#รีวิวค่ายสอวน.ชีวะค่าย 1 ถึงค่าย 3
ตั้งกระทู้ใหม่
ค่าย 1
สำหรับเนื้อหาในค่าย 1 นะส่วนมากก็จะเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับวิชาชีววิทยา เช่น เรื่องสารชีวเคมี การใช้กล้องจุลทรรศน์ เซลล์ การแบ่งเซลล์ การหายใจระดับเซลล์ พันธุศาสตร์ taxonomy(การจำแนกสิ่งมีชีวิต) และอื่นๆที่จำไม่ได้ ถ้าน้องรู้ตัวว่าติดค่าย 1 แล้ว น้องควรจะเตรียมเนื้อหาในเรื่องพวกนี้ไว้ เพื่อที่ว่าในค่ายเวลาเรียนจะได้ไม่ต้องมึนมากเพราะบางที่อาจารย์ที่สอนก็จะสอนเร็วไปจนเราอ๊อง การอ่านหนังสือไปก่อนซักนิดให้คำที่เราไม่เคยเจอมันผ่านหูไปบ้างก็จะเป็นสิ่งที่ดีเพื่อกันอ๊อง5555 โดยเฉพาะ taxonomy ซึ่งก็ไม่รู้นะว่าจริงๆข้อสอบจบค่ายมันออกเยอะมั้ยแต่ในความรู้สึกคือมันเยอะมาก55555 ถ้าน้องจำชื่อ phylum และลักษณะเด่นว่าแต่ละตัวมีอะไรทำไมถึงแยกออกมาเป็น phylum นี้ ได้แทบทุกตัวก่อนไปค่าย น้องจะได้เปรียบมากๆๆๆๆๆๆ เนื่องจากวิชานี้อาศัยความจำพอสมควร+ความเข้าใจมากๆ เวลาในค่ายก็จะใช้ไปกับการนั่งท่องจำไปซะส่วนใหญ่ น้องก็ควรจะหาวิธีในการจำ สำหรับพี่การจำชื่อ technical term ก็จะจำจากรากศัพท์ภาษา เช่น porifera ก็จะจำว่า por แปลว่ารูแสดงว่าสัตว์ใน phylum นี้มีรูพรุนตามลำตัวคือพวกฟองน้ำ, arthropoda arthro แปลว่าเป็นปล้อง/ข้อ poda แปลว่ารยางค์ แสดงว่าสัตว์ใน phylum นี้มีแขนขาเป็นข้อปล้องก็คือพวกแมลง อะไรประมาณนี้ ซึ่งพี่ชอบจำแบบนี้เพราะว่ามันทำให้เราสามารถจำลักษณะเด่นของแต่ละตัวไปได้ด้วย วันสุดท้ายในค่ายคือวันจบก็จะมีการทำข้อสอบคัดเลือกว่าเราจะได้ผ่านไปค่าย 2 หรือไม่ ซึ่งข้อสอบก็จะแบ่งเป็น 2 พาร์ท ก็จะมีภาคทฤษฎีให้เรานั่งกานั่งฝนนั่งเขียนกับแล็ปกริ๊ง(อาจจะแตกต่างไปในแต่ละศูนย์แต่มันก็ประมาณนี้แหละ) โดยภาคทฤษฎีก็จะเป็นข้อสอบที่เรียกกันว่า multiple true-false ก็คือข้อนึงมีมากกว่า 1 คำตอบซึ่งในค่ายถัดไปเรื่อยๆยันโอลิมปิกระดับชาติน้องก็จะเจอแบบนี้ไปตลอด คือ ข้อนึงมี 4 ตัวเลือกแต่ละตัวเลือกอาจจะถูกหรือผิดข้อนึงจึงฝนมากกว่า 1 คำตอบนั้นเอง ส่วน ภาคปฏิบัติหรือว่าแล็ปกริ๊งก็จะออกเนื้อหาแลปในค่ายจำพวกผลการทดลองลักษณะหน้าตาของตัวนู้นตัวนี้อ่าน direction แลปไปเยอะๆ จะสอบแบบเดินวนโต๊ะหรือฉายขึ้น powerpoint ก็แล้วแต่ศูนย์(มั้งนะไม่รู้ว่าที่อื่นมีผ่ามีไรมั้ยตอนสอบ5555)
ค่าย 2
เนื้อหาในค่าย 2 ก็จะลึกมากยิ่งกว่าค่าย 1 วิชาที่พี่พอจำได้ก็จะมี plant anatomy and physiology, animal physiology and anatomy, พันธุศาสตร์ประชากร, molecular genetics, การสังเคระห์ด้วยแสง, ระบบนิเวศ ซึ่งในค่ายนี้น้องจะได้ฝึกผ่าสัตว์ต่างๆอีกด้วย ที่พี่เคยได้เรียนผ่าก็จะมี กบ ปลาดุก ปลาทับทิม หมึกกล้วย หอยแมลงภู่ หอยกาบน้ำจืด กุ้ง ตั๊กแตน จิ้งหรีด (แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าศูนย์มหาลัยที่น้องอยู่นั้นจะหาสัตว์มาให้ผ่ามั้ยแต่อย่างน้อยน้องต้องได้ผ่าสัตว์ที่จะออกสอบในโอลิมปิกระดับชาติแน่ๆซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละปี) ซึ่งการผ่าสัตว์ก็จะเป็นการเตรียมตัวให้น้องสามารถปฏิบัติได้ในค่ายโอลิมปิกระดับชาติในภาคปฏิบัติการ สำหรับในค่าย 2 นี้ก็ควรจะเน้น physio กับ anatomy ไปให้มากๆทั้งในพืชและสัตว์ ในสัตว์ก็จะออกของคนเป็นหลัก น้องควรจะอ่านหนังสือมาอย่างน้อยก็จำพื้นฐานการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายได้ anatomy ของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ปอด ทางเดินอาหาร ระบบรับสัมผัสต่างๆ พันธุศาสตร์ประชากรกับระบบนิเวศก็ทำความเข้าใจพวก index กฎต่างๆ สูตรนั้นสูตรนี่ เช่น hardy-weinberg, sorensen similarity index แล้วก็พวก diversity index ต่างๆ ซึ่งในวิชาพวกนี้อาจจะปวดหัวนิดหน่อยเพราะจะมีสูตรเยอะแยะไปหมดเหมือนเรียนคณิตศาสตร์นิดๆ ส่วนการสอบจบค่ายก็จะคล้ายค่าย 1 เลย
การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ
หลังจากสอบจบค่าย 2 แล้วแต่ละศูนย์ก็จะทำการคัดเลือกเด็กที่มีคะแนนสูงสุดในการสอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 คน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ หรือว่าค่าย 3 ที่เรารู้จักกัน ค่ายนี้จะกินเวลาทั้งสิ้น 7 วัน จัดในช่วงเดือนเมษายน(ไม่รู้นะแต่ 2 ปีล่าสุดก็จัดเดือนนี้วันเดียวกันเป๊ะๆเลย) ซึ่งถ้าเราผ่านการคัดเลือกเป็น 1 ใน 6 คนทาศูนย์ สอวน. ที่เราอยู่อาจจะเรียกเรามาติวเพิ่มเติม หรือฝึกทำการทดลองต่างๆ เช่นการผ่าสัตว์ที่ทางเจ้าภาพจัดการแข่งขันกำหนดมาให้ ซึ่งภายในปีนี้เจ้าภาพจัดการแข่งขันคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากน้องจะได้ไปแข่งแล้วน้องจะได้ไปแอ่วสาวเหนือ เที่ยวเชียงใหม่ อีกด้วยนะจ๊ะ ในวันแรกก็จะเป็นการเดินทางไปยังศูนย์ สอวน. เจ้าภาพ ถ้าอยู่ไกลๆน้องอาจจะได้นั่งเครื่องบินฟรีๆไปเลยก็ได้ พอไปถึงน้องจะได้เข้าที่พักทำการรู้จักกับรูมเมท(ก็อีกนั้นแหละทำความรู้จักไว้ให้มากๆ เผื่อเขาจะรู้อะไรที่เราไม่รู้ละมาแชร์กันได้) แล้วก็พักผ่อนจากการเดินทางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไป ซึ่งก็จะเป็นพิธีเปิดและเวลาอันน่าเศร้าที่สุดนั้นก็คือน้องๆทั้งหลายจะต้องตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง โทรศัพท์อันเป็นที่รักจะถูกยึด เครื่องใช้ที่เป็น electronic จะถูกยึด(นาฬิกาปลุกที่เป็น digital, smart watch,อะไรก็ตามที่สามารถเชื่อม internet ได้,สิ่งของที่ส่อว่าจะทำการทุจริตได้ และปีที่ผ่านมาไดร์เป่าผมยังยึด555555) คุณครูที่มากับเราจะโดนแยกไปอยู่ที่อื่นแล้วเราจะได้เจออีกทีหลังสอบเสร็จ เวลานี้น้องก็ควรบอกลาเพื่อนๆ คนรัก พ่อ แม่ ให้เรียบร้อย(เหมือนจะไปรบเลย555555 ซึ่งจริงก็คล้ายๆจะไปรบแหละแต่น้องจะต้องไปสู้กับตัวเองเท่านั้นเอง) หลังจากนี้น้องจะไม่ได้พบคนภายนอกอีกเลย ก็ควรจะทำความรู้จักกับคนในค่ายไว้เยอะๆ หลังจากจบพิธีเปิดเรียบร้อย น้องจะถูกพาไปทำความคุ้นชินกับอุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้ในการสอบภาคปฏิบัติ และสำหรับวันที่ 2 ก็จะมีเพียงเท่านี้ ถัดมาในวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสอบครั้งแรกในวันนี้น้องจะได้สอบภาคทฤษฎี ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ cell structure and function, plant anatomy physiology and biosystematics, animal anatomy physiology and biosystematics, ecology ในแต่พาร์ทจะมีเวลาในการสอบ 1 ชั่วโมง ซึ่งสำคัญมากๆที่น้องจะแบ่งเวลาในการทำแลปให้ถูก เพราะเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆควรจะอ่าน direction และวางแผนก่อนเริ่มทำ ไม่งั้นน้องจะเจอปัญหาว่าเพิ่งจะเปิดมาเจอข้อที่ต้องทิ้งสารไว้ 30 นาทีตอนเหลือเวลาอีก 20 นาที พาร์ทที่ควรจะเก็บคะแนนให้ได้เกิน 80% คือ ecology เนื่องจากเป็นพาร์ทที่ง่าย(หรอ แต่ก็ถือว่าง่ายที่สุดจากทั้งหมด) และพาร์ทที่ควรทำใจคือ cell และ animal ให้น้องพึงระลึกไว้เสมอว่าน้องทำได้คนอื่นก็ทำได้ น้องทำไม่ได้คนอื่นก็ทำไม่ได้ อย่าไปคิดว่าคนทุกคนทำได้หมดทุกข้อร้อยเปอ อีกอย่างน้องมาแข่งกับตัวเองอย่าไปกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีพอเพราะการที่น้องได้มาถถึงจุดๆนี้น้องคือที่สุดของประเทศแล้วถึงแม้จะไม่ได้เหรียญก็ตาม มีสติให้มากๆ ถ้าสติหลุดจากเหรียญทองอาจเหลือแค่เกียรติบัตรเข้าร่วมก็ได้ ถ้าเจอคำถามที่ยากเกินจะนึกออกก็ข้ามมันไปก่อนอย่าไปจมกับมมัน ถ้าทำอย่างนั้นน้องอาจจะเสียคะแนนไปเปล่าๆเลยก็ได้ พาร์ท animal สัตว์ตัวอย่างที่ให้มาอาจจะเล็กจนลมพัดปลิว (TBO 16th จิ้งหรีดตัวเท่าข้อนิ้วก้อย คำสั่งให้ผ่าเอาทางเดินอาหารออกมาเรียงแบบเป็นชิ้นเดียว ซึ่งแค่ลมพัดมันก็ขาดแล้วและอย่างที่บอกไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะทำได้ มีคนสามารถทำได้แค่ 2 คนจาก 100 คนเอง อย่าไปสติแตก, TBO 15th ผ่าหมึกกระดองตัวประมาณนิ้วโป้ง จิ้มไปทีแรกโดนถุงหมึกทันใดดำไปหม๊ด) ก็ขอให้น้องตั้งมีสมาธิเข้าไว้ถ้าสติแตกเครียดมือสั่นผ่าไม่ได้อีก วันที่ 4 ในภาคทฤษฎีก็จะแบ่งเป็นข้อสอบชุด A และ ฺB หัวข้อในการสอบภายในแต่ละชุดก็จะเหมือนกับภาคปฏิบัติเลย แต่ละชุดจะให้เวลาสอบชุดละ 2 ชั่วโมง ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบที่น้องเคยทำมาตั้งแต่ตอนจบค่าย 1 เลย ก็คือ multiple true-false จำนวนชุดละ 50 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน หลังจากจบการแข่งขันก็จะเป็นเวลา relax(มั้ง เพราะส่วนมากก็จะกระวนกระวายใกล้ตายอยากรู้ผลในทันใดเพราะแม่งลุ้นเครียดกว่าก่อนสอบอีก555555) จะมีกิจกรรมสันทนาการ และจะมีการแบ่งกลุ่มเพื่อซ้อมทำการแสดงซึ่งจะมีในคืนที่มีการกินเลี้ยง โอกาสนี้เราจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างศูนย์ ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น วันต่อมาก็จะเป็นการไปทัศนศึกษาตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด เช่น ปีนู้นไปสงขลาเขาก็พาไป พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ไปหาดสมิหลา ย่านเก่าสงขลา ฯลฯ ปีที่แล้วจัดที่มหิดลวิทยานุสรณ์ ก็ได้ไปฟาร์มจระเข้สามพราน ไปแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ตกเย็นก็จะมีงานเลี้ยงพร้อมการแสดง(เป็นคืนที่สนุกมากๆ แต่ห้ามคุยเรื่องเหรียญนะบรรยากาศจะเปลี่ยนทันที5555) วันรุ่งขึ้นหรือวันที่ 7 วันสุดท้าย จะมีพิธีปิดและประกาศรางวัลพร้อมเดินทางกลับบ้านเป็นวันที่เราจะต้องร่ำลาเพื่อนๆที่เราได้พบภายในค่าย ในพิธีประกาศรางวัลเราก็จะได้เห็นทั้งคนดีใจทั้งคนร้องไห้ เราก็ควรจะประคับประครองใจตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นจนสติแตกไปเสียก่อนถึงแม้ว่าจะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญ หรือ ได้เหรียญแต่ไม่ได้ไปต่อในค่าย สสวท. ก็ขอให้น้องภูมิใจในตนเองว่าสามารถมาถึงในจุดๆที่คนหลายพันคนหวังว่าจะได้มายืนอยู่ ท้ายที่สุดแล้วอย่างที่เคยบอกไปว่าน้องมาแข่งกับตัวเอง(แต่ถึงขั้นนี้ก็เรียกว่าชนะตัวเองไปแล้วแหละ) ถึงไม่ได้เหรียญมันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะจบกับเส้นทางนี้เพียงเท่านี้
หลังจากโอลิมปิกระดับชาติ สสวท. ก็จะคัดเด็กไปเข้า สสวท. ค่าย 1 ซึ่งก็คือการเตรียมตัว+คัดเลือกเด็กเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ เนื้อหาก็จะลึกซึ้งอย่างสุดขีด(เกลียด biostat มาก) ค่ายนี้จะกินเวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับบางคนหลังจบค่ายโรงเรียนก็เปิดเทอมพอดีเลยก็ว่าได้
พี่เคยผ่านค่ายระดับชาติมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ม.4 ไปแบบงงๆ วันสุดท้ายตอนประกาศเหรียญลุ้นว่าอย่างน้อยคงได้เหรียญทองแดงแต่สุดท้ายก็กลับไปพร้อมกับเกียรติบัตรเข้าร่วม(ยอมรับว่าร้องไห้แต่ไม่ได้ร้องเพราะไม่ได้เหรียญนะร้องเพราะโดนปลอบ55555) เห็นคนอื่นเดินมีเหรียญห้อยคอพร้อมกัดเหรียญตอนถ่ายรูปก็เลยฝังใจอิจฉาอยากทำบ้าง555555 ปีถัดมา ม.5 เลยกลับไปด้วยความมุ่งมั่นพร้อมกับแรงอิจฉาทำให้ได้เหรียญเงินกลับมา อยากจะบอกน้องๆที่กำลังจะได้เริ่มชีวิตในนามเด็กโอลิมปิกหรืออาจจะผิดหวังกับการสอบค่าย 1 ว่าอย่ากลัวที่จะผิดหวังในการทำตามความฝันของตัวเอง เพราะว่าการกลัวความผิดหวังมันแย่กว่าความผิดหวังจริงๆซะอีก ขอให้อย่างน้อยน้องได้ทำมันอย่างเต็มที่ที่สุดในชีวิตน้อง น้องก็ชนะตัวเองไปแล้ว
ถ้าใครอยากสอบถามเพิ่มเติมให้แอดline square ตามQR code นี้เล้ยยหรือทางเพจ BioTin
เนื้อหาในค่าย 2 ก็จะลึกมากยิ่งกว่าค่าย 1 วิชาที่พี่พอจำได้ก็จะมี plant anatomy and physiology, animal physiology and anatomy, พันธุศาสตร์ประชากร, molecular genetics, การสังเคระห์ด้วยแสง, ระบบนิเวศ ซึ่งในค่ายนี้น้องจะได้ฝึกผ่าสัตว์ต่างๆอีกด้วย ที่พี่เคยได้เรียนผ่าก็จะมี กบ ปลาดุก ปลาทับทิม หมึกกล้วย หอยแมลงภู่ หอยกาบน้ำจืด กุ้ง ตั๊กแตน จิ้งหรีด (แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าศูนย์มหาลัยที่น้องอยู่นั้นจะหาสัตว์มาให้ผ่ามั้ยแต่อย่างน้อยน้องต้องได้ผ่าสัตว์ที่จะออกสอบในโอลิมปิกระดับชาติแน่ๆซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละปี) ซึ่งการผ่าสัตว์ก็จะเป็นการเตรียมตัวให้น้องสามารถปฏิบัติได้ในค่ายโอลิมปิกระดับชาติในภาคปฏิบัติการ สำหรับในค่าย 2 นี้ก็ควรจะเน้น physio กับ anatomy ไปให้มากๆทั้งในพืชและสัตว์ ในสัตว์ก็จะออกของคนเป็นหลัก น้องควรจะอ่านหนังสือมาอย่างน้อยก็จำพื้นฐานการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายได้ anatomy ของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ปอด ทางเดินอาหาร ระบบรับสัมผัสต่างๆ พันธุศาสตร์ประชากรกับระบบนิเวศก็ทำความเข้าใจพวก index กฎต่างๆ สูตรนั้นสูตรนี่ เช่น hardy-weinberg, sorensen similarity index แล้วก็พวก diversity index ต่างๆ ซึ่งในวิชาพวกนี้อาจจะปวดหัวนิดหน่อยเพราะจะมีสูตรเยอะแยะไปหมดเหมือนเรียนคณิตศาสตร์นิดๆ ส่วนการสอบจบค่ายก็จะคล้ายค่าย 1 เลย
การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ
หลังจากสอบจบค่าย 2 แล้วแต่ละศูนย์ก็จะทำการคัดเลือกเด็กที่มีคะแนนสูงสุดในการสอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 คน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ หรือว่าค่าย 3 ที่เรารู้จักกัน ค่ายนี้จะกินเวลาทั้งสิ้น 7 วัน จัดในช่วงเดือนเมษายน(ไม่รู้นะแต่ 2 ปีล่าสุดก็จัดเดือนนี้วันเดียวกันเป๊ะๆเลย) ซึ่งถ้าเราผ่านการคัดเลือกเป็น 1 ใน 6 คนทาศูนย์ สอวน. ที่เราอยู่อาจจะเรียกเรามาติวเพิ่มเติม หรือฝึกทำการทดลองต่างๆ เช่นการผ่าสัตว์ที่ทางเจ้าภาพจัดการแข่งขันกำหนดมาให้ ซึ่งภายในปีนี้เจ้าภาพจัดการแข่งขันคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากน้องจะได้ไปแข่งแล้วน้องจะได้ไปแอ่วสาวเหนือ เที่ยวเชียงใหม่ อีกด้วยนะจ๊ะ ในวันแรกก็จะเป็นการเดินทางไปยังศูนย์ สอวน. เจ้าภาพ ถ้าอยู่ไกลๆน้องอาจจะได้นั่งเครื่องบินฟรีๆไปเลยก็ได้ พอไปถึงน้องจะได้เข้าที่พักทำการรู้จักกับรูมเมท(ก็อีกนั้นแหละทำความรู้จักไว้ให้มากๆ เผื่อเขาจะรู้อะไรที่เราไม่รู้ละมาแชร์กันได้) แล้วก็พักผ่อนจากการเดินทางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไป ซึ่งก็จะเป็นพิธีเปิดและเวลาอันน่าเศร้าที่สุดนั้นก็คือน้องๆทั้งหลายจะต้องตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง โทรศัพท์อันเป็นที่รักจะถูกยึด เครื่องใช้ที่เป็น electronic จะถูกยึด(นาฬิกาปลุกที่เป็น digital, smart watch,อะไรก็ตามที่สามารถเชื่อม internet ได้,สิ่งของที่ส่อว่าจะทำการทุจริตได้ และปีที่ผ่านมาไดร์เป่าผมยังยึด555555) คุณครูที่มากับเราจะโดนแยกไปอยู่ที่อื่นแล้วเราจะได้เจออีกทีหลังสอบเสร็จ เวลานี้น้องก็ควรบอกลาเพื่อนๆ คนรัก พ่อ แม่ ให้เรียบร้อย(เหมือนจะไปรบเลย555555 ซึ่งจริงก็คล้ายๆจะไปรบแหละแต่น้องจะต้องไปสู้กับตัวเองเท่านั้นเอง) หลังจากนี้น้องจะไม่ได้พบคนภายนอกอีกเลย ก็ควรจะทำความรู้จักกับคนในค่ายไว้เยอะๆ หลังจากจบพิธีเปิดเรียบร้อย น้องจะถูกพาไปทำความคุ้นชินกับอุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้ในการสอบภาคปฏิบัติ และสำหรับวันที่ 2 ก็จะมีเพียงเท่านี้ ถัดมาในวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสอบครั้งแรกในวันนี้น้องจะได้สอบภาคทฤษฎี ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ cell structure and function, plant anatomy physiology and biosystematics, animal anatomy physiology and biosystematics, ecology ในแต่พาร์ทจะมีเวลาในการสอบ 1 ชั่วโมง ซึ่งสำคัญมากๆที่น้องจะแบ่งเวลาในการทำแลปให้ถูก เพราะเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆควรจะอ่าน direction และวางแผนก่อนเริ่มทำ ไม่งั้นน้องจะเจอปัญหาว่าเพิ่งจะเปิดมาเจอข้อที่ต้องทิ้งสารไว้ 30 นาทีตอนเหลือเวลาอีก 20 นาที พาร์ทที่ควรจะเก็บคะแนนให้ได้เกิน 80% คือ ecology เนื่องจากเป็นพาร์ทที่ง่าย(หรอ แต่ก็ถือว่าง่ายที่สุดจากทั้งหมด) และพาร์ทที่ควรทำใจคือ cell และ animal ให้น้องพึงระลึกไว้เสมอว่าน้องทำได้คนอื่นก็ทำได้ น้องทำไม่ได้คนอื่นก็ทำไม่ได้ อย่าไปคิดว่าคนทุกคนทำได้หมดทุกข้อร้อยเปอ อีกอย่างน้องมาแข่งกับตัวเองอย่าไปกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีพอเพราะการที่น้องได้มาถถึงจุดๆนี้น้องคือที่สุดของประเทศแล้วถึงแม้จะไม่ได้เหรียญก็ตาม มีสติให้มากๆ ถ้าสติหลุดจากเหรียญทองอาจเหลือแค่เกียรติบัตรเข้าร่วมก็ได้ ถ้าเจอคำถามที่ยากเกินจะนึกออกก็ข้ามมันไปก่อนอย่าไปจมกับมมัน ถ้าทำอย่างนั้นน้องอาจจะเสียคะแนนไปเปล่าๆเลยก็ได้ พาร์ท animal สัตว์ตัวอย่างที่ให้มาอาจจะเล็กจนลมพัดปลิว (TBO 16th จิ้งหรีดตัวเท่าข้อนิ้วก้อย คำสั่งให้ผ่าเอาทางเดินอาหารออกมาเรียงแบบเป็นชิ้นเดียว ซึ่งแค่ลมพัดมันก็ขาดแล้วและอย่างที่บอกไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะทำได้ มีคนสามารถทำได้แค่ 2 คนจาก 100 คนเอง อย่าไปสติแตก, TBO 15th ผ่าหมึกกระดองตัวประมาณนิ้วโป้ง จิ้มไปทีแรกโดนถุงหมึกทันใดดำไปหม๊ด) ก็ขอให้น้องตั้งมีสมาธิเข้าไว้ถ้าสติแตกเครียดมือสั่นผ่าไม่ได้อีก วันที่ 4 ในภาคทฤษฎีก็จะแบ่งเป็นข้อสอบชุด A และ ฺB หัวข้อในการสอบภายในแต่ละชุดก็จะเหมือนกับภาคปฏิบัติเลย แต่ละชุดจะให้เวลาสอบชุดละ 2 ชั่วโมง ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบที่น้องเคยทำมาตั้งแต่ตอนจบค่าย 1 เลย ก็คือ multiple true-false จำนวนชุดละ 50 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน หลังจากจบการแข่งขันก็จะเป็นเวลา relax(มั้ง เพราะส่วนมากก็จะกระวนกระวายใกล้ตายอยากรู้ผลในทันใดเพราะแม่งลุ้นเครียดกว่าก่อนสอบอีก555555) จะมีกิจกรรมสันทนาการ และจะมีการแบ่งกลุ่มเพื่อซ้อมทำการแสดงซึ่งจะมีในคืนที่มีการกินเลี้ยง โอกาสนี้เราจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างศูนย์ ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น วันต่อมาก็จะเป็นการไปทัศนศึกษาตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด เช่น ปีนู้นไปสงขลาเขาก็พาไป พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ไปหาดสมิหลา ย่านเก่าสงขลา ฯลฯ ปีที่แล้วจัดที่มหิดลวิทยานุสรณ์ ก็ได้ไปฟาร์มจระเข้สามพราน ไปแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ตกเย็นก็จะมีงานเลี้ยงพร้อมการแสดง(เป็นคืนที่สนุกมากๆ แต่ห้ามคุยเรื่องเหรียญนะบรรยากาศจะเปลี่ยนทันที5555) วันรุ่งขึ้นหรือวันที่ 7 วันสุดท้าย จะมีพิธีปิดและประกาศรางวัลพร้อมเดินทางกลับบ้านเป็นวันที่เราจะต้องร่ำลาเพื่อนๆที่เราได้พบภายในค่าย ในพิธีประกาศรางวัลเราก็จะได้เห็นทั้งคนดีใจทั้งคนร้องไห้ เราก็ควรจะประคับประครองใจตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นจนสติแตกไปเสียก่อนถึงแม้ว่าจะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญ หรือ ได้เหรียญแต่ไม่ได้ไปต่อในค่าย สสวท. ก็ขอให้น้องภูมิใจในตนเองว่าสามารถมาถึงในจุดๆที่คนหลายพันคนหวังว่าจะได้มายืนอยู่ ท้ายที่สุดแล้วอย่างที่เคยบอกไปว่าน้องมาแข่งกับตัวเอง(แต่ถึงขั้นนี้ก็เรียกว่าชนะตัวเองไปแล้วแหละ) ถึงไม่ได้เหรียญมันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะจบกับเส้นทางนี้เพียงเท่านี้
หลังจากโอลิมปิกระดับชาติ สสวท. ก็จะคัดเด็กไปเข้า สสวท. ค่าย 1 ซึ่งก็คือการเตรียมตัว+คัดเลือกเด็กเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ เนื้อหาก็จะลึกซึ้งอย่างสุดขีด(เกลียด biostat มาก) ค่ายนี้จะกินเวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับบางคนหลังจบค่ายโรงเรียนก็เปิดเทอมพอดีเลยก็ว่าได้
พี่เคยผ่านค่ายระดับชาติมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ม.4 ไปแบบงงๆ วันสุดท้ายตอนประกาศเหรียญลุ้นว่าอย่างน้อยคงได้เหรียญทองแดงแต่สุดท้ายก็กลับไปพร้อมกับเกียรติบัตรเข้าร่วม(ยอมรับว่าร้องไห้แต่ไม่ได้ร้องเพราะไม่ได้เหรียญนะร้องเพราะโดนปลอบ55555) เห็นคนอื่นเดินมีเหรียญห้อยคอพร้อมกัดเหรียญตอนถ่ายรูปก็เลยฝังใจอิจฉาอยากทำบ้าง555555 ปีถัดมา ม.5 เลยกลับไปด้วยความมุ่งมั่นพร้อมกับแรงอิจฉาทำให้ได้เหรียญเงินกลับมา อยากจะบอกน้องๆที่กำลังจะได้เริ่มชีวิตในนามเด็กโอลิมปิกหรืออาจจะผิดหวังกับการสอบค่าย 1 ว่าอย่ากลัวที่จะผิดหวังในการทำตามความฝันของตัวเอง เพราะว่าการกลัวความผิดหวังมันแย่กว่าความผิดหวังจริงๆซะอีก ขอให้อย่างน้อยน้องได้ทำมันอย่างเต็มที่ที่สุดในชีวิตน้อง น้องก็ชนะตัวเองไปแล้ว
ถ้าใครอยากสอบถามเพิ่มเติมให้แอดline square ตามQR code นี้เล้ยยหรือทางเพจ BioTin
_ttiinnnnnn
26 ส.ค. 62 เวลา 23:11 น.
17,696
views
15 ความคิดเห็น
พี่คะแนะนำหนังสือหน่อยค่ะ
อ่านเบาๆ ก็อ่านเล่มพี่เต็นท์ที่หน้าปกเป็นเต่าทองครับ หรือหน้าปกที่เป็นปลาหมึกครับ
หรือมีเงินหน่อย ก็ Campbellได้ครับ
พี่ครับแนะนำการจัดตารางเวลาอ่านนส.หน่อยครับ
อย่าอ่านเยอะเกินไป มีเวลาพักผ่อนครับ ทบทวนสม่ำเสมออยู่ตลอดครับ
พี่ครับแนะนำการเรียน สอวน.หน่อยครับ
อ่านหนังสือเยอะๆ เตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบครับ
พี่ใช้เวลาในการเตรียมตัวนานมั้ยครับ
3-4 เดือน พอประมาณครับ
แล้วระหว่างที่พี่ไปค่ายพี่ทิ้งการเรียนที่โรงเรียนมั้ยครับ
ไม่ทิ้งครับ เพราะมีเพื่อนช่วยจดการบ้าน แล้วกลับมาทำตอนกลับจากค่ายประมาณนี้ครับ
ส่วนเรื่องเรียน พี่เป็นคนอ่านหนังสืออยู่ตลอดครับ อ่านเก็บไว้ครับ
ระหว่างสสวท กับสอวน พี่มองว่าอันไหนยากกว่ากันครับ
สสวท ครับยากกว่า เพราะข้อสอบมันลึกกว่าครับ
พี่เล่าสนุกมากเลยคะ หนูอยากถามเกี่ยวกับการไปเข้าค่ายคะ พี่พอจะมีช่องทางติดต่อไหมคะ
ทางเพจเลยครับ = BioTin
ทางไลน์ก็ได้ครับ Qr code ด้านบนเลยครับ
พี่มีการเตรียมตัวยังไงคะ
อ่านหนังสือเลยครับ แล้วก็ทบทวนสม่ำเสมอครับ
ก่อนไปสอบมีเรียนพิเศษที่ไหนบ้างมั้ยคะ
ไม่ได้เรียนเลยครับ อ่านเองครับ
พี่ครับผมกลัวไม่ติดค่าย1 อะครับ
ติดอยู่แล้วแหละะะ สู้ๆ️️
พี่ครับ ถ้าผมอยู่ม.5แล้วติดสอวนค่าย1 ถ้าเลือกระหว่างเข้าค่ายกับไปเรียนพิเศษเต็มที่ในช่วงปิดเทอมแบบไหนคุ้มกว่าหรอครับ
หาแฟนเพจพี่ไม่เจออะครับ qr code อยู่ตรงไหน
สวัสดีค่ะ อยากติดต่อเรื่องการเตรียมตัวให้ได้ค่าย3ค่ะ เพราะเดือนหน้าต้องไปค่าย1 แล้วปีนี้เขาก็รวบค่าย1กับค่าย2ด้วยค่ะ ลองหาเพจbiotin แล้วแต่ก็หาไม่เจอค่ะ อยากได้คำปรึกษามากๆเลยค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?