จพระนเรศวร ทรงคนโฑด้วยพระหัตถ์คนละข้างกับพระรูปที่อยู่ที่ในตัวเมือง
  • -เป็นมหาวิทยาลัยที่มีตราสัญญลักษณ์สองแบบ คือองค์สมเด็จไว้สำหรับติดในที่สูง และช้างเจ้าพระยาไชยานุภาพไว้ติดในที่ต่ำ (เช่นหัวเข็มขัด)
  • -ร้านข้าวใต้ตึก EN อาหารที่ฮิต คือ ข้าวไข่เจียว
  • -ร้านข้าวมันไก่ตรงประตู 5 เป็นที่พำนักของผู้ที่ต้องการความถูกและความอิ่มท้อง(30บาท ไก่เป็นชิ้นๆ.. นิพพานค่ะ)
  • --ข้าวไข่เจียวตรงประตู 4-5 เป็นไรที่ดีงามมาก 25 บาท
  • -คนที่แก้บนด้วยการถูลานสมเด็จคนแรก เป็นเด็กคณะวิดวะ
  • -ช่วงก่อนสอบและหลังสอบ ผ้าถูพื้นลานสมเด็จไม่เคยแห้ง
  • -เด็กวิดวะ ถ้าไม่เข้าครอบครูประจำปี จะเรียนไม่จบ
  • -ประตูหน้ามอ ใกล้ๆ กับศูนย์วิจัยจะเปิดตอนรับปริญญา
  • -ก่อนที่จะมีลูกระนาด เคยมี เด็กวิดวะเคยแข่ง มอไซค์รอบมอด้วยความเร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ตอนนี้เค้าปรับปรุงใหม่ กลายเป็นเนินมหัศจรรย์ บางสายซ้อนกัน 2 ลูกเหมือนเกมส์แข่งรถเลยก็มี
  • -มีบางคนเรียนจบแล้วยังไม่รู้ว่า มีประตูออกจากมออีก ตรงคณะวิทยาศาสตร์ (เข้าได้ตรงซอยคลองหนองเหล็ก ซึ่งเปลี่ยวมาก)
  • -ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับตึกมิ่งขวัญแล้ว เพราะกองบริการการศึกษาย้ายไปอยู่ที่ตึก QS
  • -เข็มขัดของนิสิต มีก้านกล้วย บ่ใช่พระนเรศวร
  • -คณะแพทย์เพิ่งเปิด รพ.ม. เป็นของตัวเองเมื่อก่อตั้งคณะครบ 10 ปี
  • -ช่วงหน้าฝนตอนดึกๆมักมีเต่าน้อยมาเดินบนถนนบริเวณสระน้ำข้างตึกวิทยาศาสตร์และคณะแพทย์ ใครโชคดีเคยเจอบ้าง
  • -หอพักใหม่สร้างเสร็จหลังจากที่มีนิสิตมาพักได้แล้วเกือบ 1 เทอม
  • -เมื่อก่อนลานจอดรถไม่ได้ใช้ เลยใช้เป็นตลาดนัดแทน << ปัจจุบันย้ายตลาดไปซอยโลกีย์
  • ปัจจุบัน ม บังคับให้นิสิตที่พักหอใหม่นำรถไปจอดที่โรงรถ ต้องขอบคุณพื้นถนนที่ทำให้เหล่านิสิตที่เอารถไปจอดได้เรียนรู้การขับมอไซค์วิบากทุกวันจนเชี่ยวชาญ 
  • -ปัจจุบัน ถ้าฝนตก ถนนตรงโรงจอดรถสามารปล่อยปลาเลี้ยงได้
  • -นิสิตคณะพยาบาลได้เรียนที่มหาลัยตลอด 4 ปีแล้ว ไม่ต้องไปเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลอีกแล้ว
  • -หนุ่มขาวหน้าตี๋ในมหาลัยมักถูกสาวๆมองว่าเป็นเกย์
  • -ชะนีที่ฟินกับซีรี่ย์โซตัสไม่ต้องไปส่องหนุ่มวิดวะ ส่วนมากมีแฟนกันแล้ว 5555555555
  • -ที่ตึก QS มีโรงละครที่หรูหรา แต่ไม่ค่อยเปิดให้นิสิตเข้าไปใช้บริการบ่อยนัก
  • -ตรงทางเดินที่อยู่ระหว่างตึก QS กับตึกศึกษา มีซุ้มอยู่ชุดนึงเรียงกันเป็นแถวๆ มันถูกเรียกขานจากบางคนว่า "ซุ้มบุหรี่" อันเนื่องมาจากลักษณะของเสาที่ซุ้มนั้น
  • บางคนเรีกว่าทางเดิน season change และยังเรียกศาลาแถวนั้นว่า ศาลา season change อีกด้วย
  • -สระน้ำหน้าโรงพยาบาลถูกเรียกว่าอ่างพระ ใครอย่าเผลอเอาปลาไปปล่อยหละ เพราะเป็นการทำบาปอย่างแรง และไม่ต้องนำอาหารไปให้ปลาด้วยเพราะม่มีปลามากินหรอก ยิ่งฝนตกกลิ่นนี่.....ใช้ได้ ^^
  • -นิสิตหอพักหลังใหม่จะต้องแสดงบัตรเข้าหอทุกครั้ง (ขี้เกียจควักมากๆ)
  • -หอในด้านที่ติดกับป่า ยุงชุม ไวฟายขาด ยินดีด้วย
  • -หอ 7 8 มีเมทคนที่5 ในบางห้อง(?)
  • -ประมาณปรายเทอม 1 จะมีงานประจำคณะและเอก นั่นคืองานบายเนียร์ เปนงานอำลารุ่นพี่ปี 4 จึงเปนที่ประชุมและพบปะญาติมิตร (ญาติมิตร คือ สายรหัส ทั้ง พี่, ป้า/ลุง ,ย่า/ปู่)
  • -"begining Camp" ในคืนสุดท้ายรุ่นพี่จะให้น้องๆ หลับตา แล้วรุ่นพี่จะดับไฟแล้วจุดเทียนยืนอยู่รอบๆ น้องๆ แล้วรองเพลงเทียนและอีกหลายเพลง (ตอนฟังเพลงนี้ครั้งแรกน้ำตาไหลทีเดียวเป็นเพลงที่เพาะมากและกินใจทีเดียว) หลังจากนั้นรุ่นพี่จะผูกข้อมือและอวยพรให้น้องๆ
  • -ถนนข้างคลองชนจะเต็มไปด้วยหลุมและบ่อ ขี่รถตอนกลางคืนไปทางนั้นอันตรายกว่าโดนปล้นอีก
  • -เสื้อคลุมที่สาวๆมอนอนิยมที่สุดคือเสื้อคลุมคณะวิดวะ
  • หากเห็นสาวคนไหนใส่เสื้อคลุมวิดวะให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีแฟนแล้ว
  • -ทุก5โมงเย็นสี่แยกวัดใจหน้าตึกวิทยาการจะรถติดมากมาย จนปัจจุบันต้องมีตำรวจจราจรคอยโบกให้ บางครั้งรถติดตั้งแต่แยกนี้ยาวไปถึงเกือบๆตึกเกษตรเลยทีเดียว(ประมาณ 150เมตร)
  • -หากคุณขี่รถผ่านหอในใหม่ตอนเย็นๆ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณผ่านมาฟิวเจอร์พาร์ค(เด็กปีหนึ่งน่าตากิ๊งๆเพียบเลย)
  • -CITCOMS คือ ศูนย์บริการอินเตอร์เน็ตของมอ อยู่ชั้น5 ชั้น6 เน็ตแรงมาก นิสิตส่วนมากมาใช้บริการเพื่อ โหลดเกม,หนัง เล่นHi5 DotA ฯลฯ
  • -ช่วงใกล้สอบ หอสมุดจะเปิดตลอด24ชั่วโมง ให้นิสิต ติวกันอย่างเมามัน
  • -หอในจะเปิด 24 ชม.ในช่วงสอบ และแน่นอนว่าค่าไฟฟ้า เเชร์กันวนไปทั้งตึก
  • -รถไฟฟ้าสามารถจุคนได้มากกว่า20คน เกาะประตูข้างได้3คน นั่งหน้าได้2คน
  • -ทุกคณะไม่ว่าจะสูงแค่ไหน จะไม่มีลิฟท์ ต้องเดินบันได ยกเว้นคณะแพทย์ พยาบาล และวิทยา QS ก็มีแต่สำหรับอาจารย์เท่านั้น
  • -คณะสาธารณสุข เป็นคณะที่น่าสงสาร เพราะต้องเรียนในหลีบๆป้ายคณะไม่มีใครมองเห็น
  • -จากการสำรวจ เป็นมหาวิทยาลัยที่น่าอยู่ที่สุดรองจาก ม.แม่ฟ้าหลวง แต่ร้อนที่สุดอันดับหนึ่งของสยามประเทศ
  • นอกจากยุงชุมแล้ว ยุงมอนอยังสามารถกัดทุลุกางเกงยีนได้ นิสิตวศวะทุกคนที่เข้าห้องเสียยืนยันได้ แถมไม่กลัวยาจุดกันยุง(อันนี้เจอมากับตัว) 
  • -ยุง ตบ1 มาเพิ่ม 10 อย่าทำมันโกรธนะ เค้ามีครอบครัวที่ต้องกลับไป ถถถถถ
  • -นอกจากสวนเทเล และอ่างเก็บน้ำแล้ว ตอนนี้ยังมีบริเวณรอบศาลากลางน้ำที่จะเห็นนิสิตมาเดินออกกำลังกายกัน

แสดงความคิดเห็น

11 ความคิดเห็น

คนๆหนึ่งบนโลกนี้ 13 ธ.ค. 59 เวลา 20:01 น. 1
เราเคยอยากไปเรียนที่มอนอนะคะ แต่เหตุผลเพราะยุงชุมนี่ล่ะเราเลยไม่ไป  เราเกลียดยุงมาก ฮืออออ ทุกวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกมันก็จะทำร้ายเรา ถถถ
0
ตะมุตะมิ 13 ธ.ค. 59 เวลา 21:23 น. 4

คณะพยาบาลไม่ได้ใส่ถุงเท้าขาวคัทชูนะคะ ใส่แค่คัทชูดำค่ะ ส่วนถุงเท้าใส่ตอนฝึกคู่กับชุดหมีค่ะ
MD คือตึกวิทย์แพทย์นะคะไม่ใช่ปราบไตรจักร ^^

0
Nongnoy 14 ธ.ค. 59 เวลา 00:33 น. 7

ระบบ SOTUS ยังมีให้อยู่ค่ะ แต่ตั้งแต่ปี 50 (รหัสเราาเอง ดูแก่!!) มีองค์การนิสิตเข้ามาควบคุมระบบการรับน้องมากขึ้น ห้ามใช้คำด่าทอ ห้ามใช้ความรุนแรง เพราะจะมีรปภ.นิสิต ตะเวนตรวจห้องเชียร์ทุกวัน คณะไหนระเมิดกฏ อย่างแรกยุบห้องเชียร์ พี่ๆจะถูกลงโทษ ถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรง รุ่นพี่จะพ้นสภาพนิสิตทันที
#นิสิตนเรศวร รหัส 50 คณะเกษตรศาสตร์ฯ
ของขวัญ

0
เขียวมะกอก 14 ธ.ค. 59 เวลา 11:11 น. 10

คณะเภสัชเดี๋ยวนี้ไม่มีโซตัสแล้วนะ แถวเด็กผู้หญิงสามารถใส่กระโปรงพลีตกับรองเท้าผ้าใบได้ตั้งแต่ปี1จ้า

1