Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว! เล่าประสบการณ์ การเดินทางสู่การเป็น ทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย Young Thai Science Ambassador 2017

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ ผมชื่อ พล (ซึ่งป้วนเปี้ยนในเด็กดีมาซักพักแล้วฮะ 555) แต่วันนี้ผมจะมารีวิว ประสบการณ์ การเดินทางของผมและเพื่อนผม สู่การเป็น ทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคมครับ

จุดเริ่มต้น...
จุดเริ่มต้นของการมาแข่งขันในครั้งนี้คือเพื่อนผมครับ เขามาชวนผมไปแข่ง "สื่อสารวิทยาศาสตร์" ผมเอง ก็ได้ทำงานในด้านนั้นมาก่อนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปศึกษาหรืออะไรเป็นจริงจัง เลยอยากจะลองไปพิสูจน์ตัวเองดูว่า ทำอะไรได้บ้าง ก็เลยตอบตกลงที่จะแข่งขัน โครงการนี้ชื่อว่า ทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย Young Thai Science Ambassador (YTSA 2017) จัดโดย อพวช.

ในการแข่งขันรอบแรก ผมจะเลือกได้ 2 ทาง คือการเขียนบทความ 1 หน้ากระดาษ หรือ ทำคลิปวีดีโอ 5 นาที ส่งเข้าประกวดในหัวข้อ Mega Crisis มหาวิกฤตภัยดาวโลก เช่น อาหารขาดแคลน น้ำขาดแคลน ผมต้องทำสื่อว่า จะแก้ไขปัญหาพวกนี้ด้วยวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร และแน่นอนครับ ผมเป็นคนทำสื่ออยู่แล้ว (เดี๋ยวจะพูดถึงตอนท้ายๆ อิอิ) เลยเลือกที่จะทำคลิป 5 นาที เกี่ยวกับปัญหาน้ำขาดแคลน ส่งเข้าประกวด ในทีมชื่อ วิ่งสู้วิทย์


หลากหลายมหา’ลัย จุดมุ่งหมายเดียวกัน...
สามสัปดาห์หลังจากผมส่งคลิปไป ก็ถึงเวลาการประกาศผล 20 ทีม 40 คน สุดท้ายที่ได้เข้ารอบสู่รอบเข้าค่าย และ... ทีมของพวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น (กรี๊ดลั่นเลย ถถถ) และจะได้เข้าค่ายที่ อพวช. (ตึกลูกเต๋า) เพื่อคัดเหลือ 10 ทีมสุดท้าย เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และผมก็ได้ไปในค่ายครับ

เมื่อถึงที่ค่าย ผมก็พบว่า ทีมที่เข้ามาถึงรอบนี้ มาจากหลายมหาวิทยาลัย หลายจังหวัด หลายภาควิชา หลายสาขา ตั้งแต่แพทย์ วิทยา วิศวะ ครุ ทุกคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และทุกคนที่ได้เข้ามาในค่ายนี้ ก็ได้รับตำแหน่ง ให้เป็น "ทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย" ไปเรียบร้อยแล้วครับ และสำหรับผม ผมมองว่ามันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก และผมภูมิใจกับตำแหน่งที่ได้รับนี้มากๆครับ

**อันนี้ได้ออกข่าวของทาง MOST NEWS ด้วยแหละ เริ่มตอน 2.34 นาทีนะ**



ในค่ายเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย ที่ทั้งสนุก และให้ทักษะความรู้ เช่น ฟังบรรยายเรื่องการนำเสนอจากนักสื่อสารวิทยาศาสตร์มืออาชีพ ฝึกการแสดง-นำเสนอ เรียนรู้การทำสื่อ-ข่าว ออกนอกสถานที่-ลงพื้นที่ศึกษาจากชาวบ้านจริงๆ และกิจกรรมเกมสนุกๆ อื่นๆ มากมาย แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่พีคที่สุดของค่ายนี้...

อย่างที่บอกว่า มันเป็นการแข่งขัน ดังนั้นจึงมีภารกิจที่เราต้องทำ ซึ่งทุกทีม รู้พร้อมกันในค่าย ไม่มีการเตรียมตัวไปก่อน... ภารกิจนั้นคือ การนำเสนอเรื่องวิทยาศาสตร์ ในเวลา 8 นาที! โดยจะให้คอนเซปต์เป็น รายการโทรทัศน์ สด! กรรมการจะมองจากภาพที่ถ่ายทอดสดจากกล้องที่จับเราอยู่ระหว่างที่เรานำเสนอ! สรุปคือ พวกผมก็ต้องเริ่มตั้งแต่ เขียนโครง เขียนบท คิดรูปแบบ ทำสื่อ-อุปกรณ์ประกอบ และฝึกซ้อมในเวลา 3 วันกว่าๆ และแล้ว เวลาก็ผ่านไปไวยังกะโกหก พวกเราก็ได้นำเสนองานของพวกเรา แต่ละกลุ่มก็มีรูปแบบ การนำเสนอ อุปกรณ์ สื่อ ที่แตกต่างรูปแบบกันไป ซึ่งทุกทีมทำได้ดี สนุก ตื่นเต้น ประทับใจมากๆ จนทำให้ผมลืมไปว่า นี่คือการแข่งขัน เพราะบรรยากาศในค่าย เต็มไปด้วยความอบอุ่น ช่วยเหลือกัน น่าร๊ากกกกทั้งค่ายเลย :3

จนรู้ตัวอีกที... คือผมได้ติดเป็น 1 ใน 11 ทีมสุดท้าย (เขาเพิ่มโควต้าให้) ที่ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อคัดเลือกเป็น ตัวแทนทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย 2 ทีม ไปศึกษางานที่ประเทศเยอรมัน... และได้ไปนำเสนออีกครั้ง ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2560 ที่อิมแพค เมืองทอง!!! (ให้ความรู้สึกเหมือนศิลปินมาก ได้ไปแสดงที่อิมแพค 55555)




พัฒนาผลงาน ทำให้ดียิ่งขึ้น และไปไกล...มาก
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป และคราวนี้พวกเราต้องพัฒนาผลงานเพื่อนำเสนอใหม่อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ผมและเพื่อนผมก็ปวดหัวสิครับ มีเวลา 3-4 เดือน ที่จะทำให้ผลงานดีที่สุด (อย่างที่บอกว่าตอนนี้ไม่ได้มองว่ามาแข่งแล้ว เหมือนมาทำให้งานดีที่สุดมากกว่า) และผมก็เกิดคิดอะไรบางอย่างออก....

ผมชวนเพื่อนร่วมทีมไปดูงานที่สิงคโปร์!!!

ครับ... พวกเราบ้าจี้ไปกันจริงๆ ไปที่ประเทศสิงคโปร์ ไปดูงานด้านการนำน้ำใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่ ที่ NEWater Visitor Center และทัวร์พิพิธภัณฑ์ของเขา พร้อมนำข้อมูลกลับมาทำ และถ่ายรูป วีดีโอ มาทำคลิปเพื่อแสดงในวันแข่งขันจริงด้วย! ที่สำคัญ พวกผมบ้าจี้ถึงขนาดใช้งบที่เขามีให้ ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเช้า เย็นกลับ เพื่อไปศึกษางานที่นั่น!!!!! แต่สำหรับผม ผมถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ เพราะนอกจากข้อมูลและ Footage แล้ว ผมยังได้ไปเปิดโลกกว้าง ไปได้รับประสบการณ์ ที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนมาก่อน และคุ้มค่ากับที่เสียเงินไปจริงๆครับ




นอกจากนั้นแล้ว เรายังได้รับความช่วยเหลืออย่างดี จากทางคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่คอยช่วยผมให้พัฒนาการสื่อสารวิทยาศาสตร์ และให้โอกาสทีมพวกผม ได้ขึ้นไปพูดที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อหน้านิสิตปี 1 คณะวิทยาศาสตร์เกือบ 1000 คน ในงานวันปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ซึ่ง เป็นการพูดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ก็ขอขอบคุณทางคณะมากๆ ครับ

3 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก และนั่นคือ เวลาที่ผมจะไปสู่ รอบชิงชนะเลิศ...


Finale... 
และแล้ว การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็มาถึง ผมตื่นเต้นมากและมองย้อนกลับไปถึงการเดินทางที่ไกลมากๆ ของพวกผม และมันไกลกว่าที่ผมคิดไว้ มาก แต่การพูดครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน เพราะเราจะพูดกัน 2 รอบ รอบแรก เราพูดในงานมหกรรมวิทย์ บนเวทีของบูธ YTSA ต่อหน้าเด็กๆที่เข้ามาดูงานจริงๆ ซึ่งทุกทีมที่มาก็ทำได้อย่างดี และเด็กๆก็ให้ความสนใจมากๆ...

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น...

อย่างที่ผมบอกครับว่านี่คือการแข่งขัน มีเพียง 2 ทีมที่จะได้ไปเยอรมัน แต่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตอนกินข้าว แต่ละทีมที่นั่งโต๊ะเดียวกัน ทุกทีมมาช่วยกันบอกว่า การนำเสนอของแต่ละทีมควรปรับ แก้ เพิ่ม ลด อะไร มันไม่ใช่บรรยากาศของการแข่งขันครับ แต่มันเป็นบรรยากาศของทุกทีมที่ตั้งใจอยากให้การนำเสนอของพวกเราออกมาดีที่สุด บรรยากาศที่ไม่หายไปจากค่าย ความเป็นเพื่อนกัน ทุกคนไม่สนว่าทีมไหนจะได้ไป แต่แยากให้ทุกทีมทำออกมาได้ดี และนั่นคือมิตรภาพที่เกิดขึ้นครับ ผมประทับใจมากๆ บอกเลยว่ารักค่ายนี้มากครับ อิอิ

การนำเสนอในรอบที่สอง เกิดขึ้นในวันถัดมา และเป็นการนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการ ในรูปแบบเดียวกันกับค่าย และทุกทีมก็งัดความสามารถของตัวเองออกมาใช้จนหมด และบรรลุจุดประสงค์ให้ทุกทีมทำออกมาได้ดี บรรยากาศ กดดันมากกกกก กรรมการจริงจังมากกกกก คำถามที่กรรมการถามก็โหดมากกกก แต่ มันสนุกมากกกก และกรรมการก็คัดเลือก 2 ทีมสุดท้ายจากคุณภาพ ความสามารถจริงๆ ก็เลยเข้ใจถึงความกดดันตรงนี้ครับ

การประกาศผลเกิดขึ้นในเวลา 2 ชั่วโมงหลังจากแข่งขันเสร็จ ทุกทีมที่ไปได้รับรางวัลหมด ตั้งแต่รางวัลชมเชย รางวัลนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ดีเด่น 3 ทีม และรางวัลใหญ่ รางวัลนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยม 2 ทีม ที่จะเป็นตัวแทนเพื่อนๆ ไปศึกษางานที่ประเทศเยอรมัน.......

และผมก็ได้เป็น 1 ใน 2 ทีมที่ได้รางวัลนี้ครับ (ซึ้งใจน้ำตาไหลแปป)


**ออกข่าวอีกแล้ว**


**อันนี้ VLOG ส่วนตัวของข้าพเจ้าเอง**


**อันนี้ SPOT ของทางทรูปลูกปัญญา**


แข่งจบ คนไม่จบ...
การแข่งขันก็เสร็จสิ้นลงไปแล้วครับ ผมได้รับตำแหน่งนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยม เหมือนทุกอย่างจะจบลง (ถ้าไม่นับไปเยอรมันนะ ไปปีหน้านู่น) แต่ หน้าที่ของนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ของพวกเราทุกคนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น! เพราะเราเป็นทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทยแล้วครับ เรามีหน้าที่ต้อง สื่อสารวิทยาศาสตร์ให้คนไทยเข้าใจมากยิ่งขึ้น!!! ซึ่งก็มีบางคน รวมถึงผมเอง เริ่มที่จะเผยแพร่ผลงานสื่อด้านนี้แล้วครับ ผมขอยกมา 2 ทีมที่ได้รับรางวัลนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมนะครับ

ทีมเพื่อนของผมครับ ทีมวิทย์แพทย์ นเรศวร ก็ได้ปล่อยผลงานสารคดี ในหัวข้อที่พวกเขานำเสนอ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ :: การเผาตอซังของเกษตรกร



ส่วนทีมของผมครับ ทีมวิ่งสู้วิทย์ ก็ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ และเริ่มทำ Channel YouTube ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์...ที่สนุก โคตร! กับช่องที่ชื่อ SaySci (ทำร่วมกับคนที่มาแข่งด้วยกันบางคนด้วยนะเออ)

รู้จักเรามากขึ้นได้จากกระทู้นี้เล้ย!
https://www.dek-d.com/board/view/3783589/

กด Subscribe กันไว้ให้หน่อยน้าาาา 
https://www.youtube.com/channel/UCE2Y61yhW_Kdhz96H589s1A





มาเล่าให้ฟัง ทำไม...
ที่ผมมาเล่าให้ฟัง ไม่ใช่เพราะอยากอวด หรืออยากอะไรครับ ผมอยากให้คนที่เข้ามาอ่าน ได้รู้สึกเหมือนกับที่ผมได้สัมผัส และได้รับรู้มา คือ วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว สำคัญ และสนุกมาก การสื่อสารวิทยาศาสตร์ก็เช่นกันครับ มันคือ มันจะเป็นการนำเรื่องที่แลดูเป็นหลักการ เป็นความรู้ เป็นวิทยาศาสตร์ มาทำให้มันสนุก น่าสนใจ และเข้าถึงผู้คนได้ง่าย และอยากจะฝากน้องๆ ที่กำลังอ่านกระทู้นี้ อยากให้น้องๆ ให้ความสนใจกับงานด้านนี้ด้วย เพราะมันสำคัญกว่าที่หลายๆคนคิดจริงๆครับ

และโครงการนี้จะจัดขึ้นในปีหน้าอีกครั้ง ถ้ามาแล้ว เดี๋ยวอาจจะเอาไปโพสฝากในห้องเด็กกิจกรรมด้วยนะครับ อิอิ


 

แสดงความคิดเห็น