ดราม่าบนยูทูปเมื่อ 4-5 วันก่อน (โรคDID)

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะะะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว Dek-D  ทุกๆคน

หลังจากที่เราห่างหายไปพอสมควร ไม่ได้ไปไหนเล้ยยย ทำงาน 555+

แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องเข้ามา วับๆ แวมๆ แถวนี้สักหน่อย
วันนี้จะเข้ามาพร้อมดราม่าที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่กี่วันบนยูทูป
ซึ่งมันเป็นดราม่าของเรื่องกลุ่มผู้ป่วย DID (Dissociative Identity Disorder)
ชื่อภาษาไทย โรคหลายอัตลักษณ์

ดราม่าที่ว่า มันเกิดขึ้นจากนี่!!!



เจ้าของยูทูปช่องนี้มีชื่อว่า Trisha Paytas   
ซึ่งในคลิปมีการกล่าวถึงตัวเค้า ว่าเค้า  Self-Diagnosed ด้วยตนเอง
ว่าตัวเค้าเองป่วยเป็นโรค Dissociative Identity Disorder
แล้วภายในคลิปมีการกล่าวถึงช่องของ Anthony Padilla 

(วิดีโอนี้)


ที่ตัวของแอนโทนี่ได้ทำการสัมภาษณ์คนที่เป็นผู้ป่วย DID
ซึ่งมีผู้หญิงบริทิชจากช่อง  DissociaDID ถูกเชิญไปร่วมรายการ
แล้วตัวทริช่าบอกว่าตอนที่ดูวิดีโอ ช่วงที่เค้าสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่ง
ฉันคิดว่าเธอเป็นบริทิชนะ ฉันมองดูเธอแล้วก็คิดว่าเธอมันบ้า แต่เอาจริงๆ น่ากลัวซะมากกว่า
ซึ่งหลังจากวิดีโอของทริชาถูกอัพโหลดลงยูทูปได้ไม่นาน ช่อง DissociaDID 
ก็ได้ทำวิดีโอ Reaction ถึงคลิปของทริช่า

(วิดีโอนี้)


ซึ่งช่วงแรกๆของคลิปที่ DissociaDID ทำขึ้นมา
คือพูดถึงแค่ว่าความเข้าใจที่ทริชามีต่อโรคนี้คือมีแบบผิดๆ
ไม่ได้เข้าใจถูกต้อง  แต่พอเค้าฟังไปถึงช่วงที่เค้าถูกทริช่าเรียกว่าบ้า สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
และได้มีการกล่าวเสริมว่ามันไม่ถูกต้องที่คุณจะเรียกคนอื่นว่าบ้า
ส่วนแอนโทนี่เอง พอได้ดูวิดีโอของทริช่าก็มีการแท็คไอจีทริช่า ให้ทริช่าไปดูช่องของ DissociaDID
เพื่อที่จะได้เข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น

แต่ทริช่ากลับคิดว่าพวกเค้าด่าตัวเองแล้วได้อัพโหลดวิดีโอด่าแอนโทนี่กับเจ้าของช่อง DissociaDED
และหลังจากนั้นก็ทำวิดีโออื่นๆขึ้นมาอีก
เป็นวิดีโอประมาณว่ามีอัตลักษณ์อื่นของเค้าออกมาใช้ชีวิต
มีการโยนนิสัยแย่ๆที่ตัวเองทำ ให้เป็นความผิดของอัตลักษณ์ที่ทริช่าคิดว่าตัวเองมี

ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบมากๆ 
ไม่ว่านางจะป่วยโรคนี้อยู่หรือไม่
แต่การเรียกคนอื่นว่าบ้า ทั้งๆที่เค้าได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าป่วยจริง
ส่วนตัวเองก็แค่วินิจฉัยด้วยตนเอง ซึ่งจริงๆทำไม่ได้ ต้องวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
เพราะเค้าจะได้รับการฝึกฝนมาให้วินิจฉัยผู้ป่วยโรคนี้โดยเฉพาะ
และการที่ทริช่าโยนความคิดของตัวเองให้อัตลักษณ์อื่นๆรับไป
เช่นนิสัยการกิน อารมณ์ที่แปรปรวน  
เอานิสัยเหล่านี้ไปโทษให้กับอัตลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งไม่รู้ว่ามีจริงไหม
ถ้ามีจริง คุณไม่ควรทำอะไรแบบนั้น
เพราะมันเป็นอะไรที่ทุเรศมากๆ 

พอมีคนคิดว่าตัวนางไม่ได้ป่วยจริง ก็อัดวิดีโอด่าคนอื่น
แล้วโยนให้อัตลักษณ์ว่าเค้าเป็นคนด่า ไม่ใช่ฉัน คือเห้ย มันแย่อ่ะ
แล้วคนติดตามคุณมีเกือบ 5 ล้านคน
การที่ลงอะไรพวกนี้ มีแต่ส่งผลแย่กับตัวคุณเอง
เดี๋ยวก็ต้องได้ออกมาขอโทษ เหมือนคลิปที่คุณแกล้งทำเป็นว่าตัวเองแปลงเพศ
คุณล้อเลียนและล้อเล่นกับสิ่งที่ไม่ควรที่สุด เพียงเพื่อแลกกับยอดวิว