Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 เทรนด์ “ปัจจัยพื้นฐานใหม่” สไตล์ Next Normal กำเนิด..เกิดขึ้นในรุ่นเรา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โควิด-19

หากมองถึงมุมความเปลี่ยนแปลงในทางสร้างสรรค์ นับว่ามีไม่น้อยเลยโดยเฉพาะรูปแบบการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโลกที่ปรับเปลี่ยนไปแบบไม่มีใครได้ทันคาดคิด ในแง่การเปิดรับเทคโนโลยี บริการดิจิทัลใหม่ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มาตอบโจทย์เรื่องมาตรการความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นหลัก โดยมีอานิสงส์เรื่องความสะดวกสบายเป็นของแถม Life Elevated จึงขอพาไปดูถึงความเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดขึ้นอันเกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน 10 ประการ ในวิถีปกติต่อไป หรือ Next Normal

3 เทรนด์ เปลี่ยนชีวิต ยุค Next Normal

Stay-at-Home Economy

เศรษฐกิจแบบ Stay-at-Home ไม่ใช่กระแสที่มาใหม่ แต่เป็นผลพวงของ Technology Disruption ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีการบริโภคอย่างต่อเนื่อง การระบาดของ Covid-19 เป็นเหมือนตัวเร่งที่สำคัญมากให้เศรษฐกิจแบบ Stay-at-Home เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด 19 ส่งผลให้วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนไป “บ้าน” ไม่ได้เป็นแค่ “ที่อยู่อาศัย” อีกต่อไป แต่ยังเป็นออฟฟิศ ห้องประชุม ฟิตเนส หรือแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้สามารถใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย เทรนด์ดังกล่าวก่อให้เกิดรูปแบบเศรษฐกิจที่เรียกว่า Stay-at-Home Economy เช่น การพบปะสังสรรค์ผ่านแอปพลิเคชัน ธุรกิจ E-Commerce บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน และเทคโนโลยีการช้อปปิ้งผ่านประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality)

Touchless Society

การดำเนินชีวิตในโลกยุค Next Normal จะมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสำคัญ เทคโนโลยีจึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อ “ลดการสัมผัส” เช่น ระบบการจัดส่งสินค้าแบบ Non-Contact Delivery โดยจะวางพัสดุลงในภาชนะหรือสถานที่ที่ลูกค้ากำหนดไว้ล่วงหน้า ประตูที่มีเซ็นเซอร์เปิด – ปิดอัตโนมัติในพื้นที่สาธารณะ รูปแบบการจ่ายเงินแบบ E-Payment หรือแนวคิดการออกแบบพื้นที่ธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าแบบปราศจากการสัมผัสใดๆ แต่จะใช้เทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียง (Voice Recognition) หรือจำลองโลกเสมือนจริง (Augmented Reality) แทน

ถึงตอนนี้ หลายคนอาจยังมองว่าถ้าเราต้องเข้าสู่ยุค Touchless Society จริงๆ จะเป็นเรื่องที่ปรับตัวอยาก แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จริงแล้วเรากำลังปรับตัวกันอยู่อย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ง่ายที่สุดก็คือเราอยู่ในยุค Touchless Society หรือสังคมไร้เงินสดมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

ทั้งการใช้ Mobile Banking แทนการทำธุรกรรมที่ธนาคาร หรือการสั่งสินค้า Online แทนการไปเดินช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า เพียงแค่เรายังไม่คำนึงความจำเป็นมากเหมือนในปัจจุบัน จนกระทั่งเกิด Covid-19 ขึ้น จึงกลายเป็นตัวเร่งที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากที่เคยเป็นอยู่ไปอย่างสิ้นเชิง

Regenerative Organic

ความปลอดภัยและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นหัวใจสำคัญของโลกยุค Next Normal ดังนั้น เทรนด์หนึ่งที่จะฉายภาพชัดขึ้นเรื่อยๆ คือ มาตรฐานสินค้าเกษตรที่เรียกว่า “Regenerative Organic” ซึ่งไม่เพียงต้องปลอดสารพิษและปราศจากการใช้เมล็ดพันธุ์ดัดแปลงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงมาตรฐาน คุณภาพดิน การคุ้มครองสัตว์ คุณภาพชีวิตเกษตรกร ความยุติธรรมด้านค่าแรง รวมถึงระบบฟาร์มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

โดยขั้นตอนที่ทำให้ได้ ผลิตภัณฑ์ Regenerative Organic คือ Regenerative Agriculture ซึ่งถ้าใครอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและเลือกวัตถุดิบตามเทรนด์นี้ Life Elevated มีเทคนิคแนะนำดังนี้

- กินให้หลากหลาย ทั้งพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช เพื่อให้เกษตรกรได้ปลูกผลผลิตที่หลากหลายตามไปด้วย
- สนับสนุนถั่วจากฟาร์มออร์แกนิก เพราะพืชต้นเล็กอย่างถั่วมีคุณสมบัติในการช่วยตรึงไนโตรเจนที่สามารถนำไปใช้ในดินได้อย่างเหมาะสม เมื่อปลูกถั่วเยอะก็จะสามารถช่วยพัฒนาดินไปได้ในตัว แถมยังเป็นทางเลือกให้เกษตรกรนอกฤดูเก็บเกี่ยวด้วย
- ถ้ายังกินเนื้อสัตว์อยู่ เลือกเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงอย่างเป็นมิตร เพราะกระบวนการเลี้ยงสัตว์ที่ต้องใช้อาหารจำพวกพืชจากฟาร์มเชิงเดี่ยวนำไปอัดเม็ดคือภัยต่อหน้าดิน
- ลดการกินเหลือ เพราะอาหารเน่าเสียสร้างมลพิษ เมื่อนำไปทิ้งหรือฝังกลบในดินก็กลายเป็นการเพิ่มหน้าที่ให้ดินทำงานหนักขึ้น
- รู้จักการทำปุ๋ย เพราะเปลือกไข่ หรือเศษกาแฟต่างๆ ล้วนมีประโยชน์ต่อดินทั้งสิ้นถ้ารู้จักจัดการให้เป็น หากมีถังหมักประจำบ้านจะเป็นการดีมาก

ปัจจัยพื้นฐาน 10 ประการ เปลี่ยนไปแน่นอน เพราะโควิด-19

1. อาหาร : เน้นการกินที่ยั่งยืน
ที่ทั้งดีต่อสุขภาพและไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น

Plant Forward ซึ่งเป็นแนวทางการกินอาหารเพื่อสุขภาพเน้นพืชเป็นหลัก แนวทางนี้ไม่ได้ห้ามกินเนื้อ แต่เน้นการกินพืชผักในปริมาณมากและหลากหลาย คืออย่างน้อย 95% ของอาหารที่บริโภคทั้งหมดมาจากพืช

Planted Base Meat การกินเนื้อจากพืช ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช 95% ที่มาจากกระบวนการแปรรูปพืช ให้มีความใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ทั้งผิวสัมผัสและรสชาติ ซึ่งในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

2. ที่อยู่อาศัย : เทรนด์ Smart Home คือความต้องการพื้นฐานของคนยุคนี้
การนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยทำให้เราสามารถใช้ฟังก์ชันต่างๆ ในบ้านได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย จะกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่มาตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน อย่างการสั่ง ปิด-เปิดไฟ หรือเครื่องปรับอากาศ จากแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนจะเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย

3. ยานพาหนะ: Smart Vehicle มาแน่
ยานพาหนะทุกรูปแบบที่เราใช้ในชีวิตประจำวันจะเปลี่ยนไป ทั้งยานยนต์ไร้คนขับ และเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า อย่าง รถยนต์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถเมล์ไฟฟ้า ที่เคยเห็นว่าไกลตัว จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพต่อจากนี้ไป

4. โซเชียลมีเดีย : SocIAL MEdia จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย
เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย และจะมีแนวคิดการตลาดหรือการทำมาร์เก็ตติ้งเกิดขึ้น ตามมาด้วยอีกหลายรูปแบบเพื่อดึงดูดใจผู้ใช้งาน ทั้ง Remixing User และ Generate Content จากช่องทาง Tik Tok หรือ Memetic Media ด้วยการนำภาพหรือคลิปสั้นมาทำเป็นมีม เพื่อเรียกเสียงหัวเราะให้ผู้พบเห็น

5. สินค้าอุปโภคบริโภค : นิยามของสินค้า FMCG เปลี่ยนไป
เทรนด์การใช้สินค้าอุปโภคบริโภคในหมวด FMCG ที่หมายถึง Fast-Moving Consumer Goods หรือสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่มีการซื้อขายกันอย่างรวดเร็ว และมีราคาถูกจากต้นทุนที่ต่ำ มักเป็นสินค้าที่ไม่คงทนและใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำยาล้างจาน สบู่ กระดาษชำระ แชมพู บะหมี่สำเร็จรูป จะเปลี่ยนไป โดยผู้บริโภคจะหันไปเลือกใช้สินค้าที่ผลิตจากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง เป็นสูตร Natural หรือ Organic ยิ่งถ้าผลิตภัณฑ์นั้นบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบย่อยสลายได้ ไม่ก่อให้เกิดขยะส่วนเกิน จะยิ่งโดนใจผู้บริโภคยุค Next Normal มากขึ้น

6. เงิน : คนหันมาจับจ่ายผ่าน e-Payment มากขึ้นเรื่อยๆ
จริงๆ แล้ว เราได้เปิดรับเทรนด์ e-Payment ให้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งในรูปแบบ e-Money, Card Payment และ Internet & Mobile Banking การชำระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค การซื้อสินค้า E-Commerce รวมถึงชำระค่าโฆษณาผ่านการทำการตลาดในช่องทางโซเชียลมีเดีย

7. สมาร์ทโฟน : เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อุตสาหกรรมการผลิตโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีการอัปเดตนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา โดยที่ผ่านมาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายแบรนด์ต่างหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม อย่างล่าสุด iPhone 12 ที่ประกาศไม่ให้ที่ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่ เพื่อเป็นการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเรื่องนี้อย่างจริงจัง แม้หลายคนจะมองว่าเป็นข้ออ้างเพื่อลดต้นทุนการผลิตของ iPhone ก็ตาม

8. พลังงาน : พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนจะเป็นพระเอก
พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนที่แต่เดิมก็มีความสำคัญอยู่แล้ว จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยีพลังงานทดแทนจะมีความก้าวหน้าและมีการพัฒนาสูงขึ้นทำให้ต้นทุนของพลังงานเหล่านี้ลดลง โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะ

9. เครื่องนุ่งห่ม : แฟชั่นที่ดีต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากจะต้องตอบสนองด้านความสวยงาม สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่แล้ว แบรนด์ต่างๆ ยังให้คุณค่ากับการเลือกใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงมุมมองการใช้ชีวิต และทัศนคติที่ถูกส่งผ่านออกมาผ่านแฟชั่นการแต่งกายของผู้คนในยุคนี้ด้วย อย่างในตอนนี้ มีการนำพลาสติกที่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการทอเป็นเส้นใยทอผ้า และผลิตเป็นเสื้อ – กางเกง หลากหลายรูปแบบ

10. ยา : กินเพื่อป้องกัน ไม่ใช่ป่วยแล้วถึงกิน
ทัศนคติของคนยุคหลังโควิด-19 ที่มีต่อเรื่องสุขภาพจะมองหายาเพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย มากกว่าเป็นการรักษาเมื่อสุขภาพเริ่มย่ำแย่เพราะล้มป่วย ธุรกิจอาหารเสริมที่ช่วยทั้งเรื่องความงามและสุขภาพจึงขยายตัว เติบโตขึ้นอย่างมหาศาล

ต้นฉบับ : https://www.lifeelevated.club/next-normal-trends-202101068/

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

งดการเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น