Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว เรื่องสั้น "Super Frog Save Tokyo" (ไม่ Spoil)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

laughกราบสวัสดีคร้าบlaugh

สวัสดีพี่น้อง ผองเพื่อนชาว Dek-D ทุกคน หลังจากที่หายหน้าไปจากชาว dek-d นาน แสนนาน
วันนี้ เราจึงมีเรื่องสั้นที่น่าสนใจมารีวิวให้ทุกคนได้ลองไปหาอ่านวรรณกรรมแบบเรื่องสั้นกันบ้าง

ต้องเกริ่นก่อนเลยว่า ช่วงเวลาที่หายไปจาก dek-d เราไปใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาลัยมาแหละ แล้วก็ได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มากมายเลย 

แหะ!!!! ช่วงโปรโมท คณะ มหาลัย ของตัวเองจร้า เราเรียนที่ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
(อุอิ พี่อักษร รอมีรุ่นน้องจาก Dek-D อยู่นะค้าบ heart)
คณะอักษรศาสตร์ที่นี่ เป็นระบบเรียนแบบวิชาเอกและวิชาโท คือ เราจะต้องเรียนสองสาขา เช่น เราเรียนวิชาเอก ปรัชญา และวิชาโทภาษาอังกฤษ (ก็คือจะตาย ต้องอ่านเยอะทั้งสองสายเลย แงงงงง) และในวิชาโท เรามีโอกาสเรียนวิชาเลือกเสรีของเอกโทภาษาอังกฤษ คือ "Selected Short Stories"  แล้วได้อ่านเรื่องสั้นเยอะมาก มากๆๆๆๆ 

วันนี้เลยอยากมาแบ่งปันเรื่องสั้นที่น่าสนใจให้กับพี่น้องและผองเพื่อน Dek-D ได้ลองไปหาอ่านดูบ้างคร้าบบบ 
 

Super Frog Save Tokyo
แต่งโดย
Haruki Murakami 

https://mixmag.asia/assets/uploads/images/_facebook/Murakami-music-copy.jpgรูปจาก : https://mixmag.asia/read/haruki-murakami-is-gearing-up-to-host-another-radio-show-local

ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2002

       เป็นเรื่องราวของ ชายหนุ่มนามว่า คะตะกิริ พนักงานออฟฟิศที่ใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อกลางกรุงโตเกียว วันหนึ่ง หลังจากที่เขาเลิกการและกลับไปห้องพัก เขาก็ได้พบกับกบยักษ์…...ใช่แล้วครับ "กบยักษ์" ที่พูดภาษาคน และมีเพียงแค่คะตะกิริเท่านั้นที่ได้ยินหรือมองเห็นได้ ซึ่งเจ้ากบยักษ์ตัวนี้ มีภาระกิจต้องปกป้องกรุงโตเกียวจากปีศาจหนอนยักษ์ ที่กำลังกัดกินรากฐานกรุงโตเกียวและจะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่
เจ้ากบจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากคะตะกิริ เพื่อต่อกรกับอสูรร้ายนั้น บอกเลยว่าตอนจบเป็นปลายเปิดมากและเป็นอะไรที่เราก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้ และมันยิ่งทำให้คนที่เรียนสายปรัชญา ยิ่ง
รู้สึก "เอ๊ะ" กับสิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะสื่อผ่านงานชิ้นนี้เลย
ในเรื่องของการเล่าเรื่อง นอกจากมีบทบรรยายแล้ว ก็ยังมีบทสนธนาของตัวละคร อีกด้วยซึ่งจะทำให้เราได้รับรู้ถึงลักษณ์ ความคิด ความรู้สึกของตัวละครได้ดีเยี่ยม เหมือนกำลังอ่านนวนิยายอยู่ เพียงแค่มันสั้นและเข้าใจง่าย สามารถอ่านให้จบภายในครั้งเดียวได้ซึ่งเป็นอีกหนนึ่งส่วนที่ทำให้เรื่องนี้อ่านง่ายและทำความเข้าใจกับเรื่องได้ง่าย
น่าสนใจใช่ไหมล่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า จากมุมของคนที่ไม่เคยอ่านงานเขียนของ Murakami แต่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของนักเขียนชื่อดังท่านนี้ เราค่อนข้างชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้มาก จากวิธีการเล่า ที่ชวนให้ติดตาม และชวนให้ผู้อ่านได้จินตนาการเห็นภาพเรื่องราวทั้งหมด ได้ทั้งยังแฝงนัยะ ที่ ผู้เขียนต้องการจะแสดงให้เห็นได้อย่างแนบเนียน ซึ่ง สำหรับการตีความของเราแล้ว เราเชื่อว่าผู้เขียน ต้องการวิพากษ์วิจารณ์ตัวสังคมของญี่ปุ่น ที่มีความกดดันสูง และบีบคั้นให้คนเกิดความเครียด จนบางครั้ง ก็อาจจะรู้สึกตัวเองด้อยค่ากว่าคนอื่น หรือรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่เอาไหน จนในที่สุด ก็ต้องใช้ จินตนาการ ใช้ความคิด และจิตใต้สำนึกช่วยปกป้องตัวเอง จากการแตกสลายนั่นเอง
บางครั้ง การคิดที่ต้องการจะเป็นฮีโร่ของเรานั้น มันอาจจะไม่สามารถเป็นจริงได้ และการคิด หรือสร้างภาพมายาขึ้นมาเพื่อปลอบประโลมตนเองนั้น ก็ย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คงไม่ต่างอะไรกับคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ฮีโร่ กู้โลก หรือ Anime ที่ตัวเอกเก่ง ฉลาด หรือตัวเอกที่ไร้ความสามารถ แต่กลับสามารถกู้โลกได้ ที่บางครั้ง เราก็มักจะอินไปกับตัวละคร และรู้สึกเข้าอกเข้าใจตัวละคร เพราะส่วนหนึ่งมาจากตัวเราเองที่กำลังรู้สึกแย่อยู่เช่นกัน ซึ่งนั่น เป็นเหตุผลที่เราชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้ ที่ไม่ได้ให้เราตามเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ และพิศวงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการชี้ทางให้เราได้คิด และใช้เหตุผลของตนเอง เข้ามาตีความให้ได้ซึ่งผลลัพท์หรือข้อคิดบางอย่างจากเรื่อง
ไม่แน่นะครับ เพื่อนๆ อาจจะมีความเห็น หรือตีความสารที่ผู้เขียนอยากจะสื่อ ต่างออกไปก็ได้นะ ลองไปอ่านกันดูสิ wink บอกเลยว่า มีจุดหักมุม หลบนิ้ด ซ้ายหน่อย ขึ้นบ้าง ลงบ้าง ซักพักหลับไป ตื่นมางงๆ ก็มี ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Murakami เลยล่ะ

จริงๆ แล้วเราไม่อยากสปอยเยอะ กลัวคนที่อยากอ่าน จะอ่านไม่สนุกเอา อิอิ แต่อยากให้ทุกๆ คนลองไปอ่านดูนะ อ่านง่ายเพราะว่ามันสั้น และมีฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย (เราอ่านตัวที่เป็นภาษาอังกฤษ) และน่าสนใจมากๆ เลย.....น่าสนใจขนาดที่ว่าเรากับเพื่อน ใช้เรื่องสั้นเรื่องนี้มาทำงานส่งเลยหล่ะ

 
นี่แน่ะ!!
    
วาดในคอมนะ แต่ใช้ลายเส้นแบบงานภาพพิมพ์ญี่ปุ่น แล้วก็บางจุดใช้เทคนิคเดียวกับภาพพิมพ์คือทำหัวพู่กันเป็นรูปนั้นๆ เช่นแนวหิน แล้วเอามากดแปะลงไป ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจจากเรื่องแท้ๆ เลย
 
devilแต่!!!devil

มันมีสิ่งที่ไม่เหมือนกันในตัวเรื่องอยู่นะ อิอิ
ลองไปหาดูน้าว่ามีส่วนไหนไม่เหมือน
แล้วมาตอบใน Comment ได้เลย

อย่าลืมไปอ่านกันน้า
wink สนับสนุนให้ชาวเด็กดีอ่านงานวรรณกรรมกันเยอะๆ เลยคร้าบ wink
 

แสดงความคิดเห็น

>