Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กระแสการอนุรักษ์เครื่องแต่งกายภูเก็ต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
      สวัสดีค่ะสมาชิกเด็กดี ทุกๆคนนะคะ เกริ่นก่อนเลยว่าหนูเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีงานจากโรงเรียนให้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้วนำมาเผยแพร่สู่ชุมชน หนูเลือกที่จะเผยแพร่ข้อมูลที่หนูนั้นได้ศึกษามาให้ชาวเด็กดี ได้รับรู้และศึกษากัน เรื่องที่หนูศึกษานั้นตามหัวข้อเลยค่ะ หาข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยและสามารถตอบคอมเมนต์แชร์ข้อมูลกันมาได้นะคะ

เพอรานากัน หรือ บาบ๋า ย่าหยา


娘惹, เพอรานากัน ต้นกำเนิดแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม


กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยนเข้ามาค้าขายแถบคาบสมุทรมลายู ตัดสินใจมาตั้งถิ่นฐานด้วยเลยได้แต่งงานกับชาวมลายูท้องถิ่น จึงทำให้เกิดการผสมผสานระหว่าง จีนฮกเกี้ยน-มลายู เมื่อคนกลุ่มนี้มีมากขึ้นก็ได้สร้างวัฒนธรรมใหม่ที่แตกต่างกันออกไปรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมา ผสมผสานกันเป็น เพอรานากัน ซึ่งแปลว่า เกิดที่นี่ born here แต่จะถูกเรียกรวมๆกันโดยส่วนมากว่า จีนช่องแคบ คนเหล่านี้สร้างสิ่งที่เป็นของตัวเอง อาคารบ้านเรือนที่มีการผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ อาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิด เครื่องแต่งกายเฉพาะตัว
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มชาวจีนปีนังที่อพยพเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตในตอนหลัง ชาวจีนกลุ่มนี้อพยพกันมาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆทำให้กลุ่มคนที่เป็นชาวเพอรานากันรุ่นหลังๆ แทบจะเป็นจีนเต็มตัวไปแล้ว วัฒนธรรมความเป็นมลายูก็เริ่มจางหายไปกลายเป็นจีนปีนังมากขึ้น


สรุป


-เพอรานากันในประเทศไทยส่วนใหญ่ จะอยู่ในแถบฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต ตรัง ขยายไปเรื่อยๆ

-ภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นภาษา มลายู จีน และอังกฤษ


ชุดแต่งกายผู้หญิงใช้เรียกว่า ย่าหยา


*ชุดครุย

เป็นชุดยาวประมาณน่อง แขนยาว คอเป็นรูปตัววี เป็นลายดอกไม้เล็กๆ ไม่มีกระดุม นุ่งกับผ้าโสร่งปาเต๊ะ และเสื้อตัวในใส่ในงานแต่งงาน หรืองานสำคัญโอกาสต่างๆ

*ชุดครุยท่อน

เรียกว่า ปั่วตึ่งเต้ หรือ เคบายา เป็นเสื้อครุยหมือนเดิมแค่ตัดขนาดให้สั้นลง ขึ้นไปยาวแค่บริเวณสะโพก ที่เหลือยังคงเหมือนเดิม

*ชุดลูกไม้

เป็นเสื้อที่ประยุกต์มาจากชุดบาบ๋าทั้ง3ชนิด เป็นที่นิยมแพร่หลายมากกว่าเสื้อย่าหยาและยังใส่ได้กับผ้านุ่งทุกชนิด เน้นทรวดทรง ลักษณะคอจะเป็นคอกลม คอสามเหลี่ยม คอสี่เหลี่ยม ไม่มีปก มีแบบซิปและกระดุม แขนสั้น


ชุดบาบ๋า เครื่องแต่งกายผู้ชาย


นิยมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสวมหมวกถ้าอยู่บ้านนิยมสวมเสื้อบางคนไม่สวมเสื้อกางเกงขาสั้นมีผ้าขาวม้าพาดบ่าคาดเอว พ่อค้ามีฐานะพ่อค้าชาวต่างชาตินิยมใส่เสื้อเชิ้ตถูกเลขท้ายส่วนเสื้อนอกหรือผู้ที่เป็นเจ้านายดูแลเหมือนกันใส่กางเกงและเสื้อตั้งมีกระเป๋าคล้ายชุดราชบัณฑิตสวมหมวกกะโล่


ผ้าโสร่ง หรือ ผ้าปาเต๊ะ


ปาเต๊ะ (Batik Sarong) ในสมัยก่อนผู้หญิงภูเก็ตนิยมซื้อผ้าปาเต๊ะจากเมืองไทรบุรีรัฐเดาห์ในประเทศมาเลเซีย ด้วยว่าเป็นผ้าชนิดดี สีสันสวยงามไม่ลอก นุ่งได้ทั้งสองด้าน นิยมใส่ปาเต๊ะลาซ้อม ผู้ชายใช้ผ้าขาวม้า


~ขอบคุณที่อ่านข้อมูลที่หนูศึกษาจนจบนะคะ นี่เป็นข้อมูลที่หนูหามาแล้วสรุปเรียบเรียงให้สั้นกระชับ หวังว่าเนื้อหาที่หนูทำจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนนะคะ

อย่างที่บอกใครจะมีเนื้อหาเพิ่มเติมสิ่งใด สามารถคอมเมนต์แลกข้อมูลกันได้เลยนะคะ   


แสดงความคิดเห็น

>