Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว การเรียนในมหาวิทยาลัย APU ณ ญี่ปุ่น (part 2)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 


          สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวเด็กดี วันนี้กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวมหาวิทยาลัยAPU อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยนะคะ  แต่ขอบอกก่อนเลยว่าเห็นลงบ่อยๆแบบนี้ ไม่ใช่หน้าม้าถูกจ้างมาแต่อย่างใด เรียนจริง จ่ายจริงและบางครั้งบางคราว(ในตอนสอบ)ก็เหมือนจะตายจริง 55555
 

          ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ที่บอกว่ามหาวิทยาลัยนี้ไม่จำเป็นต้องเลือกสาขาก็ได้ แบบนี้มันยังไง!? มหาวิทยาลัย APU ค่อนข้างเปิดกว้างให้นักศึกษาเลือกลงและเลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจจริงๆ ฉะนั้นวิชาบังคับเลยจะมีแค่ปี1เท่านั้น แถมถ้ามีความรู้มาก่อนอยู่แล้วในวิชาภาษาญี่ปุ่นยังจะสามารถข้ามวิชาบังคับไปได้อีกด้วยค่ะ!
*เราจะขอเล่าถึงแค่ คณะ APS นะคะ เพราะเราไม่มีจ้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับอีกคณะ กลัวจะให้ข้อมูลพลาดค่ะ
 
สิ่งที่ต้องทำเพื่อที่จะให้จบการศึกษาที่นี้ได้ก็คือ
ลงเรียน(และผ่าน)ให้ครบ 124 หน่วยกิต
ลงเรียน(และผ่าน)วิชาบังคับในหมวดภาษา
       Japanese base ต้องลงเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
       English base ต้องลงเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่น
ลงวิชาเมเจอร์(ใดๆก็ได้/ผสมก็ได้)ให้ครบหน่วยกิตที่กำหนด(แตกต่างตามคณะ)

 
 
แต่ละวิชาที่นี่จะเป็น 2 หน่วยกิตเสียส่วนใหญ่ ตามระยะเวลาที่เรียน เช่น
วิชา2หน่วยกิตแบบควอเตอร์ (Quarter) จะเรียนอาทิตย์ละ 2 คาบ
วิชา2หน่วยกิตแบบเทอม (Semester) จะเรียนอาทิตย์ละ 1 คาบ
วิชา 4 หน่วยกิตก็จะเป็นพวกวิชาภาษา เช่น เกาหลี สปน เวียดนาม จะเป็น 4 หน่วยกิต วิชาภาษาทั้งหมดจะเรียนแบบเทอม (Semester) อาทิตย์ละ 4 คาบ
แต่ก็มีข้อยกเว้นเช่น วิชาภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่นที่เรียนอาทิตย์ละ 2 คาบและได้ 2 หน่วยกิต
 
 
วิชาบังคับพื้นฐานที่ต้องเรียนสำหรับ English base คือ
วิชาภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานนั่นเอง แบ่งได้เป็น
Japanese Foundation I
Japanese Foundation II
Japanese Foundation III
Japanese Intermediated
 
โดยจะมีการสอบวัดความรู้ภาษาช่วงแรกๆที่ไปถึง ถ้าไม่มีพื้นฐานเลยจะเริ่มเรียน Foundation I ถึง III ภายใน เทอมแรก เรียนคาบ 2 4 5 จันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นวันพุธ
 
ถ้าหากมีพื้นฐานมาบ้างแล้วจะเริ่มเรียนที่ Foundation II หรือ III
ภายในเทอมแรก เริ่มต้นที่
Foundation II
เรียนคาบ 4 5 จันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นวันพุธ
และ
Foundation III
เรียนคาบ 5 จันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นวันพุธ
 
สำหรับใครที่มีความรู้ในระดับที่มากขึ้นอาจจะได้เริ่มเรียน Intermediate Pre-advanced หรือ Advanced เลยก็ได้ค่ะ

 
          ถ้าเริ่มเรียนแล้วข้ามระดับใดไปจะไม่ได้หน่วยกิตนั้นนะคะ ต้องไปหาวิชาอื่นลงแทน สำหรับเราตอนไปมีพื้นฐานมาบ้างแล้วจากการไปแลกเปลี่ยนช่วงมัธยมปลาย แต่ก็ไม่เขียนอะไรในตอนสอบวัดระดับภาษา คนทำแบบนี้กันเยอะอยู่นะ(ฮา) คือมันก็มีข้อดีและข้อเสีย
          ข้อดีคือถ้าเรียนตั้งแต่พื้นฐานไปเลยใหม่อีกครั้งก็เหมือนการทวนไปในตัว ที่นี่สอบไวถึงไวมาก Hiragana Katakana เรียนกันในอาทิตย์และที่สำคัญ หนังสือและลำดับการสอนของที่นี่ต่างกับหนังสือที่ดังในไทยอย่าง Minna no Nihongo หรือ koharu ค่ะ
          ข้อเสียคือ ถ้าตั้งใจจะเก็บวิชาอื่นอยู่แล้วจะเสียเวลามากอยู่ เพราะวิชาภาษา 4 หน่วยกิตก็จริง แต่เรียนทั้งเทอมและทุกวันยกเว้นวันพุธ


 
          ต่อมามาพูดถึงวิชาบังคับที่ต้องเรียนทั้ง English base และ Japanese base นั่นก็คือ Workshop I และ II (ตัวละ 2 หน่วยกิต)
โดยนักศึกษาที่เข้าเรียนในเทอม Spring จะเรียน Workshop I ในเทอมแรก และ Workshop II ในเทอมถัดมา
แต่นักศึกษาที่เข้าเรียนในเทอม Fall จะเรียน Workshop I และ II ในเทอมแรก
 
          มั่นใจได้เลยว่าในการเรียนมหาวิทยาลัยจะต้องมีรายงานเป็นตั้งๆอย่างไม่ต้องสงสัย  เมื่อพูดถึงการบ้านหรือเขียนรายงาน เชื่อว่าเพื่อนๆบางคนอาจจะคุ้นชินกับคำว่า ‘Copy & Paste’ โดยเฉพาะในระดับมัธยม แต่ว่าช้าก่อน! ในระดับมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะที่ APU การ Copy & Paste ที่ว่ามาอาจจะทำให้โดนไล่ออกได้เลยทีเดียว ที่นี่ซีเรียสเรื่องการขโมยความคิด (plagiarism) มากค่ะ แม้แต่จะเอามาเปลี่ยนคำแล้วเขียนใหม่โดยไม่ให้เครดิตก็ไม่ได้
 
          เพราะฉะนั้นในเทอมแรก APU เลยจัดให้นักศึกษาได้เรียนวิชา Workshop I ซึ่งเป็นวิชาที่สอนการเขียน หรือ Academic Writing นั่นเองค่ะ เรียนเป็นภาษาตาม base ของตัวเอง โดยในวิชานี้ที่นักศึกษาเทอมแรกทุกคนต้องเรียนจะมีการแบ่งนักศึกษาเป็นห้องและในแต่ละห้องก็จะมีอาจารณ์ต่างกันไป อันนี้ก็แล้วแต่ดวงกันแล้วล่ะค่ะ ลุ้นกันไปว่าจะได้อ.ที่โหด เข้มงวด หรือว่าใจดี (บอกตรงๆว่าคนงี่เง่าก็มีบาง)

          โดยในวิชานี้จะแสดงถึงความแตกต่างอีกอย่างของมหาวิทยาลัย APU ปรกติแล้วผู้ช่วยอาจารย์ (Teacher assistant) หรือเรียกสั้นๆว่า TA จะมาจากนักศึกษาป.โทขึ้นไป แต่ที่นี่นักศึกษาป.ตรีสามารถเป็น TA ได้ และในวิชา Workshop ทั้ง I และ II โดยส่วนใหญ่นักศึกษาจะได้ใช้เวลาไปกับ TA มากกว่ากับอาจารย์
วิชา Workshop II จะแตกต่างกับ Workshop I ตรงที่งานส่วนใหญ่จะเป็นงานกลุ่ม โดยจะแบ่งกลุ่มนักศึกษาทั้ง Japanese base และ English base มารวมกลุ่มด้วยกันเพื่อทำกิจกรรม โดยจะมีการแข่งขันนำเสนองานระหว่างกลุ่มและผู้ชนะจะไปแข่งกับกลุ่มที่ชนะจากห้องอื่นๆ เป็นวิชาที่จะต้องใช้ทั้งเวลานอกเหนือจากคาบเรียน ในการประชุม ทำอุปกรณ์ เตรียมงาน ฯลฯ เรียกว่าคะแนนขึ้นอยู่กับกลุ่ม และ กลุ่มขึ้นอยู่กับดวงค่ะ (วอดวายกันมานักต่อนักกับวิชานี้….) คือถ้าได้กลุ่มดีก็จะสนิทกันยาวเพราะต้องทำงานด้วยกันจนสนิทเลยทีเดียว แต่ถ้าได้กลุ่มไม่ดีก็แทบจะสาปส่งไม่เผาผีกัน 5555
 
          วันนี้ขอจบกระทู้แค่นี้ก่อนนะคะ ไว้จะมาต่อเรื่อง รายละเอียดการเรียนแต่ละวิชา -ปัส อาหาร อื่นๆทีหลังค่า J
 

 
ใครสนใจเพิ่มเติมติดตามได้ที่เพจนะคะ
 https://www.facebook.com/rainydiaryinjapan/
 

กระทู้อื่นๆ
 
‘6 รีวิวห้อง(อพาร์ทเม้นท์)ในญี่ปุ่น (นักศึกษา)’
ตามลิ้งค์นี้: https://www.dek-d.com/board/view/3787317/
 
‘รีวิว การเรียนในมหาวิทยาลัย APU ณ ญี่ปุ่น (part 1)’
ตามลิ้งค์นี้: 
https://www.dek-d.com/board/view/3787660
 
 
 

แสดงความคิดเห็น

>