Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เตือนภัย! โทรเรียกไปสัมภาษณ์ แต่โดนหลอกเอาเงิน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
     สวัสดีค่ะ มีเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้ เรารู้สึกว่ามันแย่มากที่มีกลุ่ม แย่จริงๆนะคะ ที่มีธุรกิจหรือกลุ่มคนแบบนี้อยู่ในโลก ในประเทศไทย แต่อยากมาเล่าประสบการณ์และเตือนคนที่อยากหางาน กำลังหางานทำ หรือโดนโทรเรียกไปสัมภาษณ์ 

      เมื่อสองวันที่แล้ว เราได้รับสายจากบริษัทที่เขาเอ่ยชื่อเเล้วเราไม่คุ้น แต่พอรู้ว่าเขาเรียกไปสัมภาษณ์เราก็รู้สึกว่ามันโอเคเรา เป็นนักศึกษาจบใหม่อยากที่จะลองไปลองทำทุกอย่างที่จะทำได้ พี่ที่ติดต่อมาก็บอกว่าตรงกับสายงานที่เราลงในเรซูเม่ พูดเพราะมาก เป็นมิตรสุดๆ เรารู้สึกดีกับเขาจริงๆค่ะ รู้สึกว่าเขาน่ารักจัง ใส่ใจเราสุดๆ ช่วงนี้สถานการณ์โควิด งานหายาก เรายังไงก็ต้องทำงาน หาเงินมาเพื่อใช้จ่ายทั้งตัวเองและครอบครัว ไปก็ไป เลยนั่งรถไปสัมภาษณ์

เมื่อไปถึงก็เดินเข้าไปทักทายพี่ที่ติดต่อมา พี่เขาก็ให้ลงทะเบียนชื่อหน้าทางเข้า แล้วเข้ามาพูดคุยกับเรา ถามไถ่ชีวิตส่วนตัว มีแฟนหรือยัง พักที่ไหน เดินทางมายังไง ดูใส่ใจมากจริงๆเราก็ดีจัง พี่เขาใส่ใจ ถ้าบรรยากาศการทำงานดี เพื่อนร่วมงานดีแบบนี้ใครจะไม่อยากทำ เราก็แบบ...ดีจังเลยที่นี่ พี่ๆทุกคนใส่ใจ! แล้วเขาก็ให้ขึ้นไปฟังการอบรม การแนะนำผลิตภัณฑ์ของเขา ว่าดียังไง มีประโยชน์ยังไง หากทำงานในทีมมีเที่ยวต่างประเทศ มีการทำบุญ ดีจริง หลังจากนั้นก็อธิบายรายได้ที่จะได้รับ หลายระดับ ตามความต้องการในฐานเงินขายผลิตภัณฑ์ของเขา  ตอนฟังอยู่ในห้อง อบรมไม่คิดอะไร แต่พอลงมาข้างล่างแล้วเขาแนะนำและชี้นำให้เราเลือกว่าอยากได้ค่าตอบแทนแบบไหน จ่ายเท่านี้ หากขายสินค้าได้ต่อชิ้นจะได้เงินจำนวนเท่านี้ เราเลือกกลางๆ ค่าใช้จ่ายเรียกได้ว่าพอตัวเลยค่ะ ช่วง 3-4 พันบาท คราวนี้เขาแนะนำใหม่เป็นในรูปแบบอีกระดับ ค่าตอบแทนเพิ่มเป็นเท่าตัว เราก็คิดและคำนวนให้อยู่ได้ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากิน เขาก็แนะนำให้เราเลือก เราก็แบบมันเยอะอยู่นะ จะเอาเงินเก็บทั้ง
หมดมาใช้ลงทุนตรงนี้จริงหรอ พี่เขาก็ยุอยู่นั่นแหละ

     ด้วยความที่ทั้งบรรยากาศ ทั้งพี่คนนั้นแนะนำ คนนี้บอกว่าดี แป๊บเดียวก็น่าจะได้เงินตรงนี้คืนทุนนั่นแหล่ะ ด้วยความกล้าและความหวังในสิ่งที่ดี อนาคตที่จะได้เงินเดือน ที่ดี มีรายได้ เราเลยโอนเงินค่าสมัครสมาชิกและค่าระดับการทำงานต่างๆที่เขาอธิบาย รวมกว่า 6,xxx บาท ตอนนั้นไม่คิดอะไร แต่พอออกมาจากที่นั่นแล้วเราก็รู้สึกว่ากล้าโอนได้ไง ทำไมเราถึงกล้าทำแบบนั้น แต่พอมาคิดก็รู้ว่ามันด้วยเหตุผลหลายอย่างจริงๆ

     1.คือเขาทรีทเรา ดูแล พูดคุยกับเราดีมาก ถามไถ่ราวกับเป็นญาติที่พลัดพราก บอกเลยว่าเรารู้สึกดีจริงๆ อาจจะด้วยประสบการณ์ทางการงานและโลกน้อย ทำให้เรามองโลกบวกมาก ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าใช้ความจริงใจของเราไปในทางแบบนั้น
2. คือทุกคนที่เขานัดสัมภาษณ์ ไม่มีใครมีท่าทางเอะใจหรือแปลกๆเลย เราสงสัยว่าเขาไม่เอาเอกสารอะไรเลยนอกจากบัตรประชาชนและให้ใบเสร็จกับเราหลังจ่าย ไม่ใช้วุฒิ ไม่ใช้ใบรับรองอะไรเลย มีคนที่ได้รับเสียงปรบมือหลังจากสมัครแล้วโอนเงินแล้วก่อนหน้าเรา ดูดีมาก พี่ๆทุกคนเพื่อนๆที่มาสมัครด้วยความหวังก็ดูมีอนาคตจริง

3. เขาบอกแค่แนะนำสินค้ากับลูกค้า (ซึ่งเรามารู้ตอนนี้ว่าลูกค้าที่ว่าคือคนที่เขาโทรนัดสัมภาษณ์ แย่มากค่ะ) ให้เขาซื้อผลิตภัณฑ์ แล้วเราก็จะได้ค่าการขาย 

คืนวันนั้นเรานอนไม่หลับเลย รู้สึกใจโหวงๆ แต่เงินก็โอนไปแล้ว เราต้องไปพรุ่งนี้ ทำงานลองดู มันจะดี พอทำไปแล้วเราจะได้เงินคืนแน่ อย่าคิดเยอะ 

 

   วันต่อมาเราไปทำงานค่ะ เวลาที่เขานัด พี่เขาก็ให้ดูหน้างานว่า งานมันเป็นแบบไหน เราก็พยายามมอง ดู ศึกษาอย่างเต็มที่ด้วยความคิดที่ต้องผลักดันให้ตัวเองคิดบวกตลอด ( เพราะเงินโอนไปแล้ว เอาคืนมาไม่ได้แล้ว สู้ๆ ) แต่พออยู่ไปเรื่อยๆจากทีมสู่ทีม คนที่มาสมัครต้องจ่ายค่าสมัคร จ่ายค่าใช้จ่ายที่เขาให้จ่าย เราก็คิดว่า หรือช่วงนี้จะเป็นช่วงรับสมัครคนที่จะเข้ามาทำงาน เราเลยถามพี่ที่ทำมาก่อนว่าที่นี่ยังอยู่ในช่วงของการรับสมัครเหรอคะ พี่เขาก็บอกเปล่าหรอก  รับสมัครตลอด จะมีคนเข้ามาสัมภาษณ์ตลอด เราก็ไม่เข้าใจ คนตั้งมากมาย บริษัทใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ พอมาทีหลังเลยคิดได้เเล้ว ว่าลูกค้าที่เขาหมายถึงคือคนที่เขาเรียกมาสัมภาษณ์ ทันทีที่คิดได้ความรู้สึกของเราคือเงินเกือบ6000 ที่เราจ่ายไปวันสัมภาษณ์




   มันแย่มาก เราโทษอะไรได้บ้าง โทษตัวเองที่ไม่คิดรอบคอบกับเงินที่ต้องโอน  ไม่คิดหรือรู้สึกว่ามันไม่มีใครที่ทำดีโดยไร้เหตุผล นอกจากครอบครัว โทษเขาที่โทรเรียกเรามาเจออะไรแบบนี้ โทษที่ดวงเราไม่ดีโชคไม่เข้าข้าง โทษที่สังคมเรามีคนแบบนี้อยู่เพื่อทำให้คนที่จริงใจหวังกับอนาคตการเงินการงานที่ดี โทษคนที่กล้าใช้สิ่งเหล่านี้มาหลอกเอาเงินคนที่เขามีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ ยิ่งแล้วโควิดแบบนี้ บางคนเขามาด้วยความหวังจริงๆเรารู้สึกได้ เพระเราเองก็มาแบบนี้ ( ถึงได้กล้าที่จะโอนเงินเก็บตัวเองทั้งหมดไปได้ ) 




   เราไม่กล้าแม้แต่จะบอกพ่อกับแม่ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันแย่มาก ท่านจะไม่สบายใจ ให้เราแย่คนเดียวก็พอ 




  มีใครพอที่จะแนะนำวิธีที่จะทำให้เราจัดการกับคนกลุ่มนี้ เตือนคนที่เขาจะโทรเรียกมาเป็นเหยื่อ หรือได้เงินคืนบ้างไหมคะ? เราคิดแม้กระทั่งการแจ้งความ ปรึกษาทนาย ตลอดจนคิดหากฎหมายที่จะมาใช้ควบคุมหรือยับยั้งไม่ให้พวกเขาไปทำกับคนอื่นต่อ ตอนแรกเรายังเสียดายเงิน อยากไปทำงานให้ได้เงินตรงนั้นของเราคืนมา แต่พอวันนี้เห็นคนที่เข้ามาด้วยความหวังแต่โดนหลอกแล้วเราไปทำต่อไม่ได้จริงๆ



เราเสียใจมาก โทษตัวเองและร้องไห้จนตาบวม เสียดายเงินด้วย ไม่ใช่น้อยๆ แต่ไม่อยากไปทำกับคนอื่นเหมือนที่เขามาทำกับเรา เลยตัดสินใจจะไม่ไปแล้ว จะทิ้งมันไป ถือเสียว่าเราพลาด เราใจดีและพยายามตัดสินเขาจากภายนอกจนเกินไป คิดว่าเขาดีและน่าเชื่อถือ เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ ซื้อประสบการณ์ให้ตัวเอง 

  However... ขอให้เจริญ มีความสุขและทุกข์ในหลายรูปแบบเท่าที่คุณจะเจอได้นะคะ เราเชื่อว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง คุณทำแบบนี้ เราขอให้คุณเองโดนผลแห่งกรรมนี้ตามสนอง แม้จะช้าจนไม่เห็นผล หรือเร็วแค่ไหน เพราะไม่ว่าใครจะเสียอะไรไปหรือคุณจะได้อะไรไป แต่ความจริงคือคุณได้เงินแน่นอนแล้ว คุณได้เอาความหวังของคนที่มีความตั้งใจดีที่จะมาทำงานไปโดยนำเอารูปแบบการทำงานแบบนี้มาทำให้คนจ่ายเงินให้คุณได้ คุณมีความสามารถจริงๆ กล้ามาก แม้จะมีทริปการไปวัดที่คุณบอก

   แต่บอกได้เลยถ้าการไปวัดทำบุญแบบนั้นแล้วจะชดเชยสิ่งที่คุณทำกับคนอื่นที่ไม่รู้ได้ ถ้าพระพุทธองค์หรือเทพเจ้าเข้าใจคุณจริงๆและไถ่บาปให้พวกคุณ เราจะไม่ขอมีความเชื่อเรื่องบุญบาป ขึ้นสวรรค์ ตกนรกอะไรทั้งนั้น จะไปสนับสนุนคนที่รับจ้างวานล้างแค้นไม่จำกัดรูปแบบหรือองค์กรหน่วยงานที่รักษาความเป็นธรรมให้กับคนที่ถูกเอาเปรียบจากพวกคนที่มีจิตใต้สำนึกในการนึกถึงอกถึงใจผู้อื่นต่ำ

   หรือถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้อีก เราเป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องของความตั้งใจและกฎของแรงดึงดูดดสูง เราสามารถที่จะจัดตั้งขึ้นมาเองเพื่อทำให้มันถูกต้องได้ในสักวัน  

  





   แถมอีกนิด....

    

   เราเป็นคนที่พยายามจะเข้าใจคนรอบข้างตลอด เคยคิดว่าคนที่ทำไม่ดีต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีชีวิตที่ดีได้ แม้จะพูดว่าแค่ปรับ mindset คุณก็มีความสุขแล้วแม้ชีวิตจะเป็นอย่างนี้ 

แต่ในกรณีที่คุณทำมันอย่างต่อเนื่อง ทำกับคนที่เขาไม่รู้ข้อมูลและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน แบบนี้... ขอให้คุณมีชีวิตที่ดีอยู่ได้จนวันสุดท้ายของชีวิตที่มีค่าของคุณนะ เราจะนึกถึงรอยยิ้มและคำพูดที่เป็นมิตรของพวกคุณทุกคนเสมอ 


ถ้าใครกำลังหางานหรือสมัครงาน ตรวจสอบบริษัทให้ดีก่อนเข้าไปสัมภาษณ์นะคะ อย่าตัดสินคนที่ภายนอก รูปลักษณ์ คำพูด การกระทำที่ดีมากกับเรา ให้คุณคิดไว้ว่าโลกนี้ไม่มีใครใจดีกับเราโดยไร้เหตุผล อย่าใช้ความเป็นมนุษย์ของคุณไปทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเลยนะคะ 




ถ้ามีคำแนะนำอะไรรบกวนด้วยนะคะ อะไรที่จะฮีลใจเราตอนนี้ได้บ้าง? 


ถ้าจะด่าว่าเราไม่คิดเอง หัวอ่อน เงินตั้งขนาดนั้นกล้าโอนได้ไง? ช่วยงดคอมเม้นท์นะคะ จะร้องไห้ใส่นะ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

glhf 17 มิ.ย. 64 เวลา 01:43 น. 1

ธุรกิจแบบนี้มันไม่ได้หลอกนะ และไม่ได้ผิดกฏหมาย เงินที่คุณจ่ายไปก็เหมือนเป็นการลงทุนอะ ลองคิดดู คุณอยากเปิดซุ้มขายชากาแฟต้องลงทุนเท่าไหร่ เป็นหมื่นแล้วมั้ง นี่เสีย 6,000 สำหรับเป็นสมาชิกและได้ของบางอย่างมาขายเอาทุนคืน ถือว่าเป็นเงินที่น้อยมาก ส่วนงานของคุณคือการเอาของของเขาออกมาขายให้ได้ยอดตามเป้า และขยายธุรกิจของเขาโดยการชวนคนมาทำธุรกิจกับคุณ เหมือนที่เขาชวนคุณไปฟังนั่นแหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ปฏิเสธนะว่าวิธีการชวนมันดูจะแปลก ๆ ฉ้อโกงหน่อย ซึ่งบอกตรง ๆ ธุรกิจประเภทนี้ ชวนมาสัก 10,000 คน จะมีคนประสบความสำเร็จจริง ๆ สัก 3-4 คนเท่านั้น แต่การประสบความสำเร็จนั้นยิ่งใหญ่มาก เรียกได้ว่ามีกินมีใช้ตลอดไป แต่ก็อย่างที่บอกน่ะแหละ มันประสบความสำเร็จยาก แต่ลองดูก็ได้ ลองเข้าไปฟัง ไปพูดคุยกับกลุ่มเขา 6,000 ถือว่าเป็นค่าเล่าเรียนแนวคิดใหม่ ๆ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเสียดาย มันไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะมากมายขนาดนั้นหรอก

1
Youwithmepookku325 17 มิ.ย. 64 เวลา 05:23 น. 1-1

ขขอบคุณนะคะ อาจจะด้วยความที่เรายังใหม่กับอะไรแบบนี้ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการทำธุรกิจในรูปแบบนี้แล้วไม่ผิดกฎหมาย เราพอจะเข้าใจและทำใจแล้วล่ะค่ะ ทำใจทำงานต่อได้ก็ไป ทำไม่ได้ก็ไม่ไป ลืมเรื่องเงินแล้วโฟกัสว่าเป็นค่าประสบการณ์ตัวเองว่าต่อไปมองให้มาก คิด วิคราะห์ แยกแยะให้ดีก่อนทำอะไร หางานใหม่ที่สบายใจทำ มูฟออนให้ได้

0
มัณทนา [ถึงวันสิ้นโลกเพราะโควิด] 17 มิ.ย. 64 เวลา 16:03 น. 2

ใช่พวกบริษัทที่อยู่แถวๆอโศกเหรอเปล่า

เพื่อนคนหนึ่งที่เรียนจบมศวเคยบอกเอาไว้เมื่อ 8-9 ปีก่อนค่ะว่า

บริษัทแถวนั้นชอบโทรหลอกคนไปสัมภาษณ์และยัดเยียดให้ทำธุรกิจขายตรง

เราแกล้งเข้าไปกรอกข้อมูลแบบเล่นๆและอีกฝ่ายส่งอีเมลมานัดสัมภาษณ์

บริษัทนั้นสุ่มเลือกมาโดนอีเมลของเราและส่งอีเมลขยะมาหลอกให้คนที่ได้รับเข้าไปกรอกข้อมูล

เพื่อนคนนี้นี่แหละที่เห็นเราโพสต์สเตตัสบ่นและมาบอกว่ามีคนโดนหลอก

1
Youwithmepookku325 18 มิ.ย. 64 เวลา 10:10 น. 2-1

ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม แต่เจอแบบนี้ก็แย่นะคะ สำหรับการไม่แจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนกับงานที่โทรเรียกไปสัมภาษณ์์แบบนี้ ยิ่งตอนนี้โควิดอีก

0