Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

kfctherevieWER: JOKER (2019) "สุข" ภาวะและจิตใจของวายร้ายที่โด่งดังที่สุด [spoiled]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
[brief] JOKER คือหนังที่เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจปูมหลังของโจ๊กเกอร์ในฐานะชายขอบคนหนึ่ง ที่ไม่เคยพบกับความสุขและถูกทำร้ายจากสังคมรอบข้างจนสุดท้ายกลายมาเป็นวายร้าย หนังตีความตัวละครจากคอมมิคได้เข้มข้น เต็มไปด้วยความตึงเครียด แง่มุมทางจิตวิทยา และความรุนแรง และภาวะอันแหลกสลายของอาเธอร์นั้นจะไม่สมจริงเลยหากขาดการแสดงอันยอดเยี่ยมของวาคิน ฟินิกซ์ไป
.
ปีสองปีมานี้ คงไม่มีวายร้ายในหนังจากคอมมิคซูเปอร์ฮีโร่ตัวไหนที่จะสร้างภาพจำและโดดเด่นเท่ากับ Thanos จาก Avengers: Infinity War และ Endgame แต่ถ้าหากถามว่า วายร้ายจากคอมมิคและหนังที่สร้างจากคอมมิคตัวไหนที่คนจะนึกถึงเป็นตัวแรก ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่นึกถึง Joker ศัตรูตลอดกาลของ Batman จากฝั่ง DC เป็นชื่อแรก และถ้าหากให้นึกถึงหน้าตาของโจ๊กเกอร์ต่อไปอีก ผมก็เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงหน้า Heath Ledger ใน The Dark Knight ก่อนเป็นคนแรก ส่วนเหตุผลว่าทำไมนั้น เราทุกคนก็คงเคยเห็นกันไปแล้วในหนังเรื่องนั้น
.
ทุกคนรู้จักโจ๊กเกอร์ในชุดสีม่วงดึงดูดสายตา ผมเขียว หน้าขาว ทาปากแดงเหมือนคนฉีกยิ้มกว้างจนปากฉีก เสียงหัวเราะอันพิลึกพิลัน (และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็นคู่ปรับอันดับหนึ่งของแบทแมน) แต่เรื่องราวหรือปูมหลังอะไรกันแน่ที่ขับเคลื่อนโจ๊กเกอร์ให้เป็น "โจ๊กเกอร์" จนเป็นที่จดจำของแฟนคอมมิคและแฟนหนังได้ทั่วโลก
.
ซึ่ง Todd Phillips (The Hangover) ก็ได้ถ่ายทอดและตีความประวัติของวายร้ายตัวนี้ในอีกฉบับหนึ่งใน JOKER
.
JOKER บอกเล่าเรื่องราวของ Arthur Fleck (Joaquin Phoenix) ชายผู้อาศัยอยู่กับแม่และดิ้นรนที่จะเป็นเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง แต่บุคลิกและอาการป่วยของเขานั้นทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด (= "ตัวตลก") จากคนสังคม จนมาถึงจุดหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเขากลายมาเป็น "โจ๊กเกอร์" ได้
.
ตั้งแต่ต้นเรื่องหนังก็เช็ทสภาพทางกายภาพของก็อตแธมที่เต็มไปด้วยขยะสกปรก บรรยากาศอืมครืม และความวุ่นวาย ที่ทำให้สร้างสุขภาวะทั้งทางกาย ทางจิต และทางสังคมที่ดีไม่ได้เลย จนมาถึงตัวละครอย่างอาเธอร์ที่ก็มีปัญหาและอาการป่วยทางจิตอยู่แล้ว เมื่อมาเจอกับสภาพสังคมแบบนั้น เจอกับผู้คนรอบข้าง-ตั้งแต่กุ๊ยวัยรุ่น เพื่อนร่วมงาน คนบนรถบัส/รถไฟ-ปฎิบัติต่อเขาอย่างไม่มีความหมายและทำร้ายเขาทางร่างกายและ/หรือจิตใจ (คนที่ทำมากที่สุดก็คงจะเป็นแม่ที่ทำร้ายเขาตั้งแต่เด็กๆ และพิธีกรทอล์กโชว์ไอดอลของเขาที่ล้อเลียนเขาต่อหน้าคนทั้งประเทศ) ทำให้สุขภาวะของเขาติดลบลงเรื่อยๆ จนผลลัพธ์สุดท้าย เขากลายเป็นคนที่ก่ออาชญากรรมได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกทุกข์ร้อนอะไร ไม่ต้องมีอุดมการณ์ทางการเมืองอะไรแอบแฝง ไม่ได้ตั้งใจทำก่อจลาจลอะไรด้วยซ้ำ (แม้จะมีคนจำนวนไม่น้อยก่อจลาจลเพราะเขาก็ตาม) แต่เขาทำเพื่อระบายความเคียดแค้นของเขา-ตัวเขาคนเดียว และเพื่อความ "สุข" ที่เขาไม่เคยมีเลย ก็เท่านั้นเอง
.
การที่หนังใช้จิตวิทยาตีความและขับเคลื่อนตัวละครที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้น ทำให้อาเธอร์เป็นคนชายขอบคนหนึ่งที่มีที่มาที่ไปอันแสนบอบซ้ำ ซึ่งนำพาให้เราเข้าใจได้ว่า "ทำไม" เขาถึงกลายมาเป็นวายร้ายอย่างโจ๊กเกอร์ได้ แม้ที่สุดแล้วการกระทำของเขาทำมันโหดร้ายจริงๆ และเราก็ไม่จำเป็นต้องรักหรือยอมรับมันก็ตาม 
.
หนังยังมีบรรยากาศและการดำเนินเรื่องแบบในหนังอาญากรรมยุค 80' ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทางภาพและทางอารมณ์ที่ตึงเครียดมากๆ ซึ่งถ้าใครคุ้นกับหนังแนวนี้ก็จะต่อกับหนังติดได้ไม่อยาก แต่ถ้าใครไม่ชอบก็อาจจะไม่ชอบไปเลย และหนังเลือกที่จะเป็นเอกเทศจากจักรวาลแบทแมน/DC ใดๆ ที่เคยมีมา (หากใครสังเกต ตอนต้นเรื่องหนังไม่ได้ขึ้นโลโก้หรือเมนชั่น DC เลย) เพราะฉะนั้นแล้วหนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังอาชญากรรม-จิตวิทยาดีๆ เรื่องหนึ่ง ยังไงก็ตาม ตัวหนังก็ยังเชื่อมต่อกับเรื่องราวที่ทุกคนรู้จักกันดีในคอมมิค ผ่านตัวละครอย่าง โธมัส เวย์น ที่แม้จะออกมาไม่มากแต่มีอิทธิพลต่อชีวิตอาเธอร์อย่างมากในหนัง และนำมาสู่จุดจบของเขาและมาร์ธาต่อหน้าบรูซในตรอกนั้นนั่นเอง
.
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะเห็นพ้อง (และเห็นพ้องไปแล้ว) ต้องกันนั้นคือการแสดงของวาคิน ฟินิกซ์ ที่แสดงความปวดร้าว-ความโดดเดี่ยวของอาเธอร์ได้ลึกสุดใจ การหัวเราะของเขาเกือบทุกครั้งนั้นสะท้อนถึงอาการป่วยทางจิต และถ่ายทอดภาวะความเจ็บปวดอันไร้ทางออกผ่านแววตาได้อย่างสมจริง และฉากไคลแมกซ์ที่อาเธอร์ขึ้นไปบนรถตำรวจแล้วเอาเลือดที่กบปากอยู่มาวาดยิ้ม เต้นและพายมือเหมือนตัวเองแสดงตลกเสร็จนั้นเป็นฉากโจ๊กเกอร์ที่-ติดตา น่าสะพรึงกลัว และ-ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นการตีบทที่แตกละเอียดยิบ และมีสิทธิคว้าออสการ์ตามรอย Heath สูงมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชมคือการกำกับภาพที่สวยมาก และมักจะมีโฟกัสอยู่ตรงจุดกึ่งกลาง ตอกย้ำสภาพของอาเธอร์ที่น่าอึดอัดและถูกบีบคั้นจากสังคมรอบข้างตลอดเวลาได้เป็นอย่างดี
.
สรุปแล้ว JOKER คือหนังที่เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจที่มาที่ไปของคนชายขอบคนหนึ่งที่ไม่เคยพบกับความสุขและถูกทำร้ายจากสังคมรอบข้างจนสุดท้ายกลายมาเป็นวายร้ายที่เรารู้จักกันดี หนังตีความตัวละครจากคอมมิคได้เข้มข้น ทำให้เราได้ "เข้าใจ" แต่ไม่ใช่ "ชอบใจ" พฤติกรรมและการกระทำของเขา เต็มไปด้วยความตึงเครียด แง่มุมทางจิตวิทยา และความรุนแรง ภาวะอันแหลกสลายของอาเธอร์นั้นจะไม่สมจริงเลยหากขาดการแสดงอันยอดเยี่ยมของวาคิน ฟินิกซ์ไป

ปล.โปรดดูหนังเรื่องนี้โดยใช้วิจารณญาณและมองว่าเป็นศิลปะเท่านั้น อย่านำความรุนแรงแบบในหนังมาใช้แก้ไขปัญหากันในโลกของความเป็นจริงนะครับ 
.
ติดตาม #kfctherevieWER ได้ผ่าน twitter @kfcthereviewer นะครับ ขอบคุณครับ : )

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ joker 2019

แสดงความคิดเห็น

>